ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 224 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 4461 - 4480 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4461 | รายงานการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา | กค | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา
ของกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ดำเนินการขอและยึดสลากคืนจากองค์กรต่าง ๆ ที่เคยได้รับสลากแต่ไม่ได้จำหน่ายเอง นำมาจัดสรรใหม่จำนวนประมาณ 5 ล้านฉบับ และนำสลากเสรีที่จัด จำหน่ายชั่วคราวให้กับผู้ค้าสลากรายละ 10 เล่ม จำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านฉบับ มารวมกับสลากที่ขอและยึดคืน เพื่อจัดสรรใหม่ให้กับผู้ค้าสลากปลีกจริงมาสมัครขอรับสลากไปจำหน่าย และเปิดรับสมัครผู้ประสงค์ต้องการ จำหน่ายสลากทางไปรษณียบัตร โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ ผู้พิการ บุคคลทั่วไป สมาคม องค์กร และนิติบุคคล (โดยจัดแยกเป็นในส่วนของกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดทุกจังหวัด) ซึ่งมีผู้มาสมัครทั้งสิ้น 489,144 ราย ตรวสอบแล้วปรากฏว่า มีเอกสารถูกต้องจำนวน 228,815 ราย สำหรับในส่วนกลาง สำนักงานสลาก ฯ เป็น ผู้ดำเนินการสุ่มคละรายชื่อ (Random) จำนวนสองเท่าของผู้ที่ได้รับการจัดสรรเพื่อนำมาตรวจสอบคุณสมบัติ แล้วคัดเลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายตามจำนวนที่จัดสรรให้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4462 | มาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล | กค | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับอัตราภาษีน้ำมันดีเซล ลดลงลิตรละ 1 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2548-30 พฤศจิกายน 2548 และให้ดำเนินการ ต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามและควบคุมดูแลมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่เหมาะ สม หรือไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงหรือกักตุนสินค้าเพื่อเก็งกำไรอันจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือด ร้อน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) รับไปหารือร่วมกันเกี่ยวกับมาตรการที่เหมาะสมในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพประมงที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 4463 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออก การโอน การวางหลักประกัน และการจำนำตราสารหนี้ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยธุรกรรมทางการเงินอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ พ.ศ. .... | กค | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออกการโอน
การวางหลักประกัน และการจำนำตราสารหนี้ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกู้เงิน โดยวิธีการออกตราสารหนี้ในประเทศของกระทรวงการคลัง ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงิน โดย นำวิธีการ รูปแบบ และขั้นตอนการประมูล การจัดสรร การชำระราคา และเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่ได้เคยออก ประกาศกระทรวงการคลังกรณีทำการกู้เงิน โดยการออกตราสารมารวบรวมให้เป็นหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน รวมทั้งเพิ่มบทบาทศูนย์รับฝากในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางให้บริการรับฝากตราสารหนี้ และร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยธุรกรรมทางการเงินอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดประเภทธุรกรรมทางการเงินอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะนอกเหนือจากการกู้ เงินรายใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม แปลงหนี้ ชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดชำระ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ต่ออายุ ซื้อคืน รือไถ่ถอนตราสารหนี้ของรัฐบาล และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็น ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้ตัดคำว่า "15 วัน" ออก เนื่องจากพันธบัตรแต่ละรุ่นมีวันตัดข้อมูลเพื่อจ่ายดอก เบี้ยและวันปิดพักทะเบียนไถ่ถอนที่แตกต่างกัน เช่น 10 วัน 15 วัน 30 วัน ซึ่งประกาศไว้ในประกาศการจำหน่าย พันธบัตรแต่ละรุ่น ในกรณีการออกพันธบัตรที่มีผู้ซื้อเป็นจำนวนมากรายการ การกำหนด 15 วัน จะทำให้มีข้อ ขัดข้องในการปฏิบัติงาน และข้อสังเกตของคณะเจรจาข้อตกลงและการประเมินการพัฒนากฎหมายของส่วนราช การ คณะที่ 2 (กระทรวงการคลัง ยกเว้นกรมบัญชีกลาง) เกี่ยวกับร่างข้อ 6 ที่กำหนดให้กระทรวงการคลังอาจ ไม่รับใบประมูลตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงไม่รับการประมูลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และจะจัดสรรให้ แก่ผู้ประมูลรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ตามแต่จะเห็นสมควร อาจเป็นหลักเกณฑ์ที่ทำให้เกิดการใช้ดุลพินิจของ เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้ขอประมูลได้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ควรกำหนด เงื่อนไข วิธีการและรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ด้วย ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ นอกจากนี้ ให้กระทรวง การคลังพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้เร่งพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีความพร้อมสำหรับการจัดทำธุรกรรมทางการเงินใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น และเพื่อประโยชน์ต่อการปรับโครงสร้างหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการดำเนินธุรกรรมประมูลด้วยระบบ บริการด้านการเงินด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Financial Services) ให้คำนึงถึงระบบความปลอดภัย ของข้อมูลเพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการสูญหายของข้อมูล |
||||||||||||||||||||||||
| 4464 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2548 | กค | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนต เสนอข้อมูลของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตร
มาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2548 โดยสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม สินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 231.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 31.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 15.76 โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยดังกล่าวเทียบกับมูลค่านำ เข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในช่วงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (28,161.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.82 ของมูลค่านำเข้ารวม และเมื่อเทียบมูล ค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในช่วงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 กับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน 14 รายการ โดยสินค้าฟุ่มเฟือย 5 อันดับแรกที่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ สุราต่างประเทศ ไวน์ สูท เสื้อ กระโปรง กางเกง ฯ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง มี อัตราการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.03, 53.50, 43.46, 37.14 และ 34.82 ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
| 4465 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จธรณีพิบัติภัย พ.ศ. .... (Agenda based) | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่า
ด้วยบำเหน็จธรณีพิบัติภัย พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้มีระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จธรณีพิบัติ ภัย เพื่อจ่ายเงินก้อนหนึ่งเรียกว่า บำเหน็จธรณีพิบัติภัย แก่บุคคลในครอบครัวของข้าราชการ ผู้รับบำนาญ และ ลูกจ้างประจำที่สูญหายไปในเหตุธรณีพิบัติภัยภาคใต้ชายฝั่งทะเลอันดามัน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล และระนอง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 หรือบุคคลที่ผู้สูญหายได้แสดงเจตนาให้เป็นผู้รับบำเหน็จตก ทอด และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดย ให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการใช้คำว่า "ธรณีพิบัติภัย" ในร่างระเบียบ ฯ ซึ่งแตกต่างจากร่างพระ ราชบัญญัติที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ที่ใช้คำว่า "ธรณีพิบัติ" รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควร เพิ่มเติมข้อความบางประการในร่างระเบียบ ฯ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อาทิเช่น ข้อ 8 ข้อความเดิม "กรณีผู้รับ บำนาญสูญหาย ให้จ่ายบำเหน็จธรณีพิบัติภัยแก่บุคคลตามข้อ 7 เป็นจำนวนสามสิบเท่าของบำนาญรายเดือน ซึ่งผู้รับบำนาญที่สูญหายได้รับหรือมีสิทธิได้รับตามส่วนและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 7" ขอเพิ่มเป็น "กรณีผู้ รับบำนาญสูญหาย ให้จ่ายบำเหน็จธรณีพิบัติภัยแก่บุคคลตามข้อ 7 เป็นจำนวนสามสิบเท่าของบำนาญราย เดือน ซึ่งผู้รับบำนาญที่สูญหายได้รับหรือมีสิทธิได้รับตามส่วนและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 7 หากกรณีที่ผู้ รับบำนาญสูญหาย ซึ่งได้รับบำเหน็จดำรงชีพไปแล้วตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เมื่อผู้รับ บำนาญสูญหาย การจ่ายเงินบำเหน็จกรณีพิบัติภัยตามวรรคหนึ่ง ให้หักเงินออกจากบำเหน็จธรณีพิบัติภัยที่จะ ได้รับเท่ากับเงินบำเหน็จดำรงชีพเสียก่อน" เป็นต้น ไปพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4466 | การอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อให้กู้ยืมแก่ผู้ประกอบกิจการที่ประสบธรณีพิบัติภัย และโรคไข้หวัดนก (Agenda based) | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้กระทรวงการคลังอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคาร พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน จำนวนทั้งสิ้น 4,660 ล้านบาท ตามนัยเงื่อนไขที่ธนาคารแห่ง ประเทศไทยกำหนด ดังนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการใน 6 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบธรณีพิบัติภัย วงเงินทั้งสิ้น 3,200 ล้านบาท และ เพื่อช่วยเหลือผู้เลี้ยงสัตว์ปีก และผู้ประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ปีกที่ได้รับความเสียหายจากโรคไข้หวัดนก วงเงิน ทั้งสิ้น 1,460 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
| 4467 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการ
อันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีชุดก่อนมีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและ เงื่อนไขเกี่ยวกับการให้สินเชื่อ การซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตราสารแสดงสิทธิในหนี้หรือรับโอนสิทธิเรียก ร้องของสถาบันการเงิน การทำธุรกิจเงินตราต่างประเทศ การออกหนังสือค้ำประกันและการอาวัล การให้ บริการทางการเงิน การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการลงทุน และ การเรียกเกบดอกเบี้ย ส่วนลด หรือค่าตอบแทนต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการประกอบกิจการของธนาคารออม สิน รวมทั้งเพิ่มข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและ การให้บริการบัตรเครดิต และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4468 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดทำสัญญาและการชดใช้ทุนลาศึกษา ฝึกอบรมปฏิบัติการวิจัยและการปฏิบัติงานองค์การระหว่างประเทศ พ.ศ. .... | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการจัดทำสัญญาและการชดใช้ทุนลาศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัยและปฏิบัติงานองค์การระหว่าง ประเทศ พ.ศ. .... ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะ ที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย ฯ) (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎหมาย ฯ)) โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ให้มี ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดทำสัญญาและการชดใช้ทุนลาศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย และปฏิบัติงานองค์การระหว่างประเทศ พ.ศ. .... ประกอบด้วย หมวด 1 การจัดทำสัญญา หมวด 2 การ คำนวณเงินชดใช้ หมวด 3 การผ่อนผันการชดใช้เงินและการนับระยะเวลาชดใช้ หมวด 4 การผ่อนผันการ ชดใช้หนี้แก่ผู้ค้ำประกัน หมวด 5 บทเฉพาะกาล (กำหนดให้ไม่มีผลย้อนหลัง) ใช้บังคับกับผู้รับทุน ข้าราช การ และพนักงานในสังกัดหน่วยงานของรัฐ ยกเว้นข้าราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม พนักงานรัฐวิสาห กิจและพนักงานในสังกัดหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำหนดระเบียบและหลักเกณฑ์ในกรณีนี้ขึ้นใช้บังคับกับ พนักงานได้ โดยให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับหลักปฏิบัติในการจัดทำสัญญา การชดใช้เงินและการ ผ่อนผันการชดใช้เงินกรณีผิดสัญญา ลาศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 16 มติ และนำมากำหนดไว้ในร่างระเบียบนี้เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสะดวกในการปฏิบัติ งานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น ไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4469 | ร่างระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้าง
ลูกจ้างของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้าง ลูกจ้างของส่วนราชการ พ.ศ. 2526 โดยกำหนดให้ส่วนราชการในต่างประเทศกำหนดวันเริ่มจ่ายค่าจ้างเกินกว่า เดือนละครั้งได้ตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หรือขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของ ต่างประเทศที่ส่วนราชการนั้นตั้งอยู่ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4470 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนมีนาคม 2548 | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2548 สรุปได้ดังนี้ ผลการเบิกจ่าย เงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศ โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ /ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 552,295 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.02 ของ วงเงินงบประมาณ (1,200,000 ล้านบาท) จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 460,613 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.07 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (901,865 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน 91,682 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.75 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (298,135 ล้านบาท) สำหรับการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัด สรรรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้าน บาท จำนวน 20 แห่ง วงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนรวม 219,101 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึง สิ้นเดือนมีนาคม 2548 หน่วยงานดังกล่าวมีการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุน 76,705 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 35.01 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน
|
||||||||||||||||||||||||
| 4471 | ขอความเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในการรับประกันความเสี่ยงที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ของสถาบันประกันการลงทุนพหุภาคี | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายมีอำนาจลงนามในการให้ความเห็นชอบการรับประกันความเสี่ยง ที่ไม่เกี่ยวข้องในเชิงพาณิชย์ของสถาบันประกันการลงทุนแบบพหุภาคี (Multilateral Investment Guarantee Agency : MIGA) ในนามของรัฐบาลไทย
|
||||||||||||||||||||||||
| 4472 | รายงานสถานะหนี้สาธารณะของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับสถานะหนี้สาธารณะ โดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะ รวมจำนวน 3,105,262 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 1,790,303 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 934,537 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 380,695 ล้านบาท โดยมีต้นทุนเฉลี่ยร้อยละ 4.24 และมีอายุเงิน กู้เฉลี่ย 6.41 ปี ส่วนหนี้สาธารณะตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ณ สิ้นเดือนกุมภา พันธ์ 2548 มีจำนวน 3,196,973 ล้านบาท สำหรับหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินและสถาบันการเงิน เฉพาะกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 มีจำนวน 91,711 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ ในประเทศ 63,783 ล้านบาท และหนี้ต่างประเทศ 27,928 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีหนี้อื่น ๆ ได้แก่ หนี้ของรัฐ วิสาหกิจและสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่กระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำประกันรวม 755,498 ล้านบาท เมื่อหักยอดหนี้ ของบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้เข้าไปรับภาระอาวัลจำนวน 338,656 ล้านบาทแล้ว จะมียอดหนี้คงค้างสุทธิ 416,842 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
| 4473 | ขอความเห็นชอบในการซื้อหุ้นบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการซื้อหุ้นบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัล
ไทยจำกัด (มหาชน) (TPI) โดยให้กระทรวงการคลังซื้อหุ้น TPI ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ตาม ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ พ.ศ. 2535 ข้อ 5 (3) หุ้นนิติ บุคคลที่รัฐบาลมีนโยบายให้ร่วมลงทุน ทั้งนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าวให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณากำหนด จำนวนหุ้นและวงเงินที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์ในการรองรับแผนฟื้นฟูกิจการ TPI ต่อไป และให้ดำเนินการ ต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4474 | การจัดทำข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางศุลกากรระหว่างศุลกากรไทยและศุลกากรนิวซีแลนด์ | กค | 17/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการจัดทำข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทาง
ศุลกากรระหว่างศุลกากรไทยและศุลกากรนิวซีแลนด์ โดยสาระสำคัญของการจัดทำข้อตกลง ฯ ทั้งสองฝ่ายจะ ช่วยเหลือในการตรวจจับ สืบสวน และป้องกันการกระทำผิดทางศุลกากร รวมทั้งการเคลื่อนย้ายบุคคลอย่าง ผิดกฎหมาย รักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่าง สองประเทศ ให้ความร่วมมือในการวิจัย พัฒนา ทดสอบ และประเมินผลพิธีการศุลกากรแบบใหม่ และร่วมมือ ในการฝึกอบรม โดยแลกเปลี่ยนบุคลากรและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ตลอดจนให้ความสนับสนุน มากที่สุดในการดำเนินงานขององค์กรระหว่างประเทศโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อทำให้ พิธีการศุลกากรเรียบง่ายและสอดคล้องกัน ทั้งนี้ ให้อธิบดีกรมศุลกากรเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย
|
||||||||||||||||||||||||
| 4475 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 | กค | 10/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและ
ขาดทุน ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 โดยงบ ดุล บัญชีกำไรและขาดทุนในปี พ.ศ. 2547 บบส. มีสินทรัพย์รวม 24,674.22 ล้านบาท หนี้สินรวม 7,205.58 ล้านบาท รายได้รวม 5,746.28 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวม 859.9 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2547 บบส. มี กำไรจากการดำเนินงานรวม 208.38 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานของ บบส. ในปี พ.ศ. 2547 ด้าน การบริหารและจัดการสินทรัพย์ ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมดที่ประมูลมาจาก ปรส. จำนวน 2,209 ราย มูลค่า 197,048 ล้านบาท และได้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการประนอมหนี้พิจารณาเรื่องทั้งหมดแล้ว ด้านการ จำหน่ายทรัพย์สิน บบส. มียอดอนุมัติการจำหน่ายทรัพยสินทั้งสิ้น 2,420 ล้านบาท ลดลง 2,399 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บบส. มียอดเงินรับสะสมจากโครงการ Consortium จำนวน 199 ล้านบาท ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การประกอบธุรกิจรับซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินต่าง ๆ มา บริหารจัดการต่อนั้น กระทรวงการคลังต้องกำกับให้ บบส. ดำเนินการด้วยความรอบคอบเหมาะสม และเท่าที่ จำเป็นมิให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ หรือดำเนินการโดยมิชอบที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสถาบัน การเงินโดยรวม
|
||||||||||||||||||||||||
| 4476 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2548 | กค | 10/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)
ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจเสนอมติคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) ครั้งที่ 1/ 2548 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2548 ที่มีมติเห็นชอบการแปลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นทุนเรือนหุ้น และจัดตั้งบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) (บมจ. กฟผ.) โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นจำนวน 6,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น และรายละเอียดเกี่ยวกับการ จัดตั้งบริษัทตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 รวมทั้งประเด็นต่าง ๆ ตามที่คณะ กรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัท ของ กฟผ. เสนอ และเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิและประโยชน์ของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) พ.ศ. .... ที่ออกตามความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติ ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 โดยในการจัดสรรผลประโยชน์ให้แก่พนักงาน และผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. ให้ พนักงานที่เข้าโครงการออกจากงานด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย (Mutual Separation Program) ได้รับการจัดสรร หุ้นภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกันด้วย และให้กรมธนารักษ์และ บมจ. กฟผ. สามารถแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจตาม ที่ กนท. และคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจของกรมธนารักษ์ในการลงนามในบันทึกความ เข้าใจดังกล่าว ตามที่กำหนดในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำกับดูแลด้านนโยบายของ บมจ. กฟผ. และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดย ให้ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาทั้งสองฉบับดังกล่าว ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 4477 | รายงานผลการดำเนินงานของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยในไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2547 | กค | 03/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของบรรษัทบริหารสิน
ทรัพย์ไทย ในไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2547 โดยผลการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพสุทธิ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547 มีจำนวน 16,472 ราย มูลค่าทางบัญชี 779,528 ล้านบาท ส่วนการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณ ภาพ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2547 มีจำนวน 6,021 ราย มูลค่าทางบัญชีประมาณ 744,064 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 ประมาณ 208,433 ล้านบาท รวมทั้งอัตราที่คาดว่าจะได้ชำระ คืนจากแผนการชำระของลูกหนี้ที่ได้ปรับโครงสร้างหนี้หรือฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลายกลางประมาณร้อยละ 47.60 ของมูลค่าทางบัญชี
|
||||||||||||||||||||||||
| 4478 | รายงานผลการตรวจสอบรายงานการรับ - จ่ายเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรและเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญึ่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 | กค | 03/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการตรวจสอบรายงานการรับ-จ่ายเงิน
ของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรและเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตาม โครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ที่สำนัก งานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว และเห็นชอบให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทราบต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การบริหารกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรและเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับ อุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือ เพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาล ญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการติดตามเร่งรัดหนี้เงินกู้ยืมและเงินค้างนำส่งคืนตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนกระทรวงการคลังรับผิดชอบด้านการจัดทำบัญชี และประกาศรายงานการรับ จ่ายเงิน ตลอดจนนำผลการ ตรวจสอบเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาทราบ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปอย่างมีระบบ มี ประสิทธิภาพ มีหน่วยงานรับผิดชอบในภารกิจต่าง ๆ อย่างชัดเจน และมีการประสานงานที่ดี จึงมอบให้สำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวง การคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้หารือรองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ด้วย เพื่อ กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการกองทุนให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดทำบัญชี การติดตาม เร่งรัดหนี้สินของกองทุน เป็นต้น แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 4479 | การติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ | กค | 03/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการติดตาม
เร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548) ดังนี้ (1) งบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 (เพิ่มเติม) รายการงบกลาง ค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้าง ศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้านบาท) ได้รับอนุมัติให้ขยายเวลาเบิก จ่ายเงินงบประมาณจนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรายงานสถานภาพการ ดำเนินการของโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณตามแบบรายงานที่กรมบัญชีกลางกำหนด (2) งบประมาณ รายจ่ายลงทุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ในส่วนของงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักย ภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (23,400 ล้านบาท) ซึ่งยังไม่มีการเบิกจ่าย แต่เนื่องจาก คณะรัฐมนตรีได้มีมติผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกพันหลังไตรมาสที่ 2 ได้จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2548 ให้รายงาน สถานภาพการดำเนินการของโครงการตามแบบรายงานที่กรมบัญชีกลางกำหนด ส่วนงบประมาณรายจ่าย ลงทุนของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 298,135 ล้านบาท กรมบัญชีกลางได้รับรายงานจากส่วน ราชการและรัฐวิสาหกิจจำนวนเพียง 145,519 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60.31 ของวงเงินงบประมาณราย จ่ายลงทุนที่ต้องมีการก่อหนี้ผูกพัน (241,300 ล้านบาท) โดยส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถก่อหนี้ผูก พันได้แล้วร้อยละ 54.71 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนที่ได้รับรายงานและยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ร้อย ละ 45.29 แต่เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกพันหลังไตรมาสที่ 2 ได้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ให้รายงานสถานภาพการดำเนินการตามแบบรายงานที่กรมบัญชีกลางกำหนด โดยให้ส่งรายงานดัง กล่าวให้กรมบัญชีกลางภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2548 หากไม่ส่งภายในระยะเวลาดังกล่าว กรมบัญชี กลางจะแจ้งสำนักงบประมาณให้ดำเนินการตามมาตรการงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการและรัฐ วิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 4480 | สรุปปัญหาภัยแล้งและการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ | กค | 26/04/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงการคลัง (นายไชยยศ สะสมทรัพย์) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ สรุปได้ดังนี้ จังหวัดเพชรบุรี มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 8 อำเภอ 60 ตำบล 437 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 37,846 ครัวเรือน จำนวน 137,621 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายรวม 45,274 ไร่ มูลค่าความเสีย หาย 12,167,409 บาท ซึ่งทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคโดยใช้รถยนต์บรรทุก น้ำแจกจ่ายน้ำให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยแล้ง ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 7 อำเภอ 1 กิ่ง อำเภอ 27 ตำบล 147 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 18,439 ครัวเรือน จำนวน 66,88 6 คน ซึ่งทางจังหวัดได้ให้ ความช่วยเหลือการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคโดยใช้รถยนต์บรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยแล้ง ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายไชยยศ สะสมทรัพย์) ได้ให้ข้อเสนอแนะกับทางจังหวัดเพื่อ แก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยให้จังหวัดเตรียมจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งไว้ล่วงหน้าให้กำหนดเป็น ระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาวเพื่อจะได้นำเสนอพิจารณาจัดสรรงบประมาณต่อไป รวมทั้งจัดทำแผน แม่บทบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการจัดสรรน้ำต้นทุนให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขาดแคลนน้ำ ในพื้นที่ต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
.....
