คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ  รับทราบราย 
งานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามที่ธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เสนอ และที่ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการพิเศษและการวิเคราะห์ (นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค) และรองผู้  
อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (นางสาวประไพ สุวรรณรัฐ) ชี้แจงเพิ่มเติม  
ทั้งนี้  ให้  ธปท.  รับความเห็นและข้อสังเกตของ คศก. (เกี่ยวกับการเร่งรัดให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในส่วนต่อไป
โดยด่วน  การรายงานเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และ NPL จะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อให้การชี้แจงเรื่อง   
ดังกล่าวมีความชัดเจน  การปรับหลักเกณฑ์การคำนวณ  NPL  และเปลี่ยนวิธีการรายงานจะต้องดำเนินการอย่างระมัด  
ระวัง การสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น รวมทั้งการให้  ธปท.  ประสานกับธนาคารพาณิชย์ในการ  
ระวังป้องกันและกำหนดนโยบายเพื่อป้องกันไม่ให้หนี้ที่ดีกลายเป็น  NPL  โดยอาจพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือพิเศษ 
กับให้คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (คปน.)  ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ 
ประเมินผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ฯ ว่า มีผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด  และให้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุง  
โครงสร้างหนี้จำแนกตามประเภทธุรกิจในส่วนของผู้ประกอบการส่งสินค้าออกจำนวน 290 ราย  ให้กระทรวงพาณิชย์  
เพื่อจะได้พิจารณาช่วยเหลือตามความเหมาะสมต่อไป      และเพื่อความชัดเจนในการชี้แจงต่อสาธารณชนเกี่ยวกับการ 
ประนอมหนี้ จึงควรมีการประมวลคำถามหรือข้อสงสัยในทุกประเด็นที่เป็นที่สนใจพร้อมคำชี้แจงที่ชัดเจน แล้วนำเสนอ 
คศก. ทราบด้วย) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2543  รายไตรมาส 
(เพื่อให้มีการเร่งรัดติดตามผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณตั้งแต่ต้นปี และใช้เป็นเกณฑ์ในการติดตามและประเมิน
ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด)  ตามที่กระทรวงการ   
คลังเสนอ      โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเร่งรัดและติดตามผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงาน
ในสังกัดตั้งแต่ต้นปีงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 
2543 รายไตรมาสที่กำหนดไว้

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ระยะที่ 1  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542  (ตุลาคม 2541 - มีนาคม 2542)  (ประกอบด้วย 
แผนงานต่าง ๆ จำนวน 6 แผนงาน) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของ  
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการเร่งรัดหรือให้ความสำคัญลำดับสูง  
ในการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ในระยะต่อไป คือ การเร่งรัดและสนับสนุนเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิ  
ภาคและท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและยกระดับรายได้ของประชาชน  ได้แก่  การพัฒนาธุรกิจ 
ชุมชน และเศรษฐกิจพอเพียง โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมคิด ร่วมจัดทำแผน  และ  
ร่วมบริหารจัดการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วอย่างกว้างขวางและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง   สนับสนุน 
ให้เกิดประชาคมในทุกระดับ ได้แก่ ประชาคมจังหวัด อำเภอ ตำบล  เป็นต้น  ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริม   
ความเข้มแข็งของชุมชน  รวมทั้งเร่งรัดและสนับสนุนแผนกระจายอำนาจและปรับบทบาทของส่วนกลาง  ส่วนภูมิ  
ภาค  และส่วนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ   โดยให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจการบริหาร 
งบประมาณ  ให้จังหวัดเป็นผู้จัดการทรัพยากรลงพื้นที่ตามแผนที่ได้จากความต้องการของชุมชม)  ไปดำเนินการ
ต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) เกี่ยวกับราย  
งานสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอ (โดยสรุปคือ สถานการณ์ค่าเงิน  
ภูมิภาคมีแนวโน้มฟื้นตัวเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น เช่น  อัตราเงินเฟ้อที่  
อยู่ในระดับต่ำ ดุลบัญชีเดินสะพัดมีฐานะดีขึ้น อย่างไรก็ดีปัจจัยภายใน เช่น  ความไม่แน่นอนทางการเมือง  การทุจริต  
ในระบบการเงินของประเทศในภูมิภาคสามารถส่งผลให้ค่าเงินของประเทศนั้น ๆ อ่อนตัวลงเป็นครั้งคราว)  และที่  
ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ธปท.  (นางอัจนา ไวความดี)  รายงานเพิ่มเติม  (เกี่ยวกับภาวะค่าเงินบาทซึ่งอ่อนตัวลง  
ในปัจจุบัน นอกจากเป็นเพราะปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น  การนำเงินที่มาลงทุนใน   
ตลาดหลักทรัพย์กลับออกไปเมื่อสามารถขายทำกำไรได้ สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในภูมิภาค การ   
แก้ไขปัญหาหนี้เสียที่ล่าช้า  ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้   และ 
การเร่งรัดชำระหนี้ต่างประเทศของภาคเอกชน ซึ่งเกรงว่าค่าเงินบาทจะอ่อนตัวอีกอย่างต่อเนื่อง   สำหรับแนวโน้ม  
ค่าเงินบาทในระยะต่อไปจะแข็งตัวขึ้น โดยคาดว่าจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งปีประมาณร้อยละ 3 - 4  นอก  
จากนี้  ยังได้ศึกษาผลกระทบการเปลี่ยแปลงของค่าเงินบาทต่ออัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ   โดย  
ผลการศึกษาดังกล่าว แตกต่างจากการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 
ที่ศึกษาผลกระทบของค่าเงินที่มีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ โดยผ่านปัจจัยราคาน้ำมัน)

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ 
รายงานมาตรการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว  ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี  (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 
[ททท.]) เสนอ และที่รองผู้อำนวยการ ททท. (นางจุฑามาศ ศิริวรรณ) รายงานเพิ่มเติม  โดยให้ ททท. และหน่วย 
งานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี ประธาน คศก.  รองนายกรัฐมนตรี  (นายพิชัย รัตตกุล)   และรอง 
นายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) (เกี่ยวกับการขยายแหล่งท่องเที่ยวในภาคเหนือ/ภาคอีสาน โดยเฉพาะ 
จังหวัดที่มีความงานและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง    รวมถึงความมีศักยภาพเพื่อรองรับการท่องเที่ยวแบบขับรถ  
ยนต์เป็นคาราวาน เนื่องจากโครงการถนนแบบสี่ช่องจราจรจะแล้วเสร็จในปี 2543   ตลอดจนส่งเสริมจังหวัดที่มี 
ศักยภาพและมีภูมิประเทศสวยงามแตกต่างกันไปเช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติม กับให้ 
ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2538   เกี่ยวกับแผนดำเนินการส่งเสริมเอกลักษณ์สถาปัตย 
กรรมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารของทางราชการ รัฐวิสาหกิจและอาคารสาธารณะ  การดึงดูดใจนักท่องเที่ยว 
ชาวต่างประเทศโดยการขายสินค้าปลอดภาษีในเขตขายสินค้าปลอดภาษีในราคาถูก   การเร่งรัดดำเนินการและ 
ประสานงานให้เกิดเป็นรูปธรรมสำหรับนโยบายที่จะให้ประเทศไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาค เช่น  กัมพูชา  ลาว  และ 
พม่า รวมทั้งการให้ความสำคัญกับเมืองมัณฑะเลย์และกำหนดเป็นเป้าหมายแหล่งท่องเที่ยวสำหรับการท่องเที่ยว
แบบ Package Tour) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย  

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการเพื่อติดตามประเมินผลและแนะนำการเพิ่มประสิทธิ
ภาพของการดำเนินการตามโครงการแทรกแซงตลาดยางพารา สำนักนายกรัฐมนตรี รายงานผลการดำเนิน
การของคณะกรรมการเพื่อติดตามประเมินผล ฯ  ครั้งที่  6   กรณีการใช้จ่ายเงินโครงการแทรกแซงตลาดยาง
(วงเงิน 4,000 ล้านบาท) โดยมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในบางประเด็น อาทิ ควรมีการเร่งรัดให้สำนักงาน
กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่บกพร่องต่อหน้าที่ให้เสร็จสิ้นโดย
เร็ว  และการดำเนินงานโครงการระยะต่อไป ควรเน้นให้เจ้าหน้าที่เห็นความสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
กลไก  และวิธีการบริหารการแทรกแซงตลาดยาง  และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  ส่วนการจัดเก็บยางแผ่นดิบ
และยางแผ่นรมควัน  ควรวางแผนให้สัมพันธ์กันตั้งแต่การรับซื้อยาง  สถานที่เก็บยางแผ่นดิบ  ความเพียงพอ
ของโรงรมควัน การส่งมอบรับมอบยางลูกขุน พร้อมข้อยุติกรณีมีปัญหาการส่งมอบและการเก็บสต๊อคยางลูก
ขุนเพื่อให้เกิดระบบที่ดี  นอกจากนี้   การจัดทำบัญชีโครงการ ฯ  ระยะต่อไปควรพิจารณากำหนดกรอบวัตถุ
ประสงค์ของการจัดทำบัญชีให้ชัดเจนว่า  ต้องการให้ข้อมูลทางบัญชีสะท้อนภาพของโครงการ ฯ อย่างไรและ
กำหนดไว้ในสัญญาให้มีความรัดกุมและชัดเจน เป็นต้น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตและข้อเสนอ
แนะของคณะกรรมการเพื่อติดตามประเมินผล ฯ ไปพิจารณาดำเนินการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลสหรัฐ ฯ  สำหรับโครงการเร่งรัดการฟื้นฟู 
เศรษฐกิจในเอเชีย (Accelerating Economic Recovery in Asia - AERA)(ซึ่งให้การสนับสนุนด้านการฝึกอบรมบุคลากร 
และให้เงินช่วยเหลือในกิจกรรม ได้แก่ การฟื้นฟูการประกอบการของธนาคารและธุรกิจการปฏิรูปและเสริมสร้างความ 
แข็งแกร่งแก่ระบบบริหารการเงินและบรรษัท การปฏิรูปและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ระบบการบริหารในภาค  
รัฐ   รวมทั้งการขยายขอบเขตและจำนวนของโครงการสำหรับประชากรที่ประสบปัญหา) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการ 
กระทรวงการต่างประเทศลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานเกี่ยว
กับกฎหมายที่ต้องตราให้เสร็จภายใน 2 ปี ตามรัฐธรรมนูญ (ครบกำหนดวันที่ 10 ตุลาคม 2542) ข้อมูล ณ
วันที่ 21 กันยายน 2542  (ประกอบด้วย กฎหมายที่รัฐสภาเห็นชอบแล้ว จำนวน  21  ฉบับ และกฎหมายที่
อยู่ระหว่างดำเนินการของรัฐสภา  จำนวน  9  ฉบับ)  และให้ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรดำเนินการ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติม  (เกี่ยวกับการดำเนินการเร่งรัดพิจารณาร่างกฎหมาย
ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของรัฐสภา จำนวน 9 ฉบับ ให้เสร็จตามกำหนด  เนื่องจากสมัยประชุมสามัญนิติ
บัญญัติของรัฐสภา (สมัยประชุมที่สอง พ.ศ. 2542) จะสิ้นสุดในวันที่ 21 ตุลาคม 2542)

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบเงินกู้ตามมาตรการเพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐเพื่อ  
กระตุ้นเศรษฐกิจปีงบประมาณ 2542  งวดที่ 1  เกี่ยวกับความเหมาะสมของระบบที่ใช้ควบคุมการใช้จ่ายเงิน  
ตามมาตรการเพิ่มค่าใช้จ่ายภาค รัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปีงบประมาณ 2542 งวดที่ 1 ความก้าวหน้าในการ  
เบิกจ่ายเงิน และข้อสังเกตจากการตรวจสอบและทิศทางของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และให้ส่วนราชการเร่งรัด 
การดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถประสงค์ของมาตรการดังกล่าว   รวมทั้งให้รับข้อสังเกตจากการตรวจสอบ    
และทิศทางของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น (เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและการดำเนินงานโดย  
เฉพาะกระบวนการในการจัดซื้อจัดจ้าง  การตรวจรับงาน   ตลอดจนการจ่ายเงินกู้ให้ถูกต้อง  โปร่งใสอย่าง  
เคร่งครัด  และใช้ข้อข้อสังเกตจากการตรวจสอบและทิศทางของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นข้อมูลในการกำกับ    
ดูแล ทั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องต่อไป) ไปพิจารณาดำเนินการ  ตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่น 
ดินเสนอ
 

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 133 เรื่อง การออกเอกสารสิทธิ์ในนิคมสหกรณ์อำเภอชัย   
บาดาล   จังหวัดลพบุรี   ของนายอำนวย  คลังผา   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี   ตามที่สำนักงานเลขาธิ 
การสภาผู้แทนราษฎรเสนอ  และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ  
สหกรณ์ตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร  (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม   สรุปได้ดังนี้   ที่ดินทำกินของราษฎรใน  
อำเภอชัยบาดาล  จังหวัดลพบุรี  จำนวน 380,000 ไร่ ซึ่งราษฎรได้อยู่อาศัยและทำกินมานานแล้ว รัฐบาลสามารถ   
ออกเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินให้ได้หรือไม่   และขณะนี้ได้ดำเนินการตามโครงการเร่งรัดการออกเอก   
สารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินทั่วประเทศ  โดยเฉพาะการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ที่ราษฎรเข้าทำกินและเป็น
ที่อยู่อาศัยไว้อย่างไร และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาเท่าใด)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบาย
เศรษฐกิจในการประชุม ครั้งที่ 25/2542 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2542 ซึ่งได้พิจารณาเรื่อง สรุปผลการประชุม
แผนปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกปี 2543 ร่วมกับหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ผลการประชุม  สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศและส่วนกลาง ได้ประเมินสถานการณ์ส่งออกปี  2542
แล้ว  ยืนยันการส่งออกในปี  2542  จะขยายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ  4.0   ส่วนกระทรวง
พาณิชย์ได้มีนโยบายหลักในเรื่องการเร่งรัดการส่งออกโดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ
สินค้าไทย  เพื่อให้สามารถรักษาและขยายส่วนแบ่งในตลาดโลกได้   โดยเน้นกลยุทธ์ในการส่งเสริมและพัฒนา
การส่งออก ดังนี้ การขยายตลาดใหม่ ได้แก่ ละตินอเมริกา  ยุโรปตะวันออก  ตะวันออกกลาง  อาฟริกา  เอเชีย
ใต้  จีน  และเอเชียตะวันออก  และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน   การสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย  โดยการสร้างตรา
สัญลักษณ์สินค้าไทย  (Brand)  ของไทย การสร้างเครือข่ายกระจายสินค้าที่ใช้ตราสัญลักษณ์สินค้าไทยในต่าง
ประเทศ  (Distribution Network for Brand Name Products)  การขยายการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เน้นการ
กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการค้า  บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกันและเกื้อกูลกัน  รวม
ทั้งสนับสนุนให้ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการของไทยใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารข้อมูล (Information Tech
nology) ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าไปทั่วโลกให้มากขึ้น และสนับสนุนให้สามารถทำให้เกิดการค้าทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ให้มากขึ้น  และส่งเสริมการส่งออกแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ซึ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการให้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าในอนาคต

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.)  คือ  รับทราบ 
สรุปมติการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ครั้งที่ กปพ. 2/2542 
รวม 6 เรื่อง ได้แก่ การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การเพิ่มผลผลิตของประเทศ การจัดสรรเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างการ 
ผลิต การปรับโครงสร้างเกษตร  การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม  การจัดตั้งกองทุนพัฒนานวัตกรรม  และการจัด   
ทำแผนปฏิบัติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง    
ชาติ (สศช.) เสนอ   โดยให้ สศช. รับความเห็นของ คศก. (เกี่ยวกับการเร่งรัดจัดทำแผนแม่บทยุทธศาสตร์การเพิ่ม  
ผลผลิตให้เสร็จเร็วกว่าที่กำหนด เนื่องจากเป็นแผนที่จะมีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและการ  
ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจ  การจัดสรรเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างการผลิตควรรายงานการจัดสรรเงินให้ชัดเจน  
ด้วยว่าเป็นเงินกู้ที่จะนำมาใช้ในการปรับโครงสร้างการผลิตจำนวนเท่าใด การเร่งรัดการจักสรรเงินกู้เพื่อปรับโครง
สร้างอุตสาหกรรมและใช้เงินให้เกิดผลในทางปฏิบัติให้เร็วกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายการผลิตไปสู่ภูมิภาค 
ความล่าช้าในการจัดสรรเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างเกษตร และการเร่งรัดการจัดสรรเงินสนับสนุน จำนวน 100 ล้าน
บาท  ในการจัดตั้งกองทุนพัฒนานวัตกรรม  ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม จากสำนักงบประ
มาณ) ไปพิจารณาเร่งรัดดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการจัดส่งเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าร่วมในปฏิบัติการของสหประชาชาติ
ในโคโซโว โดยให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการ  ทั้งนี้  ความปลอดภัยในพื้นที่ต้องอยู่ในระดับที่สามารถรับได้  และ  
ต้องมีการพิจารณาความพร้อมของหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้องของไทยเป็นสำคัญ  โดยให้การกำหนดราย  
ละเอียดเกี่ยวกับเวลาและวิธีการจัดส่งจำนวนและประเภทของเจ้าหน้าที่อยู่ในดุลยพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง   
การต่างประเทศ   และให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบในโอกาสแรก  ตามที่กระทรวงการต่าง  
ประเทศเสนอ  และให้ดำเนินการต่อไปได้  โดยให้กระทรวงการต่างประเทศรับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี  (เกี่ยว 
กับการเร่งรัดและติดตามผลการดำเนินการในเรื่องนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว ควรให้ทหารมี
ส่วนร่วมด้วยเนื่องจากมีประสบการณ์) ไปดำเนินการด้วย 

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.)  คือ  รับทราบ
ผลการดำเนินงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตามกรอบการดำเนินงานของ คศก. ประจำปี 2542 
(เกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายและแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2542  และการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงการลงทุน 
เพื่อสังคม (Social  Investment  Project : SIP)) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ททท.) เสนอ   โดยให้  
ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม  สำนัก    
งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ (เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก 
ให้แก่นักท่องเที่ยวด้านการผ่านแดน และระเบียบพิธีการเข้าเมือง  กลยุทธ์หลักในการดำเนินงานตลาดในประเทศ  
ส่งเสริมให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ    การเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตามโครงการลงทุน  
เพื่อสังคม  (SIP)  ในส่วนของแผนงานเงินกู้เพื่อการท่องเที่ยวและส่งเสริมการสร้างงาน ภายใต้โครงการลงทุนเพื่อ   
สังคมให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณโดยเร็ว ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างงานและการกระจายราย  
ได้ไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ    รวมทั้งการให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดการดำเนินการและขออนุมัติเงินประจำ 
งวดโดยเร็วต่อไป) และรับประเด็นอภิปรายของ  คศก.  ในส่วนที่เกี่ยวข้อง (เกี่ยวกับกลยุทธ์พัฒนาการท่องเที่ยวปี 
2542  ควรคำนึงถึงรสนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นสำคัญ  ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ  Package   การรักษา    
ความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว การเร่งรัดพิจารณาในการออกเอกสารให้แก่ชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อ  
การท่องเที่ยว  การพิจารณาเกี่ยวกับมาตรฐานการติดตั้งเครื่องหมายควบคุมการจราจา การสะกดคำ ชื่อ สถานที่ 
และถนนต่าง ๆ  ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ    และให้นำแผนปฏิบัติการโครงการไทยเที่ยวไทยเสนอ
คศก. ในการประชุมครั้งต่อไป) ไปพิจารณาดำเนินการ 

ร

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ  (คศก. ) คือ  รับทราบ 
รายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2542 ในช่วง 9 เดือนแรก (ตุลาคม 2541 
- มิถุนายน 2542) ตามที่กระทรวงการคลัง รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ  (นายพูลทรัพย์ ปิยะอนันต์)  และ   
เลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติรายงาน และชี้แจง  และเห็นชอบให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ 
ที่มีงบลงทุนสูง  แต่มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำมาชี้แจงปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อ  คศก.  ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ  รวมทั้งมอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งหน่วยงานในกลุ่มที่ 1 ที่มีอัตราการ  
เบิกจ่ายต่ำกว่าร้อยละ 30 และกลุ่มที่ 2 ที่มีอัตราการเบิกจ่ายสูงกว่าร้อยละ  30  แต่ต่ำกว่าร้อยละ  55  เร่งรัดการ 
เบิกจ่ายเงินเป็นกรณีพิเศษ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ซึ่งได้รับมอบหมายและ 
มอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการสำนักงบประมาณแทนนายกรัฐมนตรีติดตามผล 
การเร่งรัดการเบิกจ่ายทุกสัปดาห์

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ 
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2542 (ตุลาคม 2541 - มีนาคม 2542) ประกอบด้วย โครงการ  
ต่าง ๆ  จำนวน  118  โครงการ  ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ  ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ     และให้
กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการ 
เร่งรัดหรือให้ความสำคัญลำดับสูงในการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ในระยะต่อไป  คือ  การเร่งรัดและสนับสนุนให้  
หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจและให้ความมั่นใจแก่ต่างชาติในการลงทุน   การปรับปรุง/ขยาย  
ข่ายงานคุมประพฤติให้ครอบคลุมฟื้นที่และกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ    การจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
และการพัฒนาระบบข้อมูลของกระบวนการยุติธรรม) ไปพิจารณาดำเนินการ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินระยะยาวเพิ่มเติม จำนวน 5,240  
ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การชำระหนี้ และการลงทุน  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ  โดย   
ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้และเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน  เงื่อนไข   และรายละเอียดต่าง ๆ  ในการกู้  
เงิน  ตลอดจนการค้ำประกัน    และให้ รฟท. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ  
สังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ (เกี่ยวกับการเร่งรัดปรับปรุงการบริการให้มีคุณภาพที่ดีและเป็นระบบ เพิ่ม 
มาตรฐานความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พิจารณาวิธีการ   
เงื่อนไข และรายละเอียดของจำนวนเงินที่จะต้องกู้ตามความจำเป็น เหมาะสมและสอดคล้องกับฐานะการเงินของ  
รฟท.  การแก้ไขปัญหากรณีที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยขอชะลอการจ่ายส่วนแบ่งรายได้จากค่าตอบแทน  
โครงการเคเบิลใยแก้วนำแสง จำนวน 625 ล้านบาท  ให้แก่  รฟท.  ให้มีข้อยุติโดยเร็ว  รวมทั้งการปฏิบัติตามมติ  
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541  เกี่ยวกับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้และการลดค่า   
ใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ของ รฟท.) ไปพิจารณาดำเนินการ   ทั้งนี้  ให้ รฟท. รายงานผลการดำเนินงาน  ตลอดจน 
ปัญหาอุปสรรค  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541 และเมื่อวันที่  24  พฤศจิกายน  2541 ให้  
คณะรัฐมนตรีทราบตามกำหนดเวลาโดยเคร่งครัดด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบรายงาน 
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้  ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)   
รายงาน  (เกี่ยวกับความคืบหน้าในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินและลูกหนี้กลุ่มเป้าหมาย  และ 
ความคืบหน้าในการดำเนินการตามสัญญาระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ สัญญาระหว่างเจ้าหนี้และบันทึกข้อตกลงใน 
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยได้มีการลงนามในสัญญาของสถาบันการเงินเจ้าหนี้)และตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงการคลัง (นายพิสิฐ ลี้อาธรรม) ชี้แจงเพิ่มเติม (เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของธนาคารกรุงไทย 
และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์)  โดยให้  ธปท.  รับ  
ข้อสังเกตของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)  (เกี่ยวกับการให้รายงานสภาพหนี้ 
ที่มีปัญหาโดยรวม   ผลการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่รัฐบาลเข้าแทรกแซง ตามมาตรการ  14
สิงหาคม 2541 สัดส่วนและความสำเร็จของการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ผ่านคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับ
ปรุงโครงสร้างหนี้และที่ดำเนินการผ่านขั้นตอนทางศาล และการเร่งรัดดำเนินการให้ลูกหนี้ขนาดกลางและขนาด
เล็กเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการเร่งรัดการสำรวจและประเมินศักยภาพทรัพยากรแร่ ตามข้อเสนอ 
ของกระทรวงอุตสาหกรรม  ส่วนการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี นั้น โดยที่มีมติคณะรัฐมนตรี  เมื่อ  
วันที่ 11 มิถุนายน 2534  เรื่อง แนวทางการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่เขตนิคมสร้างตนเองของกรม 
ประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย และเขตนิคมสหกรณ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ซึ่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการได้อยู่แล้วก็ให้ปฏิบัติตามนั้นต่อไป  ยกเว้นการสำรวจลุ่มน้ำชั้น 1 ให้เสนอ 
ขออนุมัติเป็นราย ๆ  ไป  โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม 
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   และข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี  (เกี่ยวกับระยะ 
เวลาดำเนินการของโครงการนี้  ซึ่งมีเวลาดำเนินการถึง 7 ปี  ดังนั้น  การสำรวจลุ่มน้ำชั้นที่ 1  ควรดำเนินการใน  
ช่วงเวลาท้ายโครงการ  เพราะถึงเวลานั้นอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสมกว่าในปัจจุบัน  การ 
พยายามชักชวนให้เอกชนเข้าร่วมดำเนินการในการแสวงหาแหล่งแร่ด้วย   รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการดูแล   
รักษาสิ่งแวดล้อม    โบราณสถาน    สถานที่สำคัญสวยงามหรือแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งแม้จะเป็นแหล่งแร่ก็
ตาม  ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงโอกาสของประชาชนในท้องถิ่นในอันที่จะมีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จาก 
ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นนั้น ๆ) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเร่งรัดการสอบสวนหรือการตรวจสอบผลดำเนินการ กรณีเรื่องทุจริต 
เกี่ยวกับเรื่อง การดำเนินโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ เรื่อง การก่อสร้างถนนของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท  
(รพช.) จังหวัดกาญจนบุรี  เรื่อง การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินและการปลูกสร้างบ้านพักจำนวน  3  หลัง  ในพื้นที่
อำเภอศรีสวัสดิ์  จังหวัดกาญจนบุรี    และเรื่อง การดำเนินมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวสาร ขององค์การรับส่ง   
สินค้า  และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร     โดยให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบเร่งรัดและติดตามการสอบสวน หรือ  
การตรวจสอบการดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ  รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้
ประชาชนทราบความก้าวหน้าด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ