คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการและแนวทางการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยน สถานภาพมหาวิทยาลัยของรัฐไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยมีความอิสระในการบริหารวิชาการ ความอิสระในการบริหารงานบุคคล และความอิสระในการบริหารการเงิน ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ โดยให้ทุกมหาวิทยาลัยคำนึงถึงคุณภาพของการศึกษาเป็นสำคัญ สำหรับการกำหนดวิธีการและระยะเวลา การปรับเปลี่ยนข้าราชการเข้าสู่การเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยของรัฐ ให้ดำเนินการตามแนวทางที่คณะ กรรมการส่งเสริมสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยของรัฐปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐได้พิจารณา ไว้ และให้ข้าราชการที่ได้เปลี่ยนสภาพเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยมีสิทธิได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่อ เนื่อง โดยให้เป็นไปตามมติคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดตั้งและพัฒนาองค์การมหาชน และให้สำนักเลขาธิ การคณะรัฐมนตรีแก้ไขระเบียบว่าด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่อไป กับเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนคงยอดเงิน ต้น โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้คล้องกับฐานะทางการเงินการคลังของประเทศ ส่วนการขอยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่มหาวิทยาลัยที่จะเปลี่ยนสภาพ ฯ นั้น ยังไม่มีกรณีที่จะต้องยกเว้นภาษี เงินได้ให้แก่มหาวิทยาลัย และให้ผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่มหาวิทยาลัยได้รับสิทธิและประโยชน์ใน ภาษีเหมือนเดิม คือ นำไปยกเว้นหรือลดหย่อนการคำนวณภาษีเงินได้ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณา กำหนดไว้ในกฎหมายภาษีอากรที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร และการให้คณะกรรมการพิจารณา บำเหน็จบำนาญข้าราชการเร่งรัดดำเนินการพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราช การ พ.ศ. 2539 เกี่ยวกับความหมายของคำว่า "ข้าราชการ" ในส่วนของประมาณดำเนินการมอบให้ กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับทบวงมหาวิทยาลัยและสำนักงบประมาณ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป โดยให้มหาวิทยาลัยรายงานรายรับรายจ่ายให้รัฐบาล และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบ รวมทั้งเร่งรัดการสร้างระบบบริหารจัดการรวม 7 ประการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย และ ให้คงสิทธิการค้ำประกัน หรือสิทธิการประกันตัวของบุคคลที่เป็นพนักงานถาวรของมหาวิทยาลัยและมหา วิทยาลัยนเรศวร และให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เสนอร่างกฎหมายให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามกำหนด ระยะเวลา และให้กระทรวงการคลังปรับปรุงกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อสนองความต้องการในระดับ อุดมศึกษาเพิ่มขึ้นแก่ผู้มีความรู้ความสามารถที่มีฐานะยากจน พร้อมทั้งให้ทบวงมหาวิทยาลัยและรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ติดตามประสานงานการดำเนินการเพื่อสนับสนุน การปรับเปลี่ยนสภาพของมหาวิทยาลัยดังกล่าว แล้วรายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ ให้ คณะรัฐมนตรีทราบ
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย