ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 159 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3161 - 3180 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3161 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธนากร ดอนเหนือ ฯลฯ จำนวน ๙ ราย) | ศธ. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๙ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑. นายธนากร ดอนเหนือ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ๒. นายวรัท พฤกษาทวีกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายธนู ขวัญเดช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายชัยณรงค์ ป้องบ้านเรือ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายชาตรี ม่วงสว่าง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. ว่าที่ร้อยตรี เจษฎาภรณ์ พรหนองแสน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายชูสิน วรเดช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายธฤติ ประสานสอน ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๙. นายนิติ นาชิต ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3162 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวฉวี วงศประสิทธิพร) | นร.14 | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวฉวี วงศประสิทธิพร ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ (วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ) กองนโยบายและแผนแม่บท สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3163 | ขออนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง (1. นายขจร ศรีชวโนทัย ฯลฯ จำนวน 14 คน) | มท. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมีจำนวนเกินสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
และกรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง) ตามมาตรา
๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. ๒๕๐๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา ๖
วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง รวม ๑๔ คน เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
และมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายขจร ศรีชวโนทัย ประธานกรรมการ ๒. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ กรรมการ ๓. นายสนิท ขาวสอาด กรรมการ ๔. พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ กรรมการ ๕. นายกิตติพงษ์ ภิญโญตระกูล กรรมการ ๖. พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง กรรมการ ๗. ศาสตราจารย์วีรกร อ่องสกุล กรรมการ ๘. ศาสตราจารย์ธรรมรัตน์ คุตตะเทพ กรรมการ ๙. รองศาสตราจารย์รังสรรค์ วงศ์สรรค์ กรรมการ ๑๐. นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย กรรมการ ๑๑. รองศาสตราจารย์จิรพล สังข์โพธิ์ กรรมการ ๑๒. รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ๑๓. นายชยกฤต อัศวธิตานนท์ กรรมการ
๑๔. นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๑๒. รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ๑๓. นายชยกฤต อัศวธิตานนท์ กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3164 | ขออนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (1. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ฯลฯ รวม 14 คน) | มท. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีจำนวนเกินสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ กรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๖ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวม ๑๔ คน
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ประธานกรรมการ ๒. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ กรรมการ ๓. รองศาสตราจารย์ธีร เจียศิริพงษ์กุล กรรมการ ๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พงษ์ศักดิ์ กีรติวินทกร กรรมการ ๕. นายสุวิทย์ ธรณินทร์พานิช กรรมการ ๖. พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ กรรมการ ๗. นายกรณินทร์ กาญจโนมัย กรรมการ ๘. พลตำรวจโท สำราญ นวลมา กรรมการ ๙. นายเจษฎ์ โทณะวณิก กรรมการ ๑๐. นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ กรรมการ ๑๑.นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต กรรมการ ๑๒. ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช กรรมการ ๑๓. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดิลก ภิยโยทัย กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3165 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (1. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ฯลฯ จำนวน 8 ราย) | มท. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค
รวม ๘ คน
เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
และมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙
มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ประธานกรรมการ ๒. พลโท พิเชษฐ คงศรี กรรมการ ๓. นายเผ่าภัค ศิริสุข กรรมการ ๔. นางปาณิสรา ดวงสอดศรี กรรมการ ๕. พลอากาศตรี นิพนธ์
โพธิ์เจริญ กรรมการ ๖. นายปริญญา แสงสุวรรณ กรรมการ ๗. นายพีระพันธ์ เหมะรัต กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3166 | การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 มาตรา 4 (6) แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (นางเนตรนภิส สุชนวนิช) | พม. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางเนตรนภิส สุชนวนิช
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ
ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๔ (๖) แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
เนื่องจากถึงแก่กรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3167 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (1. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ฯลฯ รวม 14 คน) | มท. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการประปานครหลวงมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการและกรรมการอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้ว่าการการประปานครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๖ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง รวม ๑๔ คน
เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ประธานกรรมการ ๒. นายโชตินรินทร์ เกิดสม กรรมการ ๓. พลโท สุเมธ พรหมตรุษ กรรมการ ๔. นายชูชาติ รักจิตร กรรมการ ๕. นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ กรรมการ ๖. นายสนิท ขาวสอาด กรรมการ ๗. ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล กรรมการ ๘. นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย กรรมการ ๙. นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ กรรมการ ๑๐. พลตำรวจโท กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ กรรมการ ๑๑. รองศาสตราจารย์ชัยวัฒน์ อุตตมากร กรรมการ ๑๒. นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการ ๑๓. นายชัยทัต แซ่ตั้ง กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3168 | รายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน
ประจำเดือนเมษายน-กันยายน ๒๕๖๖ โดยมีผลการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ เช่น (๑)
การรายงานผลการลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทาน โดยกระทรวงมหาดไทยได้รายงานผลการลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทาน
(ข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖) มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๗,๐๘๐,๒๑๗ คน (๒)
การจัดกิจกรรมจิตอาสาของส่วนราชการต่าง ๆ (๒๐ หน่วยงาน) ประกอบด้วย จิตอาสาพัฒนา จิตอาสาภัยพิบัติ
จิตอาสาเฉพาะกิจ และวิทยากรจิตอาสา ๙๐๔ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๖๔,๙๐๔ คน (๓) การติดตามความก้าวหน้าโครงการในภารกิจของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
เช่น โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ อำเภอปากพะยูน
จังหวัดพัทลุง โดยสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ๑๐๕,๑๒๐ ลูกบาศก์เมตรต่อปี
และกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมโดยปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่ทะเล
๒๐๐,๐๐๐ ตัว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3169 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์และพัฒนาการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในรูปแบบประชาสังคมระดับจังหวัด และเรื่อง กลไกการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ : กรณีสภาประชาสังคมไทย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา | สว. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การศึกษาประวัติศาสตร์และพัฒนาการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในรูปแบบประชาสังคมระดับจังหวัด
และเรื่องกลไกการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ : กรณีสภาประชาสังคมไทย
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ ๒.
มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และสร้างความสามัคคีปรองดอง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน
๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3170 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 | คค. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. .... ) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก
พ.ศ. ๒๕๒๒ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๔)
ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยแก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดเอกสารและหลักฐานที่ใช้สำหรับการขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
เพื่อเป็นการลดภาระและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับหรือขอต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อให้สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3171 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 | นร.04 | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ ณ จังหวัดระนอง
และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต
ระนอง และสตูล) ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3172 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการพัฒนาและการส่งเสริมการดำเนินงานด้านหม่อนไหม ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สว. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง แนวทางการพัฒนาและการส่งเสริมการดำเนินงานด้านหม่อนไหม
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
วุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3173 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหายาเสพติดในมิติด้านความมั่นคง ของคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา | สว. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ปัญหายาเสพติดในมิติด้านความมั่นคง ของคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ
วุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
๒. มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม
(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงศึกษาธิการ (สถานศึกษา) กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน
ก.พ.ร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3174 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.)” ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา | สว. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย
(ศส.ปชต.)” ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ ๒.
มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3175 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี) | นร.04 | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๖/๒๕๖๗ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3176 | ข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการถอนข้อสงวนข้อ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก | สม. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการถอนข้อสงวนข้อ ๒๒
ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3177 | ขอขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 | ดศ. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. ๒๕๖๒ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3178 | การจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ วาระ ๑
ในระหว่างวันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี
โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงาน
ถึงแม้ว่าการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ดังกล่าว รัฐบาลมีเวลาเตรียมการในเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย ดังนั้น
ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินการนั้น
ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการนำนโยบายของรัฐบาลมากำหนดเป็นจุดเน้นที่ต้องดำเนินการและใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนงาน/โครงการรองรับต่อไป
โดยพิจารณากำหนดสัดส่วนงบประมาณที่สะท้อนถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลให้ชัดเจน
กำหนดตัวชี้วัดในการดำเนินแผนงาน/โครงการที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมและในกรณีจะเพิ่มหรือลดงบประมาณในรายการใดก็ต้องมีเหตุผลและความจำเป็นที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนด้วย
โดยขอให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลักในการหารือและประสานงานกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามแนวทางดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้
ให้แต่ละกระทรวงส่งแผนการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลของแต่ละกระทรวงไปยังสำนักงบประมาณ
เพื่อประกอบการพิจารณาการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณดังกล่าวข้างต้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3179 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการปรึกษาหารือทางการเมืองระหว่างกระทรวงการต่างประเทศเเห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน | กต. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการปรึกษาหารือทางการเมืองระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน
และอนุมัติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการปรึกษาหรือทางการมืองระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าโดยปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างการเจรจาเปิดตลาดสินค้าทวิภาคีกับอาเซอร์ไบจานภายใต้กระบวนการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก
(WTO) ของอาเซอร์ไบจาน
จึงอาจใช้เวทีดังกล่าวผลักดันประเด็นที่ไทยและสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานมีผลประโยชน์ร่วมกัน
และในอนาคตอาจพิจารณาขยายประเด็นการหารือให้ครอบคลุมประเด็นความมั่นคงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันหรือข้อห่วงกังวลของทั้งสองฝ่าย
เช่น ประเด็นการต่อต้านการก่อการร้ายและแนวคิดรุนแรงสุดโต่ง อาชญากรรมข้ามชาติ
ความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น รวมทั้งควรวิเคราะห์และติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3180 | การเร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง
และการประปาส่วนภูมิภาค ได้ผ่อนปรนให้ประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวซึ่งออกให้กับที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างขึ้นในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต
รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐสามารถขอใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาได้ในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวในระยะยาว
ซึ่งบางส่วนไม่มีสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาใช้มาเป็นเวลานานมากแล้ว จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
(สคทช.) ดำเนินการ ดังนี้ ๑.
เร่งรัดการดำเนินการขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ เมษายน
๒๕๔๖ (เรื่อง
การออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย)
รวมทั้งเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐมาก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในวันนี้สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน
โดยให้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการนำร่องก่อนเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน
และให้ สคทช. รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๑ เดือน ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับ สคทช. ในการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นตามหน้าที่และอำนาจด้วย ๒.
เร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ภายใน ๑ ปี ทั้งนี้ ให้ สคทช.
รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|