ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 158 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3141 - 3160 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3141 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครบริสเบน และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย (นางเจียรนัย ทีนา ฟีลด์) | กต. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นายแอนดรูว์
เวนต์เวิร์ท พาร์ก (Mr. Andrew Wentworth Park) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครบริสเบน
รัฐควีนส์แลนด์ เครือรัฐออสเตรเลีย ตั้งแต่วันที่ ๓๐. มิถุนายน ๒๕๖๕ เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3142 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายนรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. นายนรินทร์รัชต์
พิชญคามินทร์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต
สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๕ ๒.
นางสาวชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่
๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ๓. นายปริญญา
สันติชาติงาม ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤษภาคม
๒๕๖๖ ๔.
นางสาวสุรัตน์ มงคลชัยอรัญญา ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข)
กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3143 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อผ. 362/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อผ. 295/2566 ระหว่างบริษัท สวัสดีการ์เด้น รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด ที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย | นร.05 | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อผ. ๓๖๒/๒๕๖๒ คดีหมายเลขแดงที่ อผ. ๒๙๕/๒๕๖๖ ระหว่างบริษัท
สวัสดีการ์เด้น รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๒ คน ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี
ที่ ๑ กับพวกรวม ๒ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดี
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3144 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.01 | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
(ก.ธ.จ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ทั้ง ๗๖ คณะ/จังหวัด ได้ติดตามสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
๒,๐๙๘
เรื่อง และมีข้อเสนอแนะ ๑,๕๗๖ ข้อ ใน ๔ เรื่อง ได้แก่ ๑)
แผนงาน/โครงการ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ๒)
แผนงาน/โครงการของส่วนราชการในจังหวัด ๓) แผนงาน/โครงการอื่น ๆ (เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และรัฐวิสาหกิจ) และ ๔) เรื่องร้องเรียน ๒.
ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญและแนวทางการแก้ไขของ ก.ธ.จ. เช่น ๑) การปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ธ.จ. แต่ละคณะมีความแตกต่างกันทำให้มาตรฐานในการทำงานแตกต่างกัน
แนวทางการแก้ไข ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติงานของ
ก.ธ.จ. ให้มีความเหมาะสมเป็นมาตรฐานเดียวกัน และ ๒) งบประมาณไม่เพียงพอกับการปฏิบัติงานของ
ก.ธ.จ. แนวทางการแก้ไข เช่น ให้ ก.ธ.จ. จัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายในกรอบวงเงินที่ได้รับจัดสรร
ปรับแผนการลงพื้นที่ และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3145 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน) | กค. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สาระสำคัญเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น
ๆ ที่คล้ายกัน ประเภทอัตราตามปริมาณ (ลิตร) (ปรับลดประมาณ ๑ บาทต่อลิตร)
เป็นระยะเวลา ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลที่สะท้อนต้นทุนตามข้อเท็จจริง
เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงภาระการชดเชยต้นทุนส่วนต่าง
ตลอดจนความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตลอดจนติดตามการประเมินผลสัมฤทธิ์
และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และให้ภาครัฐเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันเพื่อทดแทนการดำเนินมาตรการทางภาษี
ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยและมีความเปราะบางต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและค่าครองชีพ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3146 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง บทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการปฏิรูปการจัดการศึกษาของท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา | มท. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
บทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการปฏิรูปการจัดการศึกษาของท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น
วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยสรุปได้ว่า
ในส่วนปัญหาอุปสรรคของท้องถิ่นในการจัดการศึกษา พบว่าด้านบุคลากร กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการกำหนดแผนการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและคัดเลือกในตำแหน่งที่มีความต้องการแล้ว
และด้านการบริหารจัดการ ปัจจุบันมีสถานศึกษาสามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
เช่น ค่าอุปกรณ์สำหรับผู้เรียนในการฝึกกีฬา ค่าประกันอุบัติเหตุ
เพื่อแก้ไขปัญหากระบวนการจัดซื้อจัดหาตามระเบียบที่ล่าช้าและมีความเหลื่อมล้ำได้อยู่แล้ว
ในส่วนข้อเสนอแนะสำหรับหน่วยงานและองค์กรภาครัฐ ในด้านนโยบาย กรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้สนับสนุนการดำเนินงานท้องถิ่นดิจิทัลผ่านความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย
เช่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศ
อีกทั้งได้มีการเสนอร่างกฎหมายเพื่อกำหนดให้บุคลากรทางการศึกษาร่วมเป็นคณะกรรมการในองค์กรบริหารงานส่วนท้องถิ่นเพื่อกำหนดแนวทางการสรรหาบุคลากร
ด้านบุคลากร ได้นำมาตรฐานหลักเกณฑ์และระเบียบที่ใช้กับบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการมาประยุกต์ใช้โดยอนุโลม
และได้ดำเนินการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการแล้ว รวมทั้งได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเพื่อสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเชิงพื้นที่แล้ว
และได้จัดงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่นในระดับประเทศ ด้านวัสดุ อุปกรณ์
เทคโนโลยีสารสนเทศ อาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัย และนวัตกรรมเห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ควรบูรณาการและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
เช่น จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการการเรียนระบบคลังหน่วยกิตกับโรงเรียน
ด้านการบริหารจัดการ
ได้กำหนดแนวทางหรือระเบียบว่าด้วยการจัดจ้างบุคลากรเชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติแล้ว
และได้ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อเปิดรับอาสาสมัครมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่และครูในพื้นที่
ด้านงบประมาณ กระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบให้สถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจในการบริหารงบประมาณตามการกิจแล้ว
ในส่วนของข้อเสนอแนะสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ออกแบบหลักสูตรที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาออกแบบและพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับปรัชญาและวัตถุประสงค์ของสถาบันและลักษณะสาขาวิชา
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3147 | รายงานประจำปี 2565 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ | อว. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๕ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้ ๑) ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญของประเทศโดยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน BCG Model ๒) ดำเนินการจัดทำและผลักดันแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศ
เพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐) (๓) สร้างสรรค์ผลงานวิจัย พัฒนา
และนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG และ AI ๔) การพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECI) เพื่อให้ EECI
เป็นระบบนิเวศนวัตกรรมชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ๕)
การถ่ายทอดเทคโนโลยี นำผลการวิจัยสู่การสร้างเสริมขีดความสามารถเกษตรชุมชน ๖) การพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากกว่า
๘๖๒ ราย ๗) การพัฒนาและสร้างเสริมบุคลากรวิจัย
พัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านการสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาโท/เอก/นักวิจัยหลังปริญญาเอก
และ ๘) รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
งบการเงินดังกล่าวมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3148 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมเซ้าท์ซัมมิท ครั้งที่ 3 | กต. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมเซ้าท์ซัมมิท
ครั้งที่ ๓ และให้ผู้แทนไทยที่ได้รับมอบหมายเข้าร่วมการประชุมเซ้าซัมมิท ครั้งที่
๓ ร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ ได้ โดยร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของกลุ่ม
๗๗ และจีนที่จะร่วมมือกันผลักดันประเด็นในเวทีสหประชาชาติและเวทีระหว่างประเทศอื่น
ๆ และขยายความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า สถาปัตยกรรมการเงินระหว่างประเทศ
การระดมทุนเพื่อการพัฒนา การบริหารจัดการหนี้ สิ่งแวดล้อม
การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การรับมือความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ
การศึกษา การพัฒนาผู้ประกอบการ และการส่งเสริมบทบาทของสตรี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมเซ้าท์ซัมมิท ครั้งที่
๓ (Outcome Document of the 3rd South Summit) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าจำเป็นต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานภายใต้ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ
ดังกล่าว
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3149 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารสุดท้าย (Draft Final Document) ของการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (NAM Summit) ครั้งที่ 19 | กต. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติต่อร่างเอกสารสุดท้าย (Draft Final Document) ของการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
(NAM Summit) ครั้งที่ ๑๙ โดยร่างเอกสารสุดท้ายฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับท่าที พัฒนาการ และการดำเนินการของ NAM ในประเด็นระดับโลกและภูมิภาค เช่น
การเมือง ความมั่นคงระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชนและการพัฒนาที่ยั่งยืน และการปฏิรูปสหประชาชาติ โดยแบ่งเป็น
๓ บท ได้แก่ บทที่ ๑ ประเด็นระหว่างประเทศ บทที่ ๒ ประเด็นการเมืองภูมิภาคและอนุภูมิภาค
และบทที่ ๓ ประเด็นด้านการพัฒนา สังคม
และสิทธิมนุษยชน และให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) ของนายกรัฐมนตรีร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว
หากอาเซียนเห็นพ้องให้รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนร่วมลงนามในหนังสือแจ้งข้อสงวน (reservation)
หรือหนังสืออื่น ๆ
ที่เป็นการแจ้งท่าทีของอาเซียนต่อถ้อยคำในเอกสารสุดท้ายฯ ตามแนวปฏิบัติที่ผ่านมาของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนต่อเอกสารสุดท้ายของการประชุม
NAM Summit ครั้งที่ ๑๘ ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน
เมื่อปี ๒๕๖๒
ขออนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมลงนามในหนังสือแจ้งข้อสงวนดังกล่าวเช่นเดียวกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอื่น
ๆ และหากปรากฏว่า เนื้อหาหรือถ้อยคำของเอกสารสุดท้ายฯ
ไม่สอดคล้องกับนโยบายผลประโยชน์ และท่าทีประเทศไทยในสาระสำคัญ แสดงท่าทีเชิงลบ
หรือมีถ้อยคำรุนแรงประณามประเทศอื่นใด ขออนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งข้อสงวน
(reservation) หรือแสดงท่าที่อธิบายอย่างระมัดระวังถึงเหตุผลของประเทศไทยซึ่งทำให้ไม่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือถ้อยคำดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การแจ้งข้อสงวนเป็นแนวทางที่ประเทศไทยปฏิบัติมาโดยตลอด ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารสุดท้ายของการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ครั้งที่ ๑๙ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3150 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารที่มีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 7 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กก. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างเอกสารการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ ๗ (7th ASEAN Ministerial Meeting on Sports :
AMMS-7) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๖ ฉบับ ได้แก่ (๑)
ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ ๗ (๒)
ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๑ (๓)
ขอบเขตหน้าที่ (TOR) ของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-จีน
(๔) ขอบเขตหน้าที่ (TOR) ของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสสาขากีฬาอาเซียน-จีน
(๕) ร่างปฏิญญาเชียงใหม่ว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือด้านกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น
มุ่งสู่ปี ค.ศ. ๒๐๓๐ และ (๖)
ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๔
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างเอกสารดังกล่าว โดยร่างเอกสารทั้ง
๖ ฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์
และการมีส่วนรร่วมในประชาคมอาเซียนต่อการพัฒนากีฬาในภูมิภาคอาเซียน โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนถ้อยคำในร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้
ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา
ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า หากมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในการดำเนินการตามร่างเอกสารทั้ง ๖ ฉบับดังกล่าว ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อขอตั้งงบประมาณประจำปีตามความจำเป็น นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาควรขยายความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีศักยภาพด้านกีฬา รวมทั้งผลักดันให้มีการจัดกิจกรรมกีฬาในระดับนานาชาติให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3151 | การพิจารณารับรองวัดคาทอลิก ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 | วธ. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก จำนวน ๔๑ วัด
เป็นวัดคาทอลิกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่า ๑) ควรพิจารณาจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
(Universal Design
: UD) อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และปลอดภัย ให้ครบทั้ง ๕ ด้าน
ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ และบริการข้อมูล
เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง สามารถประกอบศาสนกิจ
และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในวัดคาทอลิกได้อย่างสะดวกถ้วนหน้า
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจพิจารณาจัดกิจกรรมยกย่อง เชิดชูเกียรติองค์กรศาสนาที่มีผลงานดีเด่นในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่องค์กร บุคลากร และผู้ร่วมปฏิบัติงานให้แก่องค์กรศาสนานั้น
ๆ พร้อมทั้งมีการยกย่ององค์กรศาสนาต้นแบบที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่องค์กรศาสนาอื่น
ๆ ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมหรือให้การสนับสนุนด้านสังคม เช่น
การจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประจำชุมชน เป็นต้น ๒) ควรให้มีรั้วแสดงขอบเขตของวัดคาทอลิกและโรงเรียนในระบบออกจากกันอย่างชัดเจน
โดยขนาดที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนที่เหลืออยู่จะต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบฯ
พร้อมทั้งให้โรงเรียนในระบบดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้งและขอเปลี่ยนแปลงขนาดที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนในระบบต่อผู้อนุญาตที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี หรือดำเนินการอย่างอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนกำหนดต่อไป
และ ๓) กรณีการถือครองที่ดินว่า
ถึงแม้วัดคาทอลิกจะได้รับความเห็นชอบในการจัดตั้งตามมติคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกโดยชอบแล้ว
แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งของวัดคาทอลิกด้วยประการใด ๆ
ก็ตามซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นใหม่นั้น
วัดคาทอลิกจำเป็นที่จะต้องมีการยื่นขอความเห็นชอบดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกตามระเบียบฯ
อีกครั้งหนึ่ง
รวมทั้งเห็นควรเชิญผู้แทนกรมป่าไม้เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการฯ
เพื่อร่วมตรวจสอบที่ดินอันเป็นที่ตั้งของวัดคาทอลิกซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจทับซ้อนกับพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้เกิดความชัดเจนและรัดกุมต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3152 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | มท. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลพลูตาหลวง
อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
แปลง “ที่เลี้ยงสัตว์เขาบายสี” บางส่วนในท้องที่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ
จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ประมาณ ๙๕ ไร่ เพื่อให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาวิชาชีพตรวจสอบของประเทศ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3153 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน
จากกิโลเมตรที่ ๑๙๗.๗๐๐ ในท้องที่ตำบลบางเลน
อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ถึงกิโลเมตรที่ ๒๒๙.๕๐o ในท้องที่ตำบลวัดสำโรง
และตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3154 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าก่อสร้างโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช | ศธ. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเปลี่ยนแปลงรายการอาคารเรียนดังกล่าว
เป็น รายการอาคารเรียน ๓๒๔ ล./๕๕-ข (ในเขตแผ่นดินไหว) โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช
ตำบลหนองหงส์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ๑ หลัง ในวงเงิน ๒๔,๘๙๙,๐๐๐ บาท
และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-พ.ศ. ๒๕๖๗
เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-พ.ศ. ๒๕๖๘
โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๕,๗๒๙,๔๐๐ บาท ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี
ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๔๐๒.๕/ว ๑๓๘ ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม
๒๕๖๖ ส่วนที่เหลือ จำนวน ๑๙,๑๖๙,๖๐๐
บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๘ ทั้งนี้
การดำเนินการก่อสร้างรายการดังกล่าว
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3155 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567) | ปสส. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖
ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๗
มกราคม ๒๕๖๗ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๙
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3156 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘
เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณให้ความสำคัญกับการนำนโยบายรัฐบาลมากำหนดเป็นจุดเน้นที่ต้องดำเนินการในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ และใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนงาน/โครงการ ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๗ ประกอบด้วย นโยบายหลัก ๔ กลุ่ม ได้แก่
การสร้างรายได้ การลดรายจ่าย การขยายโอกาส และการบริหารแผ่นดิน นโยบายรอง ๔๓
เรื่อง นโยบายย่อย ๑๔๒ ประเด็น โดยให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามกรอบเวลา ๕ ระยะ
ได้แก่ ๑) ระยะสั้น ๒) ระยะสั้น-ระยะกลาง ๓) ระยะกลาง ๔)ระยะกลาง-ระยะยาว ๕)
ระยะยาว และเพื่อให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดสามารถจัดทำข้อเสนอโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
สอดคล้องกับข้อเสนอการกระจายอำนาจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานเชิงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3157 | ขอความเห็นชอบการจัดทำสัญญากิจกรรมภายหลังการรับรองสถานี (Contract for Post-Certification Activities) สำหรับสถานีเฝ้าตรวจนิวไคลด์กัมมันตรังสี (RN65) | อว. | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติในฐานะหน่วยประสานงานหลักระดับชาติ
ตอบรับการจัดทำสัญญากิจกรรมภายหลังการรับรองสถานี (Contract
for Post-Certification Activities : PCA Contract) สำหรับสถานีเฝ้าตรวจนิวไคลด์กัมมันตรังสี
(Radionuclide Monitoring Station : RN65) กับคณะกรรมาธิการเตรียมการสำหรับองค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
และเห็นชอบให้เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญาฯ
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ) รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติในฐานะหน่วยประสานงานหลักระดับชาติควรพิจารณาและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมในภาคผนวกสำหรับ
THX65 และ PS41 อย่างรอบคอบ
เพื่อลดโอกาสในการเกิดข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาในอนาคต ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3158 | วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 16/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน
๓,๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับงบประมาณรายจ่ายลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3159 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวสุดท้าย ชัยจันทึก) | กค. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวสุดท้าย ชัยจันทึก ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกอง [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน
(วิชาการบัญชี) สูง] กองตรวจสอบภาครัฐ กรมบัญชีกลาง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบบัญชี (นักบัญชีทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง
กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3160 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา) | สธ. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์เชี่ยวชาญ) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์
(นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๔
กันยายน ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|