ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
141 | ขออนุมัติการทำสัญญาซื้อขายเครื่องบริโภคสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ผู้ต้องกักขัง ผู้ต้องกักกัน และการก่อหนี้ผูกพันของกรมราชทัณฑ์ | ยธ. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมราชทัณฑ์สามารถดำเนินการทำสัญญาซื้อขายเครื่องบริโภคสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง
ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ก่อนปีงบประมาณใหม่ของทุก ๆ ปี
และก่อนได้รับการอนุมัติเงินจัดสรรได้
ตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
142 | ขอความเห็นชอบชะลอการบริจาคเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างอาเซียนกับจีน (ASEAN and China Cooperative Operations in Response to Dangerous Drugs : ACCORD) ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป | ยธ. | 24/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบชะลอการบริจาคเงินอุดหนุนให้แก่กองทุนแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างอาเซียนกับจีน
(ASEAN and China Cooperative Operations in Response to Dangerous
Drugs : ACCORD) ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
143 | รายงานประจำปีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ยธ. | 03/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
(กพยช.) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น
ภาพรวมสถานการณ์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓ (๒) การดำเนินงานของ กพยช. และคณะอนุกรรมการภายใต้ กพยช. ๘ คณะ
(๓) การขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕
และ (๔) ผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ กพยช. (สำนักงานกิจการยุติธรรม)
เพื่อสนับสนุนภารกิจของ กพยช. ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
144 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กองทุนยุติธรรม | ยธ. | 12/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ กองทุนยุติธรรม (กองทุนฯ) มีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
ความสำเร็จของการดำเนินงานตามมาตรฐานระยะเวลางานบริการของกองทุนฯ (๒) ความสำเร็จของการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนของสำนักงานกองทุนฯ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ (๓) การดำเนินงานที่สำคัญตามภารกิจของกองทุนฯ
เช่น การช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี และการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
(๔) การประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี ๒๕๖๔ และ (๕)
รายงานการเงินของกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
145 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อกำหนดให้มีเครื่องแบบปฏิบัติงานปราบปราม
และแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะและเครื่องประกอบของหมวก
เครื่องหมายแสดงสังกัดประดับปกคอเสื้อของเครื่องแบบปฏิบัติงานตามปกติ และอินทรธนู
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
146 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | ยธ. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑)
พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) ออกไปอีก
๕ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๗๐
เพื่อให้แพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ซึ่งได้รับวุฒิบัตรหรือได้รับหนังสืออนุมัติจากแพทยสภาตามมาตรา
๑๕๐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สามารถมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ผ่านการอบรมทางนิติเวชศาสตร์ไปร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุในเบื้องต้นแทนแพทย์
ในกรณีที่ต้องชันสูตรพลิกศพตามมาตรา ๑๔๘ (๓) (๔) และ (๕) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ต่อไป
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งผลิตแพทย์นิติเวชศาสตร์ให้เพียงพอแก่การดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามมาตรา
๑๕๐ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและเร่งจัดให้มีการอบรมทางนิติวิทยาศาสตร์ให้แก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดให้สามารถออกชันสูตรพลิกศพแทนแพทย์ตามมาตรา
๑๔๘ (๓) (๔) และ (๕) ได้ต่อไป
และรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานอัยการสูงสุด
ที่เห็นว่าจำเป็นต้องต้องมีการดำเนินงานที่เห็นเป็นรูปธรรมและมีความเป็นไปได้ในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ความรู้ทางนิติเวชศาสตร์กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถออกชันสูตรพลิกศพแทนนายแพทย์ให้มากขึ้นทุกพื้นที่ในจำนวนที่เพียงพอต่อปริมาณคดีและจำนวนผู้สียชีวิต
และควรเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ให้เพียงพอต่อความต้องการต่อไป
ไปประกอบการพิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
147 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ยธ. | 08/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้แก่ (๑) การดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
(๒) การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบกรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
(๓) การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการเยียวยากรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
(๔) การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการป้องกันการกระทำทรมานและบังคับให้หายสาบสูญ และ
(๕) การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการคัดกรองกรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
148 | ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 08/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยเปลี่ยนชื่อพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ และแก้ไขเพิ่มเติม เป็น
“พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหาย ผู้ต้องหา และจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ....”
และเพิ่มเติมการคุ้มครองผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกควบคุมในชั้นสอบสวน
ขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทน เงินทดแทน และค่าใช้จ่าย
รวมทั้งกำหนดให้สามารถยื่นคำขอดังกล่าวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อในคดีอาญาให้ครอบคลุมถึงทั้งผู้เสียหาย
ผู้ต้องหา จำเลยที่ถูกควบคุมตั้งแต่ในชั้นสอบสวน จำเลยที่ถูกคุมขังในชั้นพิจารณาของศาล
ให้ได้รับการอำนวยความยุติธรรมอย่างสะดวก รวดเร็ว เท่าเทียมและเป็นธรรม
สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นการแก้ไขชื่อกฎหมายและความสอดคล้องกันของกฎหมายทั้งฉบับตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานศาลยุติธรรม ที่ควรกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ในพระราชบัญญัติโดยชัดเจนว่า
กรณีจำเลยที่มีสิทธิได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัตินี้ต้องปรากฏว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องเพราะเหตุใด
นอกจากนี้
ที่ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์กรณีที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วไม่สมควรจ่ายค่าทดแทน
และค่าใช้จ่ายเนื่องจากข้อเท็จจริงในคดียังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมิเป็นผู้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดนั้น
ไม่ปรากฎขอบเขตในการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการและอาจมีผลเป็นการก้าวล่วงคำพิพากษาของศาลซึ่งกระทบต่อสิทธิในการได้รับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายของจำเลย
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
149 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (1. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ฯลฯ จำนวน 3 คน) | ยธ. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน ๓ คน ตามมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ๒.
นายอุทัย สินมา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
150 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำและทัณฑสถาน จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | ยธ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ในเรือนจำและทัณฑสถาน จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ วงเงิน ๑๕๐,๖๙๔,๖๐๐ บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
151 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติดและพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 รวม 3 ฉบับ | ยธ. | 15/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติดและพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบด้วย ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งสิทธิ
การยื่นคำร้องขอผ่อนผัน การยึดหรืออายัด การประเมินราคาทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้
และการขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งสิทธิ
การยื่นคำร้องขอผ่อนผัน การยึดหรืออายัด
การประเมินราคาทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้
และการขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน
เพื่อประโยชน์ในการใช้อ้างอิงและบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอยู่ในฉบับเดียวกันอย่างเป็นระบบ ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการบำบัดรักษาของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำเนินการกับบุคคลผู้มีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่ากระทำความผิดฐานเสพ
หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดเพื่อเสพ และกำหนดตำแหน่งหรือระดับของเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส.
หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่จะมีหน้าที่และอำนาจดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ๑.๓
ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการการขออนุมัติ การอนุมัติ และการรายงาน การแจ้งข้อหาในความผิดฐานสมคบ
และสนับสนุนช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๖๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุมัติ
การอนุมัติ และการรายงาน ออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ รวม
๓ ฉบับดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม
และสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น กรณีร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๒ การตรวจสอบหรือทดสอบ
หรือเก็บปัสสาวะ ในร่างข้อ ๘ (๑) ควรเพิ่มความว่า กรณีมีความเร่งด่วน
ให้ดำเนินการเท่าที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ควรแก้ไขข้อความในร่างข้อ
๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๓
เพื่อมิให้ขัดกับแนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ
สำหรับร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ กรณีร่างข้อ ๓๕
เกี่ยวกับการอายัดสิทธิเรียกร้องซึ่งบุคคลภายนอกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหาย
ควรกำหนดให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม
เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ เห็นว่า การตรวจสอบทรัพย์สินตามกฎกระทรวงนี้
ขอให้หน่วยงานที่รับคำขอความร่วมมือจากเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นใดซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานนั้น
ๆ และร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๓ เห็นว่า
หากศาลใช้ดุลยพินิจอนุญาตให้ออกหมายจับในมาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๗ แล้ว
ไม่ควรจะต้องขออนุมัติทางเลขาธิการ ป.ป.ส. อีก
เนื่องจากการออกหมายจับดังกล่าวเป็นการใช้ดุลยพินิจของผู้พิพากษาแล้ว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
152 | การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีบุคคล | ยธ. | 08/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ
ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ
แผนกคดีบุคคล ตามองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
โดยกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศเป็นเลขานุการร่วม และมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานสำหรับการเข้าร่วมการประชุม
Council on General
Affairs and Policy (CGAP) และการประชุมของ HCCH อื่น ๆ ของคณะผู้แทนไทย รวมถึงการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
153 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยพิจารณาอนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๕ โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น
๗,๙๙๕,๙๘๓,๕๖๐
บาท (เจ็ดพันเก้าร้อยเก้าสิบห้าล้านเก้าแสนแปดหมื่นสามพันห้าร้อยหกสิบบาทถ้วน) เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๑,๕๗๕,๑๓๙,๔๒๐ บาท (หนึ่งพันห้าร้อยเจ็ดสิบห้าล้านหนึ่งแสนสามหมื่นเก้าพันสี่ร้อยยี่สิบบาทถ้วน)
ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๖,๔๒๐,๘๔๔,๑๔๐ บาท
(หกพันสี่ร้อยยี่สิบล้านแปดแสนสี่หมื่นสี่พันหนึ่งร้อยสี่สิบบาทถ้วน) ตามนัยมาตรา
๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังนี้ ๑. โครงการก่อสร้างเรือนจำกลางลำปาง
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๖๑๔,๕๙๑,๐๐๐ บาท (หนึ่งพันหกร้อยสิบสี่ล้านห้าแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)
เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๓๒๒,๙๑๘,๒๐๐ บาท
(สามร้อยยี่สิบสองล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นแปดพันสองร้อยบาทถ้วน)
ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑,๒๙๑,๖๗๒,๘๐๐ บาท
(หนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบเอ็ดล้านหกแสนเจ็ดหมื่นสองพันแปดร้อยบาทถ้วน) ๒. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดชัยนาท
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๕๗๒,๔๘๖,๔๐๐ บาท
(หนึ่งพันห้าร้อยเจ็ดสิบสองล้านสี่แสนแปดหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน)
เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๓๑๔,๔๙๗,๒๐๐ บาท
(สามร้อยสิบสี่ล้านสี่แสนเก้าหมื่นเจ็ดพันสองร้อยบาทถ้วน)
ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑,๒๕๗,๙๘๙,๒๐๐ บาท
(หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบเจ็ดล้านเก้าแสนแปดหมื่นเก้าพันสองร้อยบาทถ้วน) ๓. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๖๒๗,๒๘๒,๐๐๐ บาท
(หนึ่งพันหกร้อยยี่สิบเจ็ดล้านสองแสนแปดหมื่นสองพันบาทถ้วน) เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๓๒๕,๔๕๖,๔๐๐ บาท
(สามร้อยยี่สิบห้าล้านสี่แสนห้าหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน)
ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน๑,๓๐๑,๘๒๕,๖๐๐ บาท
(หนึ่งพันสามร้อยเอ็ดล้านแปดแสนสองหมื่นห้าพันหกร้อยบาทถ้วน) ๔. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดยโสธร
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๕๒๗,๑๙๒,๕๐๐ บาท
(หนึ่งพันห้าร้อยยี่สิบเจ็ดล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นสองพันห้าร้อยบาทถ้วน)
เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๓๐๕,๔๓๘,๕๐๐ บาท
(สามร้อยห้าล้านสี่แสนสามหมื่นแปดพันห้าร้อยบาทถ้วน) ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑,๒๒๑,๗๕๔,๐๐๐ บาท (หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบเอ็ดล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นสี่พันบาทถ้วน) ๕. โครงการการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก
จำนวน ๖๐,๐๐๐ เครื่อง วงเงินทั้งสิ้น ๑,๖๕๔,๔๓๑,๖๖๐ บาท
(หนึ่งพันหกร้อยห้าสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นหนึ่งพันหกร้อยหกสิบบาทถ้วน)
เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๓๐๖,๘๒๙,๑๒๐ บาท
(สามร้อยหกล้านแปดแสนสองหมื่นเก้าพันหนึ่งร้อยยี่สิบบาทถ้วน) ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑,๓๔๗,๖๐๒,๕๔๐ บาท (หนึ่งพันสามร้อยสี่สิบเจ็ดล้านหกแสนสองพันห้าร้อยสี่สิบบาทถ้วน) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ทั้งนี้
ขอให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการก่อสร้างเรือนจำ
จำนวน ๔ โครงการ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ สถานะการเงินการคลังของประเทศ
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ สำหรับโครงการการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก
ขอให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ในการเช่าอุปกรณ์ดังกล่าวตามจำนวนและคุณลักษณะเฉพาะที่เหมาะสม
และจำเป็นกับภารกิจและปริมาณการใช้งานของหน่วยงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ
ตลอดจนคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัดการพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการก่อสร้างเรือนจำ
และโครงการการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก
ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น ตามวงเงินงบประมาณประจำปีต่อไป โดยให้ปรับแก้ไขชื่อโครงการก่อสร้างให้ถูกต้อง จากเดิม “โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดลำปาง
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ” เป็น “โครงการก่อสร้างเรือนจำกลางลำปาง
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ” ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า
ให้กระทรวงยุติธรรมควบคุม ดูแล
และกำกับการดำเนินงานโครงการก่อสร้างเรือนจำตามมาตรการที่กำหนดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และโครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัด จำนวน ๔ โครงการ ไม่เข้าข่ายเป็นโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ
หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมประกาศในราชกิจจานุเบกษา
วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
154 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2563 | ยธ. | 11/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบด้วย สถานการณ์ยาเสพติด
ในปี ๒๕๖๓ รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผลการจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ การกระทำความผิดของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๒. เห็นชอบให้นำความเห็นเพิ่มเติมของกระทรวงการคลังที่เห็นว่า
รายงานดังกล่าวจะมีเนื้อหาครบถ้วน สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หากในรายงานมีข้อมูลครอบคลุมถึงผลการดำเนินการกับเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ที่กระทำความผิดด้วย นอกจากนี้ การใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นการใช้อำนาจพิเศษที่มีบทยกเว้น
การใช้อำนาจทั่วไปตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งอำนาจพิเศษเหล่านี้เป็นเสมือนดาบสองคม
หากนำไปใช้ในทางที่ผิด ย่อมเกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
การป้องกันและแก้ไขปัญหาคือ
ผู้บังคับบัญชาต้องกำกับติดตามผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
และการมอบหมายงานด้านยาเสพติดควรคำนึงถึงความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ
และการขอแต่งตั้งบุคคลใดเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ควรดูพฤติกรรมและความประพฤติซึ่งเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของการขอแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ด้วย และข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี
ที่มีข้อสังเกตว่า ในช่วงที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน”
กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ การปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
นอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (Work From Home) นั้น
ยังคงเป็นมาตรการหนึ่งของการทำงานของภาครัฐระบบดิจิทัสซึ่งสนับสนุนหลักการเพิ่มระยะห่างทางสังคม
(Social Distancing) ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น การกำหนดรูปแบบแนวทางการปฏิบัติงานควรมีความยืดหยุ่น มีความคล่องตัว
และเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย ซึ่งขณะนี้สำนักงาน ป. ป.ส. ได้มีมาตรการการกำกับ
ติดตามการรายงานอย่างเข้มงวด โดยเพิ่มช่องทางการรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ในลักษณะของการรายงานผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ส. การมีแอปพลิเคชันไลน์บนโทรศัพท์มือถือ
เพื่อแจ้งเตือนการต่ออายุบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และมีการรายงานการปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีขณะอยู่ในที่เกิดเหตุ
ซึ่งส่งผลให้สามารถกำกับ ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เป็นการอำนวยความสะดวกอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานในช่วงสถานการณ์เช่นนี้
อันจะนำไปสู่รัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Transformation) ที่มีการทำงานแบบอัจฉริยะและขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
มีความทันสมัย เกิดคุณค่าสาธารณะ และตอบสนองกับการพัฒนาของเทคโนโลยียุคใหม่ได้ต่อไป
ตลอดจนพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ครอบคลุมการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
155 | รายงานประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 - 2565) (ระยะครึ่งรอบ) | ยธ. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) (ระยะครึ่งรอบ) มีสาระสำคัญ ได้แก่ ผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เช่น แผนปฏิบัติการด้านแรงงาน
แผนปฏิบัติการด้านชุมชน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แผนปฏิบัติการด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
แผนปฏิบัติการด้านการลงทุนระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติ และ (๒)
การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ของรัฐวิสาหกิจและภาคธุรกิจ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
156 | ของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2565 ของกระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 28/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชน
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ของกระทรวงยุติธรรม โดยส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมได้กำหนดการดำเนินการโครงการ/กิจกรรม
รวม ๑๖ โครงการ อาทิ การบริหารงานยุติธรรม
สร้างการรับรู้บริการงานยุติธรรมและความรู้กฎหมาย สุขใจปีใหม่ปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกในการอำนวยความยุติธรรม
ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
157 | ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. .... (การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564) | ยธ. | 30/11/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระมหากษัตริย์ทรงมีแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์
โดยมีการตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ โดยในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ สมควรจะมีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์
เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี
อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
และให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องลับมาก ห้ามมิให้เสนอข่าว ให้ข่าว หรือให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้จนกว่าพระราชกฤษฎีกาจะประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระบบการรักษานอกเรือนจำ
เพื่อดูแลรักษาพยาบาลให้แก่ผู้ต้องโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว
ซึ่งเป็นคนเจ็บป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เช่น
คนเจ็บป่วยซึ่งมีภาวะติดเตียงหรือมีโรคที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
คนเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และคนเจ็บป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
เป็นต้น ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
158 | รายงานผลการดำเนินการต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (กรณีนักปกป้องสิทธิมนุษยชน หรือผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน) | ยธ. | 09/11/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
159 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ปี 2553 | ยธ. | 09/11/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี ๒๕๕๓ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
160 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวรวิวรรณ์ ศรีวนาภิรมย์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | ยธ. | 04/11/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวรวิวรรณ์
ศรีวนาภิรมย์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวนันทรัศมิ์
เทพดลชัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายวีระกิตติ์
หาญปริพรรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|