ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 303 จากทั้งหมด 567 หน้า แสดงรายการที่ 6041 - 6060 จากข้อมูลทั้งหมด 11338 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6041 | โครงการฟอนต์มาตรฐานราชการไทย | ทก | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยดำเนินการติดตั้งฟอนต์สารบรรณและฟอนต์
อื่น ๆ ทั้งหมด จำนวน 13 ฟอนต์ ของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ กรมทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเข้าไปในระบบปฏิบัติการ Thai OS (Thai Operating System) และใช้ฟอนต์ดังกล่าว แทนฟอนต์เดิม ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของ สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) ที่เห็นควรให้จัดพิมพ์ตัวเลขเป็นเลขไทย เพื่อเป็นการ ส่งเสริมการใช้เลขไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรี ที่ นร 0205/ว 62 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2543 เรื่อง การดูแลกำชับให้หน่วยราชการทุกแห่งใช้ เลขศักราชเป็นเลขปีพุทธศักราชในกิจกรรมทุกด้านของหน่วยราชการไปพิจารณา ทั้งนี้ หากหน่วยงานใดประสบ ปัญหาอุปสรรคในการใช้งานตามโครงการฟอนต์มาตรฐานราชการไทยให้รายงานคณะรัฐมนตรีด้วย |
|||||||||||||||||||||
6042 | การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ | พณ | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอว่าเพื่อให้การศึกษาและพิจารณาแนวทางและการบูรณาการ ในการกำหนดกรอบแนวทางการประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติที่เหมาะสม เป็นรูปธรรม และมี ประสิทธิภาพตามมติคณะรัฐมนตรีจึงเห็นควรแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางการประกันภัยพืชผล อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานกรรมการ และ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (นางจินตนา ชัยยวรรณาการ) เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ศึกษา แนวทางการประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ เพื่อกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม รายงานผลการดำเนินการ และจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี 2. เห็นชอบให้เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางการประกันภัยพืชผลอัน เนื่องมาจากภัยธรรมชาติ โดยให้มีผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม และมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการฯ) รับไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
6043 | การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (ยกเลิกโดยมติ 27709/54) | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงาน รวมทั้งการขอจัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐในสังกัดฝ่ายบริหาร (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจ) เพิ่มใหม่ออกไปอีกระยะหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ 2. คณะรัฐมนตรีเห็นว่าสำนักงาน ก.พ.ร. ควรประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอให้ส่งแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน การขอขยายหน่วยงาน หรือจัดตั้งหน่วยงานใหม่ รวมทั้งการจัดตั้งองค์การมหาชนของรัฐเพื่อจะได้พิจารณาภาพรวม
|
|||||||||||||||||||||
6044 | รายงานความคืบหน้าการทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียนตามมติคณะรัฐมนตรี | กษ | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานความคืบหน้าการทบทวนระบบ
บริหารจัดการนมโรงเรียน ตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้ 1. คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2553 มี มติเห็นชอบหลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ภาคเรียนที่ 1/2553 และให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ซึ่งมีสาระสำคัญได้แก่ 1.1 หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 1.2 หลักเกณฑ์การจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 1.3 แนวปฏิบัติในการจัดซื้อนมโรงเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และโรงเรียนเอกชน 1.4 แนวปฏิบัติการในการขนส่งและเก็บรักษานมโรงเรียน 1.5 มาตรการควบคุม กำกับ ดูแลการจำหน่ายนมในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน 1.6 ราคาจัดซื้อนมโรงเรียน กำหนดให้ลดจากราคากลางเดิมที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 13 พฤษภาคม 2552 โดยนมพาสเจอร์ไรส์ลดลงถุงล ะ 0.20 บาท และ นม ยู.เอช.ที. ลดลงกล่อง/ซองละ 0.25 บาท ยกเว้นพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา เฉพาะ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสะบ้าย้อย นาทวี เทพา และจะนะ เฉพาะนม ยู.เอช.ที. ให้จัดซื้อในราคากลางเดิม 2. ผลการดำเนินงาน ได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ สำหรับภาคเรียนที่ 1/2553 รวม ทั้งสิ้น 68 ราย และสามารถจัดสรรสิทธิและพื้นที่การจำหน่ายนมโรงเรียนในระดับพื้นที่จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดย แยกประเภทผู้ซื้อเป็น อปท. จำนวน 7,851 แห่ง จำนวนนักเรียน 6,712,737 คน และเป็นโรงเรียนเอกชนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวนนักเรียน 1,411,450 คน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการนม โรงเรียนทั้ง 68 ราย รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรตามบันทึกข้อตกลง (MOU) รวม 1,211 ตันต่อวัน
|
|||||||||||||||||||||
6045 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 | ทส | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครง การระบบเครือข่ายน้ำห้วยหลวง-หนองหาน กุมภวาปี-ลำปาว-ชี-มูล และโครงการระบบเครือข่ายน้ำปากชม- ลำพะเนียง-ชี-มูล ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2553 ตาม ที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอและรับทราบ ข้อตกลงระหว่างกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำเกี่ยวกับขอบเขต บทบาท และภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงาน ให้นำไปพิจารณาศึกษาในรายละเอียดและนำมาเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติอีกครั้ง 2. รับทราบมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 ดังนี้ 2.1 เห็นชอบให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติกำกับ ดูแล ให้คำปรึกษา และอำนวยการจัด ประชุม The 2nd Asia-Pacific Water Summit (The 2nd APWS) ในภาพรวม และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เตรียมการจัด 2nd APWS จำนวน 4 คณะ 2.2 ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร รับเรื่องโครงการจัดการน้ำชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ในภาคอีสาน และภาคเหนือ พื้นที่นอกเขตชล ประทานโดยชุมชน อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาทบทวนใหม่ โดยนำข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุมไปประกอบ การพิจารณาดำเนินการ 2.3 รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ จำนวน 3 คณะ และคณะทำงาน จำนวน 1 คณะ คือ คณะอนุกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและ หลักเกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ ชุ่มน้ำ และคณะทำงานเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... 2.4 รับทราบมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการโครงการระบบเครือข่ายน้ำ ในพื้นที่วิกฤตน้ำ จำนวน 19 พื้นที่ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ไปหารือและตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ อีก 11 โครงการ รวมทั้งพิจารณาขอบเขต บทบาท ภารกิจของหน่วยงานทั้งสอง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านนโยบาย การบริหาร การก่อสร้าง และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนใน การกำหนดภารกิจและการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน 2.5 รับทราบการจัดงานโครงการเหลืองฟ้ามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวฯ "ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ" เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2553 ในวันที่ 24 กันยายน 2553 ณ ศูนย์การค้าประตูน้ำขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2.6 รับทราบการเข้าร่วมการประชุม Singapore International Water Week (SIWW) 2010- Water Leaders Summit ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2553 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.7 รับทราบกำหนดการเข้าร่วมประชุมในงานสัปดาห์น้ำโลก ครั้งที่ 20 หรือ 2010 Stockholm World Water Week ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ละสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
6046 | การปรับบัญชีเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 (มติข้อ 3 และข้อ 4) เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ การอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ รวม 9 ฉบับ และบัญชีค่าตอบแทนของประธานกรรมการและ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2. ให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาและบัญชีค่าตอบแทนของ ประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||
6047 | การดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรณีการบินในช่วงฤดูหนาว | คค | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้าน เสียงจากการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามเส้นเสียงฤดูหนาว โดยดำเนินการตามหลักเกณฑ์เช่นเดียว กับเส้นเสียงฤดูร้อนที่ ทอท. ได้ถือปฏิบัติ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 2. ให้กระทรวงคมนาคม และ ทอท. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้กระทรวงคมนา คมกำกับดูแลการดำเนินงานของ ทอท. ในการเร่งดำเนินการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางเสียง และจัดตั้งกองทุนชด เชยผลกระทบจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนอาจได้รับจากการดำเนินงานของท่า อากาศยาน แต่ไม่อยู่ในข่ายที่ได้รับการชดเชยตามมติคณะรัฐมนตรี หรือตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวด ล้อม ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 รวมทั้ง ให้ ทอท. เร่งติดตั้งเครื่องตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อใช้ในการติดตามระดับผล กระทบทางเสียง และดูแลมิให้มีการบินนอกเขตเส้นทางการบินที่กำหนดไว้ และเร่งพิจารณาความเหมาะสมในการ เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจให้กับประชาชนในการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||
6048 | ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ | ยธ | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบนำกรอบแนวคิดและทิศทางการดำเนินงานตามข้อเสนอของคณะทำงานโครงการความร่วมมือ ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อประเทศไทยใสสะอาด ข้อเสนอของสำนักงาน ก.พ.ร. และข้อเสนอของกระทรวงวัฒน ธรรม ไปรวมเข้ากับมาตรการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ตามที่คณะกรรมการขับ เคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ได้กำหนดไว้ 2. เห็นชอบการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตภาครัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 และวันที่ 29 กันยายน 2552 โดยให้ มีอำนาจเพิ่มเติมในการ "แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ หรือคณะทำงานฯ เพื่อดำเนินการหรือสนับสนุนภารกิจ การขับ เคลื่อนยุทธศาสตร์ ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาค รัฐ มอบหมาย" |
|||||||||||||||||||||
6049 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 3 ฉบับ | กษ | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1.1 ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน 1.2 ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกลัดหลวง และตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกลัดหลวง และตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน 1.3 ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน 2. เห็นชอบแนวทางปฏิบัติงานเพื่อเป็นการเร่งรัดขั้นตอนในการประกาศเขตปฏิรูปที่ดินตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจะจัดซื้อตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจัดหาที่ดินและจัดที่ดินให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกินตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2552 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาไปได้ก่อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
6050 | แต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติม ในคณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | นร | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นกรรมการเพิ่มเติมในคณะกรรมการต่าง ๆ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ 1. คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) 2. คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) 3. คณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.) 4. คณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
|
|||||||||||||||||||||
6051 | การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครราชสีมา | กษ | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ 1. เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครราชสีมาใหม่ (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง) ตามมติคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ในการประชุมครั้งที่ 4/2553 และให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามข้อกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1.1 การจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ "ป่าแม่ออน" จังหวัดเชียงใหม่ ตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2536 ใหม่ ดังนี้ 1.1.1 รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ (แปลงปลูกป่าปี 2537) 1.1.2 จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเพื่อมอบเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น เนื้อที่ประมาณ 660 ไร่ จำนวน 106 แปลง 1.2 การจำแนกประเภทพื้นที่ "ป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก" จังหวัดนครราชสีมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2506 ใหม่ ดังนี้ 1.2.1 รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม เนื้อที่ประมาณ 408 ไร่ และมอบให้กรมป่าไม้รับไปดำเนินการ 1.2.2 จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเพื่อเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่น เนื้อที่ประมาณ 4,549 ไร่ และมอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รับไปดำเนินการตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 ประกอบกับในพื้นที่อำเภอปากช่องได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอแล้ว เมื่อ พ.ศ. 2534 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้เพิ่มเติม และการสูญเสียที่ดินของเกษตรกรรายย่อย รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขให้เกษตรกรในพื้นที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ป่าใกล้เคียง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||
6052 | ขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย เงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งเป็นค่าเช่ารถประจำตำแหน่ง | สธ | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณการ
เช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรองอธิบดีกรมการแพทย์ จำนวน 2 คัน ซึ่งมีอัตราค่าเช่าไม่เกินอัตราที่กระทรวงการคลัง กำหนดไว้ในระยะเวลา 5 ปี ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 -2555 ในวงเงิน 1,508,000 บาท ทั้งนี้ นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้เบิกจ่ายจากแผนงานพัฒนาด้านสาธารณสุข ผลผลิตองค์ความรู้ด้านสุขภาพได้รับการศึกษา วิจัย และถ่ายทอด งบดำเนินงาน จำนวน 116,000 บาท ส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 696,000 บาท ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อเปลี่ยนแปลงงบประมาณเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ประกาศใช้แล้ว และให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 696,000 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
6053 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการติดตั้งและใช้โทรศัพท์ของทางราชการ และกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ | กค | 24/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการ ติดตั้งและใช้โทรศัพท์ของทางราชการ 2. เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการติดตั้งและใช้โทรศัพท์ของทางราชการ โดยมีสาระสำคัญคือ 2.1 ปรับปรุงตำแหน่งข้าราชการที่จะขออนุมัติการติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐานประจำบ้านพักส่วนตัว 2.2 เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การอนุมัติการติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐานประจำบ้านพักส่วนตัว 2.3 เพิ่มเติมหลักฐานการจ่ายกรณีค่าโทรศัพท์พื้นฐานประจำบ้านพักส่วนตัว 2.4 เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้บริการ 2.5 เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้บริการกรณีข้าราชการพ้นจากตำแหน่งในส่วนราชการนั้น 2.6 กำหนดเพิ่มเติมให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางมีอำนาจในการพิจารณาตอบข้อหารือ และการอนุมัติยกเว้นการไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ |
|||||||||||||||||||||
6054 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (การทบทวนประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน) | รง | 16/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการ
นำเงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน จำนวน 100 ล้านบาท ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน โดยกรมการจัดหา งานได้ดำเนินการนำเงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน จำนวน 100 ล้านบาท ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินใน ระบบ GFMIS เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2553
|
|||||||||||||||||||||
6055 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 เรื่อง แผนปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 เรื่อง แผน
ปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดังนี้ 1. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานคณะทำงาน โดยมีรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ รวมทั้งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในรายละเอียดของประเด็น ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ให้คณะทำงานฯ พิจารณาให้ครอบคลุมถึงประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 2.1 การดำเนินโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของพนักงาน ขสมก. 2.2 แนวทางการดำเนินการจัดหารถโดยสารที่จะต้องสอดคล้องกับการดำเนินการตามมาตรการลด ค่าใช้จ่ายเดินทางรถโดยสารประจำทางธรรมดา (รถเมล์ฟรี) จำนวน 800 คัน ซึ่งกำหนดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับความจำเป็นเหมาะสมให้คงมีมาตรการฯ อยู่ต่อไป รวมทั้งการปรับเข้าระบบการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ (PSO) ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 29 มิถุนายน 2553 (เรื่อง ขอขยายระยะเวลาดำเนินการมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน) 2.3 การเชื่อมโยงการดำเนินการที่จะให้เอกชนเข้าร่วมบริการเดินรถตามสัญญาการให้บริการเชิงคุณ ภาพ (PBC) จำนวน 1,000-1,200 คัน ซึ่งจะกระทบต่อรายได้/รายจ่าย รวมทั้งจะทำให้มีภาระผูกพันค่าใช้จ่ายของ ขสมก. ในระยะยาว 3. ให้กระทรวงคมนาคม ขสมก. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเชื่อม โยงกับประเด็นตามข้อ 2 ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่คณะทำงานฯ ร้องขอ เช่น แผนการดำเนินการใน เรื่องต่าง ๆ ประมาณการรายได้/รายจ่าย เป็นต้น ให้แก่คณะทำงานฯ ให้ถูกต้องครบถ้วนเพื่อประกอบการพิจารณา ของคณะทำงานฯ โดยเร็ว 4. เมื่อคณะทำงานฯ ได้รับรายละเอียดและข้อมูลต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว ให้คณะทำงานฯ เร่งพิจารณาเรื่อง นี้ให้แล้วเสร็จ และให้นำผลการพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||
6056 | ขออนุมัติการปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขออัตราข้าราชการและพนักงานราชการ | ยธ | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติกรอบอัตรากำลังข้าราชการและพนักงานราชการ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม เสนอ โดยให้ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกรา คม 2553 (เรื่อง การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552) ทั้งนี้ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษนำเรื่องนี้เสนอ อ.ก.พ. กระทรวงยุติธรรม พิจารณา แล้วดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งให้รับความเห็นของนายกรัฐมนตรีที่ว่าหากในอนาคตมีการเปลี่ยน แปลงภารกิจก็ให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและอัตรากำลังตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปดำเนินการด้วย 2. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอรับไปปรับปรุงรูปแบบการทำงานและระบบการจ่ายค่าตอบแทนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
|||||||||||||||||||||
6057 | การดำเนินการตามคำวินิจฉัยและคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดง ที่ ฟ.35/2550 (คดีหมายเลขดำ ที่ ฟ.47/2549) และเรื่อง รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี | พน | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||
6058 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (โครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ) | ศธ | 10/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานผลการดำเนินการตามโครงการ
พัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ครั้งที่ 6 ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2553 สรุป ได้ดังนี้ 1. ผลการดำเนินงานถึงเดือนพฤษภาคม 2553 ได้ผลงานตามเป้าหมายในงวดที่ 33.1.1 อาคารชั้น ใต้ดิน และอาคารโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 2. งบประมาณที่ใช้จ่าย มีดังนี้ 2.1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ใช้จ่ายเป็นค่าจ้างล่วงหน้าตามสัญญาจากเงินงบประมาณแผ่นดิน จำนวน 307,437,750.00 บาท และงานงวดที่ 1 จากเงินนอกงบประมาณ จำนวน 43,579,301.06 บาท 2.2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ใช้จ่ายจากงบประมาณ จำนวน 558,977,168.30 บาท จากเงิน งบประมาณแผ่นดิน จำนวน 159,210,350.00 บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน 399,766,818.30 บาท 2.3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 แผนการใช้จ่ายงบประมาณ จำนวน 488,669,229.26 บาท (เงิน งบประมาณแผ่นดิน จำนวน 300,103,100.00 บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน 188,566,129.26 บาท) ซึ่งผลการใช้งบประมาณเกินแผนที่ตั้งไว้รวมทั้งสิ้น จำนวน 536,956,396.02 บาท จากเงินงบประมาณ แผ่นดิน จำนวน 300,103,100.00 บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน 236,853,296.02 บาท เนื่องจาก งานก่อสร้างเร็วกว่าแผนงาน 113 วัน 2.4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 แผนการใช้จ่ายงบประมาณ จำนวน 2,701,916,665.77 บาท (เงินงบประมาณ จำนวน 525,197,400 บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน 2,176,719,265.77 บาท) ซึ่งผลการใช้งบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ตุลาคม 2552-พฤษภาคม 2553) เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 500,266,013.11 บาท จากเงินงบประมาณ จำนวน 500,266,013.11 บาท 3. ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลยังไม่ได้รับการจัดสรร งบประมาณโครงการฯ ระยะที่ 2 จำนวน 1,727,727,000 บาท ซึ่งมีความจำเป็นในการขอรับการสนับสนุน ในเรื่องครุภัณฑ์การแพทย์ ครุภัณฑ์วิจัย และระบบสนับสนุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของโครงการฯ ระยะที่ 2 เพื่อ เตรียมความพร้อมในการดำเนินงานและให้บริการในเดือนสิงหาคม 2554
|
|||||||||||||||||||||
6059 | ร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2524 โดยอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้แยกอำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปาก คาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย รวมจัดตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ที่ให้หลีกเลี่ยงการ เพิ่มภาระด้านงบประมาณ และอัตรากำลัง โดยให้เกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดตั้ง ใหม่ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
6060 | รายงานความคืบหน้าแนวทางปฏิบัติในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ตามมติคณะรัฐมนตรี | มท | 03/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. รับทราบรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ดังนี้ 1.1 การดำเนินงานตามโครงการพัฒนาศักยภาพ กม. โดยการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำ จังหวัด (ร.ร.ปปท.จ.) มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1.1.1 ในปี พ.ศ. 2552 ได้ดำเนินการฝึกอบรม กม. จำนวน 200 รุ่น รวม กม. ที่เข้ารับการศึกษา อบรม จำนวน 12,000 คน จาก 1,200 หมู่บ้าน 1.1.2 ในปี พ.ศ. 2553 ได้ขยายผล ร.ร.นปท.จ. โดยให้คัดเลือก กม. เข้ารับการศึกษาอบรมฯ ใน ร.ร.นปท.จ. ตำบลละ 1 หมู่บ้าน ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของจำนวนตำบลทั้งหมดที่มีอยู่ในจังหวัด ปัจจุบันทุก จังหวัดจัดทำแผนที่จะนำ กม. เข้ารับการศึกษาอบรมฯ จำนวน 1,061 รุ่น กม. จำนวน 88,280 คน จาก 8,828 หมู่ บ้าน ทั้งนี้ เมื่อ กม. ได้ผ่านการศึกษาอบรมจาก ร.ร.นปท.จ. แล้วจะทำหน้าที่เป็นหมู่บ้าน กม. ต้นแบบและเป็นศูนย์ เรียนรู้การดำเนินงานของ กม. ประจำตำบล ซึ่งถือเป็นการถ่ายทอดความรู้ในการดำเนินงานของ กม. ให้แก่หมู่บ้าน ใกล้เคียง 1.2 การดำเนินงานตามโครงการขยายผลการขับเคลื่อน กม. โดยชุดปฏิบัติการประจำตำบล เพื่อให้ชุด ปฏิบัติการประจำตำบลมีความรู้ ความเข้าใจในการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา แนะนำ ส่งเสริมสนับสนุนให้ กม. ที่ผ่านการศึกษาอบรมจาก ร.ร.นปท.จ. ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและติดตามรายงานผล ตลอดจน สนับสนุนหมู่บ้าน กม. ในการประกวดหมู่บ้าน กม. ดีเด่น ทั้งในระดับอำเภอ และจังหวัด 2. อนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้านระดับกระทรวงโดย มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และกรอบแนวทางการร่วมมือขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรม การหมู่บ้านให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 4 ประการ
|