ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 41 - 60 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
41 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการควบคุม ดูแลผู้ต้องขัง | ยธ. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการควบคุม ดูแลผู้ต้องขัง จำนวน ๙๙๙,๕๐๓,๙๐๐ บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
42 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้สอยและค่าวัสดุประจำปี พ.ศ. 2566 | ยธ. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้สอยและค่าวัสดุประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖
จำนวน ๓๓๒,๑๐๙,๒๐๐ บาท และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีค่าสาธารณูปโภค ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
43 | โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน ๑๖,๐๐๐,๐๐๐
บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบเงินอุดหนุน ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และให้เลขาธิการ ป.ป.ส.
มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณ งบเงินอุดหนุน
รายการโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
และสามารถจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ
เพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตามที่ได้รับจัดสรร ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรม
(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๕/๘๒๘๒ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรที่สำนักงาน ป.ป.ส.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความสำคัญกับการสร้างกลไกหรือระบบในการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานระหว่างประเทศ
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน
และการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์
รวมทั้งเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการของภาครัฐที่เหมาะสม
อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
44 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. .... | ยธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสาระสำคัญจากฝิ่นและเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย
รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและตรวจสอบการเพาะปลูกและสารสกัดสำคัญจากพืชดังกล่าว
โดยอาศัยอำนาจในมาตรา ๕๕ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
โดยให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปปรับแก้พื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชเห็ดขี้ควายในร่างพระระราชกฤษฎีกาเพื่อความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าหน่วยงานที่เป็นผู้รับผิดชอบและควบคุมการดำเนินการทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญ
ต้องตรวจสอบการทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญ ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมพืชดังกล่าว
รวมทั้งควบคุมไม่ไห้มีการปลูกฝิ่นนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตโดยเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
สังคม และความมั่นคงของประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เห็นควรกำหนดให้มีรูปแบบการรายงานผลการดำเนินงานได้หลายรูปแบบ
เช่น แบบฟอร์มกระดาษ และแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ทั้งนี้
สถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชเห็ดขี้ควาย
มีความพร้อมในการดำเนินการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้อง
โดยขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในมาตรา ๕ เพื่อความถูกต้องและความเป็นปัจจุบันของพื้นที่ดังกล่าว
ดังนี้ ๑. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในมาตรา ๕ (๑) จาก “(ก) อาคารปฏิบัติการวิจัยกลาง”
เป็น “(ก) อาคารปฏิบัติการวิจัยกลาง
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร” ๒. มหาวิทยาลัยพายัพ ในมาตรา ๕ (๕) จาก “อาคารวิวรณ์
สำนักบริการวิชาการและวิจัย” เป็น “อาคารวิวรณ์ สำนักบริการวิชาการ” |
||||||||||||||||||||||||||||||
45 | การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พ.ศ. ....) | ยธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม
๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
46 | ขอขยายระยะเวลาการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 | ยธ. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติพืชกระท่อม
พ.ศ. ๒๕๖๕ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
47 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในอัตรา ไม่เกิน ๑๓,๐๔๗ อัตรา
โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง
และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนี้ ๑)
บำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๒.๕
ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๓๗๒,๖๕๘ อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๙,๓๑๖ อัตรา และ ๒)
บำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๑.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด
จำนวน ๒๔๘,๗๑๕ อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๓,๗๓๑ อัตรา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรที่กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้พิจารณากำหนดกรอบอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษฯ
อย่างเคร่งครัด
โดยการทบทวนปรับลดการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประเภทเกื้อกูลเท่าที่จำเป็น
รวมทั้งควรมีการพิจารณาคัดเลือกและจัดสรรอัตราบำเหน็จความชอบที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว
ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว
เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน
หากไม่เพียงพอให้เบิกจ่ายจากงบกลาง
รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
48 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการจัดให้เด็กสมรสก่อนวัยอันควร | ยธ. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาในเบื้องต้นต่อข้อเสนอแนะกรณีการจัดให้เด็กสมรสก่อนวัยอันควร
โดยได้ขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับแก้เกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมรสเป็น ๑๘ ปี แต่ในประเด็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และข้อปฏิบัติตามหลักการศาสนาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการบังคับการสมรสในวัยเด็กให้ครอบคลุมทุกกรณียังมีข้อห่วงกังวลบางประการ
ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาความเป็นมา สภาพปัญหา และผลกระทบอย่างรอบด้าน
รวมทั้งต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครอบคลุมกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนและจากประชาชนโดยทั่วไปด้วย
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
49 | รายงานประจำปีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ยธ. | 23/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
(กพยช.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยมีสาระสำคัญ เช่น ๑)
ภาพรวมสถานการณ์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕
ข้อมูลสถิติจำนวนคดี บุคคลที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งการรับแจ้งความและจับกุมผู้ต้องหา
๒) การรวบรวมและพิจารณาสถิติต่าง ๆ เกี่ยวกับอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๕ พบว่า คดียาเสพติดยังเป็นฐานความผิดที่พบมากที่สุด ๓) ผลการดำเนินงานของ
กพยช. เช่น
การพัฒนามาตรการต่อผู้กระทำผิดอาญาแทนการควบคุมตัวโดยการมีส่วนร่วมขององค์กรสหวิชาชีพและชุมชน
(Non - Custodial Measures) ๔)
ผลการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของ กพยช.
ตามพระราชบัญญัติพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ (มาตรา ๑๐)
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เช่น การจัดทำร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม
ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๖๙) การขับเคลื่อนกรอบการวิจัยเพื่อการพัฒนากระบวนการยุติธรรม
พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๖๙ ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่กระทรวงยุติธธรรม (สำนักงานกิจการยุติธรรม)
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
50 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กองทุนยุติธรรม | ยธ. | 25/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ กองทุนยุติธรรม โดยมีสาระสำคัญ
ได้แก่ ๑) ความสำเร็จของการดำเนินงานตามมาตรฐานระยะเวลางานบริการของกองทุนยุติธรรม
มีประชาชนเข้ารับบริการ จำนวน ๕,๒๓๓ ราย ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งสิ้น ๔,๙๒๑
ราย ๒) ความสำเร็จในการช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๕,๒๓๓ ราย
เป็นเงินจำนวน ๓๒๕.๖๗ ล้านบาท ๓) ผลการดำเนินงานที่สำคัญตามภารกิจของกองทุนฯ เช่น การช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี
จำนวน ๓ กรณี การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย จำนวน ๓ กรณี
และการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จำนวน ๓ กรณี ๔)
การประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนประจำปีบัญชี ๒๕๖๖ มีคะแนนเฉลี่ยรวม ๔.๙๗
คะแนน (คะแนนเต็ม ๕ คะแนน) และ ๕) รายงานการเงินของกองทุนยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งได้ผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีกองทุนยุติธรรมแล้ว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
51 | ร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงยุติธรรมแห่งสหพันธรัฐเซีย | ยธ. | 25/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงยุติธรรมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
(Memorandum
of Cooperation between the Ministry of Justice of the Kingdom of
Thailand and the Ministry of Justice of the Russian
Federation) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความร่วมมือฯ
โดยร่างบันทึกความร่วมมือฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมของทั้งสองฝ่ายในด้านต่าง
ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย การแลกเปลี่ยนบุคลากรของรัฐ
การจัดสัมมนาร่วมกัน
การให้ความช่วยเหลือระหว่างกันแก่สถาบันการศึกษาในด้านการจัดตั้งและพัฒนาโครงการและหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศ
ซึ่งความร่วมมือภายใต้ร่างบันทึกความร่วมมือฯ จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาในการพัฒนาสมรรถนะกระบวนการยุติธรรมและขยายขอบเขตองค์ความรู้ด้านนิติศาสตร์ของไทยให้กว้างขวางมากขึ้น
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความร่วมมือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
52 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง) | ยธ. | 25/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมตาราง ๕
ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยลดภาระในการจ่ายค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีบางประการที่ไม่จำเป็น
เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากการไม่สามารถชำระหนี้ได้
และยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรม ที่เห็นว่าการชำระค่าธรรมเนียมตามกฎหมายเป็นมาตรการอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้ใช้สิทธิได้พิจารณาเรื่องอย่างละเอียดรอบคอบก่อนที่จะใช้สิทธิบังคับตามกฎหมาย
และป้องกันมิให้มีการใช้สิทธิโดยไม่จำเป็นหรือไม่เหมาะสม เช่น
ค่าธรรมเนียมถอนการยึดอันเกิดจากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์โดยผิดหลง
ดังนั้น หากมีการลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี
อาจส่งผลให้เกิดปัญหาการยึดหรืออายัดทรัพย์สินในลักษณะดังกล่าวมากยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
53 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม (ครั้งที่ 1) (พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ) | ยธ. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของพันตำรวจโท
พงษ์ธร ธัญญสิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม
กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๗
ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๑๔ มิถุนายน
๒๕๖๘ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
54 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย | ยธ. | 04/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยมีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในมิติความร่วมมือด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
เช่น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล และความเชี่ยวชาญ การจัดการประชุม และการฝึกอบรมทางวิชาการ
ตลอดจนการประชุมเชิงปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับกิจการด้านกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
55 | การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีบุคคล | ยธ. | 21/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ
แผนกคดีบุคคล (Hague Conference on
Private International Law : HCCH)
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการ
และกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศเป็นเลขานุการร่วม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
56 | การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 67 และการขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรีและการประกาศคำมั่นในนามประเทศไทยตามเอกสารแนวคิดข้อริเริ่ม "Pledge4Action" ของประธานคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 67 ในห้วงการประชุมระดับสูงของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 67 | ยธ. | 12/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมระดับสูง
(High-Level
Segment) ในห้วงการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ ๖๗ [67th
session of the Commission on Narcotic Drugs (CND)] ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ณ ออสเตรีย ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๒
มีนาคม ๒๕๖๗ และเห็นชอบให้ประเทศไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าว
ในห้วงพิธีเปิดการประชุมระดับสูงของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ ๖๗
โดยไม่มีการลงนาม ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗ รวมทั้งเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรีและการประกาศคำมั่นในนามประเทศไทย
โดยเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมกล่าวถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรี
และร่วมประกาศคำมั่นในนามประเทศไทย และอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน
ป.ป.ส. แก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ร่างถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรี และการประกาศคำมั่นในนามประเทศไทยดังกล่าว
โดยการรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ มีสาระสำคัญเป็นการทบทวนแผนงานต่อเนื่องในห้วงครึ่งแผน
ปี ค.ศ. ๒๐๒๔ ในการดำเนินการตามพันธกรณีด้านนโยบายยาเสพติดระหว่างประเทศ
ซึ่งประกอบด้วย ๓ ส่วน ได้แก่ ๑) การให้คำมั่นร่วมกัน ๒)
การประมวลติดตามผลการดำเนินการ และ ๓) ข้อเรียกร้องในการดำเนินการ รวมทั้งการกล่าวถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรี
และการประกาศคำมั่นในนามไทยตามเอกสารแนวคิดข้อริเริ่ม “Pledge4Action” ของประธาน CND สมัยที่
๖๗ และการประกาศคำมั่นในนามไทยที่จะลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดภายในประเทศให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมภายใน
๑ ปี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมระดับสูงในห้วงการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด
สมัยที่ ๖๗ ร่างถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรี และการประกาศคำมั่นในนามประเทศไทยในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
57 | ขอความเห็นชอบปฏิญญาว่าด้วยการเร่งรัดและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือระดับโลกต่อภัยคุกคามยาเสพติดสังเคราะห์ และขอความเห็นชอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมในการรับมือภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก | ยธ. | 12/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติในสารัตถะของปฏิญญาว่าด้วยการเร่งรัดและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือระดับโลกต่อภัยคุกคามยาเสพติดสังเคราะห์
(Ministerial Declaration
on Accelerating and Strengthening the Global Response to
Synthetic Drugs) และให้ประเทศไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าว
รวมทั้งเห็นชอบต่อการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมในการรับมือภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก
(Global Coalition to Address Synthetic Drug Threats) ของกระทรวงยุติธรรมในนามของประเทศไทย
โดยมีสำนักงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยดำเนินการ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ
แจ้งผลการพิจารณาการร่วมรับรองปฏิญญาฯ และการเข้าร่วมเป็นเป็นสมาชิกแนวร่วมฯ
ของประเทศไทย ต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๖ กันยายน ๒๕๖๖ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี)
ในประเด็นการเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดระยะเวลาของเรื่องนั้น
ๆ อย่างน้อย ๑๕ วัน โดยเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน
จึงขอส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอย่างน้อย ๗ วัน
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรพิจารณาขยายการขับเคลื่อนเพิ่มเติมตามความเหมาะสมในมิติของการบูรณาการด้านเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลสากลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ประกอบกับการบูรณาการด้านงบประมาณที่จะสนับสนุนการดำเนินการร่วมกับประเทศสมาชิกแนวร่วมฯ
ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพการบริหารและพัฒนาภายในประเทศ
ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงของชาติยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
58 | การจัดทำข้อสงวนไม่รับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ | ยธ. | 12/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดทำข้อสงวนเพื่อเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ
(International Convention
for the Protection of all Persons from Enforced
Disappearance : ICPPED) ของกระทรวงยุติธรรม แล้ว
ลงมติเป็นหลักการให้ทุกส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่า
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องจัดทำหนังสือสัญญา
ซึ่งมีข้อบทให้อำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of
Justice : ICJ) มีเขตอำนาจเหนือข้อพิพาทตามหนังสือสัญญานั้น
ให้จัดทำข้อสงวนไม่รับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไว้ทุกเรื่อง
เพื่อมิให้กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีก
|
||||||||||||||||||||||||||||||
59 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล) | ยธ. | 03/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมถอนเรื่องการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล)
คืนไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
60 | ขอความเห็นชอบแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ ฯลฯ จำนวน 5 คน) | ยธ. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จำนวน ๕ คน
เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้ผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ ๒. นางชฎาพร รักษาทรัพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ ๓. รองศาสตราจารย์อนุสรณ์ อุณโณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ๔. นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|