ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 129 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 2561 - 2580 จากข้อมูลทั้งหมด 9647 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2561 | การบริหารโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 25/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ (พ.ร.ก.) สำหรับโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ หลังจากปีงบประมาณ ๒๕๕๕ วงเงินประมาณ ๕๘๖.๕๔๑๙ ล้านบาท ๑.๒ รับทราบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ พ.ร.ก. สำหรับโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง วงเงิน ๑,๓๖๐.๔๐ ล้านบาท จนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จแต่ต้องไม่เกินปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ๑.๓ อนุมัติการใช้เงินเหลือจ่าย วงเงิน ๙๗๙.๒๐ ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และรับทราบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้โครงการดังกล่าวจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จแต่ต้องไม่เกินปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ๑.๔ อนุมัติเปลี่ยนแปลงวงเงินของโครงการพัฒนาระบบบริการระดับทุติยภูมิ ค่าก่อสร้างรายการก่อสร้างอาคารผู้ป่วย ๖๐ เตียง เป็นอาคาร คสล. ๒ ชั้น ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช กระทรวงสาธารณสุข เป็นวงเงิน ๑๗,๙๕๙,๐๔๓ บาท [เงิน พ.ร.ก. ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท+เงินบำรุงสมทบของโรงพยาบาล ๕,๙๕๙,๐๔๓ บาท (เป็นเงินบำรุงสมทบของโรงพยาบาลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ วงเงิน ๓,๔๐๐,๐๐๐ บาท+ขอใช้เงินบำรุงสมทบของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ จำนวน ๒,๕๕๙,๐๔๓ บาท)] และอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการภายในเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ๑.๕ อนุมัติเปลี่ยนแปลงวงเงินของโครงการศูนย์ครูใต้จังหวัดยะลา เป็นวงเงิน ๑๔๙.๗๖๔๑ ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. วงเงิน ๑๔๒.๐๘๑๐ ล้านบาท และใช้เงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สมทบ วงเงิน ๗.๖๘๓๑ ล้านบาท โดยให้ สพฐ. ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ และอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการศูนย์ครูใต้จังหวัดยะลาและจังหวัดนราธิวาส วงเงินรวม ๒๕๔.๗๓๐๗ ล้านบาท ให้สามารถดำเนินโครงการและเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ ๑.๖ อนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่ายภายใต้ พ.ร.ก. ให้แก่ โครงการพัฒนาครูทั้งระบบ ค่าก่อสร้างโรงอาหาร-หอประชุม แบบ ๑๐๑ล/๒๗ พิเศษ ของโรงเรียนมัธยมวานรนิวาส สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน ๑๑,๒๖๙,๙๐๐ บาท และอนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ๑.๗ อนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่าย วงเงิน ๓๓๒,๔๓๙,๕๔๑.๑๙ บาท ประกอบด้วย ๑.๗.๑ เงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) วงเงิน ๓๒๕,๓๒๖,๐๖๓.๙๑ บาท สำหรับกรมทางหลวง วงเงิน ๓๐๗,๖๘๖,๔๐๔.๐๐ บาท กรมทางหลวงชนบท วงเงิน ๒,๖๓๕,๖๒๖.๐๐ บาท มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี วงเงิน ๖๓๐,๕๘๖.๙๘ บาท มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วงเงิน ๒,๐๒๐,๐๘๑.๙๐ บาท สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน ๒,๑๕๗,๔๑๕.๐๐ บาท กรมการแพทย์ วงเงิน ๑,๐๓๘,๙๗๒.๐๐ บาท มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วงเงิน ๑,๑๗๖,๘๖๕.๙๗ บาท กรมการขนส่งทางบก ๗๖๗,๔๘๖.๐๐ บาท และกรมโยธาธิการและผังเมือง วงเงิน ๗,๒๑๒,๖๒๖.๐๖ บาท ๑.๗.๒ การคืนเงินค่าปรับให้แก่ผู้ประกอบการก่อสร้าง วงเงิน ๖๐๙,๗๗๔.๔๐ บาท สำหรับจังหวัดสิงห์บุรี วงเงิน ๓๗๔,๗๗๕.๐๐ บาท และจังหวัดตราด วงเงิน ๒๓๔,๙๙๙.๔๐ บาท ๑.๗.๓ สัญญาที่มีปริมาณงานเพิ่มขึ้น วงเงิน ๖,๕๐๓,๗๐๒.๘๘ บาท สำหรับกรมชลประทาน วงเงิน ๖,๕๐๓,๗๐๒.๘๘ บาท ๑.๘ อนุมัติการลงนามในสัญญาภายหลังเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ โดยให้สัตยาบันการลงนามในสัญญาของวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลกที่ได้ลงนามสัญญาแล้ว และอนุมัติยกเลิกการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยบริการที่ยังไม่มีผลการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน ๖ แห่ง วงเงิน ๕๔.๖๐ ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร) สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลการดำเนินโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ (แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕) ในภาพรวมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน |
||||||||||||||||||||||||
2562 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 25/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๐๕ โดยน้ำหนัก ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ออกไปอีก ๑ เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2563 | การยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่นำเข้ามาแสดงและจำหน่ายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย | กค | 25/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างประกาศ จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่นำเข้ามาแสดงและจำหน่ายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับตามประเภทย่อย ๗๐๑๘.๑๐.๐๐ และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตอนที่ ๗๑ ในภาค ๒ แห่งพิกัดอัตราศุลกากรท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่นำเข้าคลังสินค้าทัณฑ์บนและเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร หรือเขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แล้วนำออกไปเพื่อแสดงในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่จัดโดยความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย และของนั้นได้จำหน่ายในงานแสดงสินค้าดังกล่าวให้ได้รับการยกเว้นอากร โดยผู้นำของเข้ามาแสดงและจำหน่ายดังกล่าวต้องปฏิบัติตามระเบียบและพิธีการที่กรมศุลกากรกำหนด ๑.๒ ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดให้ของได้รับยกเว้นจากบทบังคับตามความในมาตรา ๑๐ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับตามประเภทย่อย ๗๐๑๘.๑๐.๐๐ และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตอนที่ ๗๑ ในภาค ๒ แห่งพิกัดอัตราศุลกากรท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ได้รับการยกเว้นอากรเนื่องจากนำเข้ามาพร้อมกับตนหรือนำเข้ามาเป็นการชั่วคราวตามภาค ๔ ประเภทที่ ๓ (ฉ) แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ และได้จำหน่ายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่จัดโดยความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย และของนั้นได้จำหน่ายในงานแสดงสินค้าดังกล่าวให้ได้รับยกเว้นจากบทบังคับตามความในมาตรา ๑๐ พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ ทั้งนี้ ต้องนำเข้าโดยผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า และนำเข้าได้เฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการประเมินผลความคุ้มค่าและผลกระทบจากการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าวในช่วงปีแรก เพื่อพิจารณาปรับปรุงมาตรการให้เอื้อต่ออุตสาหกรรมและสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2564 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (จำนวน 3 คน 1. นายกฤษดา มาลีวงศ์ ฯลฯ) | กค | 25/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์แทนกรรมการอื่นที่ขอลาออก จำนวน ๒ คน และเป็นกรรมการอื่นเพิ่มเติมอีก จำนวน ๑ คน เพื่อให้คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ครบจำนวนตามกฎหมายกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายกฤษดา มาลีวงศ์ กรรมการอื่น แทนนายบรรพต ตั้งศัตยาภิรมย์ ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมบัติ อยู่เมือง กรรมการอื่น แทนนายศุภสิทธิ์ ศิริศักดิ์ ๓. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง กรรมการอื่นเพิ่มเติม ทั้งนี้ นายกฤษดา มาลีวงศ์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์สมบัติ อยู่เมือง ให้มีผลตั้งแต่วันที่ผู้ซึ่งตนแทนลาออก คือวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เป็นต้น โดยให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน สำหรับนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ (๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖) เป็นต้นไป โดยมีวาระเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งไว้แล้ว เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
2565 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสุทธิชัย สังขมณี และนายราฆพ ศรีศุภอรรถ) | กค | 25/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายสุทธิชัย สังขมณี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
2566 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในการป้องกันภัยธรรมชาติ) | กค | 18/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สาระสำคัญคือกำหนดยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงินอุดหนุนหรือเงินอื่นอันมีลักษณะทำนองเดียวกันที่ได้รับจากรัฐบาล ซึ่งจ่ายตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้นำไปลงทุนในการป้องกันอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับการยกเว้นภาษี เป็นต้น รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประสานความร่วมมือในการวางแผน เตรียมการ จัดทำแนวปฏิบัติและข้อตกลงร่วมกันเพื่อส่งเสริมและเตรียมความพร้อมให้ชุมชนหรือส่วนราชการได้ใช้ประโยชน์จากการลงทุนในการป้องกันภัยธรรมชาติดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2567 | ขออนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด | กค | 18/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๑๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่เห็นชอบการอนุมัติปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด ในการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เงินยืมในส่วนของเงินต้นคงค้าง จำนวน ๑,๓๖๙ ล้านบาท ออกไปอีก ๑๕ ปี (จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๙) โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ร้อยละ ๓.๗๘ ต่อปี ซึ่งเท่ากับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ ๑๕ ปี ณ ปัจจุบัน และให้บริษัทฯ เริ่มชำระคืนเงินต้นเมื่อมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย (EBITDA : Earning Before Interest Taxes Depreciation and Amortization) และมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินกิจการเพื่อให้บริษัทฯ สามารถชำระหนี้เงินยืมในส่วนของเงินต้นคงค้างได้ทั้งหมดต่อไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เรียกประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพื่อบริหารจัดการเกี่ยวกับการชำระหนี้ของบริษัทฯ รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วย ๒. สำหรับการคิดเบี้ยปรับการผิดนัดชำระหนี้เงินต้นค้างชำระให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐพิจารณาเลือกใช้บริการทดสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าและบริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ เป็นลำดับแรก เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ให้มีสภาพคล่องและเพียงพอต่อการชำระหนี้ได้ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
2568 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง) | กค | 10/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งได้รับผลกระทบหรือความเสียหายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นไป หรือสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ ได้แก่ เงินช่วยเหลือเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๕ และ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๘ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ได้รับจากรัฐ และเงินช่วยเหลือเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมซึ่งผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับจากรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ไปพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณากรณีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามนโยบายของรัฐบาล โดยควรเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาไปพร้อมกับมาตรการยกเว้นภาษีในเรื่องนั้น ๆ ในคราวเดียวกัน |
||||||||||||||||||||||||
2569 | การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุคืนให้แก่ผู้ยกให้ ราย นายสมพร เชาวรินทร์ | กค | 10/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สบ.๕๖๗ โฉนดเลขที่ ๒๑๐๑๖, ๒๐๖๑๗, ๒๒๕๑๖-๒๒๕๑๘, ๒๒๕๒๔-๒๒๕๒๖ และ ๒๒๕๓๑-๒๒๕๓๓ อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี รวม ๑๑ ฉบับ เนื้อที่ประมาณ ๓-๓-๑๔ ไร่ คืนให้แก่นายสมพร เชาวรินทร์ เนื่องจากกรมที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี สาขาพระพุทธบาท ตามวัตถุประสงค์ของผู้ยกให้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
2570 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 13 มีนาคม 2556 | กค | 10/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ จำนวน ๖ รุ่น วงเงินรวม ๙๙,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ (Pre-funding) วงเงินรวม ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ และพันธบัตรรัฐบาลประเภทดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการกู้เงินล่วงหน้าได้นำส่งเข้ากองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อนำไปบริหารให้เกิดผลตอบแทน และนำส่งเงินต้นและผลตอบแทนคืนให้แก่กระทรวงการคลังในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ เพื่อนำไปชำระคืนต้นเงินกู้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอน ประกอบด้วย ๑.๑ ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ รุ่นอายุ ๑๘๒ วัน วงเงินรวม ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีการประมูลทั้งสิ้น ๒ งวด ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ และมีส่วนลดจากการประมูล จำนวนรวม ๒๗๐,๙๑๘,๑๐๔.๙๖ บาท ๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ (ILB283A) อายุ ๑๕ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี จำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท จำหน่ายในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ ๒. การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ณ วันที่พันธบัตรรัฐบาลครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน ๓๙,๐๐๐ บาท โดยกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๒๔,๐๐๐ ล้านบาท อายุเงินกู้ไม่เกิน ๒ เดือน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ ๒.๘๓ ต่อปี และนำเงินกู้ระยะสั้น จำนวน ๓๙,๐๐๐ ล้านบาท มาสมทบกับเงินกู้ล่วงหน้า จำนวน ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท และนำไปชำระคืนต้นเงินกู้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ ๓. การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ จำนวน ๔ รุ่น วงเงินรวม ๓๙,๐๐๐ ล้านบาท และนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรรัฐบาลไปทยอยชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น ประกอบด้วย ๓.๑ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ (LB196A) อายุคงเหลือ ๖.๒๓ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี จำนวน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท ๓.๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ (LB616A) อายุคงเหลือ ๔๘.๒๗ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท ๓.๓ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ (LB326A) อายุคงเหลือ ๑๙.๒๕ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท ๓.๔ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ (LB21DA) อายุคงเหลือ ๘.๖๙ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี จำนวน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
2571 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี 2555 กรณีพิเศษ | กค | 10/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๑๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ ที่เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๕ กรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ใช้อัตราการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองฯ เห็นชอบ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและไม่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ข้าว ๑,๑๑๓ บาทต่อไร่ พืชไร่ ๑,๑๔๘ บาทต่อไร่ พืชสวนและอื่น ๆ ๑,๖๙๐ บาทต่อไร่ สำหรับกรณีพืชสวนและอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทำให้ชะงักการเจริญเติบโตแต่ไม่ตายและยังอยู่ในสภาพฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ให้ช่วยเหลือเฉพาะค่าปุ๋ย ๕๐% ในอัตราไร่ละ ๖๐๕ บาท ส่วนการช่วยเหลือด้านประมงและด้านปศุสัตว์ ให้ใช้อัตราตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
2572 | รายงานความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของทางราชการ | กค | 10/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของทางราชการซึ่งเป็นผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์ แนวทาง และวิธีปฏิบัติในการเปิดเผยราคากลางของทางราชการ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การเปิดเผยราคากลางของทางราชการ ในระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) กรมบัญชีกลางได้มีการพัฒนาระบบ e-GP เพื่อรองรับการเปิดเผยราคากลางที่มิใช่งานก่อสร้าง และได้มีหนังสือแจ้งเวียนแนวทางการเปิดเผยราคากลางของทางราชการในระบบ e-GP ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐให้ถือปฏิบัติ ๑.๒ การกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางยานอกบัญชียาหลักและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ในเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแผนการดำเนินงานโดยจะกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางยาในกลุ่มยาที่มีการใช้สูงมาประกาศใช้ก่อน สำหรับกลุ่มอื่นจะใช้หลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางยาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ไปก่อน สำหรับเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับหลักเกณฑ์กำหนดราคากลางยาในบัญชียาหลักและนอกบัญชียาหลัก ซึ่งคาดว่าสามารถจัดทำหลักเกณฑ์ให้แล้วเสร็จก่อนเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ ๑.๓ การกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้จัดทำแนวทางปฏิบัติ หลักเกณฑ์ และคู่มือการประเมินราคาการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ (Application Software) ดิจิตอลคอนเทนต์ (Digital Content) และสื่อสร้างสรรค์ (Animation) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถนำไปใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างได้ ซึ่งแนวทางและวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานพัฒนาซอฟต์แวร์ ประเภทโปรแกรมประยุกต์ดังกล่าว มีโปรแกรมให้หน่วยงานภาครัฐสามารถกรอกข้อมูลตามแนวทางที่กำหนด สามารถทราบจำนวนเงินที่เป็นราคากลางงานพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ได้ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ก่อนเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ ๑.๔ การกำหนดราคากลางการจ้างที่ปรึกษา สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางในการกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางการจ้างที่ปรึกษา ซึ่งคาดว่าจะเสนอหลักเกณฑ์การกำหนดราคากลางการจ้างที่ปรึกษาต่อคณะรัฐมนตรีได้ภายในวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ๑.๕ การกำหนดราคามาตรฐานครุภัณฑ์ให้ครอบคลุมรายการครุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ สำนักงบประมาณได้ปรับปรุงราคามาตรฐานครุภัณฑ์ให้ครอบคลุมรายการครุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ และปัจจุบันสำนักงบประมาณอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการจัดทำราคามาตรฐานครุภัณฑ์ให้สามารถรายงานผลการจัดซื้อครุภัณฑ์ตามบัญชีราคามาตรฐาน และนอกบัญชีราคามาตรฐานของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดราคามาตรฐานครุภัณฑ์ให้เหมาะสม โปร่งใส เป็นธรรม และใช้ในการจัดทำงบประมาณของสำนักงบประมาณ รวมทั้งเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดราคากลางของหน่วยงานภาครัฐต่อไป ๒. เห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอเพิ่มเติมว่า โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ (เรื่อง ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการต่าง ๆ กรณีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต รวม ๒๙ ฉบับ) โดยเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการต่าง ๆ กรณีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต ซึ่งมีหลักการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตขึ้นในทุกส่วนราชการ จึงสมควรที่ทุกส่วนราชการจะได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตที่จะจัดตั้งขึ้นดังกล่าวไปดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของทางราชการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2573 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี โรงเรียนเพาะช่าง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี กรมทางหลวง พ.ศ. .... | กค | 04/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี โรงเรียนเพาะช่าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี โรงเรียนเพาะช่าง ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ เหรียญ) ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมทางหลวง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมทางหลวง ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ เหรียญ)
|
||||||||||||||||||||||||
2574 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเงินเพื่อบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ | กค | 04/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการบริจาคเงินให้แก่กรมศิลปากรเพื่อการบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา ๔๗ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินได้ที่ได้รับยกเว้นสำหรับการจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ สำหรับการบริจาคให้แก่สถานศึกษา และสำหรับการบริจาคเพื่อสนับสนุนการกีฬาแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนนั้น ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา ๔๗ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร เท่าจำนวนเงินที่บริจาคให้แก่กรมศิลปากรเพื่อการบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา |
||||||||||||||||||||||||
2575 | การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุคืนให้แก่ผู้ยกให้ รายนายวีระชาติ เติบศิริ | กค | 04/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ อน.๕๓๙ ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี คืนให้แก่นายวีระชาติ เติบศิริ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
2576 | การรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2556 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 | กค | 04/06/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ มีจำนวน ๕,๑๒๑,๓๐๐.๗๓ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๔.๑๖ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยเป็นหนี้ของรัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน ๓,๕๕๖,๔๖๐.๖๒ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน ๑,๐๖๔,๗๔๖.๑๗ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน ๔๙๔,๕๓๒.๐๓ ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ จำนวน ๕,๕๖๑.๙๑ ล้านบาท ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ หนี้สาธารณะจำนวนดังกล่าวจำแนกตามอายุของหนี้ เป็นหนี้ระยะยาว จำนวน ๔,๙๕๙,๐๕๖.๖๗ ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น จำนวน ๑๖๒,๒๔๔.๐๖ ล้านบาท และจำแนกตามแหล่งที่มา เป็นหนี้ต่างประเทศ จำนวน ๓๓๔,๙๙๐.๓๓ ล้านบาท และหนี้ในประเทศ จำนวน ๔,๗๘๖,๓๑๐.๔๐ ล้านบาท ๑.๒ คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ ประกอบด้วย ๔ แผนย่อย และได้ปรับปรุงแผนฯ ในระหว่างปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินกู้และบริหารหนี้ ซึ่งหลังการปรับปรุงแผนฯ ครั้งที่ ๑ ทำให้วงเงินรวมในแผนฯ ที่จะบริหารจัดการมีจำนวนทั้งสิ้น ๒,๐๖๙,๙๑๕.๓๒ ล้านบาท โดยในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้ เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๘๖๑,๐๘๑.๒๖ ล้านบาท ๑.๓ สรุปผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ (ตุลาคม ๒๕๕๕-มีนาคม ๒๕๕๖) กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๗๘๘,๒๐๔.๕๕ ล้านบาท โดยมีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ ๔๐.๔๖ ของแผนการบริหารหนี้สาธารณะทั้งปี สำหรับผลการกู้เงินและบริหารจัดการหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๗๒,๘๗๖.๗๑ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับสัดส่วนของยอดหนี้สาธารณะคงค้างในปัจจุบันซึ่งยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามรายจ่ายภายใต้แผนการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ รวมถึงแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาประเทศ จึงเห็นควรให้มีการเตรียมการในการกำกับดูแลและบริหารจัดการหนี้สาธารณะของประเทศที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2577 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ ที่ได้รับจากการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมของผู้ประสบภัยน้ำท่วม) | กค | 28/05/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เงินได้ที่ได้รับจากรัฐ อันเนื่องมาจากการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายของผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นจำนวนเท่ากับภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ที่ซื้อแต่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ การยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าว ให้เป็นการยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์มาตรการดังกล่าวให้เป็นที่รับทราบทั่วกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2578 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการยกเว้นภาษีอากรให้แก่กลุ่มประชาชนที่รับจัดทำอาหารช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย) | กค | 28/05/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บุคคลธรรมดา กรณีการให้บริการรับจัดทำอาหารเพื่อนำไปแจกผู้ประสบอุทกภัย ที่ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้หรือค่าบริการที่ได้รับจากรัฐตั้งแต่วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการในการตรวจสอบความถูกต้องของผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการยกเว้นภาษีอากรให้แก่กลุ่มประชาชนที่รับจัดทำอาหารช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เพื่อให้การดำเนินมาตรการเป็นไปตามหลักการและวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2579 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. .... | กค | 28/05/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างประกาศฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้คณะกรรมการสรรหา ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ อัยการสูงสุด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นกรรมการ โดยมีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นเลขานุการ ๑.๒ กำหนดคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และความเชี่ยวชาญของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๓ กำหนดให้มีวิธีการได้มาซึ่งรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย หน่วยงานจากภาคเอกชนเสนอชื่อ ขอบัญชีรายชื่อจากหน่วยงานที่มีการจัดทำบัญชีรายชื่อต่าง ๆ และคณะกรรมการสรรหาพิจารณาเสนอรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมได้เอง ๑.๔ กำหนดให้มีวิธีการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยให้คณะกรรมการสรรหาจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแยกเป็นรายสาขา ตรวจสอบคุณสมบัติ ดำเนินการคัดเลือก และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกรณีที่ได้สรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐแล้ว ควรเร่งดำเนินการในขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่ การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ การกำหนดหลักเกณฑ์และประกาศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ และมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้การดำเนินการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในกิจการของรัฐมีความต่อเนื่องและสอดคล้องกับขั้นตอนตามกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2580 | รายงานการกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 3 | กค | 28/05/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๓ จำนวนรวม ๑๖,๘๖๕ ล้านบาท ภายใต้ขอบเขตพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑. ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ อายุ ๒ ปี อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาเฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย บวกด้วย Spread โดยดอกเบี้ยงวดแรกของตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้ในวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ มีอัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ ๓.๑๗๐ ต่อปี ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ จำนวน ๑๑,๔๓๒.๕๐ ล้านบาท ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖ และได้นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ๒. ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ อายุ ๖ เดือน อัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ ๒.๙๑๘ ต่อปี ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ และได้นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
|
.....