คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีของหน่วยงานในสังกัด 
กระทรวงมหาดไทย งวดที่ 2 (กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2544) ประจำปีงบประมาณ 2544  รวม  87  เรื่อง 
(87โครงการ) คือ กรมการปกครอง 2 เรื่อง กรมการพัฒนาชุมชน 9 เรื่อง  กรมราชทัณฑ์ 7 เรื่อง  กรมที่ดิน  
1 เรื่อง  กรมโยธาธิการ 17 เรื่อง  กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท 4 เรื่อง  กรมการผังเมือง  5  เรื่อง  การทาง
พิเศษแห่งประเทศไทย 4 เรื่อง  การประปานครหลวง  2 เรื่อง  การประปาส่วนภูมิภาค  3  เรื่อง  การไฟฟ้า
นครหลวง 4 เรื่อง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง  การเคหะแห่งชาติ 2 เรื่อง และกรุงเทพมหานคร 24 เรื่อง 
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบเรือขุดหัวสว่านขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง    
28 นิ้ว จำนวน  3  ลำ  จากบริษัท Ellicott Machine Corporation International ให้แก่กรมเจ้าท่า  รวมทั้งผลการ 
ตรวจสอบ ความเห็นและข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการตรวจสอบและเร่งรัดการปฏิบัติตามสัญญาจัดซื้อเรือขุด
โดยให้จัดส่งรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการ ปปช. ดำเนินการตามกฎหมาย   และขอความร่วมมือให้
คณะกรรมการ ปปช. เร่งรัดดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  และให้ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอน  
ทางราชการ กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการจัดหาเรือขุด ฯ  ครั้งนี้  และเห็นชอบให้  
ตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวงเพื่อดำเนินการเร่งรัดบริษัท  ฯ   ให้ดำเนินการส่งมอบเรือขุดทั้ง  3  ลำโดยเร็ว  
หากบริษัท ฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ ให้กรมเจ้าท่าดำเนินการบังคับตามสัญญา ฯ  และกฎหมาย  นอกจากนี้   
ให้ประสานงานและเจรจากับธนาคารกรุงเทพ  จำกัด  (มหาชน)  ในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญา  ฯ   เพื่อประสาน 
งานกับธนาคารเอ็กซิมแบงค์ และธนาคารเฟิร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล  ของสหรัฐอเมริกา  ให้บริษัท ฯ  เร่งปฏิบัติ 
ตามสัญญา ฯ โดยเร็ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ทางวินัยเรื่องนี้โดยด่วน และหากข้าราชการผู้ใดทุจริต ให้ลงโทษโดยเด็ดขาด

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน  
สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม  จังหวัดสมุทรสงคราม  พ.ศ. ....   
(ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลลาดใหญ่ อำเภอ  
เมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 66 ไร่  1  งาน  47.6  ตารางวา  เพื่อมอบ  
หมายให้กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบทใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดสมุทรสงคราม รวมทั้งให้   
กรมชลประทานใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานชลประทานจังหวัดสมุทรสงคราม)  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  
ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ  ถวาย  เพื่อประกาศใช้บังคับเป็น 
กฎหมายต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 230 ร. เรื่อง ความล่าช้าในการซ่อมบำรุงถนนลาดยาง 
ของกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท ของนายณัฐพล เกียรติวินัยสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ซึ่งถาม  
ว่า เพราะเหตุใดการซ่อมบำรุงถนนสายบ้านบำหรุ - บ้านท่าข้าม  ตำบลท้ายตลาด  อำเภอเมือง  จังหวัดลพบุรี  
จึงล่าช้า และซ่อมแซมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น  กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่จะซ่อมแซมบำรุงถนนดังกล่าวจน 
แล้วเสร็จตลอดสายหรือไม่ หากมีจะดำเนินการได้เมื่อใด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และให้ประกาศในราช 
กิจจานุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนกงานสภาสถาบันราชภัฏขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  
สมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ ของสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2542  หมวด 
ค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง  รายการจ้างทำครุภัณฑ์ประกอบอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์  4  ชั้น  จำนวน  
11,980,000 บาท  ไว้เบิกจ่ายต่อไปจนถึงวันที่  30  กันยายน  2544  ทางสำนักงานคลังจังหวัดเลย  เป็น  
กรณีพิเศษ  หากไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในวันที่  30  กันยายน  2544  เงินงบประมาณดังกล่าวก็จะ   
ต้องพับไป     และให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการดำเนินการของส่วนราชการในสังกัดที่มีโครงการซึ่งใช้   
เงินงบประมาณสมทบโครงการเงินกู้ ฯ  ดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลาที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และ  
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และการขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินที่ได้กำหนดไว้  ตาม 
ความเห็นของกระทรวงการคลัง

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินมาตรการเร่งรัด 
การเบิกจ่ายโครงการเงินกู้จากต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2544 โดย  
ณ  วันที่  30  มิถุนายน  2544  ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินงานในไตรมาสที่  3   มีส่วนราชการและ   
รัฐวิสาหกิจเจ้าของโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ จำนวน 20 โครงการ ได้เบิกจ่ายเงินกู้ดังกล่าวเพื่อใช้ในการ   
ดำเนินงานและสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  จำนวน  139.85  ล้านเหรียญสหรัฐ  
หรือเทียบเท่า 6,363.18 ล้านบาท  ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40.5 ของเป้าหมายการเบิกจ่ายสำหรับไตรมาสนี้  โดย
โครงการเงินกู้ของส่วนราชการ จำนวน  9  โครงการ  มีการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งสิ้น  44  ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือ  
เทียบเท่า  2,002  ล้านบาท   ส่วนโครงการของรัฐวิสาหกิจ  จำนวน  8  โครงการ  มีการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งสิ้น   
34.78 ล้านเหรียญสหรัฐ   หรือเทียบเท่า 1,582.49 ล้านบาท  และโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างและลด  
ผลกระทบทางสังคม จำนวน 3 โครงการ  มีการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งสิ้น 61.07 ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือเทียบเท่า 
2,778.69 ล้านบาทสำหรับไตรมาสที่ 4 ได้กำหนดเป้าหมายในการเบิกจ่ายเงินกู้ไว้ในวงเงินรวม 236.54 ล้าน
เหรียญสหรัฐ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  
ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นไตรมาสที่  3  (ตุลาคม 2543 - มิถุนายน 2544)  มีจำนวนทั้งสิ้น 579,233 
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63.65 ของวงเงินงบประมาณ 910,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายเงิน
งบประมาณในไตรมาสที่ 3 คือ 600,600 ล้านบาท จำนวน 21,367 ล้านบาท หรือร้อยละ  2.35   โดยสาเหตุ
สำคัญที่ทำให้ผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย  ได้แก่  ความล่าช้าในการดำเนินงานโครงการลงทุนของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ มาตรการของรัฐบาลบางมาตรการต้องใช้เวลาดำเนินการนานและความล่าช้าในการ
ดำเนินงานตามโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  สำหรับการเร่งรัด
การดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ฯ ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท   
คาดว่าจะสามารถเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวง ทบวง กรม ได้กวดขันการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2544 ให้มาก 
ขึ้น  และหากรัฐมนตรีท่านใดจำเป็นต้องดำเนินการในเรื่องใด  ก็ขอให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้การเบิกจ่ายได้ทัน  
ในปีงบประมาณ 2544   รวมทั้งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายสุวิทย์  คุณกิตติ)  รัฐมนตรีประจำสำนัก  
นายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์  ฉายแสง) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ  รัตนากร)  ปลัด 
สำนักนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้หารือร่วมกันเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติใน  
การแก้ไขปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2545  และหากจำเป็นต้องฝึกอบรมหรือสัมมนาผู้บริหารระดับสูง  
ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการวางแผนและการบริหารจัดการงบประมาณ   ก็ให้  
ดำเนินการได้ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการเร่งรัด  
ขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร  ในทางหลวงหมายเลข  43  สาย  อ.จะนะ-ปัตตานี-นราธิวาส-  
อ.สุไหงโกลก ตอน อ.จะนะ-แยกไป  อ.เทพา-บรรจบทางหลวงหมายเลข 42  ตามโครงการเงินกู้ OECF  จาก   
วงเงินเดิม 705,296,606 บาท เป็นวงเงินใหม่ 764,087,606 บาท  โดยเบิกจ่ายจากเงินกู้ร้อยละ  53  เป็น  
เงิน 31,159,230 บาท และเบิกจ่ายจากงบประมาณร้อยละ 47 เป็นเงิน 27,631,770 บาท ตามที่กระทรวง  
คมนาคมเสนอ   โดยให้กรมทางหลวงรับความเห็นของกระทรวงการคลัง  (เกี่ยวกับการทำความตกลงในราย
ละเอียดในส่วนของการกู้เงิน   รวมทั้งแหล่งเงินกู้ก่อนการดำเนินงาน)  และสำนักงบประมาณ  (เกี่ยวกับราย 
ละเอียดค่าใช้จ่าย)  ไปดำเนินการด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานเรื่องการบริการการส่งออกที่รวดเร็ว  โดย
กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้การบริการส่งออกร่วมประชุมหารือเพื่อชี้แจงปัญหาและ
แนวทางการปฏิบัติงานในส่วนของการขออนุญาตและออกใบรับรองการส่งออก ซึ่งการประชุมดังกล่าวได้มีการ  
สร้างความเข้าใจร่วมกันว่า  การให้บริการส่งออกจะรวดเร็วขึ้นได้ถ้าทุกฝ่ายตระหนักและเข้าใจถึงเป้าหมายของ  
การทำงานร่วมกัน นอกเหนือจากคุณภาพสินค้า ยังจะต้องคำนึงถึงกระบวนการเร่งรัดการส่งออกตามนโยบาย 
ของรัฐบาลด้วย   โดยควรจะมีการปรับเข้าหาเป้าหมายของการทำงานร่วมกัน  และให้มีการประสานงานกันให้
มากขึ้น   ทั้งนี้  กรมส่งเสริมการส่งออกจะจัดให้มีการประชุมต่อไปเป็นระยะเพื่อพิจารณาสินค้าที่จะส่งออกเป็น
รายสินค้า และประชุมเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าแต่ละชนิด  ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ  รับที่จะ
ไปเร่งรัดการให้บริการโดยเฉพาะการออกใบอนุญาตต่าง ๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการปฏิบัติงานตามภารกิจและนโยบาย
ความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้  ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  (ศอ.บต.)
ประจำเดือนพฤษภาคม 2544 ซึ่งเกิดเหตุการวางระเบิด ขว้างระเบิด ลอบวางเพลิง จับอาวุธสงคราม  ลอบยิง  จับ 
คนเรียกค่าไถ่  และการมอบตัวของสมาชิก จกร. ในพื้นที่จังหวัดยะลา  ปัตตานี  และนราธิวาส  โดยผลการดำเนิน  
งานที่ผ่านมา  ศอ.บต.  ได้ดำเนินงานตามบทบาทด้านการประสาน  กำกับ  เร่งรัด   การดำเนินงานของส่วนราช   
การ ฯ โดยสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนกับราชการ และระหว่างประชาชนต่างวัฒนธรรมให้อยู่ร่วมกันอย่าง  
สมานฉันท์ ประเมินผลการพัฒนาและส่งเสริมเยาวชนตามโครงการพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่ ดำเนินกิจกรรมในการ 
พัฒนาและขยายเครือข่ายชุมชนป้องกันและแก้ปัญหายาเสพย์ติด   ตลอดจนปฐมนิเทศข้าราชการเพื่อให้มีความรู้ 
ความเข้าใจนโยบาย วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น  สำหรับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย 
ศอ.บต.  ได้จัดประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินตามนโยบายในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบ
ร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บรรลุผลตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ส่วนการเร่งรัดพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาที่ 
ถาวร นั้น  ได้จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่นโยบายและแผนของส่วนราชการในระดับจังหวัดเพื่อรับ 
ทราบแนวทางการจัดทำแผนเร่งรัดพัฒนา  ฯ  ประจำปี  พ.ศ. 2546   รวมไปถึงสนับสนุนการพัฒนาอาชีพให้กับ 
กลุ่มต่าง ๆ ความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาความร่วมมือภายใต้ IMT-GT ความก้าวหน้าโครงการที่ต่อเนื่องกับ 
เขตอุตสาหกรรมปัตตานี เสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน  และจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจิตวิทยา

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายลงทุนของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อฟื้นฟู
เศรษฐกิจที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติแล้ว  และมาตรการที่เสนอเพิ่มเติมเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายลงทุนในปี  พ.ศ. 2544   
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ   และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ  
ถือปฏิบัติต่อไป  โดยคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า  การเบิกจ่ายลงทุนเป็นการแสดงถึงความสามารถและภาวะผู้นำ 
ดังนั้น  รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงควรเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายเงินลงทุนโดยเร็ว  และให้กระทรวงการคลังเข็มงวด 
ในการพิจารณากันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม 
ในรอบ 3 เดือน ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติอันเป็น 
นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในเรื่องโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ การพัฒนารัฐวิสาหกิจ การปราบปราม  
และป้องกันยาเสพติด     สำหรับการดำเนินงานตามนโยบายด้านการคมนาคมได้มีการเร่งรัดผลักดันโครงการ 
ต่าง ๆ  การแก้ไขปัญหาการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  การปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการขนส่ง
ทางอากาศที่ท่าอากาศยานนราธิวาส    การเร่งรัดการใช้งบประมาณประจำปี  พ.ศ. 2544    การพิจารณางบ  
ประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 การแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของประเทศ การพิจารณาดำเนิน 
การให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคม การส่งเสริมพัฒนากิจการพาณิชยนาวีของประเทศอย่างจริงจัง 
การพัฒนาปรับปรุงการให้บริการและสถานีขนส่งทุกประเภท  การอำนวยความปลอดภัยด้านการขนส่ง  การ  
ยกเลิกแก้ไข  ปรับปรุงกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับที่เป็นปัญหาอุปสรรค  และล้าสมัย  สนับสนุนส่งเสริมการ
ดำเนินการตามนโยบายด้านการศึกษา การกระจายอำนาจ

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเร่งรัดเบิกจ่ายลงทุนของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 
ประกอบด้วย  มาตรการเร่งด่วน  โดยให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจปรับปรุงวิธีการดำเนินงานเพื่อเร่งรัดการเบิก  
จ่ายลงทุนในช่วง  4  เดือนที่เหลือให้ได้ตามเป้าหมาย   และรวบรวมรายงานการลงทุนที่เป็นงานเก่า/ต่อเนื่องซึ่งมี  
ความจำเป็นต้องใช้พัสดุจากต่างประเทศ เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบในคราวเดียวกัน  
และแสดงเหตุผลความจำเป็นที่ไม่สามารถใช้พัสดุในประเทศได้ เพื่อลดระยะเวลาในขั้นตอนการขออนุมัติ  ส่วนงาน  
ใหม่ นั้น ให้แจ้งสถาปนิกและวิศวกรเพื่อให้การออกแบบสอดคล้องกับนโยบายการใช้พัสดุในประเทศด้วย  สำหรับ   
มาตรการระยะต่อไป  ให้ดำเนินการแบ่งงวดงานใหม่เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วยิ่งขึ้น    และให้รัฐวิสาหกิจปรับ  
แผนวิสาหกิจให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และเชื่อมโยงกับนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ  รวมทั้งให้  
ปรับแผนการลงทุน โดยให้ยึดแนวทางในการใช้พัสดุภายในประเทศทดแทนเพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศและ 
สามารถส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใหม่ในประเทศได้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม  
แห่งชาติเสนอ   และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป  ทั้งนี้  ให้รัฐมนตรีที่มีรัฐวิสาหกิจในสังกัดดูแล 
และกวดขันเรื่องนี้ด้วย



          

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศิลปากรขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณสมทบโครงการเงินกู้  
จากต่างประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 จำนวน 20,681,210.35 บาท  ซึ่งผูกพันสัญญาแล้วสำหรับโครงการ  
เงินกู้ ฯ เป็นกรณีพิเศษออกไปอีกจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2544 ในส่วนของแผนงานเงินกู้เพื่อส่งเสริมและพัฒนา  
การท่องเที่ยว ระยะที่ 2  โครงการจัดตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยศิลปกรรม  วัฒนธรรม  และประเพณีแห่งอันดามัน จังหวัด 
พังงา  และแผนงานเงินกู้เพื่อการท่องเที่ยวและส่งเสริมการสร้างงานภายใต้โครงการลงทุนเพื่อสังคม  (SIP)  รวม
2  โครงการ  ได้แก่  โครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์   พระนครศรีอยุธยา   รวมทั้งโครงการบูรณะ
และปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์กู่น้อย  สันตรัตน์  กู่น้อยบ้านแดง  จังหวัดมหาสารคาม   ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ  
เสนอ  โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง  (เกี่ยวกับการให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการดำเนินงานของ 
ส่วนราชการในสังกัดที่มีโครงการที่ใช้เงินงบประมาณสมทบโครงการ  ฯ   ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 
ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินที่ 
ได้กำหนดไว้) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการเงินกู้ต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  
กับให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดดำเนินการโครงการเงินกู้ ฯ  ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 99 โครงการ  
ประกอบด้วย  โครงการของส่วนราชการ 45 โครงการ  และรัฐวิสาหกิจ 54 โครงการ  ซึ่งมีวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย   
จำนวน  311,759  ล้านบาท   ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ   โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานความคืบ 
หน้าของการเบิกจ่ายให้กระทรวงการคลังทราบทุก  45  วันด้วย    และเพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เกิดประโยชน์มากที่
สุด มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)   
และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนโครงการเงินกู้ ฯ ทุกโครงการในภาพรวม โดยให้พิจารณาในหลักการ 
ว่า เป็นโครงการที่มีความโปร่งใสในการดำเนินการ มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ 
หากโครงการซึ่งไม่เกิดประโยชน์หรือเกิดประโยชน์ไม่มากจะสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ได้ประโยชน์มากขึ้น 
เพียงใด และมีการเบิกจ่ายที่รวดเร็วขึ้น ส่วนโครงการที่มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงให้เร่งรัดการ 
เบิกจ่ายเงินกู้โดยเร็ว 

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปสถานการณ์เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบ 
ประมาณ พ.ศ. 2544  และเห็นชอบในหลักการมาตรการเร่งรัดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ฯ เพิ่มเติม  
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการเพิ่มเติมแนวทางในมาตรการ
ดังกล่าว  โดยการให้ปลัดกระทรวงหารือกรมต่าง ๆ เพื่อจัดทำแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายในส่วนของโครงการปกติ 
มาตรการระยะสั้นให้เร็วขึ้น   และรายงานปัญหาอุปสรรคต่าง  ๆ   แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีประจำสำนักนายก  
รัฐมนตรี  (นายจาตุรนต์  ฉายแสง)  ภายใน  2  สัปดาห์  เพื่อพิจารณาร่วมกัน   โดยให้สำนักงบประมาณร่วม 
พิจารณาด้วย  ส่วนโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาตรการระยะ 
สั้นซึ่งให้กระทรวงมหาดไทยเร่งประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อส่งคืนโครงการให้ส่วนราชการ
เจ้าของงบประมาณดำเนินงานแทน  กรณีที่ท้องถิ่นไม่มีความพร้อมในการดำเนินโครงการ นั้น อาจมีปัญหาใน
ทางปฏิบัติ จึงมอบให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปพิจารณาเสนอ  
คณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง     และให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับคณะกรรมการการกระจายอำนาจ  ฯ   ใน
การพิจารณาแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 ด้วย 
นอกจากนี้  ให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลส่วนราชการในความรับผิดชอบให้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ  
โดยให้ปรับปรุงแก้ไขระบบการปฏิบัติงานการเบิกจ่ายให้มีประสิทธิภาพและรัดกุม  มีความรวดเร็วและโปร่งใส 
รวมถึงให้เลือกสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเพื่อปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินประมาณประจำปี)
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการของหน่วยงานในสังกัด 
กระทรวงมหาดไทย งวดที่ 1 (ตุลาคม 2543 - มกราคม 2544) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 รวม  73  เรื่อง  
(73 โครงการ) ประกอบด้วย กรมการปกครอง 2 เรื่อง กรมพัฒนาชุมชน 8 เรื่อง กรมราชทัณฑ์ 3 เรื่อง กรมที่ดิน
3 เรื่อง กรมโยธาธิการ 18 เรื่อง กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท 1 เรื่อง กรมการผังเมือง 3 เรื่อง การทางพิเศษแห่ง 
ประเทศไทย 4 เรื่อง  การประปานครหลวง 2 เรื่อง  การประปาส่วนภูมิภาค 2 เรื่อง  การไฟฟ้านครหลวง 1 เรื่อง  
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง การเคหะแห่งชาติ 2 เรื่อง และกรุงเทพมหานคร 21 เรื่อง 

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงิน ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน  
ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนมาตรการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำ  
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์   
2544  มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 308,575 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ จำนวน  910,000  
ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 264,151 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน  44,424  ล้านบาท  ซึ่งมีอัตราการ 
เบิกจ่ายต่ำกว่าเงินประจำงวดที่ได้รับ โดยในส่วนของการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนโดยเฉพาะการ  
เบิกจ่ายของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณลงทุนเกินกว่า 1,000 ล้านบาท  จำนวน  32  แห่ง   ยังอยู่ใน  
อัตราที่ค่อนข้างต่ำ   ทั้งนี้  อนุมัติให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำชับหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดเร่งรัด  
การดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ โดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการที่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อหนี้ผูกพัน  และให้ผู้ว่า   
ราชการจังหวัดติดตามเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานภายในจังหวัดให้เป็น   
ไปตามเป้าหมายหรือแผนที่วางไว้   รวมทั้งกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินขององค์   
กรปกครองส่วนท้องถิ่นในส่วนของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กร  ฯ   และให้สำนักงบ  
ประมาณรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง  (เกี่ยวกับกรณีที่ส่วนราชการหลายแหล่งย้งเร่งใช้จ่ายงบประมาณ   
จากวงเงินที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีทำให้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของปีงบประมาณ  พ.ศ. 2544   ดังนั้น     
ในปีงบประมาณต่อไป  จึงควรจัดสรรงบประมาณให้ในจำนวนที่คาดว่าส่วนราชการนั้น ๆ จะสามารถเบิกจ่าย  
ได้ทันภายในปีงบประมาณ)  ไปใช้ประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545
และปีต่อ ๆ ไป  เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับความสามารถในการใช้  
จ่ายเงินของหน่วยงานและช่วยให้มีการเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปีงบประมาณ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

               เห็นชอบแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติที่ค้างการพิจารณาของสภา
ผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา   โดยให้กระทรวง  ทบวง  กรม  และหน่วยงานของรัฐที่ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาร่าง  
พระราชบัญญัติที่ค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เร่งรัดดำเนินการ   แล้วแจ้งผลการพิจารณามายังสำนัก  
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันที่  23  มีนาคม  2544   หากพ้นกำหนด  ให้ถือว่าไม่ประสงค์จะให้ดำเนินการ  
ต่อไป     สำหรับผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่กระทรวง  ทบวง  กรม  และหน่วยงานของรัฐได้แจ้งยืนยัน 
ขอให้ดำเนินการต่อไป และที่จะแจ้งยืนยันมาภายในวันที่  23  มีนาคม  2544  ให้ส่งคณะกรรมการประสานงาน
สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา   แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนร้องขอไปยังรัฐสภาภายในกำหนดดังกล่าว 
ยกเว้นร่างพระราชบัญญัติที่ค้างการพิจารณาอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1  แต่หากเห็นควรดำเนินการร่าง 
พระราชบัญญัติต่อไป  อาจเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ  แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน  
ราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป  เมื่อพ้นวันที่  4  เมษายน  2544  แล้ว  โดยไม่ต้องขอความ  
เห็นชอบจากหน่วยงาน และส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีก   เว้นแต่มีการแก้ไขเพิ่มเติม  
ในสาระสำคัญ   ทั้งนี้   มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในการหารือร่วมกับปลัดกระทรวง
ทบวง  ที่ยังมิได้แจ้งผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่ค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา  เพื่อการเร่งรัด 
และประสานงาน     ส่วนร่างพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ซึ่งค้างการ  
พิจารณาอยู่ในวุฒิสภา นั้น เห็นสมควรไม่ร้องขอไปยังรัฐสภาในคราวนี้  เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่สำคัญเกี่ยว  
ข้องกับนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร   และควรรับฟังปัญหาและร่วมหารือกับองค์กรเกษตรกรต่าง ๆ 
อย่างรอบคอบก่อน โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งให้รัฐมนตรี 
ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์) ชี้แจงให้เกษตรกรและสื่อมวลชนเข้าใจด้วย