ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 155 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3081 - 3100 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3081 | การขอก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของกระทรวงมหาดไทย | มท. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย
จำนวน ๔ โครงการ ได้แก่ (๑) โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับกองทัพบก
ในการจัดหาอากาศยานปีกหมุน (Helicopter) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสาธารณภัย (ระยะที่ ๔) จำนวน ๑ ลำ (๒)
โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค
สาขาสมุทรสาคร-นครปฐม ระยะที่ ๑ ส่วนที่ ๑-๒ อำเภอเมืองสมุทรสาคร-กระทุ่มแบน-บ้านแพ้ว
จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอเมืองนครปฐม นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อำเภอโพธาราม-บางแพ
จังหวัดราชบุรี (๓) โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเกาะสมุย
ระยะที่ ๒ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (๔) โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน
กรุงเทพมหานคร และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง วงเงินรวมทั้งสิ้น ๕,๖๑๘.๗๖ ล้านบาท และให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงบประมาณ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีคุณลักษณะเฉพาะ ประมาณการหรือผลการสอบราคา รายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด
การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งให้นำความเห็นของคณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเล
ที่พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของโครงการด้านการกัดเซาะชายฝั่งทะเล มาประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3082 | การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ แผนและขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3083 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 24 | กต. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป
(ASEAN-EU Ministerial Meeting-AEMM) ครั้งที่ ๒๔ มีสาระสำคัญเพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์
และส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างยั่งยืน
การเพิ่มพูนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้าการลงทุน
การจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปกับอาเซียน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การส่งเสริมความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางไซเบอร์
รวมถึงการแสดงท่าทีร่วมกันในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานภายใต้ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3084 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน | สผผ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๗๘๒,๕๓๐,๗๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3085 | การเร่งรัดการเสนอร่างกฎหมายเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล | นร. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง
การเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล)
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) กำกับและติดตามให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ในความรับผิดชอบต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
เพื่อให้การพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ
ของคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา นั้น
ขณะนี้การเสนอร่างกฎหมายของส่วนราชการต่าง ๆ ยังมีความล่าช้าอยู่มาก จึงขอให้รัฐมนตรีทุกท่านเร่งรัดติดตามให้ส่วนราชการในความรับผิดชอบดำเนินการเสนอร่างกฎหมายต่าง
ๆ ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3086 | กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ | สอวช. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ รวมทั้งระบบการจัดสรร และบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์
สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑๐๘,๑๔๙,๗๒๗,๓๐๐ บาท และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๔๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท นั้น
สำนักงบประมาณจะพิจารณาตามประมาณการรายรับและฐานะการคลังของประเทศ
โดยคำนึงถึงภารกิจและความจำเป็นในการดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ และนโยบายสำคัญของรัฐบาล
รวมทั้งการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโดยผ่านกลไกของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐ
ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3087 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (นายอัครุตม์ สนธยานนท์ และนายธะเรศ โปษยานนท์) | กค. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์
รวม ๒ คน
เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งตนแทน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ประธานกรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3088 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง | ลต. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๔,๗๐๙,๑๓๑,๑๐๐ บาท และคำของบประมาณของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
วงเงิน ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3089 | คำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสถาบันพระปกเกล้า | พป. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ของสถาบันพระปกเกล้า
จำนวน ๘๘๘,๒๙๘,๕๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สถาบันพระปกเกล้ารับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3090 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายพีระพันธุ์
สาลีรัฐวิภาค) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3091 | การสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย | นร. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลไทยร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย
หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน
ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ
จากสาธารณรัฐอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ
ในระหว่างวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์-๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗
โดยจะจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุฯ ในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
และจัดริ้วขบวน เจริญพระพุทธมนต์ เจริญภาวนา
รวมถึงเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เช่น การจัดนิทรรศการ สารคดี
หนังสือองค์ความรู้ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และให้ประชาชนเข้าร่วมสักการบูชาได้ถึงวันที่
๓ มีนาคม ๒๕๖๗ จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาค ใน ๓ จังหวัด ได้แก่
ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ ๕-๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ วัดมหาวนาราม
(วัดป่าใหญ่) จังหวัดอุบลราชธานี และภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ
วัดมหาธาตุวชิรมงคล (บางโทง) จังหวัดกระบี่
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐร่วมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวให้แพร่หลายและทั่วถึง
และขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมกิจกรรมนี้อย่างพร้อมเพรียงกันด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3092 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม | ศย. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน ๓๖,๐๙๖,๘๒๓,๓๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3093 | ขอรับการสนับสนุนการจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดิน เพื่อจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปเป็นงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 | สขค | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ วงเงินรวม ๕๑๑.๗๐๕๗ ล้านบาท เพื่อบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการกำกับติดตามสถานการณ์การแข่งขันและพฤติกรรมการประกอบธุรกิจอย่างใกล้ชิด
ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรูปแบบธุรกิจและตลาด
โดยเฉพาะธุรกิจการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross-border e-Commerce) รวมถึงพัฒนาเครื่องมือตรวจจับพฤติกรรมการตกลงร่วมกันผูกขาด
ลด และจำกัดการแข่งขัน
เพื่อนำไปใช้กำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่เหมาะสมและเป็นธรรม
ตลอดจนควรประสานและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการและข้อมูลโครงสร้างตลาดที่มีผลกระทบต่อการกีดกันหรือจำกัดการแข่งขัน
กับหน่วยงานกำกับรายสาขาและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเป็นฐานข้อมูลด้านการแข่งขันของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3094 | การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สำหรับโครงการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ที่จัดซื้อในโครงการระยะที่ 3-4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2572 | กค. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงการคลัง สำหรับโครงการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ที่จัดซื้อในโครงการระยะที่
๓-๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๒ วงเงิน ๑,๖๖๓.๔๐๕ ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยควรคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด
การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3095 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | สม. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๔๘๐,๔๔๒,๘๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3096 | ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ในการดำเนินโครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ
ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ และโครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดยโสธร
พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ตำบลสำราญ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ของกระทรวงยุติธรรม
ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับสำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมคุ้มค่าของราคาก่อสร้างของทั้ง
๒ เรือนจำ โดยคำนึงถึงความจำเป็น ประโยชน์ใช้สอย และสอดคล้องกับขนาดของเรือนจำ
รวมทั้งให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงบประมาณ เช่น กรณีพื้นที่ดำเนินโครงการอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้
ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อนเข้าดำเนินการในพื้นที่
ให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการก่อสร้างเรือนจำ
จำนวน ๒ โครงการ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ สถานะการเงินการคลังของประเทศ และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ
๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด
ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างรายได้และโอกาสให้แก่ประชาชน
การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการภาครัฐหรืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3097 | ขออนุมัติตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมท่าอากาศยาน และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงคมนาคม ในการดำเนินโครงการของกรมทางหลวง
กรมทางหลวงชนบท กรมท่อากาศยาน และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๔๒ โครงการ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๙๑,๖๕๓.๓๐๕๓ ล้านบาท (ระยะเวลาดำเนินการ
ปี ๒๕๖๘-๒๕๗๕ โดยมีวงเงินที่จะขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
จำนวน ๑๕,๖๒๗.๙๔๑๑ ล้านบาท และให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ เช่น ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
เร่งจัดทำข้อเสนอโครงการและเสนอขออนุมัติตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยให้ความสำคัญกับการปรับปรุงแผนขับเคลื่อนกิจการเพื่อใช้ในการดำเนินงานตามแนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการ
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ให้เสร็จโดยเร็ว ให้กรมท่าอากาศยาน
พิจารณาปรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานชุมพรให้มีความสอดคล้องกับแผนการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง
รวมถึงประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดให้มีบริการขนส่งสาธารณะระหว่างท่าอากาศยานชุมพรกับแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่เศรษฐกิจ
และแหล่งชุมชนที่สำคัญ
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานชุมพรในปัจจุบัน ให้กรมทางหลวงประสานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3098 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | ปช. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จำนวน ๕,๗๔๙,๒๘๙,๑๐๐ บาท และกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จำนวน ๕๕๙,๗๓๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3099 | รายงานความก้าวหน้าโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ OKMD: OKMD National Knowledge Center (Ratchadamnoen Center 1 และ 2) และเสนอขอความเห็นชอบการเช่าพื้นที่อาคารกองสลากเดิมและอาคารว่างที่อยู่ติดกันเพื่อดำเนินโครงการฯ | นร.04 | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบความก้าวหน้าโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ OKMD : OKMD National Knowledge Center (Ratchadamnoen Center ๑ และ ๒) และให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน) ดำเนินการเช่าที่ดินแปลงหมายเลข ๖ เนื้อที่ ๒,๐๓๕.๕o ตารางวา และเช่าอาคารและที่ดินด้านหลัง
พื้นที่ใช้สอย ๖,๓๖๗.๔๖ ตารางเมตร จากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
เพื่อดำเนินโครงการฯ เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี มีวงเงินค่าเช่ารวมจำนวนทั้งสิ้น ๓,๔๐๗.๐๕๕ ล้านบาท โดยจะแบ่งชำระค่าเช่าออกเป็น ๓๓ งวด ประกอบด้วย
ระยะเวลาการก่อสร้างและปรับปรุง ๓ ปี และระยะเวลาการเช่า ๓๐ ปี
ตามเงื่อนไขการชำระค่าเช่าตามที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์กำหนด ตามที่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน) เสนอ ๒.
อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
และให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้โครงการเกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และแผนการจัดหารายได้เพื่อประกอบการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงตามสัญญา
หากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
มีเงินรายได้เพียงพอควรนำมาสมทบ เพื่อเป็นค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าว
และให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวช้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความจำเป็นและความเหมาะสม ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
และประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญด้วย และ
ควรกำหนดแนวทางและแผนการจัดหารายได้ในระยะยาวพร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
อาทิ การพัฒนารูปแบบทางธุรกิจใหม่ ๆ สำหรับการจัดหารายได้ขององค์การเพิ่มเติม
เพื่อนำมามีส่วนร่วมจ่ายและช่วยลดการพึ่งพิงภาระด้านงบประมาณของภาครัฐในระยะยาวต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3100 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นหน่วยรับงบประมาณ | มท. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า
(จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า) งบประมาณ ๑,๙๙๕.๔๓ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความประหยัด ภาระทางการคลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย และให้กระทรวงมหาดไทย
โดยเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ
๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด
ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างรายได้และโอกาสให้แก่ประชาชน
การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการภาครัฐหรืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ต่อไป
|