ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 189 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 3761 - 3780 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3761 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อ Refinance เงินกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น | กค | 15/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรเงินเยน
ชนิดจำหน่ายทั่วไปในตลาดทุนญี่ปุ่น (Samurai Bond) วงเงินรวม 55,000 ล้านเยน 3 รุ่น ระยะไถ่ถอน 3 5 และ 7 ปี เพื่อนำเงินที่ได้ไป Refinance เงินกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) โดยกระทรงการ คลังได้เจรจากำหนดราคาและอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร รวมทั้งลงนามในความตกลงว่าด้วยการจัดจำหน่ายพันธบัตร (Subscription Agreement) กับ Daiwa Securities SMBC CO., Ltd. ในฐานะหัวหน้าคณะผู้จัดการจัดจำหน่ายพันธ บัตร และลงนามในความตกลงว่าด้วยการเป็นตัวแทนรับจ่ายเงิน (Fiscal Agency Agreement) กับ Sumitomo Mitsui Banking Corporation ในฐานะตัวแทนรับจ่ายเงิน (Fiscal Agent) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 กระทรวงการคลังได้รับเงินสุทธิจากการออกพันธบัตรเงินเยนเป็นจำนวนรวม 54,865,757,115 เยน และได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระคืนเงินกู้ Euro Commercial Paper ซึ่งใช้เป็น Bridge Financing ในการ Refinance เงินกู้ JBIC ทั้งนี้ การกู้เงินโดยการออกพันธบัตรเงินเยนรายนี้ มีต้นทุนการกู้เงินในรูปอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (All-in-Cost) เท่ากับร้อยละ 1.14 1.32 และ 1.49 ต่อปี สำหรับพันธบัตรอายุ 3 5 และ 7 ปี (ตามลำดับ) ซึ่งเป็น อัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับเงินกู้ JBIC เดิมที่มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ต่อปี ดังนั้น การทำ Refinance เงินกู้โดยการ ออกพันธบัตรเงินเยนดังกล่าว ทำให้สามารถประหยัดภาระดอกเบี้ยเป็นเงินประมาณ 1,548.74 ล้านบาท สำหรับ ระยะเงินกู้คงเหลือเฉลี่ย 6.38 ปี
|
|||||||||||||||||||||
| 3762 | แต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล) | กค | 15/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุ
บาล เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ รัฐมนตรีมีมติ (15 กรกฎาคม 2551) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3763 | การแจ้งการมีผลบังคับใช้ของพิธีสารเพื่อให้ข้อเสนอผูกพันการเปิดเสรีด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียนในการเจรจารอบที่ 4 มีผลบังคับใช้ | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการมีผลบังคับใช้ของพิธีสารเพื่อให้ข้อเสนอผูกพัน
การเปิดเสรีด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียนในการเจรจารอบที่ 4 มีผลบังคับ ใช้ (Protocol to Implement the Forth Package of Commitments on Financial Services under the ASEAN Frame work Agreement on Services) โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือแจ้งการมีผลบังคับใช้ของพิธีสาร ฯ ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนต่อไป และให้กระทรวงการคลังประสานการดำเนินการกับกระทรวงการต่างประเทศต่อ ไป |
|||||||||||||||||||||
| 3764 | การอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของสถาบันการเงิน
เฉพาะกิจ 3 แห่ง ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พิจารณาขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือสนับ สนุนทางการเงิน จากเดิมกำหนดชำระคืนในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 เป็นกำหนดชำระคืนในวันที่ 31 ธันวา คม 2553 เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมทั้งสิ้นจำนวน 3,128 ล้านบาท ดังนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ในวงเงิน 1,058 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงิน 1,800 ล้านบาท และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ในวงเงิน 270 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
| 3765 | การจำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ของกระทรวงการคลังในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสุรพงษ์
สืบวงศ์ลี) เสนอขอถอนเรื่อง การจำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ของ กระทรวงการคลังในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คืนไปได้ |
|||||||||||||||||||||
| 3766 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกา
ยน 2549 (เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล) เฉพาะข้อ 4 ความว่า "โดยที่รัฐบาลมีนโยบาย ที่จะให้ประชาชนลด ละ เลิกอบายมุขต่าง ๆ จึงให้กระทรวงการคลังรับไปประสานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อ ระงับการดำเนินกิจการใด ๆ ที่จะส่งผลเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้ประชาชนซื้อสลาก เช่น การโฆษณาเกี่ยวกับกิจการ ของสำนักงานและประโยชน์ของการซื้อสลาก และการถ่ายทอดผลการออกสลากทางสถานีโทรทัศน์ เป็นต้น" เพื่อให้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถดำเนินกิจกรรมในการโฆษณา และการประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ถูก ต้อง ชัดเจน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยมิได้เป็นไปเพื่อจูงใจให้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล
|
|||||||||||||||||||||
| 3767 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล งบกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการประจำปี งบดุล งบกำไรและขาดทุน
ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยผล การดำเนินการในปี พ.ศ. 2550 ธสน. มีกำไรสุทธิจำนวน 506 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการดำเนินการในปี พ.ศ. 2549 พบว่า ปี พ.ศ. 2550 ธสน. มีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจำนวน 1,466 ล้านบาท ลดลงจากปี พ.ศ. 2549 จำนวน 173 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.6 เนื่องจากส่วนต่างดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับตัวลดลง
|
|||||||||||||||||||||
| 3768 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (จำนวน 2 ราย นางเบญจา หลุยเจริญ และนายวินัย วิทวัสการเวช) | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นางเบญจา หลุยเจริญ ดำรงตำแหน่งรอง
ปลัดกระทรวง (นักบริหาร 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง และนายวินัย วิทวัสการเวช ดำรง ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วัน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3769 | การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้าง | กค | 08/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนออนุมัติชดเชยเพิ่มเติมค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบ
ปรับราคาได้ (ค่า K) ด้วยการผ่อนผันวิธีการคำนวณค่า K โดยให้หักในอัตราบวก/ลบร้อยละ 2 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2551 เฉพาะสัญญาจ้างที่ได้ดำเนินงานก่อสร้างแล้วเสร็จ และ ส่งมอบงานงวดสุดท้ายแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า มาตรการการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้าง รวม 11 ข้อ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2551 (เรื่อง การ พิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพอื่น) ควรให้รวมถึงสัญญาจ้างขุด ขนวัสดุ สัญญา ซื้อขายงานก่อสร้างและหรือพร้อมติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน และสัญญาต่อเรือ ไปพิจารณาด้วยว่า มติคณะรัฐมนตรีดัง กล่าวครอบคลุมสัญญาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอเพิ่มเติมแล้วหรือไม่ หากยังไม่ครอบคลุมสมควรที่จะ ได้มีมติเพิ่มเติมให้ครอบคลุมด้วยหรือไม่
|
|||||||||||||||||||||
| 3770 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการ
เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้ เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เนื้อที่ประมาณ 122-1-80 ไร่ เพื่อมอบให้กระทรวงการคลังดำเนินการจัดหาประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยที่ ราชพัสดุต่อไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3771 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. .... | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยว
กับการรักษาพยาบาล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลเพื่อให้สอดคล้องกับการ ให้บริการทางการแพทย์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับระบบประกันสุขภาพระบบอื่น ๆ รวมทั้งปรับปรุงระบบการ เบิกจ่ายเงินงบประมาณเป็นค่ารักษาพยาบาล เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เหมาะสมกับสภาพเศรษฐ กิจ และสร้างวินัยทางการเงินการคลัง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความ เห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ให้มีการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การเลือกใช้สิทธิให้เกิดความยืดหยุ่น โดย สามารถเปลี่ยนแปลงการเลือกใช้สิทธิได้ภายในรอบระยะเวลาที่เหมาะสมหรือตามเหตุผลความจำเป็นของผู้มีสิทธิ หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น และควรกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไว้ในร่างพระ ราชกฤษฎีกา ฯ หรือจัดทำเป็นบัญชีแนบท้ายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการตามบทบัญญัติ มาตรา 3 แห่งพระราช บัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2518 ไปประกอบ การพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ส่วนข้อเสนอของกระทรวงการคลังที่ขออนุมัติเป็นหลักการให้กระทรวง การคลังมีอำนาจกำหนด ปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ ประกาศ ที่มีผลบังคับแก่ส่วนราชการ ที่ออกโดยอาศัย อำนาจตามร่างพระราชกฤษฎีกาในเรืองนี้ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมาตรา 4 (6) แห่งพระราช กฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 นั้น โดยที่ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการขอยก เว้นการปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ซึ่งมิได้บัญญัติ ให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจยกเว้นได้ จึงให้กระทรวงการคลังถือปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 3772 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. .... ) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 มีสาระสำคัญคือ ให้สมาชิกกอง ทุนบำเหน็จบำนาญซึ่งออกจากราชการและกลับเข้ารับราชการใหม่โดยมีบัญชีเงินชดเชยอยู่ก่อนออกจากราชการ และมีสิทธินับเวลาราชการสำหรับคำนวณบำเหน็จบำนาญตอนก่อนออกจากราชการต่อเนื่องกับเวลารับราชการ ในตอนหลังมีสิทธิได้รับเงินชดเชยและผลประโยชน์ของเงินชดเชยที่อยู่ในบัญชีก่อนออกจากราชการ ทั้งนี้ ให้มีผล ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3773 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการดูแลผลประโยชน์ พ.ศ. .... | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอรับใบ
อนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการดูแลผลประโยชน์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สถาบัน การเงินที่ประสงค์จะประกอบกิจการดูแลผลประโยชน์ต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาต ณ สำนักงานเศรษฐกิจการ คลัง รวมทั้งกำหนดระยะเวลาการออกใบอนุญาต โดยให้คณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะให้รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังพิจารณาออกใบอนุญาตภายใน 60 วันนับแต่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้รับคำขอพร้อม เอกสารหลักฐานครบถ้วน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3774 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเวลาราชการศุลกากรในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. .... | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดเวลาราชการศุลกา
กรในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดการดำเนินการของระบบคอมพิว เตอร์ของกรมศุลกากรในการยื่นเอกสารต่าง ๆ ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีระยะเวลาตั้งแต่ 00.00-24.00 นาฬิกา โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ และกำหนดเวลาในการดำเนินการพิจารณาเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอ นิกส์โดยระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร ให้ถือว่ากระทำโดยกรมศุลกากร และให้มีระยะเวลาพิจารณา ตั้งแต่ 00.00-24.00 นาฬิกา โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3775 | รายงานเหตุผลการออกระเบียบตามกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่มิใช่ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ พ.ศ. 2550 ล่าช้า | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสาเหตุการออกระเบียบตามกฎกระทรวงว่า
ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่มิใช่ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ ของแผ่นดินโดยเฉพาะ พ.ศ. 2550 ได้แก่ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยวิธีประมูลขายหรือแลกเปลี่ยนที่ราช พัสดุ พ.ศ. 2551 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการใช้บริการของสถาบันที่ปรึกษาทางด้านการประเมิน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2551 ล่าช้า เนื่องจากจะต้องศึกษาและรวบรวมกฎหมายและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งต้องรวบรวมปัญหาอุปสรรคซึ่งเกิดจากการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยวิธีประมูลขายหรือ แลกเปลี่ยนที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2538 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการใช้บริการของสถาบันทางด้านการ ประเมินอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2538 มาประกอบการพิจารณาเพื่อให้ระเบียบที่ต้องออกตามกฎกระทรวง ฯ สอด คล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและเกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
| 3776 | ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2551 | กค | 01/07/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสุรพงษ์
สืบวงศ์ลี) ประธานกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) รายงานผลการประชุม กนร. ครั้งที่ 1/2551 วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 โดยที่ประชุมรับทราบภาพรวมการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ปี พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2550 จำนวน 58 แห่ง ในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลัง และรับทราบผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐ วิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2550 ที่อยู่ในระบบประเมินผล ฯ จำนวน 51 รัฐวิสาหกิจ และ 1 บริษัท ใน 9 สาขา คือ สังคมและเทคโนโลยี พาณิชย์และบริการ เกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน สาธารณูปการ สื่อสารโทร คมนาคม ขนส่ง อุตสาหกรรม และสถาบันการเงิน รวมทั้งรับทราบข้อสังเกตของ ก.พ.ร. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจัด ตั้ง/ร่วมทุนและกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจโดยเห็นควรจัดตั้งหน่วยงานภายในสำนักงาน กนร. ขึ้นเพื่อ ทำหน้าที่กลั่นกรองเรื่องจัดตั้งบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ โดยที่ประชุมได้มีมติให้สำนักงาน กนร. ทำหน้าที่กลั่น กรองเรื่องจัดตั้งบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจตามหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ร่วมทุนและกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐ วิสาหกิจก่อนนำเสนอ กนร. และรับทราบความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงการ คลังกำชับให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ เพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินของรัฐวิสาหกิจที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดและคณะกรรมการของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และการเคหะแห่งชาติ เร่งรัดการดำเนินการจัด ทำแผนฟื้นฟูฐานะทางการเงินให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 และนำเสนอ กนร. เพื่อพิจารณาต่อ ไป และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการของ กนร. เพื่อพิจารณาการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การปรับปรุงโครง สร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และ ขสมก. และนำเสนอ กนร. เพื่อพิจารณาภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งแต่งตั้ง
|
|||||||||||||||||||||
| 3777 | การจัดงานมหกรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย | กค | 24/06/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอการจัดงานมหกรรม
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2551 ส่วนการขออนุมัติงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 21.97 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังส่งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 (เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) ต่อไป สำหรับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ของทาง ราชการ รวมทั้งอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับเงินประจำงวดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายใน การจัดงานได้ในวงเงิน 66.39 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
| 3778 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงการคลัง) | กค | 24/06/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยไม่มีการปรับปรุง จำนวน 4 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ คณะกรรมการพิจารณาการขาย การแลกเปลี่ยน การให้ การจำหน่าย จ่ายโอนหรือจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับอสังหา ริมทรัพย์ของรัฐบาลไทยในต่างประเทศ คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทาง เศรษฐกิจ (SAL) และคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ ปรับปรุงองค์ประกอบ จำนวน 7 คณะ ได้แก่ คณะกรรม การเพื่อพิจารณากำหนดขอบเขตที่ดินกำแพงเมือง-คูเมือง คณะกรรมการกลั่นกรองการจัดเอาประกันภัยทรัพย์สิน ของรัฐ คณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ คณะกรรมการพิจารณากำหนดประเภทและ อัตราค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสา หกิจ คณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษระดับจังหวัด และคณะกรรมการกำกับนโยบาย ราคากลางงานก่อสร้าง และเพิ่มคณะกรรมการ จำนวน 1 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบ ประมาณภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||
| 3779 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การพิจารณาช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการระดับต้น [ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเงินเพิ่ม การครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพราน กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | กค | 17/06/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภา
คม 2551 เรื่อง การพิจารณาช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการระดับต้น เฉพาะในส่วนของเงินเพิ่มการครองชีพชั่ว คราวซึ่งกำหนดอัตราเดือนละ 1,000 บาท ปรับเพิ่มเป็นอัตราเดือนละ 1,500 บาท และให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 ซึ่งเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลัง รวม 3 ฉบับ ที่ดำเนินการให้ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 พฤษภาคม 2551 และเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลัง รวม 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูก จ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลืออาสาสมัครทหารพราน กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลือสมา ชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ..... ที่ปรับปรุงใหม่ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ที่ มีเงินเดือนหรือค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ 11,700 บาท ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 1,500 บาท และเมื่อรวมเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวกับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ 11,700 บาท กรณี เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวรวมกับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนที่ได้รับแล้วไม่ถึงเดือนล ะ 8,200 บาท ให้ได้รับเงิน เพิ่มการครองชีพชั่วคราวอีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้มีรายได้รวมเป็นเดือนละ 8,200 บาท และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3780 | ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (บำเหน็จค้ำประกัน) | กค | 17/06/2551 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้รับบำนาญสามารถนำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ ในการประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังกำหนดได้ และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้รับบำนาญสามารถนำสิทธิในบำเหน็จตก ทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังกำหนดได้ และส่งคณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
.....
