ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 19 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 361 - 380 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
361 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2553 | นร | 07/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ
และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ (กศส,) ครั้งที่ ๑ /๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๓ ๒. เห็นชอบผลการพิจารณาและมติของ กศส. รวม ๕ เรื่อง ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานของ กศส. เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจสร้าง สรรค์ของประเทศ การจัดทำกรอบแนวทางและหลักเกณฑ์ในการพิจารณากลั่นกรองโครงการ รวมทั้งการ กำหนดแนวทางและกระบวนการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการของหน่วยงาน ตามที่สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ และให้มีการหารือในรายละเอียดด้านการ จัดสรรเงินตามข้อสังเกตของกระทรวงการคลั งไปประกอบการจัดทำนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของประเทศ ๒.๒ ให้นายสัญญา สถิรบุตร เป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการบริหารสำนักงานเศรษฐกิจสร้าง สรรค์แห่งชาติ (กบศส.) แทนการเป็นรองประธานฯ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย ทำหน้าที่เป็น รองประธานฯ และให้ สศช. ในฐานะเลขานุการ กศส. หารือกับภาคเอกชนเพื่อสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิอีกหนึ่ง ท่าน ๒.๓ ให้ฝ่ายเลขานุการหารือกับประธาน กศส. พิจารณาปรับปรุงร่างระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ให้รอบคอบอีกครั้งก่อนนำส่งคณะกรรมการตรวจสอบ ร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา และดำเนินการต่อไป ๒.๔ เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมการจัดมหกรรมระดับระหว่างประเทศ เรื่อง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และคณะอนุกรรมการโครงการสร้างองค์ความรู้เพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Academy) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒.๕ ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกับภาคเอกชน เพื่อหาแหล่งเงินทุนในการสร้างภาพยนตร์ สั้น “สวัสดีประเทศไทย” เพื่อดำเนินการด้วยตนเอง และส่งเสริมให้ภาคเอกชนประสานกับรัฐวิสาหกิจที่ อาจมีความประสงค์จะให้ความสนับสนุนเงินทุนสร้างภาพยนตร์ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
362 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... | สธ | 30/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธ ศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้มีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ๑.๒ กำหนดให้จัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นหน่วยงานภายในกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ๑.๓ กำหนดงบประมาณที่ใช้ในกิจการการพัฒนางานด้านวัคซีน ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับ องค์ประกอบของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เห็นควรเพิ่มสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นกรรมการด้วยและควรเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวในเรื่องการประสานงานกับหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการใช้นโยบายพาณิชย์เชิงรุกเพื่อการผลิตและจำหน่ายวัคซีนให้แก่ประเทศต่าง ๆ ที่มีศักยภาพเป็นประเทศคู่ค้าด้วย สำหรับการจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นหน่วยงานภายในกรมควบคุมโรค ไม่ถือเป็นส่วนราชการที่เป็นกอง หรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากอง ตามมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๕ และการบริหารราชการต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการแผ่นดินฯ จึงไม่อาจกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ ไปประกอบการ พิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค) รับความเห็นของสำนักงบ ประมาณเกี่ยวกับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการบริหาร ให้สามารถนำเงินงบประมาณที่จัดสรรไว้ที่กรมควบคุม โรคและเงินที่ได้รับจากเงินนอกงบประมาณตามร่างข้อ ๒๐ และร่างข้อ ๒๑ มาใช้จ่ายได้โดยให้เบิกจ่ายในอัตรา ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
363 | การปรับปรุงระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 | นร | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะ รัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขระเบียบฯ ข้อ ๑๘ ข้อ ๒๔ และข้อ ๒๕ ที่ให้อำนาจหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ โดยเพิ่ม เงื่อนไขจำกัดอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในการโอนเปลี่ยนแปลงรายการ และรายละเอียด ของรายการงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรแล้ว ดังนี้ ๑. ระเบียบฯ ข้อ ๑๘ เพิ่มเงื่อนไขให้สำนักงบประมาณสามารถกำหนดหลักเกณฑ์ หรือวิธีปฏิบัติ เพื่อ กำหนดขอบเขตหรือข้อจำกัดของการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการในการจัดหาครุภัณฑ์ ที่ดินหรือ ๒. ระเบียบฯ ข้อ ๒๔ เพิ่มเงื่อนไขห้ามโอนงบประมาณออกจากงบบุคลากรไปตั้งจ่ายในงบรายจ่ายใดๆ และห้ามโอนจากรายการใดๆ ไปตั้งจ่ายเป็นค่าจัดหาครุภัณฑ์ยานพาหนะ เพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณที่จะ ตามมาในอนาคต ๓. ระเบียบฯ ข้อ ๒๕ เพิ่มเงื่อนไขการโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณภายใต้แผนงานเดียว กัน โดยห้ามมิให้นำเงินเหลือจ่ายที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ไปตั้งเป็นอัตราบุคลากรตั้งใหม่ ค่าใช้จ่ายใน การเดินทางไปราชการต่างประเทศที่ไม่ได้กำหนดไว้ในแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ค่าครุ ภัณฑ์ตั้งแต่ ๑ ล้านบาทขึ้นไป ค่าที่ดินหรือค่าสิ่งก่อสร้างตั้งแต่ ๑๐ ล้านบาทขึ้นไป และค่าจัดหาครุภัณฑ์ยาน พาหนะ ยกเว้นการจัดหาครุภัณฑ์ยานพาหนะเพื่อทดแทนของเดิมที่สูญหายหรือชำรุด เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบ ประมาณเหลือจ่ายมีขอบเขตจำกัดที่ชัดเจนและเหมาะสม และมิให้เป็นภาระงบประมาณในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||
364 | ขอยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) | กค | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือ หุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. ๒๕๐๔ โดยให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจอนุมัติการผ่อนผันให้ส่วน ราชการหรือรัฐวิสาหกิจได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบนี้ โดยเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ยกร่างขึ้นตามแนวทางที่กระทรวงการคลังเสนอดังกล่าว และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. เมื่อระเบียบตามข้อ ๑ มีผลใช้บังคับแล้ว ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่ง ประเทศไทย และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. ๒๕๐๔ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) เว้นแต่ในกรณีการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นที่ได้มาตามนโยบายของรัฐบาล หรือหุ้นในกิจการที่กระทรวงการคลังถือ ครองร่วมอยู่ด้วย จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังก่อนจึงจะดำเนินการได้
|
|||||||||||||||||||||
365 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ เพิ่มเติมหมวด ๓/๒ บำเหน็จตกทอด กำหนดให้กรณีที่ผู้รับบำเหน็จรายเดือน หรือผู้รับบำเหน็จพิเศษ รายเดือนถึงแก่ความตาย ให้จ่ายบำเหน็จตกทอดเป็นจำนวนสิบห้าเท่าของบำเหน็จรายเดือน หรือบำเหน็จพิเศษ รายเดือนแล้วแต่กรณีให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของผู้รับบำเหน็จราย เดือน หรือผู้รับบำเหน็จพิเศษรายเดือน โดยแบ่งจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิตามสัดส่วนของเงินมรดก โดยมิต้องกันส่วนเป็น สินสมรสก่อนแบ่ง เนื่องจากเงินดังกล่าวไม่ถือเป็นสินสมรส และกำหนดให้นำวิธีการในการยื่นเรื่องราวขอรับบำ เหน็จลูกจ้างตามข้อ ๒๐ มาใช้กับการยื่นเรื่องราวขอรับบำเหน็จตกทอด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ได้ ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อรองรับการปรับปรุงสิทธิให้แก่ทายาทรับบำเหน็จตกทอดในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบ กลาง รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ที่ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้แล้ว จำนวน ๙๖,๑๐๓ ล้านบาท ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
366 | การปรับปรุงแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม | นร | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมความในข้อ ๘ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนขององค์ประกอบคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จากเดิม “รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ” เป็น “รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ” ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้ตัดผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการออก และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบสาธารณภัยดำเนินไปในแนวทางเดียวกัน ให้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยเป็นผู้พิจารณาการให้ความช่วยเหลือ ส่วนกรณีการฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบสาธารณภัย ให้คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจเป็นผู้พิจารณา
|
|||||||||||||||||||||
367 | ร่างระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนเพื่อพัฒนา
การผลิตถั่วเหลือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบ ร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มี สาระสำคัญคือ แก้ไขระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง (ฉบับที่ ๑) พ.ศ. ๒๕๓๗ ดังนี้ ๑. กำหนดนิยามคำว่า “ภาคเอกชน” หมายความว่า สถาบันเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง สมาคมผู้ผลิต น้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ๒. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง ๓. กำหนดให้ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตรจัดทำบัญชีแสดงฐานะการเงิน และรายงานต่อ ประธานกรรมการเป็นประจำทุกเดือน ฯลฯ
|
|||||||||||||||||||||
368 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรข้าราชการ ซึ่ง มีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการ ตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดให้ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในประเทศที่ไม่มีสถานศึกษาที่ได้รับการรับรอง มาตรฐานการศึกษาจากสถาบันรับรองมาตรฐานสากลหรือเป็นประเทศหรือเมืองที่มีภาวะความเป็นอยู่ไม่ปกติ ตาม รายชื่อที่กระทรวงการคลังกำหนดให้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตร สำหรับบุตรที่ศึกษาในอยู่ในสถาน ศึกษานอกประเทศที่ข้าราชการผู้นั้นประจำการได้ ยกเว้นสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศไทย 1.2. กำหนดให้ส่วนราชการพิจารณาหากเห็นว่ามีเหตุผลความจำเป็นและสมควรให้ข้าราชการที่ประจำ การในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับเงินช่วย เหลือการศึกษาบุตร สำหรับบุตรที่ศึกษา ณ สถานศึกษาในประเทศที่ข้าราชการประจำการได้ตามระเบียบนี้ โดยให้ เสนอกระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติเป็นการเฉพาะราย 1.3 กำหนดให้อัตราการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตร กรณีตามข้อ 1.1 และ 1.2 ให้เบิกจ่ายได้ ในอัตราร้อยละห้าสิบของจำนวนที่จ่ายจริงตามที่สถานศึกษาเรียกเก็บ เฉพาะกรณีตามข้อ 1.2 ต้องไม่เกินอัตราร้อย ละห้าสิบของจำนวนเงินที่สถานศึกษาในประเทศที่ข้าราชการประจำการเรียกเก็บ 2. สำหรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการกำหนดให้ข้าราชการที่ประจำการในประเทศ หรือเมืองที่ไม่มีสถานศึกษาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและข้าราชการที่ประจำการอยู่ในประเทศที่มีภาวะความเป็น อยู่ไม่ปกติได้รับสิทธิ์เบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรในกรณีที่ส่งบุตรไปศึกษา ณ สถานศึกษานอกประเทศที่ประจำ การ โดยให้รวมถึงสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย และ ประเทศนิวซีแลนด์ โดยให้เบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรในอัตราร้อยละห้าสิบของจำนวนเงินที่จ่ายจริงตามที่สถาน ศึกษาในประเทศที่บุตรข้าราชการศึกษาอยู่เรียกเก็บอาจมีผลกระทบต่องบประมาณจึงให้เชิญผู้แทนสำนักงบประมาณ แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมชี้แจงในคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายฯ ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
369 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... | นร | 21/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... มี สาระสำคัญคือ ให้มีการจัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติเพื่อสนับสนุนทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตั้งแต่ การเริ่มต้นธุรกิจไปจนถึงการต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อขับเคลื่อนพันธ สัญญาข้อที่ 9 ของรัฐบาล และกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีอำนาจหน้าที่ใน การพิจารณาอนุมัติแผนงานและการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธี การในการบริหารเงินกองงทุน รวมถึงเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการที่ขอรับการสนับสนุนทุนหมุน เวียนจากกองทุนฯ เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตลอดจนติดตามและประเมินโครงการหรือกิจ กรรมที่ได้รับการอุดหนุน ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับร่างระเบียบฯ ความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดให้กองทุนฯ ประกอบด้วย เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้จาก งบประมาณรายจ่ายประจำปี และเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยให้สำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับร่างระเบียบฯ ไปพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติและกระทรวงการคลังในส่วนที่เกี่ยวกับการคงระดับของเงินกองทุนฯ โดยให้ คำนึงถึงภาระต่องบประมาณด้วย และเพื่อให้การพิจารณาจัดตั้งกองทุนฯ เป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการสร้างภาระด้านเงินงบประมาณในอนาคต เห็นควรจัดทำรายละเอียดตามแนวทางการจัด ตั้งเงินทุนหมุนเวียนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 โดยนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการ จัดตั้งทุนหมุนเวียนพิจารณาตามความเห็นกระทรวงการคลังต่อไป และความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควร มีการบริหารจัดการเงินกองทุนฯ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามวัตถุประสงค์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการ ประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุนฯ ด้วย ไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับคณะกรรมการ นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติและกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งร่างระเบียบฯ ให้คณะกรรมการ ตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. เมื่อร่างระเบียบฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับแล้ว ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์เร่ง ดำเนินการจัดทำระเบียบการใช้จ่ายเงินและการเก็บรักษาเงินของกองทุนฯ เพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาภาย หลังจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 มีผลใช้บังคับแล้ว ตามความเห็น ของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
370 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. .... | กค | 14/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ปรับปรุงการบริหารทรัพยากรบุคคลของลูกจ้างประจำ ระบบวินัย อุทธรณ์และร้องทุกข์ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นธรรม ตลอดจนสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ของลูกจ้างประจำเพื่อให้การบริหารทรัพยากรบุคคลของลูกจ้างประจำ เป็นไปอย่างคล่องตัว และสอดคล้องกับแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลของข้าราชการพลเรือน เกิดผลสัมฤทธิ์ ต่อภารกิจของรัฐ เพิ่มพูนประสิทธิภาพและสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติราชการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และ ให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา 2. ให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความหมายของคำว่า "ลูกจ้างประจำ" ที่กำหนดไว้ใน ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. .... ไม่สอดคล้องกับความหมายของคำว่า "ลูก จ้างประจำ" ในระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้างประจำ พ.ศ. 2519 ที่ระบุให้รวมถึงลูกจ้างประจำที่ ได้รับค่าจ้างจากเงินทุนไปรษณีย์ด้วย และไม่รวมถึงลูกจ้างประจำที่มีสัญญาจ้าง และลูกจ้างที่จ้างให้ปฏิบัติงานของ ส่วนราชการในต่างประเทศ จึงควรกำหนดความหมายให้ชัดเจนและควรมีความหมายเดียวเพื่อการพิจารณาให้เกิด ความเป็นธรรมแก่ลูกจ้างประจำของทุกหน่วยงาน ประกอบกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลัง คนภาครัฐและแนวทางการจ้างงานภาครัฐแนวใหม่จะส่งผลให้ลูกจ้างประจำของส่วนราชการมีจำนวนลดลงอย่างต่อ เนื่องทุกปี ดังนั้น การดำเนินการตามร่างระเบียบฯ ในหมวด 9 เรื่องการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ที่กำหนดให้มีคณะ กรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ เพื่อทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการกลางในการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องอุทธรณ์ร้องทุกข์ ของลูกจ้างประจำ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีคณะเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ และมีการจัดตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินการดัง กล่าว อาจก่อให้เกิดความไม่คุ้มค่า รวมทั้งเป็นภาระผูกพันของงบประมาณค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ไปประกอบการ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
371 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. .... | มท | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหน้าที่และองค์กรรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทาง และมาตรการ รวมทั้งการปฏิบัติการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดความสูญเสียชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนน ตามที่ ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ และส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา 2. ให้รับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการ ที่เห็นควรเพิ่มผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรม การส่งเสริมการศึกษาเอกชน ผู้บังคับการกองพัฒนาการจราจรและบริการประชาชน สำนักงานตำรวจแห่ง ชาติ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นคณะกรรม การของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเพื่อรับทราบสถิติข้อมูลด้านการจราจร เพื่อการวางแผน การ วิจัยป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
372 | ร่างระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... | ศธ | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ตำแหน่งนิติกร ซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษจากลักษณะ ของงาน ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา 2. ให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง ที่มีเหตุพิเศษของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ตำแหน่งนิติกร เป็นมาตรฐานเดียวกับ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ก.ค.ศ. ควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การคัดเลือกและการกำหนดคุณสมบัติ ของผู้ที่จะได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกรให้สอดคล้องตามที่ ก.พ. ได้กำหนดไว้ด้วย ไป ประกอบการพิจารณาด้วย 3. งบประมาณที่คาดว่าจะต้องใช้ในระยะต้นของการบังคับใช้ระเบียบนี้ เป็นเงินจำนวน 15.102 ล้านบาท ต่อปี ให้กระทรวงศึกษาธิการใช้จ่ายจากงบบุคลากรของหน่วยงานต้นสังกัด คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน สำหรับในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
373 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสมนาคุณกรรมการสอบสวนทางวินัยข้าราชการ พ.ศ. 2536 พ.ศ. .... | กค | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการจ่ายเงินสมนาคุณกรรมการสอบสวนทางวินัยข้าราชการ พ.ศ. 2536 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสมนาคุณกรรมการสอบสวนทางวินัยข้าราช การ พ.ศ. 2536 2. กรณีที่ได้มีการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเงินสมนาคุณกรรมการสอบสวน ทางวินัยข้าราชการ พ.ศ. 2536 ก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ หรืออยู่ระหว่างการเบิกจ่าย และยังมิได้จ่าย เงินสมนาคุณ ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และอัตราของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่าย เงินสมนาคุณกรรมการสอบสวนทางวินัยข้าราชการ พ.ศ. 2536 และหรือตามที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการ คลัง
|
|||||||||||||||||||||
374 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงิน
เดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ข้าราชการผู้ดำรง ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการที่ดำรงตำแหน่งในระดับชำนาญการพิเศษ หลังวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ได้รับค่าตอบแทนรายเดือนอัตราเดือนละ 3,500 บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
375 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้ตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้ตรวจ
พิสูจน์ยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎ หมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1. ยกเลิกความในข้อ 6 ของระเบียบฯ และกำหนดเป็น "การขอรับเงินค่าตอบแทนตามข้อ 5 ให้ผู้ตรวจ พิสูจน์ในสังกัดของสำนักงาน ป.ป.ส. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นแบบขอรับเงินค่า ตอบแทนตามแบบท้ายระเบียบพร้อมแนบหนังสือการนำส่งของกลางมาตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานนำส่งตรวจพิสูจน์ และสำเนารายงานผลการตรวจคุณภาพวิเคราะห์และหรือปริมาณวิเคราะห์แล้วแต่กรณี โดยให้ยื่นต่อหัวหน้าส่วนราช การเจ้าของงบประมาณหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้รับแบบขอรับเงินค่าตอบแทนและอนุมัติการเบิกจ่าย" 2. ยกเลิกความในข้อ 7 ของระเบียบฯ และกำหนดเป็น "ให้ส่วนราชการผู้เบิกส่งคำขอเบิกเงินซึ่งตรวจสอบ ถูกต้องแล้ว โดยให้บันทึกรหัสงบประมาณแหล่งของเงินและกิจกรรมหลักมายังกรมบัญชีกลาง สำนักงานคลังจังหวัด สำหรับแบบขอรับเงินค่าตอบแทนให้เก็บไว้ที่ส่วนราชการเพื่อให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ"
|
|||||||||||||||||||||
376 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ติดตามคนหายและระบบพิสูจน์ศพนิรนาม พ.ศ. .... | ยธ | 03/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ติดตามคนหายและระบบพิสูจน์ศพนิรนาม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดแนวทางสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ติดตามคนหายและระบบพิสูจน์ศพนิรนาม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยไม่ให้มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ 2. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 2.1 การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม นั้น อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง ในการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมทั้งมีหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ มีกลไกการทำงานและระเบียบต่าง ๆ รองรับอยู่แล้ว 2.2 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นเพียงหน่วยงานทางวิชาการหรือปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับคำร้องขอ จึงควรมีสถานะเป็นหน่วยงานเสริมการทำงานให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการมีระเบียบดังกล่าวย่อมทำให้กลไกการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกอยู่ภายใต้การควบคุม กำกับติดตาม และสั่งการของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้อง เหมาะสม ในระบบการบริหารราชการที่หน่วยงานหนึ่งจะเข้ามาควบคุมกำกับติดตามและสั่งการข้ามหน่วยงาน 2.3 ในการจัดตั้งศูนย์ติดตามคนหายและระบบพิสูจน์ศพนิรนามเป็นการจัดตั้งหน่วยงานที่กำหนดภารกิจซ้ำซ้อนกับการปฏิบัติงานในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2.4 การดำเนินการเกี่ยวกับการพบศพนิรนาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หากจะกำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินการส่งศพหรือชิ้นส่วนอวัยวะและข้อมูลต่าง ๆ ให้ศูนย์ฯ ถือเป็นการขัดต่อระบบกระบวนการยุติธรรม 2.5 ร่างระเบียบฯ นี้ กำหนดขึ้นเพื่อการปฏิบัติงานภายในกระทรวงยุติธรรม โดยไม่มีหลักเกณฑ์ข้อใดที่กำหนดถึงหน้าที่และการควบคุมการปฏิบัติงานของศูนย์ฯ และหากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ประสงค์ให้มีระบบงานภายในอำนาจหน้าที่ของตนควรจะเป็นเพียงการวางระเบียบปฏิบัติภายในสถาบันเพื่อให้การทำงานมีลักษณะเสริมการปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เป็นหน่วยงานหลักอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หรือเป็นการทำงานเชิงคู่ขนานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ |
|||||||||||||||||||||
377 | ร่างแผนแม่บทสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม พ.ศ. 2553 - 2557 และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | สสส. | 28/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างแผนแม่บทสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม พ.ศ. 2553-2557 และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานภายในกอง ทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกำหนดให้มีคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ กำหนด วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งการกำหนดให้นำกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการสร้าง ฃเสริมสุขภาพ ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมาใช้กับการบริหาร สำนักงานฯ โดยอนุโลม และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรสร้างความชัดเจนในบทบาทภาครัฐทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัดเกี่ยวกับการส่งเสริมความเข้าใจและการ จัดโครงสร้างสิ่งจูงใจให้เป็นระบบ รวมทั้งโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนที่หลากหลายเพื่อให้สามารถกระตุ้นและผลัก ดันให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในกิจการเพื่อสังคมอย่างกว้างขวาง เชื่อมโยงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และ วัฒนธรรมอย่างสมดุล และควรจัดลำดับความสำคัญของประเภทและกิจการเพื่อสังคมที่จะให้การส่งเสริมให้เชื่อม โยงกับโครงสร้างสิ่งจูงใจ เน้นการต่อยอดขยายผลกิจการที่ดำเนินการอยู่แล้วที่มีผลกระทบต่อกลุ่มคนในวงกว้าง ควบคู่กับการกระตุ้นการลงทุนจากผู้ประกอบการรายใหญ่ผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ ควรมีการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติถึงความคุ้มค่าและประสิทธิ ภาพในการดำเนินงาน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ 3. เห็นชอบแนวทางการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
378 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยระบบการประเมินผลและการจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ พ.ศ. .... | นร | 28/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยระบบการประเมินผล
และการจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงบประมาณ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
379 | การแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ [จำนวน 9 ราย ดร. กิตติพงษ์ ฯลฯ] | ยธ | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการอิสระตรวจ
สอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ" ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่ คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกินแปดคนที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคล ที่มีประสบการณ์ บทบาทและความรู้ ความเข้าใจหลักการและแนวทางเกี่ยวกับการตรวจสอบและค้นหาความจริง และการปรองดอง โดยให้คำนึงถึงความหลากหลายของสาขาวิชา เป็นกรรมการ รวมทั้งกำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรม การ ตามที่ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับ ความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรกำหนดให้ประธานกรรมการเป็นผู้แต่งตั้ง 2. ในการจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และสาธารณชน เห็นว่า การจัดทำ รายงานต่อคณะรัฐมนตรีและสาธารณชนก็น่าจะเพียงพอต่อการรับทราบโดยทั่วกันโดยไม่ต้องรายงานไปยังรัฐสภา และเพื่อให้มีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ เป็นระยะ สมควรกำหนดให้มีการจัดทำ รายงานต่อคณะรัฐมนตรีและสาธารณชนทุกรอบ 6 เดือน ไว้ในร่างระเบียบฯ ด้วย 3. สำนักงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้น มิ ได้จัดตั้งเป็นหน่วยงานของรัฐหรือส่วนราชการ ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 การจัดสรรงบ ประมาณจึงอาจทำให้มีปัญหาในเรื่องการเสนอและจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรม การฯ สมควรกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอิสระฯ อยู่ภายในสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม 4. กำหนดให้สำนักงานกิจการยุติธรรมเป็นผู้จัดทำงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรม การฯ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
|
|||||||||||||||||||||
380 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 29/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้คงหลักการของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 (เรื่อง การบริหาร
โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555) ที่ให้นำเงินเหลือจ่ายมาจัดสรรใหม่ได้โดยไม่ต้องส่งคืนคลังและ ให้สามารถจัดสรรเงินคงเหลือและเงินเหลือจ่ายให้แก่กระทรวงหรือหน่วยงานอื่น ซึ่งมิใช่เจ้าของโครงการเดิมได้ด้วย ไว้ตามเดิม โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาร่าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้สอคดล้องกับหลักการของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....