ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 305 จากทั้งหมด 567 หน้า แสดงรายการที่ 6081 - 6100 จากข้อมูลทั้งหมด 11338 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6081 | ขออนุมัติขยายระยะเวลา เรื่อง การชำระคืนหนี้เงินกู้ ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 ออกไปอีก 10 ปี | คค | 06/07/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการขยายเวลาการชำระคืนหนี้เงินกู้ ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาโครง การรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ยกเว้นเรื่องการขยายเวลาให้รัฐบาลรับภาระหนี้แทน รฟม. เห็นชอบให้ขยายเวลาต่อไปอีก 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555-2559 ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. เร่งรัดจัดทำแนวทางและมาตรการในการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการของ รฟม. เพื่อนำ เสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป 2. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการลดภาระการสนับสนุนใน ด้านงบประมาณการดำเนินงานให้แก่ รฟม. ในระยะยาว และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 [เรื่อง รายงานการศึกษา และวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)] ที่ให้ รฟม. แยกบัญชีผลการดำเนินงาน (รายได้ค่าโดยสารและรายได้เชิงพาณิชย์และต้นทุน) และสินทรัพย์ของโครงการรถไฟฟ้า เส้นทางต่าง ๆ ในลักษณะหน่วยธุรกิจ และเร่งศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบการให้สัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสาย สีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระฯ รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเร่งรัด พัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การ รายงานผลการชำระหนี้เงินกู้ฯ และฐานะทางการเงินต่อสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
6082 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 | นร | 06/07/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับข้อเสนอของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ขอพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 (เรื่อง ขออนุมัติให้ข้าราชการได้รับสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่งหรือรับเงินค่าตอบแทน เหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง) เพื่ออนุมัติให้ผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกนายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ที่ ก.พ. กำหนดเงื่อนไขการแต่งตั้งให้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นตามที่ได้รับอยู่เดิม ให้ได้รับสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่ง หรือรับเงินตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งตามสิทธิที่ได้รับอยู่เดิม โดยให้สำนักเลขาธิการนายก รัฐมนตรีถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป |
||||||||||||||||||
6083 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารและวิธีการต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. .... | กก | 06/07/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารและวิธีการต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารและวิธีการต้องห้ามทางการกีฬา เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีใน คำประกาศแห่งองค์การต่อต้านสารต้องห้ามทางการกีฬาระดับโลก (World Anti-Doping Agency) และส่งเสริมความ ร่วมมือระดับนานาชาติ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาเป็นเรื่องด่วน 2. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานศาลยุติธรรม และกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าการจัดตั้งสำนักงานควบคุมการใช้สารและวิธีการต้องห้ามทาง การกีฬาในการกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 ที่ให้ขยายระยะ เวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงาน และการขอจัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วย งานอื่นของรัฐในสังกัดฝ่ายบริหารออกไป ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ส่วนการกำหนดให้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในที่รโหฐานระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก โดยไม่ต้องมีหมายศาล นั้น ควรระบุถึงเหตุผลความจำเป็นเหตุยกเว้นดังกล่าวไว้ให้ชัดเจนด้วย รวมทั้งปรับปรุงวิธีการลงโทษนักกีฬาที่ใช้สาร เคมีและผู้ส่งเสริมหรือสนับสนุนนักกีฬาในการใช้สารเคมีโดยห้ามแข่งขันในระยะเวลาอันสมควรเพื่อเป็นการให้โอกาส นักกีฬาหรือผู้สนับสนุนนักกีฬาได้ปรับปรุงตัวเองและสามารถกลับมาเล่นกีฬาหรือร่วมกิจกรรมทางการกีฬาได้อีก ไป ประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณาเพื่อจะได้เสนอสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาในสมัยประชุมสมัยสามัญที่จะถึงนี้ต่อไป |
||||||||||||||||||
6084 | ข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค | 06/07/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 8 เมษา ยน 2553 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 เห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนทางการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของการรถไฟแห่งประเทศ ไทย จำนวน 2,285.418 ล้านบาท จากที่เสนอขอรับเงินอุดหนุนสำหรับบริการสาธารณะ จำนวน 3,795.766 ล้าน บาท ทั้งนี้ ให้ใช้หลักการการคำนวณต้นทุนการให้บริการสาธารณะตามหลักการของปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และ มีสมมติฐานการประมาณการรายได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยปรับราคาค่าโดยสารภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และปรับกำหนดการขอรับเงินอุดหนุนจาก "ขอรับเงินอุดหนุนทุกกิจกรรมล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2554" เป็น "ขอรับเงินอุดหนุนทุกกิจกรรมล่วงหน้า โดยแบ่งออกเป็น 2 งวด งวดละร้อยละ 50" 1.2 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำรายงานแผนกลยุทธ์ที่จะปรับปรุงการดำเนินงานให้เข้าสู่ความเป็น เลิศในด้านต่าง ๆ (Best Practice) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณะต่อคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการ สาธารณะ และให้เร่งปรับปรุงระบบบัญชีขององค์กรให้ได้มาตรฐานและเป็นไปตามกิจกรรมของหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ตาม โครงสร้างการบริหารจัดการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการไว้เพื่อให้การแยกบัญชีเชิงพาณิชย์และบัญชี เชิงสังคมมีความชัดเจนและถูกต้องโดยเร็วต่อไป 1.3 ในการจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงของการรถไฟแห่งประเทศไทย สมควรดำเนินการภายใต้ สมมติฐานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวกับประเภทหรือชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิง และมีระดับราคาที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับแนวโน้มของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง 2. ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ที่เห็นควรเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการการปรับโครงสร้างองค์กร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 การปรับปรุงระบบบัญชีตามโครงสร้างองค์กรใหม่ การเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะบุคลากรด้านการบัญชีรองรับการ ปรับระบบบัญชีดังกล่าว และการควบคุมการค่าใช้จ่าย รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาปรับ โครงสร้างราคาค่าบริการให้สอดคล้องกับต้นทุนการบริหารจัดการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
6085 | การเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมย่านราชประสงค์ กรณีค่าเช่า | นร | 06/07/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการและ
ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเสนอ ดังนี้ 1. การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 และวันที่ 8 มิถุนายน 2553 ให้กระทรวง แรงงานจัดสรรค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าและค่าบริการให้แก่ผู้ให้เช่าโดยตรง แทนการจัดสรรผ่านสมาคมผู้ประกอบวิสาห กิจในย่านราชประสงค์ 2. มอบหมายสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป วง เงิน 311 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมเป็นค่าใช้จ่าย เรื่องค่าเช่าและค่าบริการแก่ร้านค้าย่อย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 และให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณจำนวนดังกล่าวให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานโดยตรงต่อไป
|
||||||||||||||||||
6086 | การปรับปรุงข้อมูลลูกจ้างตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 เรื่อง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม กรณีค่าจ้าง | นร | 06/07/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างที่
ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบการปรับปรุงข้อมูลลูกจ้างตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 เรื่อง มาตรการช่วย เหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม กรณีค่าจ้าง ดังนี้ 1.1 ลูกจ้างในระบบ จากเดิมจำนวน 2,242 คน จำนวนเงิน 24,502,935 บาท เป็นลูกจ้างในระบบ 2,458 คน จำนวนเงิน 26,046,204.38 บาท 1.2 ลูกจ้างนอกระบบ จากเดิมจำนวน 1,325 คน จำนวนเงิน 9,937,500 บาท เป็นลูกจ้างนอกระบบ จำนวน 1,090 คน จำนวนเงิน 8,175,000 บาท 2. อนุมัติเป็นหลักการในโอกาสต่อไปหากมีข้อมูลลูกจ้างที่จำเป็นต้องปรับปรุงภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติไว้แล้ว เมื่อเสนอนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ให้แจ้งส่วนราชการโดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน สำนักงาน ประกันสังคม ดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีก
|
||||||||||||||||||
6087 | รายงานการส่งดาวเทียม THEOS ล่าช้ากว่าระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด | วท | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานว่า ตามที่สำนักงานพัฒนา
เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) : สทอภ. ได้ลงนามสัญญาร่วมกับบริษัท EADS Astrium S.A.S. ประเทศฝรั่งเศส เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาดาวเทียมสำรวจทรัพยากร Remote Sensing ของประเทศไทย (ดาวเทียม THEOS) ตามสัญญาเลขที่ 11/2547 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2547 โดยมีกรอบระยะเวลาให้นำดาวเทียมดังกล่าวขึ้น สู่วงโคจรภายใน 36 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาตามมติคณะรัฐมนตรี นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการส่งดาวเทียม THEOS ขึ้นสู่วงโคจรเป็นผลสำเร็จแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 เวลา 13.37 น. จากฐานยิงจรวดเมือง Yasny สหพันธ รัฐรัสเซีย ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดสิ้นสุดตามสัญญาฯ วันที่ 19 มกราคม 2551 (36 เดือนหลังการลงนามในสัญญา + Launch window ระยะเวลา 6 เดือน) คิดเป็นความล่าช้า จำนวน 256 วัน |
||||||||||||||||||
6088 | สรุปผลการเจรจาและการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในภารกิจของกระทรวงมหาดไทย | มท | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอสรุปผลการเจรจาและการแก้ไขปัญหาประชาชน
ที่เป็นหนี้นอกระบบที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 200,000 บาท โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่รับผิดชอบเจรจาหนี้ ที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบธนาคารได้ โดยได้จัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบกระทรวงมหาดไทยขึ้น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับกระทรวง ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ มีการแต่งตั้งคณะทำงานเจรจาหนี้นอกระบบ จำนวน 6,095 คณะ โดยมอบหมายให้บุคลากรจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 52,943 คน เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน และได้จัด สรรงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 จำนวน 45,000,000 บาท ให้ แก่จังหวัด และอำเภอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งผลการดำเนินงานปรากฏว่าสามารถเชิญลูกหนี้นอก ระบบที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบธนาคารได้จำนวน 756,073 ราย เข้าสู่กระบวนการเจรจาได้ครบถ้วนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2553
|
||||||||||||||||||
6089 | รายงานผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีโดยคณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (รายงานครั้งที่ 3) | นร | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะ
รัฐมนตรี (ปคค.) เสนอรายงานผลการติดตามการดำเนินการตามคณะรัฐมนตรีโดย ปคค. (รายงานครั้งที่ 3) โดย ปคค. ได้ประชุมไปแล้วทั้งสิ้น 13 ครั้ง และมีความคืบหน้าในการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ รวม 20 เรื่อง
|
||||||||||||||||||
6090 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้คงหลักการของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 (เรื่อง การบริหาร
โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555) ที่ให้นำเงินเหลือจ่ายมาจัดสรรใหม่ได้โดยไม่ต้องส่งคืนคลังและ ให้สามารถจัดสรรเงินคงเหลือและเงินเหลือจ่ายให้แก่กระทรวงหรือหน่วยงานอื่น ซึ่งมิใช่เจ้าของโครงการเดิมได้ด้วย ไว้ตามเดิม โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาร่าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้สอคดล้องกับหลักการของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
6091 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ในการจัดซื้อรถยนต์ และเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | นร | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1.1 ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 วันที่ 22 เมษายน 2551 และวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 สำหรับจัดซื้อและเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.1.1 จัดซื้อรถยนต์ในวงเงิน 108,440,000 บาท ประกอบด้วย - รถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 32 คัน เป็นเงิน 29,960,000 บาท - รถประจำตำแหน่ง จำนวน 22 คัน เป็นเงิน 78,480,000 บาท 1.1.2 การเช่ารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ดีเซล จำนวน 3 คัน เพื่อใช้ในภารกิจการรักษาความ ปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2553 โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบดำเนินงาน ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอนุมัติเป็นหลักการในการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีตาม ข้อ 1.1 กรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนหรือตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งจำเป็นจะต้อง เช่ารถยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจนั้น ๆ ด้วย 1.1.3 จัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งจุฬาราชมนตรี จำนวน 1 คัน ราคา 4,500,000 บาท โดยให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นค่าใช้ จ่ายในการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งดังกล่าวต่อไป 1.2 เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีในช่วงก่อนเวลาที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จะมีผล บังคับใช้ รวมทั้งกรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ได้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยให้เจียดจ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ดังกล่าว 2. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยว ข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
6092 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | นร | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1.1 ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 วันที่ 22 เมษายน 2551 และวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 สำหรับจัดซื้อและเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.1.1 จัดซื้อรถยนต์ในวงเงิน 108,440,000 บาท ประกอบด้วย - รถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 32 คัน เป็นเงิน 29,960,000 บาท - รถประจำตำแหน่ง จำนวน 22 คัน เป็นเงิน 78,480,000 บาท 1.1.2 การเช่ารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ดีเซล จำนวน 3 คัน เพื่อใช้ในภารกิจการรักษาความ ปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2553 โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบดำเนินงาน ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอนุมัติเป็นหลักการในการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีตาม ข้อ 1.1 กรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนหรือตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งจำเป็นจะต้อง เช่ารถยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจนั้น ๆ ด้วย 1.1.3 จัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งจุฬาราชมนตรี จำนวน 1 คัน ราคา 4,500,000 บาท โดยให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นค่าใช้ จ่ายในการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งดังกล่าวต่อไป 1.2 เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีในช่วงก่อนเวลาที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จะมีผล บังคับใช้ รวมทั้งกรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ได้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยให้เจียดจ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ดังกล่าว 2. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยว ข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
6093 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง รายงานผลงานก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2553 | กษ | 29/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รายงานผลการดำเนิน
การตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง รายงานผลงานก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. งานจ้างก่อสร้างคลองระบายน้ำและถนน พร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 1 ได้ผลการดำเนินงานสะสม ร้อยละ 91.38 จากแผนงานสะสมที่วางไว้ร้อยละ 89.54 เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.84 2. งานจ้างก่อสร้างคลองระบายน้ำและถนน พร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 2 ได้ผลการดำเนินงานสะสม ร้อยละ 100 จากแผนงานสะสมที่วางไว้ร้อยละ 100 (ผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานทั้งสัญญาแล้ว) 3. งานจ้างก่อสร้างคลองระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ สะพานน้ำยกระดับ พร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 3 ได้ ดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ 4. ผลการดำเนินงานจ้างก่อสร้างทั้ง 3 สัญญา ได้ผลการดำเนินงานร้อยละ 97.17 จากแผนงานที่วางไว้ ร้อยละ 96.57 เร็วกว่าแผนร้อยละ 0.60 ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2553 จะสามารถระบายน้ำ ได้สูงสุด 100 ลบ.ม./วินาที 5. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งสิ้น จำนวน 9,680,104,978.36 บาท โดยใช้งบประมาณจากเงินงบ ประมาณปกติ 6. ผลกระทบจากการดำเนินงาน ราษฎรเจ้าของที่ดินบริเวณพื้นที่ก่อสร้างที่คลองระบายน้ำตัดผ่านต้อง สูญเสียที่ดินในความครอบครอง โดยมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 1,290 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา
|
||||||||||||||||||
6094 | ผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 | มท | 22/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 292/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ ไขปัญหาการคุ้มครองสิทธิของชาวต่างชาติในประเทศไทย ลงวันที่ 10 กันยายน 2552 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ รัฐมนตรีมีมติ (22 มิถุนายน 2553) เป็นต้นไป 2. รับทราบผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 (เรื่อง การแก้ไขปัญหา การคุ้มครองสิทธิของชาวต่างชาติในประเทศไทย ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา การคุ้มครองสิทธิของชาวต่างชาติในประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 ดังนี้ 2.1 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกรอบแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติในประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการทบทวนกฎ ระเบียบ แนวทางปฏิบัติ และรวบรวมข้อมูลให้ฝ่ายเลขานุการเพื่อดำเนินการต่อ ไป โดยกรอบแนวทางการดำเนินการ ประกอบด้วย 2.1.1 สิทธิในการได้สัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 2.1.2 สิทธิเข้าเมืองและอาศัยอยู่ในประเทศไทยตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 2.1.3 สิทธิการทำงานของคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 2.1.4 สิทธิในการลงทุนของคนต่างด้าว 2.1.5 สิทธิในทรัพย์สินของคนต่างด้าว 2.2 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำเอกสารเผยแพร่ตามกรอบแนวทางดังกล่าวส่งให้ฝ่ายเลขานุการภาย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 เพื่อให้ฝ่ายเลขานุการจัดทำเอกสารเผยแพร่แก่ชาวต่างชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
6095 | รายงานผลการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง | นร | 22/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้
รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิต วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความ เสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง (คชส.) เสนอ สรุปได้ดังนี้ 1. ผลการจ่ายเงินช่วยเหลือ ได้กำหนดให้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและ ประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายฯ ขึ้น ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล รวม 5 ครั้ง โดยจ่ายเงินช่วยเหลือ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2553 รวมจ่ายเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 2,009 ราย เป็นเงิน 100,450,000 บาท 2. การให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป 2.1 ให้ผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ได้รับความเสียหายที่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วย เหลือกับกรุงเทพมหานครไว้แล้ว และมีคุณสมบัติถูกต้องตามหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี แต่เอกสารหลักฐานยัง ไม่ครบ ให้กรุงเทพมหานครตรวจสอบเอกสารหลักฐานและแจ้งชื่อผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือ 2.2 ผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ได้รับความเสียหายที่ยังไม่ได้ยื่นลงทะเบียน (ภายหลังที่ กรุงเทพมหานครได้ปิดรับลงทะเบียนแล้ว) แต่ คชส. ยังคงให้รับเรื่องร้องเรียนต่อไป ให้กรุงเทพมหานครกำหนดวิธี ปฏิบัติในการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และแจ้งชื่อผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้สำนักงานปลัดสำนักนายก รัฐมนตรีเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป 2.3 การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวตามข้อ 2.1 และ 2.2 ให้กรุงเทพมหานครดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2553
|
||||||||||||||||||
6096 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (พลเอก สุภาษิต วรศาสตร์ และนายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล) | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 เรื่อง การให้กรรมการผู้ช่วย
รัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (พลเอก สุภาษิต วรศาสตร์ และนายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล) ตามหนังสือ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2553
|
||||||||||||||||||
6097 | การติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (เรื่อง โครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล) ครั้งที่ 4 ณ วันที่ 27 เมษายน 2553 | ศธ | 15/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะ
รัฐมนตรี (เรื่อง โครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล) ครั้งที่ 4 ข้อมูล ณ วันที่ 27 เมษา ยน 2553 ว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ได้มอบให้ศูนย์การศึกษาพิเศษร่วมมือกับโรงพยาบาล/สถาบันทางการ แพทย์จัดศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้งรังในโรงพยาบาล จำนวน 29 ศูนย์การเรียน สามารถให้บริการทาง การศึกษาแก่เด็กเจ็บป่วยเรื้งรังในโรงพยาบาล ระหว่างเดือนตุลาคม 2552-มีนาคม 2553 เฉลี่ยเดือนละประมาณ 2,100 คน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะ ที่ 2 : 2553) แผนงานยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งระบบให้ทันสมัย โครงการพัฒนาครูทั้งระบบ เฉพาะค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ จำนวน 7,903,476 บาท เท่านั้น ส่วนงบประมาณค่าวัสดุจัดการเรียน การสอน ค่าใช้จ่ายในการอบรมสัมมนาบุคลากรและนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล วงเงิน 3,226,460 บาท ไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ
|
||||||||||||||||||
6098 | การขออนุมัติดำเนินการโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ | ทส | 15/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการ
ทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอว่า ตามที่ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรี เรื่องโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณา การ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวแล้วเสนอ คณะรัฐมนตรีภายใน 1 เดือน นั้น เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก ผู้เกี่ยวข้องไม่สามารถ ดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติจึงขอขยายระยะเวลา ออกไป และจะเร่งรัดให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||
6099 | การรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่น ดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 โดยมีหน่วยงานของรัฐ ได้แจ้งการจัดทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินรวมทั้งสิ้น 307 หน่วยงาน และ 107 กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ จากการรวบรวมรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่ง เป็นรายได้แผ่นดินที่หน่วยงานต่างๆ จัดทำ มีบางหน่วยงานจัดทำรายละเอียดไม่ครบถ้วน และ/หรือไม่เป็นไปตาม รูปแบบมาตรฐานของการรายงานที่กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางกำหนดให้หน่วยงานดำเนินการตามที่คณะ รัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551 2. ให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ตรวจสอบและติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงรูปแบบ รายงานฯ ดังกล่าว ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบ ตามนัยที่กำหนดไว้ใน มาตรา 170 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
|
||||||||||||||||||
6100 | การปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 15/06/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการจัดตั้งสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทค
โนโลยีสารสนเทศ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้ถือ เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (เรื่อง การขยาย ระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภา พันธ์ 2552) ทั้งนี้ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเรื่องนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
|
.....