ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 185 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 3681 - 3700 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3681 | การแต่งตั้งประธานและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 ราย) (1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณีฯ) | กค | 19/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการ
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย จำนวน 5 คน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 พฤศจิกายน 2551) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประะธานกรรมการ 2. นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช กรรมการ 3. นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท กรรมการ 4. นายจีรศักดิ์ พงษ์พิษณุพิจิตร์ กรรมการ 5. นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
| 3682 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. .... | กค | 19/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากในอัตรา ร้อยละ 0.4 ต่อปี เพื่อให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากมีเงินกองทุนคุ้มครองเงินฝากในระดับที่เพียงพอต่อการจ่ายคืนผู้ฝาก เงินในกรณีที่สถาบันการเงินถูกสั่งปิดกิจการหรือถูกเพิกถอนในอนุญาตภายในระยะที่เหมาะสม และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3683 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551 และการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550 | กค | 19/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรให้แก่กอง ทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 5,227.48 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสมทบชดเชยส่วนต่างราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและ ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2551 (เรื่อง การกำหนดราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้น ต้น ฤดูการผลิตปี 2550/2551 และการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำ ตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2549/2550) 2. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2551 ของกระทรวง การคลังเกี่ยวกับการจัดหาเงินกู้ให้กองทุน ฯ และการอนุโลมให้โรงงานชำระภาษีเงินได้ในส่วนของเครดิตโรงงาน เมื่อได้รับเงินคืนจากกองทุน ฯ 3. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสถานะของ กองทุน ฯ และพิจารณาแนวทางในการปรับปรุงพัฒนากองทุน ฯ ให้มีศักภาพในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขภาระหนี้ ของกองทุน ฯ รวมทั้งพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการปรับปรุงระบบแบ่งปันผลประโยชน์ของอุตสาหกรรม อ้อยและน้ำตาลทรายให้มีประสิทธิภาพเกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการและเกษตรกรมากยิ่งขึ้น เช่น ความ เป็นไปได้ในการจัดเก็บรายได้เพื่อนำเข้ากองทุน ฯ จากน้ำตาลทรายที่ส่งออกไปขายยังต่างประเทศ การแบ่งปัน ผลประโยชน์จากเอทานอลซึ่งใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในการผลิตและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่น ๆ เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
| 3684 | การออกสลากบำรุงการกุศลงวดพิเศษ เพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อเด็กกำพร้าในความดูแลของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย | กค | 19/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการการผ่อนผันการถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2541 เรื่อง การ ออกสลากบำรุงการกุศลงวดพิเศษ (โครงการทุนเล่าเรียนหลวงกาญจนาภิเษก) เป็นกรณีพิเศษ โดยให้ออกสลาก บำรุงการกุศลงวดพิเศษเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อเด็กกำพร้าในความดูแลของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย 2. สำหรับอัตราภาษีที่ต้องเสีย ให้ได้รับการลดหย่อนตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2543) ออก ตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามความเห็นของกระทรวง มหาดไทย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3685 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ พ.ศ. 2496 | กค | 19/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังรับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการอันพึงเป็นงาน
ธนาคารของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตาม ความในพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ พ.ศ. 2496 ไปพิจารณาทบทวนต่อไป ตามที่เลขาธิการคณะ รัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 3686 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 19/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวิชาญ อมโรจนาวงศ์ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย
และนายอนุศรณ์ ธรรมใจ เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตรตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ส่วนกรณีนายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ เนื่องจากคณะกรรมการ กฤษฎีกายังไม่ได้วินิจฉัยว่าบุคคลที่เป็นกรรมการอยู่ก่อนที่จะได้รับประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อกรรมการ รัฐวิสาหกิจถือว่าเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งจากบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจด้วยตามประกาศกระทรวง การคลังหรือไม่สมควรให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาให้ได้ข้อยุติในข้อกฎหมายดังกล่าวก่อน
|
||||||||||||||||||||||||
| 3687 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 50 ปี สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและ สีทอง) ชนิดราคาสิบบาท ประเภทธรรมดา จำนวนผลิตไม่เกิน 3,000,000 เหรียญ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3688 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ให้แก่ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญให้ผู้ รับเบี้ยหวัดบำนาญที่ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญรวมกันทุกประเภท ซึ่งรวมกับ ช.ค.บ. แล้วต่ำกว่าเดือนละ 6,000 บาท ได้ รับ ค.ช.บ. เพิ่มอีกในอัตราเดือนละเท่ากับส่วนต่างของจำนวนเงิน 6,000 บาท หักด้วยจำนวนรวมของเบี้ยหวัดหรือ บำนาญทุกประเภทรวมกับ ช.ค.บ. ที่ได้รับอยู่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
| 3689 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการยกเว้นภาษีได้จากบำเหน็จดำรงชีพของสภากาชาดไทย) | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้เงินได้ที่มีลักษณะเดียวกับบำเหน็จดำรงชีพตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และ กฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการซึ่งเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทยได้รับเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้ รับการยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3690 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 50 ปี สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและ สีทอง) ชนิดราคาสิบบาท ประเภทธรรมดา จำนวนผลิตไม่เกิน 3,000,000 เหรียญ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
| 3691 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุในท้องที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้
เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะที่ราชพัสดุใน ท้องที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
|
||||||||||||||||||||||||
| 3692 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และที่สำนักงบประมาณมีความเห็นเพิ่มเติม และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของ รัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป 2. การแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายโอฬาร ไชยประวัติ) เป็นประธานกรรมการ |
||||||||||||||||||||||||
| 3693 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2551 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสถานการณ์เบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี พ.ศ. 2551 โดยภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุน รัฐวิสาหกิจ จำนวน 46 แห่ง สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (เดือนตุลาคม 2550-มิถุนายน 2551) จำนวน 132,214.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก เดือนพฤษภาคม 2551 ที่เบิกจ่ายสะสมได้จำนวน 116,044.39 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่าย สะสมที่กำหนดไว้ ส่วนสถานะการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ จำนวน 15 แห่ง ซึ่งมีวงเงินงบ ลงทุนรวมกันทั้งสิ้น 317,403.27 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 126,737.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2551 ที่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมได้ จำนวน 111,356.63 ล้านบาท แต่ ต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายสะสมที่กำหนด โดยรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ที่เบิก จ่ายต่ำกว่าแผน คือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศ ยานไทย จำกัด (มหาชน) และการเคหะแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในสังกัด เร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2. ให้รัฐวิสาหกิจจัดทำรายงานสถานการณ์เบิกจ่ายทุกสิ้นเดือนเสนอต่อรัฐมนตรีที่กำกับดูแล และ ให้ส่งสำเนารายงานดังกล่าวให้กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติทราบเพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3694 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2547 ให้ครอบคลุมถึงการให้ความช่วย เหลือเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรกรณีข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติ งานในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจากการขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ให้ ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินช่วยเหลือข้าราชการลูก จ้างและพนักงานของรัฐ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน ต่อไป 3. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของ บุตรของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 ขยายสิทธิการให้การช่วยเหลือเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรแก่ข้าราชการและลูก จ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงาน จากเดิมในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นในเขต พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาในพื้นที่อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย 1.2 กำหนดอำนาจการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และการอนุมัติการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการ ศึกษาของบุตร ในกรณีส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางให้เป็นอำนาจของหนัวหน้าส่วนราชการระดับ กรม หรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการมอบหมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่วไประดับชำนาญ งาน 1.3 กำหนดให้ส่วนราชการผู้เบิกจัดทำคำขอเบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรจากเงินประมาณ รายจ่ายงบดำเนินงาน รายการค่าตอบแทนของส่วนราชการในระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วย ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) 4. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรพิจารณาอ้างข้อกฎ หมายในบทอาศัยอำนาจของร่างระเบียบ ฯ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และมีความเหมาะสมในชั้นการตรวจพิจารณา ร่างระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และเนื่องจาก รางระเบียบฉบับนี้มิได้กำหนดให้ยกเลิกระเบียบฉบับเดิม อาจจะทำให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนและยากต่อการ ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สมควรกำหนดให้ยกเลิกระเบียบฉบับเดิม เพื่อให้สอดรับกับบทเฉพาะกาลข้อ 11 ของร่างระเบียบฉบับนี้ที่กำหนดให้การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตร ฯลฯ ที่ได้ดำเนินการไป แล้วก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ แต่ยังไม่แล้วเสร็จให้ดำเนินการต่อไปตามระเบียบเดิม อันเป็นการรองรับ สิทธิประโยชน์ของบุคคลที่ได้รับมาโดยผลของระเบียบฉบับเดิมที่ถูกยกเลิกให้คงมีอยู่ต่อไป ไปพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3695 | การขอคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุ รายนายเหลือง ศรีวิไล กับพวกรวม 13 ราย | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง เสนอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุตามหลักฐาน น.ส.3 ก เลขที่ 577 , 749, 1461, 1463, 3153, 3154, 3155 (โฉนดเลขที่ 3945) 3156, 3157, 3182, 3183, 3184 และ 3185 ตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ คืนให้แก่ผู้ยกให้หรือ ผู้จัดการมรดกของผู้ยกให้ (นายเหลือง ศรีวิไล กับพวกรวม 13 ราย) 2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การบริจาคที่ดินของเอกชนเพื่อใช้ประโยชน์ทางราชการ นั้น การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวแก่ราชการ จะไม่มีภาระค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ประการใด แต่เมื่อทางราชการมิได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ตามวัตถุประสงค์ของการบริจาค และผู้ยกให้หรือผู้จัดการมรดกของผู้ยกให้ขอคืนที่ดินนั้น ตามหลักเกณฑ์ของกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่มิใช่ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยเฉพาะ พ.ศ. 2550 ปรากฏว่าผู้ยกให้หรือผู้จัดการมรดกของผู้ยกให้ต้องเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมการโอนและรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ ตลอดจนค่าอากรแสตมป์ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดทั้งหมด จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อ สังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เกิด ความเป็นธรรมแก่ผู้ยกให้หรือผู้จัดการมรดกของผู้ยกให้ในกรณีข้างต้นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3696 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 11/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ให้แก่ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญให้ผู้ รับเบี้ยหวัดบำนาญที่ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญรวมกันทุกประเภท ซึ่งรวมกับ ช.ค.บ. แล้วต่ำกว่าเดือนละ 6,000 บาท ได้ รับ ค.ช.บ. เพิ่มอีกในอัตราเดือนละเท่ากับส่วนต่างของจำนวนเงิน 6,000 บาท หักด้วยจำนวนรวมของเบี้ยหวัดหรือ บำนาญทุกประเภทรวมกับ ช.ค.บ. ที่ได้รับอยู่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3697 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับ
ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข ภาพเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3698 | การขอคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุ รายนายเริ่ม สวนจันทร์ | กค | 04/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุตามหนังสือรับรอง
การทำประโยชน์เลขที่ 2535 ตำบลฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช คืนให้กับนายเริ่ม สวนจันทร์ ผู้ยกให้ เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2550 ข้อ 11 ข้อ 14 และข้อ 16 โดยนายเริ่ม สงวนจันทร์ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนและรับโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินราชพัสดุ ตลอดจนค่าอากรแสตมป์ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้ รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่กฎหมาย กำหนดแทนกระทรวงการคลังทั้งสิ้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 3699 | การปรับปรุงโครงสร้างองค์การสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม | กค | 04/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป ดังนี้ 1.1 ร่างพระราชบัญญัติบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมสามารถควบกิจการกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมแห่งประเทศไทยได้ 1.2 ร่างพระราชบัญญัติธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยสามารถควบหรือรับ โอนกิจการจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมได้ 2. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีการควบรวมและโอนกิจการระหว่าง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยและบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เมื่อมีการควบรวมกันแล้ว จะต้องดำรงพันธกิจทั้งด้านการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อให้ยังคงอยู่ และมีความ สำคัญควบคู่กันไป และเนื่องจากการควบรวมต้องใช้เวลา ในระหว่างนี้ควรต้องดำเนินการมิให้พันธกิจการค้ำประกัน สินเชื่อที่บรรษัทประกันสินเชื่อ ฯ ดำเนินการอยู่ และมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจต้องถูกละเลย หรือลดบทบาท และความสำคัญลงไป ไปพิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3700 | การจัดหาเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการเกษตร | กค | 04/11/2551 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินการจัดหาเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการ เกษตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1. การกู้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะต้องได้รับการบรรจุในแผน การบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย และกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการปรับปรุงแผนฯ ดังกล่าว ก่อนจึงจะดำเนินการได้ 2. ในการดำเนินงานตามข้อ 1. ให้ ธ.ก.ส. กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารที่ เข้าร่วมโครงการในวงเงินไม่เกิน 110,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย และ รัฐบาลรับภาระต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริงให้ใช้วงเงินดังกล่าวสำหรับโครง การรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 โครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2551/52 และโครงการให้สิทธิ ขายข้าวเปลือกล่วงหน้าแก่เกษตรกรด้วย 3. ในการดำเนินงานตามข้อ 2. ธ.ก.ส. จะต้องมีแผนการทั้งในส่วนของการรับจำนำ จัดทำกระแสเงินสด จากการดำเนินงาน และให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายผลิตผลเพื่อปิดบัญชีโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี หลัง จากสิ้นสุดระยะเวลารับจำนำ โดยมีกระทรวงการคลังเข้าร่วมพิจารณา และเมื่อปิดบัญชีแล้วมีผลขาดทุนเกิดขึ้นจาก การดำเนินงานโครงการดังกล่าว ให้รัฐบาลรับภาระโดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อชดใช้ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวในสต็อกเก่าออกและชำระเงินให้แก่ ธ.ก.ส. ด้วย 4. ให้ ธ.ก.ส. ดำเนินงานตามโครงการ ในลักษณะธุรกรรมตามนโยบายพิเศษของรัฐ (Public Service Obligation : PSO) โดยแยกบัญชีงบการเงินออกจากการดำเนินงานปกติของ ธ.ก.ส. และให้ผลการดำเนินโครงการ ไม่นับรวมเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ใช้ในการคำนวณสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ตามที่ได้กำหนดในกฎ กระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 5. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้ เงินและการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นจากสถาบันการเงิน จำนวน 4 แห่ง ประกอบ ด้วย ธนาคารกรุงไทย ฯ ธนาคารออมสิน ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำหนด ร่วมเป็นอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร และให้กระทรวงพาณิชย์รับไปดำเนินการโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
