คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยว
กับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ การขยายสิทธิการเบิกเงินค่าการศึกษาของ
บุตรให้แก่ผู้มีสิทธิที่มีบุตรศึกษาอยู่ในหลักสูตรระดับปริญญาตรี ทั้งสถานศึกษาของทางราชการและเอกชน
โดยกำหนดให้มีสิทธิได้รับค่าการศึกษาของบุตรครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินอัตรา
ที่กระทรวงการคลังกำหนด และควบคุมการเบิกจ่ายกรณีผู้มีสิทธิมีคู่สมรส ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยว
กับการศึกษาของบุตรจากหน่วยงานอื่น  จะไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรจากทาง
ราชการ  เว้นแต่ค่าการศึกษานั้นต่ำกว่าที่ผู้มีสิทธิจะได้รับตามร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ  ให้มีสิทธิได้รับเฉพาะ
ส่วนที่ยังขาดอยู่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยให้ร่างพระราชกฤษฎีกาดัง
กล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปีการศึกษา  2548  เป็นต้นไป   และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ  รวมทั้ง
ประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ  ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของคำนิยาม  "สถานศึกษา
ของทางราชการ" ในร่างมาตรา 3  ดังนี้  ตาม (1)  "มหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่น
ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย"  อาจเกิดปัญหาการตีความ   เนื่องจากสถาบันอุดมศึกษาปัจจุบันมีอยู่ในหลาย
สังกัด  เช่น  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  โรงเรียนนายร้อยสังกัดกระทรวงกลาโหม  เป็นต้น  ตาม  (2)
"วิทยาลัยในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการหรือสังกัดส่วนราชการอื่นที่  ก.พ. รับรองคุณวุฒิ" คำว่า  "วิทยาลัย"
อาจเป็นคำที่เฉพาะเจาะจงมากเกินไปหรือไม่  เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมให้ครอบคลุมถึงสถาบันการศึกษา ทั้งที่
มีอยู่แล้วในปัจจุบันหรือที่จะเกิดขึ้นใหม่  ซึ่งอาจมิได้ใช้ชื่อว่า "วิทยาลัย" และตาม (3) เห็นว่า ในอนาคตอาจ
มีสถานศึกษาที่สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบล เมืองพัทยา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ  จึงควร
กำหนดคำนิยามให้มีความหมายกว้างและครอบคลุมกรณีดังกล่าว  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย  แล้วดำเนิน
การต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร โดยมีสาระสำคัญคือ  ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคล
ธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรประเภทเงินฝากประจำที่มี
ระยะเวลาการฝากตั้งแต่  1  ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวเมื่ออายุไม่ต่ำกว่า  55  ปี
บริบูรณ์เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากประจำจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินสามหมื่นบาทตลอดปี
ภาษีนั้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอการขยายระยะเวลาการให้สิทธิ
ประโยชน์ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้  โดยระยะเวลาในการให้สิทธิประโยชน์ ในปี 2548 ยกเว้นภาษีอากร
และลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  ในลักษณะเช่นเดียวกับการให้สิทธิประโยชน์ในปีที่
ผ่านมา ปี 2549 ยกเว้นเฉพาะภาษีที่เกิดจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้  ส่วนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรม     และภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการปรับโครงสร้างหนี้
ให้จัดเก็บในอัตราปกติ    และปี  2550  จัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในอัตรา
ปกติ และอนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎา
กร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการ
จำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้   และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่อง  การเรียก
เก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน    และกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด 
กรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด (ฉบับที่ 5) จำนวน 2 ฉบับ  และร่าง
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎ
หมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด   กรณีการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย  (ฉบับที่  3)
จำนวน 2 ฉบับ รวม  6  ฉบับ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้   ทั้งนี้  ให้กระทรวงการคลังเร่งประชาสัมพันธ์การขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์
ดังกล่าวให้ผู้เกี่ยวข้องทราบทั่วกัน  เพื่อให้การปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จโดยเร็ว อันจะส่งผลดีต่อระบบ
เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษ
ทางภาษีศุลกากร ประจำไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2547 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2547) ซึ่งมีการนำเข้า
สินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน  คือ  กัมพูชา  สปป.ลาว  พม่า
และเวียดนาม โดยมีมูลค่าที่ได้รับสิทธิพิเศษ รวม 78.270 ล้านบาท  ประกอบด้วยมูลค่าที่ยกเว้นอากรให้
57.302 ล้านบาท และมูลค่าที่ลดอัตราอากรให้  20.987  ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าไตรมาสที่ 2 (9,753.495
ล้านบาท) เนื่องจากผู้นำเข้าไม่ขอใช้สิทธิพิเศษ AISP

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กู้เงิน
ในประเทศโดยการออกพันธบัตร จำนวน 36,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อให้ ธอส.
สามารถปล่อยสินเชื่อตามแผนการดำเนินงาน  และบริหารสินทรัพย์และหนี้สินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข  และรายละเอียดต่าง ๆ  ของการกู้เงินดังกล่าว
ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.2 ที่มีมติ
เห็นชอบหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและ
สหกรณ์การเกษตรที่ประสบอุทกภัยปี 2546 โดยขอให้รัฐบาลชดเชยเงินเป็นจำนวน 724.63 ล้านบาท

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของบรรษัทบริหารสิน
ทรัพย์ไทย (บสท.) ในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2546  สรุปได้ดังนี้  การรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31
ธันวาคม 2546   บสท. ได้รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวนสุทธิรวมทั้งสิ้น 17,090 ราย  มูลค่าทางบัญชี
780,824 ล้านบาท  แบ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ บสท. รับโอนมาจากสถาบันการเงินและบริษัทบริหาร
สินทรัพย์ของรัฐ  และที่รับโอนมาจากสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ของเอกชน  ส่วนการบริหาร
จัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ   ได้มีการบริหารจัดการจนได้ข้อยุติ   โดยการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร
จำนวน 4,886 ราย มูลค่าทางบัญชี 732,304 ล้านบาท ในส่วนของผลการดำเนินงานได้ดำเนินการคัดเลือก
ผู้บริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ  เพื่อบริหารจัดการลูกหนี้ที่ บ สท.  มีมติให้ดำเนินการบังคับหลักประกันและ
พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดที่มีแนวโน้มที่จะปรับโครงสร้างหนี้    ปรับโครงสร้างกิจการได้   หากได้รับโอกาสในการ
เจรจากับ บสท. อีกครั้ง   รวมทั้งจัดทำแนวทางการจัดการดูแลทรัพย์สินรอการขายแต่ละประเภท ดำเนินการ
จำหน่ายทรัพย์สินที่ดำเนินการบังคับหลักประกัน  โดยวิธีการขายทอดตลาดเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 ธันวา
คม 2546 จำนวน 41 รายการ เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้จำนวน 18 รายการ  ซึ่งไม่มีผู้เข้าสู้ราคา บสท. จึงรับ
โอนกรรมการสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ บสท.  ในราคาที่ประกาศขายเริ่มต้น 146 ล้าน
บาท และ บสท. ได้กำหนดแผนการขายทอดตลาดเป็นประจำทุกเดือนโดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ
ของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 100 ปี กรมการขนส่งทางบก พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ จัดทำเหรียญ
กษาปณ์โลหะสองสี  (สีขาวและสีทอง)  ราคาสิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาส  100  ปี
กรมการขนส่งทหารบก ในวันที่  7  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2548  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้น
การเก็บภาษีซ้อนกับประเทศต่าง  ๆ  โดยจะมุ่งเน้นกลุ่มประเทศในภูมิภาคที่มีศักยภาพที่จะเป็นตลาดใหม่
สำหรับประเทศไทยในอนาคต อาทิ  กลุ่มประเทศในแอฟริกา  และอเมริกาใต้   ตลอดจนประเทศที่มีความ
พร้อม หรือได้ขอทาบทามเข้ามาในการเจรจาจัดทำอนุสัญญาภาษีซ้อน  โดยประเทศที่ขอเปิดเจรจา ได้แก่
บราซิล อาร์เจนตินา กานา แอลจีเรีย  สาธารณรัฐซานมาริโน  และลิทัวเนีย  และประเทศที่ขอเจรจาแก้ไข
อนุสัญญา ฯ  คือ  ญี่ปุ่น  และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจแต่งตั้งคณะผู้แทนรัฐบาลไทยใน
การเจรจาจัดทำอนุสัญญา ฯ  ดังกล่าว  ทั้งภายในและภายนอกประเทศ  โดยในแต่ละปีงบประมาณให้เป็น
การเจรจาภายในประเทศ จำนวนไม่เกิน 6 ครั้ง และเป็นการเจรจาภายนอกประเทศ จำนวนไม่เกิน 6 ครั้ง

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการนำเงินสำรองทางการ ในวงเงิน 250 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ ฯ  เข้าร่วมลงทุนในกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่ 2  (Asian Bond Fund 2 : AFB 2)  โดยมอบ
หมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการนำเงินสำรองทางการจำนวนดังกล่าวเข้าร่วมจัดตั้ง  ABF 2
ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัท
มหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่อยู่ในข่ายที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการ
เงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2520  เนื่องจากต้องต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการของตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทยซึ่งมีความเคร่งครัดอยู่แล้ว กำหนดให้นำหลักการบัญชีที่รองรับโดยทั่วไปมาบังคับใช้กับรัฐวิสาห
กิจอื่น  ๆ  ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และยกเลิกหลักทรัพย์ที่สามารถดำเนินการตามหลักการ
บัญชีที่รองรับโดยทั่วไปได้ เพื่อให้การบริหารงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งปรับปรุง
หลักเกณฑ์ทางบัญชีและการเงินอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องกำหนดไว้ให้มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 1.2  (ฝ่ายความมั่นคงและ
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันประกันเงินฝาก
 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ  คือ   จัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากที่มีขอบเขตและอำนาจหน้าที่ให้การคุ้มครองผู้ฝากเงินอย่างชัด
เจนและมีประสิทธิภาพ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา     โดยให้รับข้อสังเกตของส่วนราชการที่
เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติที่เห็นว่า การให้กระทรวงการคลังมีอำนาจในการค้ำประกัน
การกู้ยืมเงินของสถาบัน ควรกำหนดหลักเกณฑ์และขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อภาระการคลังในอนาคต ในขณะเดียว
กันยังคงความน่าเชื่อถือของสถาบันเอาไว้ได้ ส่วนการให้สมาชิกนำส่งเบี้ยประกันเข้าสถาบันควรพิจารณาความเป็นไปได้และความ
เหมาะสมในการคิดเบี้ยประกันที่ สมาชิกต้องส่งเฉพาะจากส่วนที่ได้รับการคุ้มครองจากสถาบัน นอกจากนี้การกำหนดให้ธนาคาร
แห่งประเทศไทยหรือหน่วยงานอื่นของทางการที่กำกับดูแลสมาชิก   และสถาบัน มีหน้าที่ส่งรายงานการตรวจสอบหรือข้อมูลของ
สมาชิกให้แก่กันและกันตามที่ได้รับการร้องขอ นั้น  อาจมีข้อมูลบางเรื่องที่ขัดกับกฎหมายและระเบียบปฏิบัติในปัจจุบัน ควรมีการ
พิจารณาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกันด้วยรวมทั้งกำหนดเพิ่มเติมให้มีการเปิดเผยข้อมูลในการดำเนินงานของสถาบัน
การเงิน  และการกำกับตรวจสอบอย่างเพียงพอ  เพื่อให้ผู้ฝากเงินสามารถใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้   เป็นต้น     ไปพิจารณา
ประกอบด้วย  แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานตามแนวทางการส่งเสริม
กิจการที่ปรึกษาไทย  โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและที่ปรึกษาเพื่อส่งเสริมกิจการที่ปรึกษาไทย มีรอง
ปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน เป็นประธาน และจัดทำคู่มือขีดความสามารถ
และวิธีการจัดจ้างที่ปรึกษา เพื่อเผยแพร่ให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ  และภาคเอกชน ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงใน
การจ้างที่ปรึกษา รวมทั้งจัดฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการคัดเลือกและว่าจ้างที่ปรึกษา  ในส่วนของการ
ส่งเสริมที่ปรึกษาไทยไปทำงานต่างประเทศ ได้จัดทำโครงการสนับสนุนที่ปรึกษาไทยไปทำงานต่างประเทศ โดย
อนุมัติจัดสรรเงินกู้ SAL วงเงิน 150 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว  ในเรื่องการปรับอัตราค่าตอบแทนที่
ปรึกษา ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติในการใช้อัตราคูณสำหรับคำนวณอัตราค่าตอบแทนจากเดิม 2.145  เป็น  2.64
และเสนอให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและที่ปรึกษา ฯ  พิจารณาให้ความเห็นชอบและเวียนให้ส่วนราชการใช้เป็น
แนวทางปฏิบัติ   สำหรับการพัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา  ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินงานโครงการบำรุงรักษา
และพัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทย เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทย ซึ่งผลจากการดำเนิน
งาน  สามารถพัฒนาและปรับปรุงระบบศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทยให้มีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัว  สามารถ
ให้บริการผ่านทาง Website ทั้งในทางด้านการจดทะเบียนและการให้บริการข้อมูลแก่หน่วยงานต่าง ๆ  ได้อย่าง
รวดเร็วและถูกต้อง โดยเป้าหมายของการพัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทยในขั้นต่อไป คือ ให้เป็นศูนย์กลางข้อมูล
ที่ปรึกษาในระดับภูมิภาค (Regional Center)

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจตามพระราช
บัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 กรณีการแปลงทุนขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.)
เป็นทุนเรือนหุ้น และจัดตั้งบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ.อสมท.) โดยมีทุนจดทะเบียน  3,000  ล้าน
บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 600 ล้านหุ้น  มูลค่าที่ตราไว้ 5 บาทต่อหุ้น  โดยจดทะเบียนวันที่ 17 สิงหาคม
2547 ทั้งนี้ การแปลงสภาพ อ.ส.ม.ท. ไปเป็น บมจ.อสมท.  เป็นการโอนบรรดาอำนาจ  สิทธิ  และประโยชน์
ทั้งหมดที่มีอยู่ไปเป็นของบริษัทโดยไม่มีการจำกัดหรืองดอำนาจ สิทธิและประโยชน์แต่อย่างใด  สำหรับเงื่อน
เวลายุบเลิก กำหนดให้ยุบเลิก อ.ส.ม.ท. ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2547 เป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายพาเกียรติ สมาน
บุตร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและ
แผน 10 ชช) กรมสรรพสามิต   และนางเบญจา  หลุยเจริญ  ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี
(เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช) กรมสรรพากร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายพาเกียรติ สมาน
บุตร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและ
แผน 10 ชช) กรมสรรพสามิต   และนางเบญจา  หลุยเจริญ  ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี
(เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช) กรมสรรพากร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้ง นายวรชาติ เพชรนันทวงศ์ เป็น
กรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 พฤศจิกายน
2547) เป็นต้นไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2547  โดยการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม
ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลัง จำนวน 86,902 ล้านบาท  หรือร้อยละ 7.24  ของวงเงิน
งบประมาณ  (1,200,000 ล้านบาท)  ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ/
ลงทุน) มีการเบิกจ่ายในส่วนของรายจ่ายประจำ จำนวน 83,814 ล้านบาท  หรือร้อยละ 9.29 ของงบประมาณ
รายจ่ายประจำ (901,804 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน จำนวน 3,088 ล้านบาท  หรือร้อยละ  1.04  ของงบ
ประมาณรายจ่ายลงทุน  (298,196 ล้านบาท)  และผลการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรร
รายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน 20 แห่ง  มีจำนวน  3,073  ล้านบาท  หรือร้อยละ  1.40  ของงบ
ประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้ (219,149 ล้านบาท)

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานตามระบบบริหาร
การเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) โดยสรุปคือ  ได้มีการเตรียมการก่อนปฏิบัติงาน
จริงในวันที่ 1 ตุลาคม 2547  โดยเชิญประชุมชี้แจงส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ มอบหมายเจ้าหน้าที่
ของสำนักงานคลังจังหวัด  ให้คำปรึกษาแนะนำการปฏิบัติงาน  GFMIS  แก่ส่วนราชการในภูมิภาคและองค์
กรปกครองส่วนท้องถิ่น  กำหนดวิธีการให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐถือปฏิบัติ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์
การเบิกจ่ายและนำเงินส่งคลังตามระบบดังกล่าว  จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อตอบปัญหา   สำหรับ
ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1-22 ตุลาคม 2547  มีการแจกจ่ายบัตรกำหนดสิทธิผู้ใช้งาน และ  User  ID
ของ  Excel Loader  ให้บริการตอบปัญหาการปฏิบัติงาน  โดยศูนย์เฉพาะกิจ ฯ รวม  2,888  ราย  และได้
จัดทำแผนปฏิบัติงาน โดยมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการปฏิบัติงานในระบบเดิมภายใน  6  เดือน  เพื่อให้การ
ปฏิบัติงานในระบบ GFMIS เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอมติคณะกรรมการพิจารณาการ
ขายการแลกเปลี่ยน การให้ การจำหน่าย จ่ายโอน  หรือจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล
ไทยในต่างประเทศ  ครั้งที่  1/2547  วันที่ 4 มีนาคม 2547  โดยให้ขายที่ดินและอาคารสำนักงานผู้ช่วยทูต
ฝ่ายทหารอากาศประจำกรุงบอน์ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในราคาขายขั้นต่ำจำนวน 389,000
ยูโร โดยกองทัพอากาศเป็นผู้ดำเนินการและให้นำค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขายมาหักออกจากรายได้จากการ
ขายก่อนส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน  และในกรณีที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อในราคาที่คณะรัฐมนตรีกำหนดได้  ก็ให้
อยู่ในดุลยพินิจของส่วนราชการผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ในการดำเนินการขายที่ดินและอาคารในราคาที่ต่ำ
กว่าที่คณะรัฐมนตรีกำหนดได้ไม่เกินร้อยละ 10 และให้ดำเนินการต่อไปได้