ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 99 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1961 - 1980 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1961 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 | ปสส. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง)
เป็นพิเศษ วันอังคารที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๗ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพุธที่
๔ กันยายน ๒๕๖๗ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒
ครั้งที่ ๒๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๕ กันยายน
๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1962 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาเพื่อพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | สผ. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าว และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๓.
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการทบทวนความเหมาะสมและประเมินผลสัมฤทธิ์ของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวทั้งฉบับอย่างเป็นระบบตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1963 | ร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนของหน่วยบริการตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | สธ. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนของหน่วยบริการตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขอขึ้นทะเบียน การขึ้นทะเบียน การเพิกถอนทะเบียน และการประเมินคุณภาพการให้บริการของหน่วยบริการอาชีวเวชกรรมหรือเวชกรรมสิ่งแวดล้อม
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงแรงงาน สำนักงาน ก.พ.ร.
กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
เช่น กรุงเทพมหานคร เห็นควรให้หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้รับผิดชอบ
ต้องสนับสนุนในเรื่องต่าง ๆ ให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานครมีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรรับฟังข้อคิดเห็นจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อประกอบการพิจารณา
และควรพิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเหมาะสมตามความจำเป็น ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. และกรุงเทพมหานคร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นว่าการกำหนดให้กฎกระทรวงใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามร่างกฎกระทรวงข้อ
๑ ควรพิจารณาให้กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้เร็วกว่าที่กำหนด
การกำหนดระยะเวลาแจ้งผลการพิจารณารับขึ้นทะเบียนให้แก่หน่วยบริการตามร่างกฎกระทรวงฯ
ข้อ ๙ วรรคหนึ่ง ควรกำหนดให้สอดคล้องตามมาตรา ๑๐
แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นต้น กรุงเทพมหานคร เห็นควรให้หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้รับผิดชอบ
ต้องสนับสนุนในเรื่องต่าง ๆ ให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานครมีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1964 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล | ตช. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงิน ๖๓๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้อระบบอุโมงค์เอกซเรย์รถแบบเคลื่อนที่
พร้อมยานพาหนะบรรทุกสำหรับเคลื่อนย้าย จำนวน ๕ ชุด ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการต่อไปให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1965 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,017.39 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงการพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 39 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท | คค. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓,๐๑๗.๓๙ ล้านบาท ประกอบด้วย กรมทางหลวง
จำนวน ๑,๘๔๙.๕๕ ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท จำนวน ๑,๑๖๗.๘๔ ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ
(จำนวน ๓๙ จังหวัด) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการต่อไปให้ถูกต้อง
เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1966 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนาวัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. .... | อว. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. ให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัย
ซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ.
....
ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาคืนไปเพื่อพิจารณาทบทวนในรายละเอียดอีกครั้ง
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
ในฐานะประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาตินำร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัย
ซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ.
.... ไปรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชนอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1967 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ] | สผ. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายอดิศร เพียงเกษ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายเอกราช อุดมอำนวย กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒.
ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... (นายอดิศร เพียงเกษ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายเอกราช อุดมอำนวย กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าวและความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติดำเนินการทบทวนความเหมาะสมและประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
รวม ๒ ฉบับดังกล่าวทั้งฉบับอย่างเป็นระบบ ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1968 | มาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในอุตสาหกรรมแร่ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | อก. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ (เรื่อง
มาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในอุตสาหกรรมแร่)
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1969 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 3 ฉบับ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 288/2567-290/2567) | นร 05 | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๘๘/๒๕๖๗ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๘๙/๒๕๖๗ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1970 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินกว่างบประมาณรายจ่ายที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ดศ. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ของกรมอุตุนิยมวิทยา จำนวน ๓,๘๔๖,๕๐๗.๓๑ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1971 | ร่างขอบเขตข้อกำหนดสำหรับการจัดตั้งคณะกรรมการร่วม ว่าด้วยความร่วมมือทางทหารและสิ่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางทหารระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | กห. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1972 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวน ๓,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ปี ๒๕๖๕ อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ต่อไป ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1973 | การลงนามร่างหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) เพื่อเข้าร่วมเป็นภาคีใน Multilateral Convention to Facilitate the Implementation of the Pillar Two Subject to Tax Rule | กค. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการลงนามร่างหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) เพื่อเข้าร่วมเป็นภาคีใน
Multilateral Convention to Facilitate the Implementation of the Pillar
Two Subject to Tax Rule (STTR
Multilateral Instrument หรือ STTR MLI) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ โดยร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการเข้าร่วมเป็นภาคีใน
STTR MLI ของไทย
โดยภายหลังการลงนามในร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ กรมสรรพากรจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายเลขาธิการ
STTR เพื่อนำหลักการ STTR มาปรับใช้เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารจัดเก็บภาษีของประเทศต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผล และประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1974 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 | นร. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๗
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๒๘
สิงหาคม ๒๕๖๗ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๙ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1975 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่่งมีปัญหากับหลักศาสนาวัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. .... | อว. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา
วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา
วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการวิจัยซึ่งอาจมีปัญหากับหลักศาสนาฯ
และกำหนดลักษณะของการวิจัยที่มีปัญหากับหลักศาสนาฯ
รวมทั้งกำหนดวิธีดำเนินการวิจัยที่มีปัญหากับหลักศาสนาฯ ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรตัดความในมาตรา ๑๔ ของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ตามร่างมาตรา ๑๔ ที่กำหนดให้ประธานกรรมการ กรรมการ ประธานอนุกรรมการ อนุกรรมการ
ได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ
ว่า อาจเป็นการกำหนดเกินบทบัญญัติในมาตรา ๓๓ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒
ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ซึ่งให้สิทธิเฉพาะเบี้ยประชุมกรรมการและอนุกรรมการที่เข้าข่ายตามนัยนิยาม มาตรา ๕
มิได้รวมถึงกรรมการที่แต่งตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา
และมิได้มีบทกำหนดเกี่ยวกับประโยชน์ตอบแทนอื่นไว้ในพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการฯ
เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เห็นว่าหากมีความจำเป็นต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการวิจัยซึ่งอาจมีปัญหากับหลักศาสนาวัฒนธรรมจารีตประเพณี
หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกันคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (กสว.) โดยความเห็นชอบของสภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กำหนดหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัย กสว.
อาจจำเป็นต้องบัญญัติบทให้อำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวไว้ในพระราชกฤษฎีกา
หรืออาจต้องบัญญัติให้การกำหนดหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา
วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ของคณะกรรมการหรืออนุกรรมการตามพระราชกฤษฎีกาต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสว.
รวมทั้งอาจจำเป็นต้องบัญญัติในเรื่องของการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการและการพิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าวไว้ในพระราชกฤษฎีกาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1976 | โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน ๑๖,๐๐๐,๐๐๐
บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบเงินอุดหนุน ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และให้เลขาธิการ ป.ป.ส.
มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณ งบเงินอุดหนุน
รายการโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
และสามารถจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ
เพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตามที่ได้รับจัดสรร ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรม
(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๕/๘๒๘๒ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรที่สำนักงาน ป.ป.ส.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความสำคัญกับการสร้างกลไกหรือระบบในการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานระหว่างประเทศ
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน
และการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์
รวมทั้งเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการของภาครัฐที่เหมาะสม
อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1977 | การจัดตั้งศูนย์บัญชาการระดับชาติเพื่อการป้องกัน แก้ไขปัญหาอุทกภัยและให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย | นร. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการระดับชาติเพื่อการป้องกัน
แก้ไขปัญหาอุทกภัยและให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยขึ้น โดยมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายภูมิธรรรม เวชยชัย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการศูนย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นรองผู้อำนวยการศูนย์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ร่วมเป็นองค์ประกอบของศูนย์บัญชาการดังกล่าวด้วย ๒.
ในส่วนของแหล่งเงินค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหา
การช่วยเหลือเยียวยาต่าง ๆ รวมทั้งหน้าที่และอำนาจในการพิจารณา สั่งการ ประสานงาน
และบูรณาการการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องของศูนย์บัญชาการตามข้อ ๑
ให้ศูนย์บัญชาการดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1978 | ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567) | ปสส. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ไปพิจารณาก่อนรับหลักการภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1979 | แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติในระหว่างที่รอคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่ | นร. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้กระบวนการในการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการระหว่างรอคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่
เป็นไปด้วยความถูกต้องเหมาะสม
จึงมีมติให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติในขั้นตอนต่าง
ๆ เป็น ๔ กระบวนการ ดังนี้ ๑.
ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีมีมติขอรับมาพิจารณาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติรับหลักการ
ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรประสานสภาผู้แทนราษฎรเลื่อนการบรรจุระเบียบวาระออกไปก่อนเพื่อรอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ๒. ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการก่อนวันที่
๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗ และอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้วและต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ให้รอเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ๓. ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการก่อนวันที่
๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว
ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไปได้ ๔.
ร่างพระราชบัญญัติที่กำลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติหลักการให้รอไว้เสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1980 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 600.35 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของกรมทางหลวง | คค. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๖๐๐.๓๕
ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของกรมทางหลวง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด |