ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566 - 2569) | ยธ. | 22/10/2567 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้
๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ ๔
(พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๙) ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากยุทธศาสตร์ที่ ๕
การขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมด้วยดิจิทัล
ของแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕)
เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายทิศทางการดำเนินงาน
และแนวทางประสานความร่วมมือในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมให้มีความต่อเนื่องเป็นระบบ
เชื่อมโยง และเกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า โดย (ร่าง) แผนแม่บทฯ
ที่เสนอในครั้งนี้มุ่งเน้นการพลิกโฉมของระบบบริการด้านยุติธรรมสู่ดิจิทัล (Digital
Transformation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน
และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม
ในขณะที่ยุทธศาสตร์ที่ ๕
มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระหว่างหน่วยงาน
๑.๒
ให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทนี้ไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางการดำเนินงาน
รวมทั้งใช้เป็นกรอบแนวทางจัดทำและเสนอคำของบประมาณของหน่วยงานตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน
๑.๓
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง
และสนับสนุนมิติการบริหารงานและเป้าหมายของ (ร่าง) แผนแม่บทฯ
และใช้เป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน
๑.๔ ให้สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการประสาน สนับสนุน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม
(ร่าง) แผนแม่บทฯ ไปสู่การปฏิบัติ และรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น (๑) ควรมีการพัฒนาระบบที่ประชาชนหรือภาคธุรกิจสามารถสอบถาม
ติดตามสถานะคดีต่าง ๆ
ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือจุดบริการแบบเบ็ดเสร็จควบคู่กันไปด้วย (๒) ควรวิเคราะห์ระบบนิเวศในภาพรวมของกระบวนการยุติธรรม
(Ecosystem)
ร่วมกับการวิเคราะห์สถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise
Architecture) (๓) ควรกำหนดผู้รับผิดชอบหลักและผู้รับผิดชอบร่วมในแต่ละโครงการ
ควรระบุงบประมาณสำหรับการดำเนินการในแต่ละโครงการเพิ่มเติม และ (๔)
ไม่ควรให้ทุกหน่วยงานจัดทำ One Stop Service ของหน่วยงานตนเอง
แต่ควรพัฒนาระบบงานหลักที่มีลักษณะเป็น One Stop Service ของทุกขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
เพื่อใช้เป็นระบบกลางในการเชื่อมโยงจากระบบของแต่ละหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมรวมไว้ในที่เดียวกัน
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |