ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 9 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 161 - 180 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
161 | รายงานการประชุมด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาในกรอบสหประชาชาติ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) | ยธ. | 04/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการประชุมด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาในกรอบสหประชาชาติ
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) จำนวน ๒ การประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล ได้แก่ (๑)
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๑๔ ระหว่างวันที่ ๗-๑๒
มีนาคม ๒๕๖๔ ณ นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๓๐ ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๑
พฤษภาคม ๒๕๖๔ ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
162 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล) | ยธ. | 25/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาสเพติด ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
163 | แนวคิดการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ | ยธ. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์
ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะของความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรม
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
และผู้ประกอบการภาคเอกชนในการดำเนินการจัดตั้งนิคมฯ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม
(กรมราชทัณฑ์) จะดำเนินการพัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงานของนักโทษที่ได้รับการพักการลงโทษและพ้นโทษแล้วให้เข้าทำงานในนิคมฯ
โดยความสมัครใจ และจัดให้มีมาตรการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุน
เช่น จัดให้มีเขตปลอดอากร จัดให้มีสถานีรถไฟ/ท่าเรือเพื่อขนส่งหรือขนถ่ายสินค้า
การยกเว้นภาษีส่วนบุคคลให้แก่แรงงานเป็นเวลา ๓ ปี
และการเข้าถึงสินเชื่อบุคคลดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
สำหรับแนวทางการจัดตั้งนิคมฯ และแนวทางการสนับสนุนของ กนอ. นั้น ให้ กนอ.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามความจำเป็น เหมาะสม โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น ข้อสังเกต
และข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักนายกรัฐมนตรี
(สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น
ควรให้มีการพิจารณาหลักสูตรการฝึกวิชาชีพให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมเน้นการสร้างจุดเด่นในการฝึกอาชีพเฉพาะด้านในแต่ละเรือนจำและทัณฑสถาน
เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
164 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2557 และรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2558 | ยธ. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี
พ.ศ. ๒๕๕๗ และรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญประกอบด้วย
ความเป็นมา อำนาจหน้าที่ และการใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปฏิบัติงาน
การกำกับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติงานเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. รายงานผลการปฏิบัติงาน
ผลการจับกุมคดียาเสพติด ภาพรวมประเทศ ประจำปี ๒๕๕๗ และประจำปี ๒๕๕๘
และยังมีนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๗ และแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
ประจำปี ๒๕๕๘ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๒.
เห็นชอบให้นำข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังเป็นข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี
และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
165 | รายงานประจำปี 2563 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๓ คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
(กพยช.) สรุปได้ ดังนี้ (๑) ภาพรวมสถานการณ์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
โดยเป็นการรวบรวมสถิติด้านการบริหารงานยุติธรรมที่สำคัญ เช่น
สถิติจำนวนคดีที่รับแจ้ง จับกุม และจำนวนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ และสถิติคดีที่รับเข้าและคดีแล้วเสร็จของศาลปกครองชั้นต้น
(๒) ผลการดำเนินงานของ กพยช. และคณะอนุกรรมการ เช่น กพยช.
ได้จัดทำร่างพระราบัญญัติประวัติอาชญากรรม พ.ศ. ....
และคณะอนุกรรมการพัฒนาและส่งเสริมการวิจัยในกระบวนการยุติธรรมไปใช้ประโยชน์ในช่วงหลังการวิจัยเสร็จ
(๓) ผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ เพื่อสนับสนุนภารกิจของ กพยช. เช่น การพัฒนาข้อมูลและสถิติที่สำคัญต่อการพัฒนากระบวนการยุติธรรม
และการจัดทำวารสาร กระบวนการยุติธรรม ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
166 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ค่าวัสดุอาหารไม่เพียงพอ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ยธ. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าวัสดุอาหารไม่เพียงพอ
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๓,๘๑๐,๖๘๖,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรม
(กรมราชทัณฑ์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานศาลยุติธรรม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑
(เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐)
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าวัสดุสาธารณูปโภค
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐) ที่ให้ดำเนินการตามแนวทางต่าง
ๆ เพื่อลดภาระงบประมาณค่าวัสดุอาหารของเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขังต่าง ๆ
ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมติดตามและประเมินผลการดำเนินการดังกล่าว
และรายงานผลความก้าวหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
167 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | ยธ. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผู้กพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๓๗๐,๐๖๖,๒๐๐ บาท
และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๓๖๖,๘๖๕,๐๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
168 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ยธ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ในอัตราไม่เกิน ๑๒,๐๔๑ อัตรา โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง
และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหาปัญหายาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑.
ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระดับดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง
จำนวน ๓๓๗,๗๑๓ อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๘,๔๔๓ อัตรา ๒.
ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระดับดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๑.๕
เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๒๓๙,๘๘๖ อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๓,๕๙๘ อัตรา ๓.
สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว
ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดเป็นลำดับแรกก่อน
หากไม่สามารถดำเนินการได้
ให้เบิกจ่ายจากงบกลางรายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง
การเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการพลเรือนผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ)
ที่เห็นควรพิจารณาให้เฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำด้วยความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง
รวมทั้งให้มีการประเมินในส่วนของพฤติกรรมการปฏิบัติราชการหรือสมรรถนะของผู้รับการประเมินอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรพิจารณากรอบอัตรากำลังผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษฯ
อย่างเคร่งครัด ควรมีการพิจารณาคัดเลือก
และจัดสรรอัตราบำเหน็จความชอบที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
169 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด
และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด
และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ
พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อกำหนดให้นักโทษเด็ดขาดตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไปสามารถได้รับการพิจารณาให้พักการลงโทษจำคุกได้
และให้นักโทษเด็ดขาดที่กระทำผิดซ้ำสามารถเสนอขอรับการพิจารณาพักการลงโทษกรณีปกติได้
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าการกำหนดให้นักโทษเด็ดขาดตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไปสามารถได้รับการพิจารณาให้พักการลงโทษอาจไม่สอดคล้องกับการกำหนดหลักเกณฑ์การให้ประโยชน์แก่นักโทษเด็ดขาดตามกฎกระทรวงฯ
และกำหนดให้นักโทษเด็ดขาดตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไปอาจได้รับการพักการลงโทษไม่เกินหนึ่งในสามของกำหนดโทษที่ระบุไว้ในหมายแจ้งโทษเด็ดขาด ซึ่งเท่ากับนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยมโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาการได้รับการพักการลงโทษลดหลั่นตามระดับชั้นนักโทษเด็ดขาดอย่างที่กำหนดไว้ในข้อ
๔๒ ของกฎกระทรวงฉบับปัจจุบัน อาจทำให้เกิดปัญหาการใช้ดุลยพินิจในการพิจารณากำหนดระยะเวลาการพักโทษที่ไม่เหมาะสมกับนักโทษเด็ดขาดแต่ละชั้น
อันส่งผลให้ไม่สามารถแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู
หรือพัฒนาพฤตินิสัยของนักโทษเด็ดขาดให้กลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวเพื่อลดความเสี่ยงในการกระทำความผิดซ้ำ
อีกทั้งควรให้ความสำคัญในการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในชุมชนสังคมด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
170 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย) (1. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์) | ยธ. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๓ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ๒. นางอรัญญา ทองน้ำตะโก ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
171 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | ยธ. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว
โดยงบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
172 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล) | ยธ. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ส. (นักบริหารระดับต้น) สำนักงาน
ป.ป.ส ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ป.ป.ส กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
173 | ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) | ยธ. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้)
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนหนี้ของลูกหนี้ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด
บริษัทมหาชนจำกัด หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
ที่สามารถร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการได้ จาก จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านบาท เป็น
ไม่น้อยกว่า ๕๐ ล้านบาท
กำหนดกระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่มีลักษณะเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
และกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการแบบเร่งรัด
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
โดยผลักดันให้กฎหมายที่ต้องปฏิรูปในระยะเร่งด่วน
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-19)
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับข้อสังเกตและความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
เช่น กระบวนการฟื้นฟูกิจการแบบเร่งรัดตามหมวด ๓/๓ ที่กำหนดให้องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่สามารถเข้าสู่กระบวนการได้
การกำหนดกระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของ SMEs ในหมวด ๓/๒ ซึ่งกฎหมายปัจจุบันรองรับไว้แล้ว
และการไม่กำหนดในบทนิยามของคำว่าลูกหนี้ให้ชัดเจนว่าหมายถึงลูกหนี้ที่มีลักษณะเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายใดอาจก่อให้เกิดปัญหาในการตีความเพื่อบังคับใช้กฎหมายในภายหลัง
ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา
ซึ่งช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาทางด้านหนี้สินของภาคประชาชนตามหลักการของพระราชบัญญัติล้มละลาย
พุทธศักราช ๒๔๘๓ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
174 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (1. พลตำรวจตรี สุพล จงพาณิชย์กุลธร) | ยธ. | 03/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา รวม ๕ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ สิงหาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. พลตำรวจตรี สุพล
จงพาณิชย์กุลธร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ ๒. นางบุษบา ศักรางกูร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ ๓.
นางจันทร์ชม จินตยานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ๔.
นายชนะพล มหาวงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕.
นายโฆษิต สุวินิจจิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
175 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. .... | ยธ. | 03/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเสียง
วีดิทัศน์ และเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่คล้ายกัน :
คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ๒๕๖๔ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องเสียง
วีดิทัศน์ และเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่คล้ายกัน :
คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. ๑๑๙๕-๒๕๖๑
ซึ่งเป็นการรับมาตรฐานระหว่างประเทศ IEC 60065
Edition 7.2 (2011-02)
มาใช้โดยวิธีแปลในระดับเหมือนกันทุกประการ แต่ปัจจุบันมีการพัฒนา IEC 62368
ขึ้นใช้แทนแล้ว IEC 60065 จึงไม่มีความทันสมัย
ไม่ทันต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
176 | การส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) | ยธ. | 27/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบการปลูกและการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น ๆ ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ
และปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น ๆ ในพื้นที่ ๑๔๑ ไร่ เป็นการเริ่มต้น
เพื่อช่วยผู้ต้องขังในเรือนจำกรณีเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และโรคอื่น
ๆ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนทั่วไป และเห็นชอบในหลักการที่จะส่งเสริมให้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อและยังไม่มีอาการ
เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาและลดภาระระบบสาธารณสุข ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าหากมีการปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในปริมาณมากและเกินความต้องการ
ควรสนับสนุนให้มีการออกจำหน่ายภายนอกเรือนจำ
เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขังอีกทางหนึ่ง
และควรปฏิบัติตามแนวทางการใช้สารแอนโดรกราโฟไลด์ ในผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาโรคโควิด 19 ตามหลักการของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
และเงื่อนไขการใช้ยาตามแนบท้ายประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง
บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ อย่างเร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณของพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น
ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)
ให้มีความชัดเจนในทุกมิติ เช่น อาการป่วยและปริมาณยาที่เหมาะสมในการใช้พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น
ๆ แต่ละชนิดในการรักษา ข้อควรระวัง อาการข้างเคียง แนวทางการผลิต/จำหน่าย/แจกจ่าย
เป็นต้น เพื่อให้มีแนวทางในการดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง
ชัดเจน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป ทั้งนี้
ให้นำความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้
เพื่อกำกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการและขับเคลื่อนการดำเนินการเกี่ยวกับพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร
รวมทั้งพืชสมุนไพรอื่น ๆ (เช่น กระชายขาว) ในภาพรวมทั้งระบบและครบวงจร
ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เช่น การเพาะปลูก การวิจัยและการพัฒนา การผลิต
การนำไปใช้ประโยชน์ เป็นต้น รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางการพัฒนาคุณภาพสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความมั่นใจในระดับสากล
เพื่อให้มีการนำพืชสมุนไพรไปใช้ในการรักษาโรคให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สมุนไพรและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรต่อไป ๔.
ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดแนวทางหรือมาตรการในการป้องกันเพื่อมิให้เกิดการกักตุนยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น
ๆ ตลอดจนควบคุมราคาสินค้าดังกล่าวให้มีความเหมาะสม
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกี่ยวกับการจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรเกี่ยวกับพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง
เหมาะสม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
177 | ความเห็นและข้อเสนอแนะตามรายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี | ยธ. | 06/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาความเห็นและข้อเสนอแนะตามรายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ
หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เช่น กฎหมายอนุวัติการตามพันธกรณีตามอนุสัญญา
ปัญหาสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน
การตรวจเยี่ยมสถานที่คุมขังบุคคล
การคุ้มครองผู้เสียหายจากการถูกกระทำทรมานและการเยียวยา
และการเยียวยาผู้เสียหายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
178 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 06/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่
และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่
และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติดกรณียึดได้แต่ยาเสพติด
และระยะเวลาการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทนในกรณีดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่าเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าวอาจซ้ำซ้อนกับการจ่ายเงินตามร่างข้อ
๑๘ (๒) คดีที่จับกุมได้ทั้งผู้ต้องหาและยาเสพติดของกลาง
อีกทั้งการกำหนดเงื่อนในลักษณะดังกล่าวไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจ่ายค่าตอบแทนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
ที่มุ่งหมายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
มิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
179 | การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 (ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ....) | ยธ. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘
กรกฎาคม ๒๕๖๔ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี
อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้เพิ่มเติมโรคสมองเสื่อม
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง โรคอัมพาต โรคตับวายเรื้อรัง
โรคโลหิตจางจากโรคไขกระดูกไม่สร้างเซลล์เม็ดเลือดซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานในการรักษาโรคดังกล่าวในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือสถานพยาบาลของกรมราชทัณฑ์
ไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกานี้ด้วย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องลับมาก ห้ามมิให้เสนอข่าว
ให้ข่าว หรือให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้จนกว่าพระราชกฤษฎีกาจะประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
180 | ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดและร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | ยธ. | 22/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอว่า
โดยที่ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ....
ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ที่คณะรัฐมนตรีเสนอต่อรัฐสภา
เป็นการรวบรวมและปรับปรุงบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม
และควบคุมยาเสพติด รวมทั้งการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
ซึ่งกระจายอยู่ในกฎหมายหลายฉบับมารวมอยู่ในฉบับเดียวกันอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอันเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล
ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าวได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว
จึงเสนอให้แก้ไขวันมีผลใช้บังคับของร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด
พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด
พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด พิจารณาเสร็จแล้ว จาก
“ประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป”
เป็น “... เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป” ๒.
มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาประสานงานกับคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|