ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 160 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3181 - 3200 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3181 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม พ.ศ. .... | ทส. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าใช้น้ำประเภทที่ ๒ และประเภทที่ ๓
ที่ไม่ใช่น้ำจากทางน้ำชลประทานตามกฎหมายว่าด้วยชลประทานและน้ำบาดาลตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นควรให้นำหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าใช้น้ำสำหรับการใช้น้ำประเภทที่สองและการใช้น้ำประเภทที่สาม
ตามมาตรา ๔๙ (๑) แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3182 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิก | กต. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิก
และให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีเพื่อทบทวน
ขยาย และเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีตลอดจนและเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศที่สนใจร่วมกัน
เช่น ด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม
โดยไทยและกรีชจะสลับกันจัดการหารือขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
โดยผู้แทนเข้าร่วมการหารือจะเป็นระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิกในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยเห็นว่า
การจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิก
จะทำให้เกิดเวทีและช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เป็นประโยชน์ในการผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐเฮลเลนิกในด้านต่าง
ๆ รวมถึงเศรษฐกิจและการค้า ทั้งนี้
โดยที่ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) กับสหภาพยุโรป
(European Union : EU) ไทยจึงอาจใช้กลไกการหรือทวิภาคีกับสาธารณรัฐเฮลเลนิก
ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เพื่อสนับสนุนการเจรจาความตกลงการค้าเสรีดังกล่าวโดยการผลักดันประเด็นที่ไทยและสาธารณรัฐเฮลเลนิกมีผลประโยชน์ร่วมกัน
โดยเห็นว่า การจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิก
จะทำให้เกิดเวทีและช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เป็นประโยชน์ในการผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐเฮลเลนิกในด้านต่าง
ๆ รวมถึงเศรษฐกิจและการค้า ทั้งนี้
โดยที่ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade
Agreement : FTA) กับสหภาพยุโรป (European Union
: EU) ไทยจึงอาจใช้กลไกการหรือทวิภาคีกับสาธารณรัฐเฮลเลนิก
ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เพื่อสนับสนุนการเจรจาความตกลงการค้าเสรีดังกล่าวโดยการผลักดันประเด็นที่ไทยและสาธารณรัฐเฮลเลนิกมีผลประโยชน์ร่วมกัน
และกระทรวงการต่างประเทศต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3183 | ร่างกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในหมวด 4 การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 รวม 3 ฉบับ | นร.14 | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการ ๑.๑
ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะหรือรายละเอียดการใช้น้ำแต่ละประเภท พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะหรือรายละเอียดของการใช้น้ำสาธารณะซึ่งจัดแบ่งออกเป็น
๓ ประเภท ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สอง และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สาม
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่ ๒
และประเภทที่ ๓ ซึ่งไม่เกินอัตราที่กำหนดในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.
๒๕๖๑ ๑.๓
ร่างกฎกระทรวงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าใช้น้ำสำหรับการใช้น้ำประเภทที่สองและการใช้น้ำประเภทที่สาม
และการเรียกเก็บ ลดหย่อน หรือยกเว้นค่าใช้น้ำ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์อัตราค่าใช้น้ำสำหรับการใช้น้ำประเภทที่
๒ และประเภทที่ ๓ รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกเก็บ ลดหย่อน
หรือยกเว้นค่าใช้น้ำ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เช่น ๑) ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สองและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สาม
พ.ศ. .... เนื่องจากร่างกฎกระทรวงดังกล่าวออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งตามมาตรา ๕๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้กำหนดมิให้นำความในมาตรา
๔๘
มาใช้บังคับแก่การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะที่เป็นน้ำบาดาลตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล
ดังนั้น การกำหนดให้กิจการตาม ข้อ ๓ ให้ได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตลงกึ่งหนึ่ง
หรือการกำหนดยกเว้นค่าธรรมเนียม ตามข้อ ๔
แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม
สำหรับการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะที่เป็นน้ำบาดาลจะสอดคล้องกับมาตรา ๕๕ หรือไม่ ๒) ควรระบุวัตถุประสงค์ของการใช้น้ำว่าเป็นการใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมหรือวัตถุประสงค์
เพื่อการผลิตของนิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกำหนดคำนิยามของผู้ใช้น้ำประเภทที่
๓ ให้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการพิจารณาว่าผู้ใช้น้ำจะเป็นผู้ใช้น้ำประเภทที่ ๒ หรือ
๓ ควรกำหนดจากปริมาณน้ำที่ใช้ เนื่องจากจะมีผลในการคิดค่าธรรมเนียมและอัตราการใช้น้ำทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในภาพรวม และ ๓) ในกรณีกลุ่มเกษตรกรที่เกิดจากการรวมกลุ่ม
หรือกลุ่มผู้ใช้น้ำในแหล่งน้ำขนาดเล็ก โดยใช้ทรัพยากรน้ำเพื่อการผลิตหรืออุปโภคบริโภคภายในกลุ่ม
การใช้น้ำลักษณะดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์การใช้น้ำประเภทที่หนึ่ง ตามข้อ ๒ (๓)
หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรกรในลักษณะที่มีการรวมกลุ่มเกินกว่า ๑๐ คน
เป็นจำนวนมาก การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอาจเป็นการสร้างข้อจำกัดในการรวมกลุ่มและภาระค่าใช้จ่ายซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรงและการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เช่น ๑)
เมื่อร่างกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับแล้วจำเป็นต้องมีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างทั่วถึงเพื่อจะได้มีความรู้
ความเข้าใจและถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป การดำเนินการใด ๆ ในแม่น้ำ ลำคลอง
บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ทะเล หรือบนชายหาดของทะเล ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย
พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย ๒) ควรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดดำเนินการให้มีการออกกฎหมายลำดับรอง
ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่เหลืออยู่นอกเหนือกฎกระทรวงทั้ง
๓ ฉบับดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ ๓) ควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจในหลักการและสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงทั้ง
๓ ฉบับ ให้กับผู้ใช้น้ำดังกล่าวอย่างทั่วถึงต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3184 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม พ.ศ. .... | ทส. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต
การโอนใบอนุญาต และการอนุญาต รวมทั้งการขอและการออกใบแทนใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่
๒ และประเภทที่ ๓ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรกำหนดเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่แจ้งเหตุแห่งการจำหน่ายเรื่องออกจากสารบบให้ผู้ยื่นคำขอทราบด้วย
ควรพิจารณากรอบระยะเวลาให้มีความเหมาะสมที่จะไม่ก่อให้เกิดการดำเนินการที่ล่าช้าเกินสมควรและส่งเสริมให้เกิดการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
และในระยะต่อไป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำควรพิจารณาปรับปรุงกรอบระยะเวลาในการขออนุญาตใช้น้ำตามหมวด
๒ การขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้กระชับขึ้น
เพื่ออำนวยความสะดวกต่อภาคการผลิตและสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3185 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567) | ปสส. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด
พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่
๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๗ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖
ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มกราคม
๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3186 | การบังคับใช้มาตรฐานระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ประเทศไทยได้เริ่มใช้มาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร
๕ ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา นั้น
ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายในที่สำคัญของประเทศ
รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองที่เกิดจากรถยนต์ด้วย อย่างไรก็ตาม
การดำเนินการเพื่อยกระดับมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ในระยะต่อไปจากมาตรฐานยูโร
๕ เป็นมาตรฐานยูโร ๖
โดยเฉพาะกรณีรถยนต์ดีเซลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นหลักจะส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจและเศรษฐกิจในวงกว้าง
เช่น ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการขนส่ง การขนส่งข้ามแดน
ความพร้อมของผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ นอกจากนี้
ในปัจจุบันประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่บังคับใช้มาตรฐานยูโร
๖ แล้ว ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการบังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ตามมาตรฐานยูโร
๖ ผ่านกลไกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตามขั้นตอน ให้รอบคอบ เหมาะสม
โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ในทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3187 | ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567)] | ปสส. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๗ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3188 | การคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (1. นายเสรี นนทสูติ ฯลฯ จำนวน 6 คน) | กค. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
จำนวน ๖ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังมีคำสั่งแต่งตั้ง
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. ดร.เสรี นนทสูติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๒. นางสมหมาย
ศิริอุดมเศรษฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบัญชี ๓. นายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารธุรกิจ ๔. นายประกิด บุณยัษฐิติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารธุรกิจ ๕. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3189 | การกำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (KPIs) ของส่วนราชการ | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เกิดผลเป็นรูปธรรม จึงขอให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานหลักรับไปประสานกับทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณากำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน
(KPIs) และติดตามการประเมินผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัดเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลเกิดผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน
และเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3190 | การรับราชการภายหลังเกษียณอายุ | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เห็นควรให้ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ว่า
จะไม่มีการต่ออายุให้ข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร รับราชการต่อไปภายหลังเกษียณอายุ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3191 | การจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒ มกราคม
๒๕๖๗)
เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้ถูกต้อง ละเอียดรอบคอบ เป็นไปตามโครงการและกิจกรรมที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
นั้น ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
โดยเชิญชวนประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการหรือกิจกรรม
แล้วให้เสนอโครงการหรือกิจกรรมให้คณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรม
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เป็นประธาน พิจารณโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้
ขอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวในภาพรวม
ให้รวดเร็ว ถูกต้อง และทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบและร่วมแสดงความจงรักภักดีในปีมหามงคลนี้อย่างพร้อมเพรียงกันด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3192 | การบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (National Cloud) | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลกลางของรัฐในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐาน
เป็นระบบ ครบถ้วน และมีความปลอดภัย
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีการจัดตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์
(Cloud) ชะลอการดำเนินการดังกล่าวไว้ก่อน
เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (National
Cloud) ของประเทศไทยจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้ หากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใดมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) โดยด่วน เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3193 | แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 ปี 2560-2564 (ฉบับปรับปรุง) และโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ระยะที่ 13 ส่วนที่ 1 ของการไฟฟ้านครหลวง | มท. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ฉบับที่ ๑๒ ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ (ฉบับปรับปรุง) วงเงินลงทุนรวม
๗๓,๐๘๖.๙ ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ในประเทศ จำนวน ๔๖,๘๐๐.๐
ล้านบาท เงินรายได้ของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน ๒๖,๒๐๖.๒ ล้านบาท และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล จำนวน ๘๐.๗
ล้านบาท และโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ระยะที่ ๑๓ ส่วนที่ ๑
วงเงินลงทุนรวม ๗,๔๐๓.๕ ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ในประเทศ
จำนวน ๕,๖๐๐ ล้านบาท และเงินรายได้ของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน
๑,๘๐๓.๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง) บริหารจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า
ระยะที่ ๑๓ ส่วนที่ ๑ ให้อยู่ภายในกรอบวงเงินตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
เพื่อไม่ให้เกิดภาวะค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่ากรอบวงเงินงบประมาณ (Cost Overrun)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง) กระทรวงพลังงาน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงคมนาคม เช่น ให้การไฟฟ้านครหลวงใช้แหล่งเงินทุนจากเงินรายได้ของการไฟฟ้านครหลวงเป็นลำดับแรก
และหากมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อสมทบรายได้ ให้การไฟฟ้านครหลวงใช้เงินกู้ในประเทศเพื่อลงทุนตามแผนดังกล่าว
โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ ควรปรับแผนการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
และให้การไฟฟ้านครหลวงเร่งเสนอเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาโดยเร็ว
ควรกำหนดแนวทางการบริหารความสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ควรมีมาตรการควบคุมและเร่งรัดการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแผนงานตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3194 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 92,978 คน เป็นผู้เสนอ และนายเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 10,942 คน เป็นผู้เสนอ) | ปสส. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน
๙๒,๙๗๘ คน
เป็นผู้เสนอ และนายเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๐,๙๔๒ คน เป็นผู้เสนอ) ไปพิจารณาก่อนรับหลักการภายใน ๖๐ วัน
นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3195 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (1. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ฯลฯ รวม 10 คน) | อก. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
รวม ๑๐ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ดังนี้ ๑ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ ๒ พลเอก กนิษฐ์ ชาญปรีชญา กรรมการ ๓ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน กรรมการ ๔ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล กรรมการ ๕ นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ ๖ นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการ ๗ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรรมการ ๘ รองศาตราจารย์ อนามัย ดำเนตร กรรมการ ๙ นายเอกภัทร วังสุวรรณ กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3196 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (1. นายสราวุธ ทรงศิวิไล ฯลฯ รวม 5 คน) | คค. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
รวม ๕ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.
นายสราวุธ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการ ๒.
นายศราวุธ เพชรพนมพร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓.
นายอาทิตย์ สุริยาภิวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. พลโท
พิเชษฐ คงศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕.
นายชัยทัต แซ่ตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3197 | ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวม 11 ญัตติ | สผ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบญัตติ เรื่อง
ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวม ๑๑
ญัตติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3198 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา | สว. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
ระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3199 | ญัตติด่วน เรื่อง สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาสะพานถล่ม กรณีสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ | สผ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบญัตติด่วน เรื่อง สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาสะพานถล่ม
กรณีสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง
เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3200 | รายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน | ตช. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้
พ.ศ. ๒๕๖๒ และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๖ โดยมีสรุปผลในภาพรวมว่า
ยังไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครอง
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ลงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖
ข้อ ๒ และข้อ ๕ รวมทั้งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ ๕ ข้อ ๑๗ และข้อ ๑๘ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มดำเนินการตามระเบียบดังกล่าว
โดยเห็นควรให้มีการดำเนินการไปสักระยะเวลาหนึ่งก่อน แล้วจึงพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|