ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 64 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 1261 - 1280 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1261 | ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ตามมาตรา 7 (3) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | กค | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา ๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะในกรณีกิจการท่าอากาศยานและกิจการการขนส่งทางอากาศตามมาตรา ๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างข้อ ๓ (๓) และ (๔) อาจมีการใช้ถ้อยคำที่ซ้ำซ้อนกัน จึงควรตรวจสอบการใช้ถ้อยคำเพื่อให้เกิดความชัดเจน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า อุตสาหกรรมการบินเป็นกิจการที่มีการแข่งขันสูงและมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จึงควรติดตามการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อพิจารณารายละเอียดของประกาศฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในอุตสาหกรรมการบินต่อไป และให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณากำหนดกลไกเพื่อรองรับการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เกิดความชัดเจน ได้แก่ (๑) แนวทางการพิจารณาทบทวนกำหนดประเภทกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นให้มีความครอบคลุมสอดคล้องกับสถานการณ์การพัฒนา รวมทั้งข้อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศหรือคำสั่งในแต่ละช่วงเวลาในอนาคตที่สามารถดำเนินการได้อย่างยืดหยุ่นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และ (๒) ในกรณีที่เห็นว่าโครงการร่วมลงทุนที่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทกิจการเกี่ยวเนื่องจำเป็นแต่เป็นการลงทุนที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา ๗ จะต้องมีกลไกที่กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนสามารถกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ได้เช่นเดียวกันกับหลักการที่ได้กำหนดไว้ในมาตรา ๙ ของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดความคุ้มค่าตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้คณะกรรมกรนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1262 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การยกเว้นอากรขาเข้ายาในกลุ่มยากำพร้า) | กค | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าผลิตภัณฑ์ยารักษาหรือยาป้องกันโรคในกลุ่มยากำพร้า เฉพาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และระบุ (P) ต่อท้ายในเลขทะเบียนตำรับยา เว้นแต่ยากำพร้าที่มีการผลิตในประเทศ ๑๑ รายการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวควรกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นการยกเว้นอากรในบัญชีรายการยากำพร้าตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด เว้นแต่กลุ่มยา ๑๑ รายการที่มีการผลิตในประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับยากำพร้าที่ผลิตในประเทศและยากำพร้าที่ไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเป็นระยะเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน และควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษี รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้ เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลาง และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีระบบฐานข้อมูลยากำพร้าของประเทศในด้านการผลิต การนำเข้า การกระจาย และการใช้ยากำพร้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1263 | รายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๑) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ภาวะเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๑ ขยายตัวร้อยละ ๓.๔ จากระยะเดียวกันของปีก่อน และชะลอลงจากช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๑ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในประเทศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่ากังวล เสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องและสามารถรองรับความผันผวนของตลาดการเงินโลกได้ ๒. การดำเนินงานของ ธปท. ประกอบด้วย (๑) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายการเงิน (๒) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน และ (๓) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน ธปท. ได้ดำเนินงานด้านนโยบายระบบการชำระเงินต่าง ๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๑ เช่น การดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) และมาตรฐาน Thai Standard QR Code สำหรับการชำระเงิน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1264 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | กค | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบรายได้และค่าใช้จ่าย ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐบาลมีรายได้ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๘,๙๔๙.๖๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๓๖ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ และรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๔๒,๘๐๖.๓๕ ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๕๑ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายจากงบอุดหนุน งบรายจ่ายอื่น แลงบลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐบาลมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ จำนวน ๔๒๗,๗๑๐.๑๒ ล้านบาท ๒. งบแสดงฐานะการเงิน รัฐบาลมีสินทรัพย์สุทธิหรือส่วนทุน ณ วันสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๒,๐๕๙,๐๗๐.๔๕ ล้านบาท สินทรัพย์สุทธิลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒๓๘,๖๖๓.๔๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๓๙ ซึ่งเป็นผลจากรายการส่วนทุนที่เพิ่มขึ้น การดำเนินงานประจำปีที่มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่าย และการปรับปรุงมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดระยะยาว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1265 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2561 | กค | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ในประเด็นที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ เป้าหมายนโยบายการเงิน การประเมินภาวะเศรษฐกิจการเงินและแนวโน้ม และการดำเนินนโยบายการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1266 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง พ.ศ. .... | กค | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นในนิติบุคคลเพื่อไปซื้อหุ้นในนิติบุคคลอื่น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นนิติบุคคลให้แก่กองทุนเห็นควรให้ดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเสนอกฎหมายลำดับรอง ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในกำหนดระยะเวลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1267 | กรอบความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มธนาคารโลก พ.ศ. 2562 - 2565 | กค | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรอบความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มธนาคารโลก พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕ (Country Partnership Framework : CPF) เพื่อกำหนดแนวความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มธนาคารโลกเป็นระยะเวลา ๔ ปี ซึ่งได้กำหนดขอบเขตการพัฒนาไว้ ๒ ประการ ได้แก่ (๑) การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและการเติบโตที่ยั่งยืน (Promoting Resilient and Sustainable Growth) มุ่งเน้นการสร้างภาคีความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกลุ่มธนาคารโลกกับประเทศไทยในการส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถทางเศรษฐกิจเพื่อดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชนและเพิ่มเงินทุนสำหรับการพัฒนาและการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และ (๒) การพัฒนาอย่างทั่วถึง (Strengthening Inclusion) มุ่งเน้นการสร้างภาคีความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกลุ่มธนาคารโลกกับประเทศไทยในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างทั่วถึง โดยการขับเคลื่อนเป้าหมายตาม CPF จะอยู่ในรูปแบบของการจ้างกลุ่มธนาคารโลกเป็นที่ปรึกษาแบบมีค่าใช้จ่าย (Reimbursable Advisory Service : RAS) เป็นหลัก ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารโลกเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการตามแผนการพัฒนาได้เต็มประสิทธิภาพจะสามารถช่วยยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เหนือกว่าการเติบโตในปัจจุบันที่ร้อยละ ๔ และสามารถขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศรายได้สูงและทั่วถึง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1268 | รายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | กค | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งแสดงผลการประเมินความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน นโยบายของรัฐบาล และผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาล และแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยแบ่งออกเป็น ๖ ภาคส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ภาครัฐบาล ภาคกองทุนนอกงบประมาณ ภาครัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ภาคสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคการเงิน โดยมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อภาระทางการคลังของรัฐบาลใน ๔ มิติ ได้แก่ ภาระแบบชัดเจนโดยตรง ภาระแบบชัดเจนที่เป็นภาระผูกพัน ภาระโดยนัยแบบโดยตรง และภาระโดยนัยที่เป็นภาระผูกพัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1269 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางศิริวัลย์ แก้วมูลเนียม) | กค | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางศิริวัลย์ แก้วมูลเนียม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1270 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 5 | กค | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ ๕ (Joint Statement of the 5th ASEAN Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและความท้าทายด้านนโยบาย การรวมตัวและการเปิดเสรีบริการด้านการเงิน การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ความเชื่อมโยงระบบการชำระเงินและบริการทางการเงิน การระดมทุนโครงสร้างพื้นฐาน การเงินที่ยั่งยืน การเข้าถึงบริการทางการเงิน การระดมทุนเพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติ การสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ และความร่วมมือด้านการกำกับดูแลทรัพย์สินดิจิทัล โดยจะมีการรับรองในที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting : AFMGM) ครั้งที่ ๕ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ ๒-๕ เมษายน ๒๕๖๒ ณ จังหวัดเชียงราย ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการค้าการลงทุน การพัฒนากฎระเบียบในภูมิภาคให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรัฐสมาชิกอาเซียน เห็นควรสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1271 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 เรื่อง ขอทบทวนแหล่งเงินลงทุนสำหรับโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน | กค | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการชำระคืนเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ที่กระทรวงการคลังได้ยืมเงินจากกองทุนฯ ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จำนวน ๑๔,๓๐๐ ล้านบาท โดยในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๒ ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระคืนเงินกองทุนฯ จำนวนทั้งสิ้น ๔,๖๐๐.๐๐ ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ในเบื้องต้นสำนักงบประมาณคาดว่าจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการชำระคืนเงินกองทุนฯ จำนวน ๑,๓๐๐.๐๐ ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้คงเหลือยอดคงคงค้างที่ต้องชำระคืนเงินกองทุนฯ อีก จำนวน ๘,๔๐๐.๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอทบทวนแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน) โดยให้กระทรวงการคลังขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกองทุนฯ ออกไปอีก ๕ ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ และให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1272 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (จำนวน 5 คน 1. นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ฯลฯ) | กค | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน รวม ๕ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งจะครบวาระสี่ปีในวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ประธานกรรมการ ๒. นายเสรี นนทสูติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายธงทอง จันทรางศุ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายจักร บุญ-หลง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1273 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายตามข้อผูกพันในการกู้เงินจากต่างประเทศ พ.ศ. .... | กค | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายตามข้อผูกพันในการกู้เงินจากต่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายตามโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๒๑ และยกร่างระเบียบขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๘๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินทดรองราชการตามโครงการเงินกู้ต่างประเทศเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรแก้ไขข้อความในร่างข้อ ๑๑ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๖๘ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับกรณีที่ค่าเงินเปลี่ยนแปลง โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่มีการเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศในรูปของเงินบาทไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้ เห็นควรให้กรมบัญชีกลางและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะร่วมกันพิจารณาหาแนวทางในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้การบริหารเงินงบประมาณเป็นไปตามที่วางแผนไว้และไม่กระทบการจัดสรรเงินงบประมาณในปีต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเสนอกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในกำหนดระยะเวลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1274 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. .... | กค | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙ และยกร่างขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศมีเงินทดรองราชการไปทดรองจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติราชการในต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานอัยการสูงสุดที่เห็นควรแก้ไขความร่างระเบียบฯ ในข้อ ๒๒ กรณีการบันทึกบัญชีควบคุมเงินทดรองราชการให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๖๘ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด ๒ ข้อ ๑๑ ให้มีความชัดเจนและครอบคลุมถึงการช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย หรือการบูรณาการหน่วยงานอื่นในการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย หรือค่าที่ปรึกษากฎหมาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการเสนอกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในกำหนดระยะเวลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1275 | การปรับปรุงหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ | กค | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างหลักการและแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีในรัฐวิสาหกิจที่ดี พ.ศ. .... เพื่อใช้แทนหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ ปี ๒๕๕๒ โดยให้รัฐวิสาหกิจ รวมถึงรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจเป็นการทั่วไปนำหลักการและแนวทางฯ ไปปฏิบัติและนำไปใช้กับบริษัทย่อยของรัฐวิสาหกิจด้วย โดยหลักการและแนวทางฯ ได้เทียบเคียงจากหลักการและแนวทางฯ ตามมาตรฐานสากลของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีในรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ๑.๒ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับหลักการและแนวทางฯ ๑.๓ ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๒ เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๒ ในเรื่องหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจนำหลักการและแนวทางฯ ไปจัดทำนโยบายและแผนการดำเนินงานการส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยปรับใช้ให้เหมาะสมกับการบริหารจัดการของแต่ละรัฐวิสาหกิจ ควรให้ความสำคัญกับการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนงานการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควรมีการทบทวนความเหมาะสมของการนำหลักการและแนวทางฯ ไปใช้ ปีละ ๑ ครั้ง และควรแจ้งหลักการและแนวทางฯ ให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทราบด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. เมื่อร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้แล้ว ให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงหลักการและแนวทางฯ ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติฯ แล้วนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเพื่อประกาศกำหนดหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจเพื่อให้รัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1276 | การขายที่ดินและอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ หลังเดิม เลขที่ 2 ถนน Square du Val de la Cambre ประเทศเบลเยียม | กค | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการขายที่ดินและอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ หลังเดิม เลขที่ ๒ ถนน Square du Val de la Cambre ประเทศเบลเยียม โดยกำหนดราคาขายขั้นต่ำ ๑,๙๙๕,๐๐๐ ยูโร ในกรณีที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ในราคาที่กำหนดไว้ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศ โดยการดำเนินการขายที่ดินและอาคารในราคาที่ต่ำกว่าที่กำหนดได้ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1277 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อยกเลิกมาตรการภาษีเกี่ยวกับสำนักงานใหญ่ [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ] | กค | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีเกี่ยวกับสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค (Regional Operation Headquarters : ROH) สำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Center : ITC) ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามโครงการต่อต้านการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไร (BEPS) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD) อันสืบเนื่องจากการที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (Inclusive Framework on BEPS) ซึ่งจัดตั้งโดย OECD จึงต้องนำโครงการดังกล่าวมาปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการชักจูงให้บริษัทที่เป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ๒ (ROH2) สำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (ITC) มาขออนุมัติเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายและผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศที่อาจเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1278 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งกองทุนเพื่อการตรวจคนเข้าเมือง | กค | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาการขอจัดตั้งกองทุนเพื่อการตรวจคนเข้าเมือง ในคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ที่เห็นควรให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการตรวจคนเข้าเมืองตามร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เช่น (๑) การกำหนดให้นำเงินกองทุนเพื่อการตรวจคนเข้าเมืองไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองระหว่างรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ควรจะดำเนินการเฉพาะกรณีที่ไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายนั้นได้ และหากเป็นกรณีที่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปก่อน เงินค่าใช้จ่ายที่ได้รับคืนในภายหลังนั้น จะต้องพิจารณาว่าสมควรที่จะนำกลับเข้ากองทุนเพื่อการตรวจคนเข้าเมืองหรือไม่ (๒) การกำหนดให้มีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางอากาศระหว่างประเทศ ไม่ควรหมายความรวมถึงผู้โดยสารซึ่งถือหนังสือเดินทางไทย และผู้โดยสารชาวต่างชาติที่เดินทางในราชอาณาจักร และ (๓) กรณีการเรียกค่าธรรมเนียมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรเรียกเก็บเท่าที่จำเป็นต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการจัดทำร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1279 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการดำเนินคดีในความผิดตามกฎหมายการเงินการคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 19/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการดำเนินคดีในความผิดตามกฎหมายการเงินการคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการดำเนินคดีในความผิดตามกฎหมายการเงินการคลัง พ.ศ. ๒๕๔๖ เพื่อให้องค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานการดำเนินคดีในความผิดตามกฎหมายการเงินการคลังสอดคล้องกับสภาพการณ์และโครงสร้างปัจจุบันของส่วนราชการ และเพื่อให้การดำเนินคดีตามกฎหมายการเงินการคลังเป็นไปอย่างรัดกุม รวดเร็ว โปร่งใส และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1280 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ด่านพรมแดนบ้านเขาดินของด่านศุลกากรอรัญประเทศ) | กค | 19/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว เป็นด่านพรมแดนบ้านเขาดินของด่านศุลกากรอรัญประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
