ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 92 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1821 - 1840 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1821 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค | สอบ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี
๒๕๖๖ สภาองค์กรของผู้บริโภค ตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานตามขอบเขตอำนาจและแผนงาน ได้แก่
๑) งานคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ๒)
งานพัฒนานโยบายและมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ๓)
งานสนับสนุนหน่วยงานประจำจังหวัดและองค์กรผู้บริโภค ๔)
งานสื่อสารเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และ ๕) งานบริหารจัดการสำนักงานและพัฒนาศักยภาพองค์กรของผู้บริโภค ๒. ผลการดำเนินงานที่เป็นกรณีเด่น รวม ๓ เรื่อง
ได้แก่ ๑) กรณีปัญหาเกี่ยวกับบริการสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ๒)
การจัดทำข้อเสนอแนวคิดรถไฟมวลชนทุกคนขึ้นได้ทุกวัน และ ๓) การดำเนินงานทดสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของหมวกนิรภัยสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ ๓. ปัญหา อุปสรรค และความท้าทาย เช่น ๑)
กระบวนการเสนองบประมาณมีขั้นตอนมากและซับซ้อนกว่าปกติเนื่องจากสภาองค์กรของผู้บริโภคต้องเสนองบประมาณผ่านสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
๒) หน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญต่อข้อเสนอนโยบายและมาตรการของสภาองค์กรของผู้บริโภค
และ ๓) ความรู้และความตระหนักในสิทธิของผู้บริโภคตามไม่ทันพัฒนาการของปัญหาที่ซับซ้อนและรุนแรงขึ้น ๔. รายงานการเงินของสภาองค์กรของผู้บริโภคปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
โดยบริษัท สำนักงานสามสิบสี่ ออดิต จำกัด เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแล้วเห็นว่า
งบการเงินที่แสดงฐานะการเงินของสภาองค์กรของผู้บริโภค สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1822 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) | ส.ส.ท | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี
๒๕๖๖ ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยมีผลการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ ๑)
การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลง ๒) รายงานผลการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาล ๓)
รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน ๔) รายงานการตรวจสอบภายใน ๕) รายงานของคณะกรรมการประเมินผล
๖) การรับฟังความคิดเห็นจากสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ๗)
ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้ฟังที่มีต่อการนำเสนอรายการของไทยพีบีเอส และ ALTV ๘)
ผังรายการปี ๒๕๖๖ และ ๙) แผนนบริหารกิจการและแผนงบประมาณ ประจำปี ๒๕๖๗ ตามที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1823 | รายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน
ประจำเดือน มกราคม-มีนาคม ๒๕๖๗ โดยมีผลการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ เช่น ๑) การรายงานผลการลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทาน
(มท.) โดยมีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๗,๑๖๓,๐๖๘ คน ๒)
การจัดกิจกรรมจิตอาสาของส่วนราชการต่าง ๆ (๑๘ หน่วยงาน) ประกอบด้วย จิตอาสาพัฒนา จิตอาสาภัยพิบัติ
จิตอาสาเฉพาะกิจ และวิทยากรจิตอาสา ๙๐๔ มีการจัดกิจกรรม ๒๐,๗๓๙
ครั้ง และ ๓) การติดตามความก้าวหน้าโครงการในภารกิจของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรีโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร โครงการก่อสร้างสายพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1824 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ตามมาตรา ๙๓
แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบด้วย
การพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม
การวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครอง การวางหลักกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติราชการทางปกครอง
ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ผลสัมฤทธิ์จากการประชุมที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1825 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบ
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1826 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร 05 | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. ....
ซึ่งจะสิ้นกำหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวันตามสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งในวันที่
๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ สมควรที่จะกำหนดให้ปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำครั้งที่หนึ่ง
ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1827 | การผ่อนผันให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และดำเนินการซ่อมแซม ปรับปรุง และฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ | ทส. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการซ่อมแซม
ปรับปรุง และฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าอนุรักษ์ได้
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว
และ/หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
จากรายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้วและมีงบประมาณเหลือจ่าย และหรือรายการที่หมดความจำเป็น
หรือรายการที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
โดยโอนงบประมาณรายจ่าย โอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรแล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน และควรมอบหมายส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ ที่กำหนดให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
โดยรายงานต่อศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
(ศปช.) เพื่อบูรณาการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1828 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1829 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 | กค. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติและรับทราบตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ตามมติที่ประชุม
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ที่ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม ๑,๒๐๔,๓๐๔.๔๔ ล้านบาท
แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม ๑,๗๘๓,๘๘๙.๖๔
ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงินรวม ๔๘๙,๑๑๐.๗๐ ล้านบาท ๑.๒
อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง ได้แก่ ขสมก. รฟท. กคช. และ ธพส. ที่มีสัดส่วน
DSCR ต่ำกว่า ๑ เท่า
สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง
๔ แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย
รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘
เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวด้วย ๑.๓
รับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง ๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๖๘ - ๒๕๗๒) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป ๒. อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะฯ
มาตรา ๗
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน
วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่าการดำเนินโครงการภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ จะต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ
แผนการใช้จ่ายและการลงทุนต้องเป็นไปตามกฎหมาย
และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความสามารถในการชำระหนี้ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1830 | ขอผ่อนผันยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4027 สายท่าเรือ - เมืองใหม่ ตอน บ้านเมืองใหม่ - ทางแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต | คค. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
ดังนี้ ๑) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕
ธันวาคม ๒๕๓๐ (เรื่อง
การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนประเทศไทย) ๒) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ)
๓) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ
เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และ ๔) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๔๓ เรื่อง
การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน
เนื้อที่ ๐-๒-๑๗ ไร่ สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ สายท่าเรือ - เมืองใหม่
ตอน บ้านเมืองใหม่ - ทางแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง
จังหวัดภูเก็ต ของกรมทางหลวง (โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗)
เพื่อให้สามารถดำเนินการในขั้นตอนการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและดำเนินงานโครงการก่อสร้างตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นสำหรับการดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงป่า
เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง การดำเนินการโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า
ให้ได้ข้อยุติก่อน หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงรักษาป่าดังกล่าว
ให้หน่วยงานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามผลการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการตามระเบียบฯ
ก่อนเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1831 | ขอความเห็นชอบต่อเอกสารผลลัพธ์ด้านแรงงานสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อเอกสาร (for notation) ทั้ง ๒ ฉบับ สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๔๔ และ ๔๕ ระหว่างวันที่ ๖ - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ASEAN
Labour Ministers Meeting : ALMM) ครั้งที่ ๒๘ และการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่
๒๘ - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้แก่ ๑)
แนวทางอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติ (ASEAN
Guidelines on Portability of Social Security Benefits for Migrant Workers) มีสาระสำคัญเป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศอาเซียนเพื่อกำหนดมาตรฐานและแนวทางในการจัดทำความตกลง
ด้านการประกันสังคมระหว่างประเทศ ในรูปแบบทวิภาคีหรือพหุภาคี
ซึ่งหมายรวมถึงสัญญาระหว่างประเทศ (Agreement/Memorandum of Agreements:
MOA) บันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding MOU) และบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation : MOC) โดยให้ใช้ร่วมกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเป็นพื้นฐานความเข้าใจที่ตรงกัน
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปรียบเทียบตลอดจนเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติที่ย้ายถิ่นฐานภายในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนอันจะเป็นข้อมูลแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและผู้เชี่ยวชาญจากภูมิภาคอื่น
ๆ และ ๒) แนวทางอาเซียนว่าด้วยการบรรจุงานและการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในภาคประมง (ASEAN
Guidelines on the Placement and Protection of Migrant Fishers)
มีสาระสำคัญเป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศอาเซียนในการดูแลและคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในเรือประมงให้มีสภาพการทำงานและสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม
มีความปลอดภัยในการทำงาน ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม เข้าถึงความยุติธรรมและการเข้าถึงความคุ้มครองทางสังคม
ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภาคประมงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและสถานการณ์ฉุกเฉินบนเรือ
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเอกสารผลลัพธ์ด้านแรงงานฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
และให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการจัดให้มีการระดมความคิดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
(หนังสือกระทรวงยุติธรรม ด่วนที่สุด ที่ ยธ o๒๐๐๔/๙๕๓๒
ลงวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1832 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ 160 ยูนิต 11 ชั้น (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 1 หลัง | สธ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
ก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ ๑๖๐ ยูนิต ๑๑ ชั้น (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว)
โรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน ๑ หลัง ในวงเงิน ๒๑๗,๕๘๙,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามนัยมาตรา
๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1833 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 32 และร่างเอกสารผลลัพธ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | พม. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1834 | เอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา | กต. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อการรับรองร่างปฏิญญาโดฮา (Doha Declaration) ว่าด้วยการทูตผ่านกีฬา
: (Sports Diplomacy) ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย
(Asia Cooperation Dialogue Summit : ACD Summit) ครั้งที่ ๓ ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างปฏิญญาฯ
ในที่ประชุมระดับผู้นำ ACD ครั้งที่ ๓ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในระดับผู้นำของประเทศสมาชิกACD
ในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการทูตผ่านกีฬา เพื่อส่งเสริม ACD ให้เป็นเวทีหารือและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความท้าทายและการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างสร้างสรรค์ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ก้าวข้ามการเมืองและยอมรับความแตกต่าง
การเน้นย้ำบทบาท และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการเงินและการค้า
รวมถึงความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของระบบคมนาคมและดิจิทัล
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1835 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2566 ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย | มท. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง
- ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคระบาดอันตราย
โดยดำเนินการผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูล การฝึกอบรม เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงมหาดไทยควรวิเคราะห์และประเมินผลจากการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับด้วย
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1836 | การจัดทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐกาตาร์ | กต. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1837 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ 160 ยูนิต 11 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 10 ,149 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 หลัง | สธ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
ก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ ๑๖๐ ยูนิต ๑๑ ชั้น พื้นที่ใช้สอย ๑๐,๑๔๙ ตารางเมตร
(โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน ๑ หลัง วงเงิน
๒๑๐,๒๑๐,๗๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามนัยมาตรา
๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1838 | การปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสิน | กค. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
(Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสิน
พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และรับทราบโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยปี ๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ PGS
๑๑ ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้กระทรวงการคลัง สถาบันการเงิน
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรรับทราบการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี
๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ PGS ๑๑ ของ บสย. ให้ผู้ประกอบการ SMEs
และผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อกับสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ บสย. ควรบริหารจัดการโครงการ PGS ๑๑
โดยไม่กระทบกรอบวงเงินการขอรับชดเชยจากรัฐบาลและเงื่อนไขอื่น ๆ ภายใต้โครงการ PGS
๑๑ ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1839 | แผนที่พื้นที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มของประเทศไทย | ทส. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบแผนที่พื้นที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มของประเทศไทย
และบัญชีแผนที่พื้นที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มของประเทศไทย ๑,๙๘๔ ตำบล
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนที่พื้นที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มของประเทศไทยไปใช้ประกอบการเตรียมความพร้อม
ป้องกัน เฝ้าระวัง และเตือนภัยในพื้นที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนที่และบัญชีแผนที่พื้นที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มของประเทศไทยไปประกอบการพิจารณาเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่ม
ตลอดจนเร่งสร้างความตระหนักรู้แก่ประชนในพื้นที่เสี่ยง เพื่อลดความสูญเสียและความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1840 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | กค. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๙ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ ๒. นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ๓. นายปิ่นสาย สุรัสวดี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ๔. นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางสาวศุกร์ศิริ
อภิญญานุวัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางสาวพิมพ์เพ็ญ ลัดพลี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายธีรลักษ์ แสงสนิท ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายอรรถพล อรรถวรเดช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|