ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 68 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 1341 - 1360 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1341 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นางญาใจ พัฒนสุขวสันต์) | กค | 02/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางญาใจ พัฒนสุขวสันต์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1342 | รายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2560 และรายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ 2561 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ และรายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ แล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ของ ขสมก. มีผลการขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ จำนวน ๘๙๘.๕๔๒ ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นชอบให้ ขสมก. เบิกจ่ายเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ งวดที่ ๓ จำนวน ๑๐๗.๕๒๓ ล้านบาท สำหรับ รฟท. มีผลการขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ จำนวน ๒,๗๓๙.๔๓๑ ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นชอบให้ รฟท. เบิกจ่ายเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ (งวดที่ ๒ และงวดที่ ๓) จำนวน ๙๐๗.๗๙๒ ล้านบาท เพื่อป้องกันการขาดสภาพคล่องของ รฟท. ๒. ผลการให้บริการสาธารณะประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ของ ขสมก. มีผลการขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ จำนวน ๑,๑๔๗.๑๖๘ ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นสมควรให้ ขสมก. เบิกจ่ายเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ ๒๕๖๑ งวดที่ ๒ จำนวน ๔๑๙.๓๙๗ ล้านบาท สำหรับ รฟท. มีผลการขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ จำนวน ๑,๔๐๐.๐๖๐ ล้านบาท ซึ่ง รฟท. ไม่สามารถเบิกจ่ายวงเงินอุดหนนุในงวดดังกล่าวได้ตามกำหนด เนื่องจากจัดทำและส่งรายงานผลฯ ประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ล่าช้าและไม่ครบถ้วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1343 | เป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2562 | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี ๒๕๖๒ พร้อมข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง และเป้าหมายสำหรับปี ๒๕๖๒ ซึ่งกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินไว้ที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีที่ร้อยละ ๒.๕?๑.๕ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้ กนง. รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายเพื่อให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายของนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับสาธารณชน โดยเฉพาะในช่วงที่จะต้องพิจารณาทางเลือกในการดำเนินนโยบาย ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้าใจและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายการเงินได้ในอีกทางหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1344 | แผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2563 - 2565) | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ ๒๕๖๓-๒๕๖๕) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในการจัดเก็บหรือหารายได้ การจัดทำงบประมาณ และการก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเสนอ โดยแผนการคลังระยะปานกลางฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งรัดกฎหมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เช่น การปรับปรุงประมวลรัษฎากรเพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม เป็นต้น รวมถึงศึกษาแนวทางปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลทั้งระบบ ทั้งในส่วนของรายได้ภาษีและรายได้จากทรัพย์สิน ตลอดจนปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์และพัฒนาฐานข้อมูลที่ใช้ติดตามการจัดเก็บภาษี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ ขยายฐานภาษี และปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้มีความเป็นธรรม ความเท่าเทียม และความเหมาะสมกับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ๑.๒ สำนักงบประมาณจะต้องควบคุมรายจ่ายของรัฐบาลที่เป็นรายจ่ายประจำ โดยเฉพาะรายจ่ายด้านบุคลากรเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายจ่ายลงทุนต่อวงเงินงบประมาณรายจ่าย ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณควรคำนึงถึงความจำเป็น ความเร่งด่วน ความคุ้มค่า ศักยภาพของหน่วยงาน ความพร้อมในการดำเนินงาน และขีดความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ๑.๓ รัฐบาลจะต้องผลักดันให้มีการระดมทุนในรูปแบบใหม่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อช่วยลดภาระการลงทุนจากงบประมาณ เช่น การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) การระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFF) เป็นต้น ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นว่า ในระยะข้างหน้าภายใต้ปัญหาเชิงโครงสร้างของความไม่สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย ภาระการคลังที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตามการเข้าสู่สังคมสูงวัย ความเสี่ยงจากภาระการคลังแอบแฝง รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการเตรียมจัดทำงบประมาณสมดุลให้เกิดขึ้นจริงโดยเร็ว เพื่อให้มีวงเงินเหลือ (Fiscal Space) สำหรับจัดทำนโยบายที่จำเป็นเพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ โดยเร่งปฏิรูปโครงสร้างรายได้และรายจ่าย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ควบคู่กับการลดรายจ่ายของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1345 | การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สำหรับโครงการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้า ด้วยเครื่องเอกซเรย์ตามโครงการระยะที่ 2 ถึง 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 - พ.ศ. 2567 (5 ปี) | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำหรับโครงการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ตามโครงการระยะที่ ๒ ถึง ๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-พ.ศ. ๒๕๖๗ (๕ ปี) ของกระทรวงการคลัง และให้กระทรวงการคลังเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากรรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณานำเงินนอกงบประมาณมาสมทบกับงบประมาณในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔๕ พร้อมทั้งจัดทำแผนงานให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และให้ยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ผลการสอบราคา ประมาณการราคา และสถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการให้ครบถ้วน โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1346 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2561 | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ประกอบด้วย (๑) รายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่กระทำในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ และ (๒) รายงานผลการประเมินความสำเร็จของโครงการหรือแผนงานที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1347 | การแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล) | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1348 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร) | กค | 25/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ๒. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามข้อ ๑ ให้มีผลตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังมีคำสั่งแต่งตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1349 | การบริหารโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : เงินกู้ DPL) | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสถานะและผลการเร่งรัดส่วนราชการเจ้าของโครงการดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : เงินกู้ DPL) ในส่วนที่ไม่อยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ซึ่งได้ลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้วและอยู่ระหว่างเบิกจ่าย จำนวน ๔ โครงการ และ ๑ โครงการย่อย โครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกู้ DPL แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน ๑ โครงการ โครงการที่อยู่ระหว่างการจัดสรรเงินกู้ DPL จำนวน ๑ โครงการ และผลการยุติการดำเนินโครงการ จำนวน ๕ โครงการหลัก ๕ โครงการย่อย และ ๑๕ รายการย่อย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการและการเบิกจ่ายเงินกู้ DPL ของโครงการต่าง ๆ จำนวน ๗ โครงการ ได้แก่ โครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร โครงการพัฒนาระบบมาตรวิทยาแห่งชาติ ระยะที่ ๓ ของสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ โครงการจัดหาระบบบริหารจัดการ Software และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โครงการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายระบบความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศเพื่อทดแทนเครื่องเดิม โครงการพัฒนาระบบควบคุมผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีเพื่อประโยชน์แห่งการจัดเก็บภาษีอากรตามมาตรา ๓ สัตตแห่งประมวลรัษฎากร ของกรมสรรพากร โครงการจัดทำระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมทางศุลกากรด้วยระบบเอ็กซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์สินค้า สัมภาระและหีบห่อสินค้าของผู้เดินทางรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของกรมศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมทางกรมศุลกากรด้วยระบบเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์สินค้า สัมภาระและหีบห่อสินค้าของผู้เดินทางรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของกรมศุลกากร วงเงิน ๑,๓๑๘.๐๐ ล้านบาท ที่ยังไม่ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างนั้น หากโครงการดังกล่าวไม่สามารถลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถใช้เงินกู้ DPL เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปได้ ๓. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๔. อนุมัติการยุติการดำเนินโครงการต่าง ๆ จำนวน ๕ โครงการ ได้แก่ โครงการจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและรองรับการให้บริการประชาชน โครงการปรับเปลี่ยนระบบ e-mail โครงการพัฒนาระบบงานและเว็บไซต์สำหรับให้บริการผ่านอุปกรณ์และคอมพิวเตอร์พกพา (Mobile Application and Mobile Web Site) โครงการพัฒนาระบบยื่นรายการประกอบแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (Summary table) ของกรมสรรพากร และโครงการวิเคราะห์ความเป็นไปได้และรูปแบบทางธุรกิจที่เหมาะสมในการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPPs Model) สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1350 | การขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหุ้นกู้วงเงินรวมไม่เกิน 21,000 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหุ้นกู้วงเงินรวมไม่เกิน ๒๑,๐๐๐ ล้านบาท ให้แก่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ตามที่กำหนดในมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อรองรับการดำเนินงานของ ธพว. ในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) รวมถึงให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ SMEs รายย่อย ตามนโยบายรัฐบาลอื่น ๆ ทั้งนี้ ธพว. จะดำเนินการประสานสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนในการจัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะของ สบน. ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1351 | ผลการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2561 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1352 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา) | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการสนับสนุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการเข้าถึงระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ในโอกาสแรก ตลอดจนจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป รวมถึงรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษาที่ผ่านมาเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ และให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของมาตรการในการช่วยลดภาระงบประมาณในช่วงที่ผ่านมา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1353 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายพรชัย หาญยืนยงสกุล) | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพรชัย หาญยืนยงสกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง (นักวิชาการคลังทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1354 | มาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ชำระเงินที่ใช้บัตรเดบิตของตนเองทุกประเภทที่ออกในประเทศไทยและมีการใช้จ่ายในประเทศไทย (ไม่รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ในการซื้อสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่รวมถึงสินค้าและบริการที่มีภาษีสรรพสามิต) ในช่วงระหว่างวันที่ ๑-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้ระบบบันทึกการเก็บเงิน (POS) ซึ่งสามารถแยกจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ ๗ ออกจากราคาสินค้าและบริการที่ได้ชำระ และจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนเท่ากับ ร้อยละ ๕ โดยจะจ่ายเงินชดเชยสูงสุดไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาทต่อคน ผ่านระบบพร้อมเพย์ และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรและกรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับงบประมาณในการดำเนินมาตรการดังกล่าวอยู่ภายใต้สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเห็นควรให้กรมสรรพากรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามผลการดำเนินการจริงที่ได้มีการตรวจสอบแล้ว ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับกรณีที่มีผู้สนใจเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้การจ่ายเงินชดเชยสำหรับมาตรการดังกล่าวสูงเกินกว่ากรอบวงเงินที่กระทรวงการคลังเสนอขออนุมัติในครั้งนี้ต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น การสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนในโอกาสแรก โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมในสังคม การรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ประโยชน์ที่ทางราชการหรือประชาชนจะได้รับ และการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม รวมทั้งพิจารณาถึงความจำเป็น ความเหมาะสม ความคุ้มค่า ผลกระทบและผลสัมฤทธิ์ของมาตรการดังกล่าวให้ครบถ้วนในทุกมิติก่อนการดำเนินการมาตรการต่อไป สำหรับการกำหนดช่วงระยะเวลาของการดำเนินมาตรการดังกล่าว ๑๕ วัน อาจสั้นเกินไปและไม่จูงใจให้ผู้ประกอบการร้านค้าติดตั้งระบบบันทึกการเก็บเงิน (POS) และผู้ประกอบการร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็กอาจไม่สามารถเตรียมความพร้อมของระบบได้ทันเวลา ซึ่งจะส่งผลต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. เห็นชอบหลักการในการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินชดเชยที่ได้รับตามมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการและการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังเร่งนำเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1355 | การแต่งตั้งและกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (พันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี) | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการแต่งตั้ง พันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สสร.) ๑.๒ กำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ของผู้อำนวยการ สสร. ในอัตรา ๒๙๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยในระหว่างอายุสัญญา สสร. จะปรับขึ้นคาตอบแทนคงที่ในวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี ในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ ๑๐ ของค่าตอบแทนคงที่ที่ผู้รับจ้างได้รับ ทั้งนี้ ให้ขึ้นกับผลการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการ สสร. โดยการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ตลอดอายุสัญญาจ้างจะต้องไม่มีผลให้อัตราค่าตอบแทนคงที่ที่ได้รับเกินกว่าอัตราขั้นสูงตามกรอบอัตราค่าตอบแทนคงที่ที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ระบุในสัญญาจ้างผู้อำนวยการ สสร. แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๒. ให้พันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1356 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน (จำนวน 12 คน 1. นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ฯลฯ) | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน รวม ๑๒ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งมาครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ประธานกรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๒. นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๓. นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๔. นายเจษฎา พรหมจาต กรรมการ ๕. นางสาวเยาวนุช วิยาภรณ์ กรรมการ ๖. รองศาสตราจารย์เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ กรรมการ ๗. นางสาวธิดารัธ ธนภรรคภวิน กรรมการ ๘. นางพิลาสลักษณ์ ยุคเกษมวงศ์ กรรมการ ๙. นายยรรยง เต็งอำนวย กรรมการ ๑๐. นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการ ๑๑. นางพัชราวลัย ชัยปาณี กรรมการ ๑๒. นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1357 | ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางบริหารในเรื่องทางศุลกากร | กค | 18/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางบริหารในเรื่องทางศุลกากร ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความตกลงฯ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ โดยกระทรวงการคลังและฝ่ายเนเธอร์แลนด์ได้เห็นชอบร่วมกันเพื่อปรับปรุงถ้อยคำของร่างความตกลงฯ ก่อนการลงนาม และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ ได้แก่ (๑) แก้ไขการอ้างถึงเดือนของข้อมติเรื่อง ความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกของห่วงโซ่อุปทานทางการค้าระหว่างประเทศขององค์การศุลกากรโลกในส่วนของอารัมภบท จาก “เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๐๐ และเดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๐๒” เป็น “เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๒๐๐๐ และเดือนมิถุนายน ค.ศ. ๒๐๐๒” และ (๒) ปรับตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและคำร้องของเนเธอร์แลนด์เพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับส่วนอื่น ๆ ของร่างความตกลงฯ ทั้งนี้ ความตกลงฯ จะมีผลใช้บังคับภายหลังจากที่ภาคีคู่สัญญาได้แจ้งแต่ละฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการทูตว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายภายใน เพื่อให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับเรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1358 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายทองลักษณ์ หาญศึก ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น) | กค | 13/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายทองลักษณ์ หาญศึก ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายสมคิด พรหมเจริญ ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป และให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1359 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาดังกล่าว ของสถาบันการพลศึกษา ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. การกำหนดหลักสูตรสาขาวิชาบริหารธุรกิจของสถาบันการพลศึกษาควรพิจารณาให้สอดคล้องกับกรอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถาบันการพลศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นการบูรณาการการศึกษาด้านกีฬา บุคลากร นันทนาการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1360 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร รวม 2 ฉบับ (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคอสังหาริมทรัพย์ให้แก่มูลนิธิโดยไม่มีค่าตอบแทน) | กค | 04/12/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์สำหรับรายรับหรือการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก เพื่อใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
