ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 159 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 3161 - 3180 จากข้อมูลทั้งหมด 124448 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3161 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (1. นายเกรียงไกร เจริญผล ฯลฯ จำนวน 4 คน) | กษ. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
จำนวน ๔ คน เพื่อแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒
เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายเกรียงไกร เจริญผล ๒. นายวีรวัฒน์ ยมจินดา ๓. นางสุภาวดี สุวรรณประทีป ๔. นางสำเริง แสงภู่วงค์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3162 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (1. นายเสรี นนทสูติ ฯลฯ รวม 4 คน) | พณ. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
รวม ๔ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ เมษายน ๒๕๖๗)เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ดังนี้ ๑. นายเสรี นนทสูติ ประธานกรรมการ ๒. นายกฤษณ์ กระแสเวส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางสาวนพรัตน์ มุณีรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. ศาสตราจารย์ปาริชาต สถาปิตานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3163 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (พันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี) | กค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านกฎหมาย) ในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ตนได้รับแต่งตั้งแทน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3164 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย) | ปปง. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3165 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางจิติธาดา ธนะโสภณ) | กค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางจิติธาดา ธนะโสภณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพสามิต
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต (นักวิชาการสรรพสามิตทรงคุณวุฒิ)
กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และเป็นวันที่ตำแหน่งว่างลงเนื่องจากผู้ครองตำแหน่งอยู่เดิมเกษียณอายุราชการ
ตามที่รัฐมนตรีว่าการการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3166 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางอารดา เฟื่องทอง และร้อยตรี จักรา ยอดมณี) | พณ. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นางอารดา เฟื่องทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3167 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ | สปสช. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
เห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3168 | รายงานผลการดำเนินการของสถาบันการเงินประชาชนประจำปี 2562 - 2565 | กค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการของสถาบันการเงินประชาชนประจำปี
๒๕๖๒-๒๕๖๕ ของคณะกรรมการพัฒนาระบบสถาบันการเงินประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๙
(๑๓) แห่งพระราชบัญญัติสถาบันการเงิน เนื่องจากมาตรา ๙ (๑๓) แห่งพระราชบัญญัติฯ
กำหนดให้คณะกรรมการฯ มีหน้าที่รายงานผลการดำเนินการของสถาบันฯ
ให้คณะรัฐมนตรีทราบอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในคราวต่อไป
ให้คณะกรรมการฯ จัดทำรายงานผลการดำเนินการดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละ ๑
ครั้ง และจากข้อมูลรายงานผลการดำเนินการของสถาบันฯ
นับตั้งแต่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติฯ (ปี ๒๕๖๒) จนถึงปี ๒๕๖๕ พบว่า
มีสถาบันฯ ที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วเพียง ๙ แห่ง เท่านั้น (จากองค์กรการเงินชุมชน
จำนวน ๓๐๙ แห่ง ที่ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์คุณสมบัติที่กฎหมายกำหนด)
ควรให้คณะกรรมการฯ
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามและประเมินผลการดำเนินการจัดตั้งสถาบันฯ
รวมทั้งรวบรวมปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของสถาบันฯ
พร้อมทั้งข้อเสนอแนะแนวทางและนโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบพร้อมกับการจัดทำรายงานผลการดำเนินการของสถาบันฯ
ประจำปีในคราวต่อไปด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3169 | ผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณ 2566 นโยบายของคณะกรรมการ โครงการและแผนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในอนาคต | คค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
นโยบายของคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (คณะกรรมการ รฟม.) โครงการและแผนงานของ
รฟม. ในอนาคต ตามมาตรา ๗๓ แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.
๒๕๔๓ สรุปได้ ดังนี้ (๑) รฟม. มีผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มีตัวอย่างการดำเนินการ
เช่น ๑)
ด้านพัฒนาบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่มเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทาง
พบว่า สายเฉลิมรัชมงคลมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยสะสม ๓๗๕,๖๕๘ คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ร้อยละ ๖๕.๖๒ (เป้าหมายเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๕๐) สายฉลองรัชธรรมมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยสะสม
๕๖,๔๐๕ คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ร้อยละ ๔๕.๓๗ (เป้าหมายเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๕๐) ๒) ด้านสร้างสรรค์ระบบโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีผลิตภาพสูงและล้ำสมัย
พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจในการใช้บริการรถไฟฟ้าของ รฟม. เฉลี่ยต่อปีในภาพรวม
ร้อยละ ๙๑.๕๒ (เป้าหมายร้อยละ ๗๕) แบ่งเป็น สายเฉลิมรัชมงคล
มีร้อยละความพึงพอใจเท่ากับ ๙๑.๗๑ (เป้าหมายร้อยละ ๘๕) และสายฉลองรัชธรรม มีร้อยละความพึงพอใจเท่ากับ
๙๑.๙๗ (เป้าหมายร้อยละ ๘๕) (๒) นโยบายของ คกก.รฟม. มีตัวอย่างนโยบาย เช่น ๑)
ให้บริการรถไฟฟ้าด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล
และนำระบบตั๋วร่วมและอัตราค่าโดยสารร่วมมาใช้ ๒)
ให้เร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายต่าง ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จเปิดบริการได้ตามแผนงาน
๓) ให้ศึกษาและพัฒนาระบบเชื่อมต่อ (Feeders) และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเชื่อมการเดินทางจากระบบรถไฟฟ้าฯ ไปยังจุดหมายต่าง ๆ และ (๓) โครงการและแผนงานของ รฟม. ในอนาคต โดยคณะกรรมการ
รฟม. ในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน.๒๕๖๖
ได้มีมติเห็นชอบผลการทบทวน/ปรับปรุงแผนวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๗ ฉบับปรับปรุงปีงบงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ และแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ และแผนระดับรอง
รวมทั้งนโยบายคณะกรรมการ รฟม. ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ รฟม.
ได้มีแผนดำเนินโครงการรถไฟฟ้าต่อเนื่องจำนวน ๙ เส้นทาง และดำเนินโครงการอื่น ๆ
อีกจำนวน ๒๘ โครงการ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ขององค์กรในด้านการให้บริการด้านการเงิน
และด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3170 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ. .... | สธ. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต
นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น มีความเห็นเพิ่มเติมในส่วนของร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๑๑
และข้อ ๑๒
ซึ่งกำหนดกรณีที่ไม่อาจพิจารณาได้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดอาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง
ครั้งละไม่เกิน ๓๐ วัน โดยการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการพิจารณาอนุญาตที่ใช้ระยะเวลามากหรือล่าช้าได้
ควรพิจารณาความจำเป็นในการกำหนดเงื่อนไขการขยายระยะเวลาให้มีความเหมาะสม
ไม่ก่อให้เกิดการดำเนินการที่ล่าช้าเกินสมควร อีกทั้งการกำหนดระยะเวลาการแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ขออนุญาตทราบ
ควรกำหนดระยะเวลาเป็นภายใน ๗ วัน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรา ๗ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และร่างข้อ ๙ วรรคหนึ่ง (๑) ควรแก้ไขถ้อยคำว่า “วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑”
เป็น “ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑”
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
เนื่องจากร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๑ ร่างข้อ ๑๑ วรรคหนึ่ง
กำหนดให้พิจารณาคำขอรับใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน ให้แก่ผู้ขออนุญาต
และสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๓๐ วัน
เห็นว่าระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลาที่พอสมควรที่ผู้มีอำนาจอนุญาตจะได้พิจารณาคำขอและอนุญาตให้แล้วเสร็จได้แต่มีข้อสังเกตว่าหากผู้มีอำนาจอนุญาตไม่สามารถพิจารณาคำขอให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนดจะมีมาตรการอย่างไรในระหว่างที่พิจารณาคำขอ
ควรกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าวด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3171 | การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม | รง. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม ลงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗
เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗
เป็นต้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3172 | ร่างกฎกระทรวงการว่ากล่าวตักเตือน การสั่งพักใช้หรือการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ พ.ศ. .... | สธ. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการว่ากล่าวตักเตือน
การสั่งพักใช้หรือการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการว่ากล่าวตักเตือน
การสั่งพักใช้หรือการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น ร่างกฎกระทรวง ข้อ ๒ วรรคสอง ควรกำหนดระยะเวลาแน่นอนที่จะให้ผู้รับอนุญาตปฏิบัติหรือแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง
เพื่อความชัดเจนและเพื่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ร่างกฎกระทรวง ข้อ ๔ (๓)
ควรเพิ่มเติมข้อความว่า “....หรือในกรณีพ้นกำหนดระยะเวลาที่ขอขยายตามข้อ ๓ แล้ว
ผู้รับอนุญาตไม่สามารถปฏิบัติหรือแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องในกรณีที่ต้องมีการแก้ไขปรับปรุง”
เพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตีความ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3173 | ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ พ.ศ. .... | ทส. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์
รวมทั้งอายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการดำเนินการบางประการควรมีความสอดคล้องกับพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕
และควรกำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับประสบการณ์
และความเชี่ยวชาญในการประกอบกิจการสวนสัตว์หรือการดูแลสัตว์ป่าให้เหมาะสมกับสัตว์แต่ละชนิด
แต่ละสายพันธุ์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3174 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงคมนาคม) | คค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง
ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๖ คณะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓ เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ๒. คณะกรรมการร่วมถาวรไทย-มาเลเซีย
ว่าด้วยการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ๓. คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๔. คณะกรรมการแทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศ ๕. คณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3175 | ข้อเสนอแนะกรณีร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน | สม. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะกรณีร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3176 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 | นร.07 | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๒ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงกรอบงบประมาณรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง
(Medium Term Expenditure
Framework : MTEF) ตามมติคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ
ในคราวการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๙ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณ
และการอนุมัติงบประมาณ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3177 | การแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 (ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. ....) | คค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข
๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑
นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๗ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันพุธที่ ๑๗
เมษายน ๒๕๖๗ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางบนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลดังกล่าว
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3178 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 11 | กค. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๑ (Joint Statement of the 11th ASEAN
Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๑ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๗ ณ เมืองหลวงพระบาง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในประเด็นทางด้านเศรษฐกิจและการเงินในเรื่องต่าง
ๆ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3179 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสาธารณรัฐเฮติ | กต. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสาธารณรัฐเฮติ
(ข้อมติ UNSC) ที่
๒๖๙๙ (ค.ศ. ๒๐๒๓) เกี่ยวกับสาธารณรัฐเฮติเพิ่มเติมจากข้อมติ UNSC ที่ ๒๖๕๓ (ค.ศ. ๒๐๒๒) จนกว่า UNSC จะรับรองข้อมติเพื่อเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญหรือยกเลิกมาตรการลงโทษกรณีสาธารณรัฐเฮติ
ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเมื่อมีการรับรองข้อมติที่เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกมาตรการลงโทษกรณีสาธารณรัฐเฮติต่อไป
และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติและปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการลงโทษต่อสาธารณรัฐเฮติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งแจ้งผลให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ เพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการดำเนินการตามข้อมติ UNSC ที่ ๒๖๙๙ (ค.ศ. ๒๐๒๓) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายภายในของไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องวิเคราะห์และติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานตามข้อมติฯ ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วน
ได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3180 | การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท | นร. | 02/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดการซื้อขายสินค้าในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงการคลัง [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์
อมรวิวัฒน์)] รับเรื่องนี้ไปดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติโดยด่วนเพื่อเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
(VAT) ให้ครอบคลุมถึงสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า ๑,๕๐๐ บาทด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
