ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการบังคับสูญหายบุคคลที่พำนักอาศัยในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง | ยธ. | 04/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการบังคับสูญหายบุคคลที่พำนักอาศัยในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
22 | ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 28/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงยุติธรรม
โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดยโสธร พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ตำบลสำราญ
อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร จำนวนเงินทั้งสิ้น ๑,๖๒๓,๑๕๖,๕๐๐ บาท
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เห็นควรดำเนินการขออนุญาตเจาะน้ำบาดาลและใช้น้ำบาดาล ให้เป็นไปตามกฎหมาย และการดำเนินการใด
ๆ ในพื้นที่ป่า ขอให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำแผนการดำเนินการ
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าก่อสร้าง สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ สถานะการเงินการคลังของประเทศ และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น
ตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
23 | ขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 (พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565) | ยธ. | 21/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามมาตรา
๑๙ วรรคสอง และมาตรา ๒๑ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง
พ.ศ. ๒๕๖๕ ออกไปอีก ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ทั้งนี้
เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (ศาสตราจารย์พิเศษกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ และนายวิจารย์ สิมาฉายา) | ยธ. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย
รวม ๒ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์และลาออก
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ดังนี้ ๑. ศาสตราจารย์พิเศษกิตติพงษ์
กิตยารักษ์ ประธานกรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2566 | ยธ. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
26 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควายเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. .... | ยธ. | 24/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากฝิ่นและเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและตรวจสอบการเพาะปลูกและสารสกัดสำคัญจากพืชดังกล่าว
โดยอาศัยอำนาจในมาตรา ๕๕ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
27 | ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 24/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยเพิ่มเติมการคุ้มครองผู้ต้องหาและจำเลยในชั้นสอบสวน
ขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทน
ค่าทดแทน และค่าใช้จ่าย รวมทั้งลดขั้นตอนการดำเนินงาน
ตลอดจนกำหนดให้สามารถยื่นคำขอผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เพื่อให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา และจำเลยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาที่สะดวก รวดเร็ว
ทั่วถึง และเป็นธรรมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๓.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรบังคับใช้กฎหมายนี้ควบคู่กับการแก้ไขระบบและกระบวนการยุติธรรมในมิติต่าง
ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น
มีทัศนคติที่ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ
และความไม่เป็นธรรมที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยลง และควรจัดให้มีนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปคุ้มครองสวัสดิภาพประชาชน
ครอบครัว และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาทั้งทางตรงและทางอ้อม
เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการและได้รับการดูแลที่เหมาะสม
อันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้เสียหายต่อไป สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เป็นผู้เสียหาย
ผู้ต้องหา และจำเลยในคดีอาญาไว้แล้ว
และ/หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อมาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม ลด และยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต ใบแทนใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ยธ. | 17/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม
ลด และยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต ใบแทนใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนำเข้า
ใบอนุญาตส่งออก การออกใบแทนใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต รวมทั้งลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม
และร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต และการอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการอนุญาตนำเข้า หรือส่งออกใบกระท่อม ซึ่งจะเป็นมาตรการในการกำกับดูแลการนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม
รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป
เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่าร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม
ลด และยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต ใบแทนใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ.
.... ควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในข้อ ๔ โดยตัดคำว่า “ผู้ส่งออกใบกระท่อมซึ่งเป็นบุคคลตามมาตรา
๑๑ (๓)” ซึ่ง การลดค่าธรรมเนียม และการยกเว้นค่าธรรมเนียม
อาจส่งผลให้เกิดการปลูกพืชกระท่อมเพิ่มมากขึ้น
หากไม่สามารถควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานได้อาจส่งผลเสียต่อตลาดส่งออกพืชกระท่อมในอนาคต สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณาทบทวนความตามข้อ
๓ ในร่างกฎกระทรวงฯ ที่ระบุให้มีการลดค่าธรรมเนียมกึ่งหนึ่งแก่ผู้ส่งออกที่เป็นวิสาหกิจชุมชน
ให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศ และความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้าในเรื่องค่าธรรมเนียมและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออก ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์
เห็นควรดำเนินการให้สอดคล้องกับความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า (General Agreement on Tariffs and Trade : GATT) ที่กำหนดให้การกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าภาระต่าง
ๆ จะต้องจำกัดอยู่เพียงต้นทุนโดยประมาณในการให้บริการ
และไม่เป็นการคุ้มครองทางอ้อมแก่ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ และควรดำเนินการให้สอดคล้องกับความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้าที่ระบุให้การปฏิบัติต่อสินค้านำเข้าของคู่ค้าต้องมีความเท่าเทียมกับการปฏิบัติต่อสินค้าภายในประเทศทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับ
กฎหมาย ข้อบังคับ และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการขาย ภายในประเทศ การเสนอขาย
การซื้อ การขนส่ง การจำหน่าย หรือการใช้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
29 | รายงานสรุปผลและการนำเสนอวีดิทัศน์สรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 67 | ยธ. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลและการนำเสนอวีดิทัศน์สรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด
(Commission on Narcotic Drugs :
CND) สมัยที่ ๖๗ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ
ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ กรุงเวียนนา ออสเตรีย โดยในการประชุม CND
ประกอบด้วย (๑) การประชุมระดับสูง
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรีในวาระการอภิปรายทั่วไป
และประกาศคำมั่นในนามไทย ตามเอกสารแนวคิดข้อริเริ่ม “Pledge4Action” ของประธาน CND สมัยที่ ๖๗ โดยเน้นย้ำประเด็นที่รัฐบาลไทยมีการดำเนินการนโยบายสาธารณสุขนำ
ควบคู่กับการใช้มาตรการปราบปรามและยึดทรัพย์อย่างจริงจังกับนักค้ายาเสพติด การใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์
ได้มีการรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมดังกล่าว (๒) การหารือทวิภาคี ได้ร่วมหารือทวิภาคีกับ
๕ ประเทศ (สิงคโปร์ สปป.ลาว อิหร่าน เยอรมนี เกาหลี)
และผู้แทนหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติในประเด็นต่าง ๆ
โดยมีผลการหารือที่สำคัญ เช่น ๑)
การแลกเปลี่ยนทัศนะในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการเสริมสร้างความร่วมมือกับสิงคโปร์
๒) การหารือเกี่ยวกับการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตลอดแนวชายแดนรวมถึงการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญกับ
สปป.ลาว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
30 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ยธ. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน
ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งมีผลการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปราม
และแก้ไขปัญหายาเสพติด รวม ๖ มาตรการ ได้แก่ ๑) มาตรการป้องกันยาเสพติด การเสริมสร้างความรู้เท่าทันและป้องกันยาเสพติดในเด็กและเยาวชนผ่านกระบวนการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา
๒) มาตรการปราบปรามยาเสพติดมุ่งเน้นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดจากแหล่งผลิตและส่งต่อไปยังประเทศที่สาม
๓) มาตรการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดบูรณาการความร่วมมือและดำเนินมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติดและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
๔) มาตรการบำบัดรักษายาเสพติด
เน้นการแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติดให้ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพ สาธารณสุข เศรษฐกิจ
และสังคม ๕) มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ เสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับทวิภาคี
อาเซียน และองค์การระหว่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ๖) มาตรการบริหารจัดการ
การบริหารจัดการงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอรายงานดังกล่าวพร้อมข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
31 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ วาระปี พ.ศ. 2567 (1. นายเพ็ชร ชินบุตร ฯลฯ จำนวน 9 คน) | ยธ. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ
จำนวน ๙ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายเพ็ชร ชินบุตร ด้านเศรษฐศาสตร์ ๒. นายณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม ด้านการเงินการธนาคาร ๓. นางดวงตา ตันโช ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ๔. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ ด้านกฎหมาย ๕. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ด้านกฎหมาย ๖. นางทัชมัย ฤกษะสุต ด้านกฎหมาย ๗. พลตำรวจเอก สุทิน ทรัพย์พ่วง ด้านการสอบสวนคดีอาญา ๘. พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
32 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการโอนนักโทษ พ.ศ. .... | ยธ. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการโอนนักโทษ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ในการโอนนักโทษเด็ดขาดระหว่างประเทศ
เพื่อให้สอดคล้องกับสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนผู้กระทำผิดและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญาที่ประเทศไทยจัดทำกับต่างประเทศ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าเมื่อร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายต่าง
ๆ เกี่ยวกับการโอนนักโทษ พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้ และหากมีภาระงบประมาณเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ให้กระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของกรมราชทัณฑ์ โดยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน สำหรับภาระงบประมาณในปีต่อ ๆ ไป ให้กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า และประหยัด รวมถึงผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับอย่างยั่งยืน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
33 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งพนักงานอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจหรือผู้ดูแล หรือผู้ปกครองสถานที่ที่กำหนดในหมวด 4 พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการอนุญาตดำเนินการหรือจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ยธ. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งพนักงานอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจหรือผู้ดูแล
หรือผู้ปกครองสถานที่ที่กำหนดในหมวด ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดตำแหน่งพนักงานอื่น
เช่น พยาบาล นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ เจ้าพนักงานอบรมและฝึกวิชาชีพ บรรณารักษ์
พนักงานพินิจ พนักงานพิทักษ์ ฯลฯ (นอกเหนือจากแพทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา
พนักงานคุมประพฤติ นักสังคมสงเคราะห์ ครู) เพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจตามสมควร
หรือผู้ปกครองสถานที่ในหมวด ๔ เช่น การช่วยเหลือเมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน
การก่อเหตุจลาจล กรณีเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน
ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าจากเดิมกำหนดตำแหน่งแพทย์
จิตแพทย์ เห็นควรปรับเป็นแพทย์ เนื่องจากจิตแพทย์ถือเป็นแพทย์สาขาหนึ่ง สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรทบทวนการกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานให้มีเฉพาะเท่าที่สำคัญ
จำเป็น และเหมาะสมต่อการปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินได้
โดยควรพิจารณาจากหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือลักษณะงานของแต่ละตำแหน่งงานเป็นสำคัญ ๒.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตดำเนินการหรือจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการออกใบอนุญาต
และการเพิกถอนใบอนุญาตให้ส่วนราชการดำเนินการ หรือให้เอกชนจัดตั้งสถานศึกษา
สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิตเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเป็นจำเลย หรือเป็นผู้ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ลงโทษหรือใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชน
ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปไปได้ ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงาน ก.พ.ร.
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงกลาโหม เห็นควรมีการจัดทำแผนเผชิญเหตุ
รวมถึงแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบว่าหน่วยอาจถูกขอให้สนับสนุนทางด้านบุคลากรเป็นผู้ช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจต่าง
ๆ ในกรณีที่มีเหตุวิกฤติหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้หน่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
34 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | ยธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ พ.ศ. ....
เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และเมื่อร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศฯ
มีผลใช้บังคับแล้ว จะได้พิจารณาเสนอแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้ใช้ถ้อยคำที่เป็นกลางทางเพศต่อไป
การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์
พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อรองรับการมีบุตรโดยใช้เทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของคู่สมรสที่มีความหลากหลายทางเพศ
ได้มีการแก้ไขกฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติเพื่อรองรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศแล้ว
เช่น แนวทางการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศในสถานที่ควบคุม
และข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๖
ให้สมาชิกที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ
หรือวิถีเพศไม่ตรงกับเพศโดยกำเนิดมีสิทธิแต่งกายตามเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตน
รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมจัดการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
35 | (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566 - 2569) | ยธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้
๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ ๔
(พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๙) ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากยุทธศาสตร์ที่ ๕
การขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมด้วยดิจิทัล
ของแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕)
เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายทิศทางการดำเนินงาน
และแนวทางประสานความร่วมมือในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมให้มีความต่อเนื่องเป็นระบบ
เชื่อมโยง และเกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า โดย (ร่าง) แผนแม่บทฯ
ที่เสนอในครั้งนี้มุ่งเน้นการพลิกโฉมของระบบบริการด้านยุติธรรมสู่ดิจิทัล (Digital
Transformation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน
และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม
ในขณะที่ยุทธศาสตร์ที่ ๕
มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระหว่างหน่วยงาน
๑.๒
ให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทนี้ไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางการดำเนินงาน
รวมทั้งใช้เป็นกรอบแนวทางจัดทำและเสนอคำของบประมาณของหน่วยงานตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน
๑.๓
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง
และสนับสนุนมิติการบริหารงานและเป้าหมายของ (ร่าง) แผนแม่บทฯ
และใช้เป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน
๑.๔ ให้สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการประสาน สนับสนุน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม
(ร่าง) แผนแม่บทฯ ไปสู่การปฏิบัติ และรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น (๑) ควรมีการพัฒนาระบบที่ประชาชนหรือภาคธุรกิจสามารถสอบถาม
ติดตามสถานะคดีต่าง ๆ
ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือจุดบริการแบบเบ็ดเสร็จควบคู่กันไปด้วย (๒) ควรวิเคราะห์ระบบนิเวศในภาพรวมของกระบวนการยุติธรรม
(Ecosystem)
ร่วมกับการวิเคราะห์สถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise
Architecture) (๓) ควรกำหนดผู้รับผิดชอบหลักและผู้รับผิดชอบร่วมในแต่ละโครงการ
ควรระบุงบประมาณสำหรับการดำเนินการในแต่ละโครงการเพิ่มเติม และ (๔)
ไม่ควรให้ทุกหน่วยงานจัดทำ One Stop Service ของหน่วยงานตนเอง
แต่ควรพัฒนาระบบงานหลักที่มีลักษณะเป็น One Stop Service ของทุกขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
เพื่อใช้เป็นระบบกลางในการเชื่อมโยงจากระบบของแต่ละหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมรวมไว้ในที่เดียวกัน
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
36 | ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) | ยธ. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... (กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมเร่งจัดทำเอกสารบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานศาลยุติธรรม และสมาคมธนาคารไทย ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรด้วย
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ศักยภาพและความพร้อมในทุกมิติ
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่าและประหยัด รวมถึงผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับอย่างยั่งยืน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ หากหน่วยงานมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการ
เห็นควรให้พิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ในโอกาสแรกก่อน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ และนายกูเฮง ยาวอหะซัน) | ยธ. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ๒. นายกูเฮง ยาวอหะซัน ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
38 | ขอยกเลิกการเข้าใช้พื้นที่โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี | ยธ. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบยกเลิกการเข้าใช้พื้นที่โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ อาคารรัฐประศาสนภักดี จำนวน ๒ ชั้น (ชั้น ๘ และ
๙) พื้นที่ชั้นละ ๔,๓๒๐ ตารางเมตร
รวมจำนวนพื้นที่ทั้งสิ้น ๘,๖๔๐ ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ ๓๑
มีนาคม ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
ที่เห็นควรให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าสำหรับพื้นที่ที่ว่างจากการส่งคืนดังกล่าวกรมธนารักษ์และบริษัท
ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด จะได้ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานต่าง ๆ
ที่มีความต้องการพื้นที่สำนักงานเพื่อขอใช้พื้นที่ดังกล่าว
รวมทั้งให้สำนักงบประมาณพิจารณากรณีหน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน
โดยให้หน่วยงานพิจารณาใช้พื้นที่ภายในโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
ก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อลดภาระการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีหน่วยงานขอรับจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานของหน่วยงานด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ และนายกูเฮง ยาวอหะซัน) | ยธ. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
40 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | ยธ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ ๒. นายโกมล พรมเพ็ง ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|