คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการและแนวทางเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2546  และให้ดำเนินการต่อไปได้  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  ทั้งนี้  ให้ส่วนราชการและรัฐ
วิสาหกิจถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  8  ตุลาคม  2545  เรื่อง รายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545  (ณ  สิ้นเดือนกันยายน  2545)  เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
และการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณในแผนงาน/โครงการต่าง  ๆ    โดยให้ถือเสมือนว่าเดือนสิงหาคม
2546 เป็นเดือนสิ้นสุดปีงบประมาณ พ.ศ. 2546   แทนเดือนกันยายน  เช่นเดียวกับที่ได้ถือปฏิบัติแล้วในปีงบ
ประมาณที่ผ่านมาด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 213 เรื่อง การจัดสรรงบประมาณของกรมการเร่งรัด
พัฒนาชนบทในการซ่อมแซมถนนที่ชำรุด ของนายพูลสวัสดิ์ โหตระไวศยะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
อุบลราชธานี  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีหลักเกณฑ์อย่างไรในการจัดสรรงบประมาณให้กับกรมการเร่งรัดพัฒนา
ชนบทเพื่อซ่อมแซมถนนที่ชำรุดให้ทันต่อการพัฒนาประเทศและทั่วถึงทุกจังหวัด  และมีมาตรการอย่างไรใน
การตรวจสอบการซ่อมแซมถนนของกรมการเร่งรัด ฯ ที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งมีมาตรการอย่างไรในการป้อง
กันการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นในการซ่อมแซมถนนของกรมการเร่งรัด ฯ ในทุกขั้นตอนของการซ่อมแซม ตั้งแต่
การประมูล การจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ และการดำเนินการซ่อมแซมถนน  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และ
มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 626 ร. เรื่อง  การก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านแหลม
-ย่านซื่อ ของนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี  ซึ่งถามว่า  กรมการเร่ง
รัดพัฒนาชนบทมีแผนที่จะปรับปรุงถนนลาดยางสายบ้านแหลม-ย่านซื่อได้โดยเร็วเมื่อใด ถ้าไม่สามารถก่อสร้าง
ถนนลาดยางได้โดยเร็ว กรมการเร่งรัด ฯ  จะมีการดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมให้สามารถใช้สัญจรโดยปราศจาก
ความขรุขระ หลุมลึกและฝุ่น ได้อย่างไร และเมื่อใด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุ
เบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงาน ปี พ.ศ. 2545 งบทำการปี พ.ศ. 2546 และแนวโน้มการ
ดำเนินงานและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ปี พ.ศ. 2547 - 2549   รวมทั้งเห็นชอบงบลงทุน ปี พ.ศ. 2546  ของ
รัฐวิสาหกิจ การเร่งรัด /การกำกับ การเบิกจ่ายและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ  ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่
2 โดยให้ถือว่างบประมาณลงทุน ปี พ.ศ. 2546 ของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งยังคงสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความ
เหมาะสมและจำเป็น  เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงิน  ความพร้อมของรัฐวิสาหกิจ  และนโยบายที่เกี่ยว
ข้องของรัฐบาล  ซึ่งกระทรวงการคลัง  สศช.  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้พิจารณาตามแต่ละกรณีต่อไป  ทั้งนี้
คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบประมาณดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ  ควรจัดทำงบดุล  บัญชีทำการ
และบัญชีกำไรขาดทุนของปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดสำหรับรัฐ
วิสาหกิจบางแห่งที่ยังมีปัญหาไม่สามารถจัดทำงบดุล ฯ  ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  หรือปีก่อน ๆ ได้  ให้เร่ง
จัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน (ภายในวันที่  31  ธันวาคม  2545) ด้วย   หากไม่สามารถดำเนินการให้แล้ว
เสร็จทันภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจรายงาน และชี้แจงเหตุผลความจำเป็นเป็นลาย
ลักษณ์อักษรต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง   นอกจากนี้  เห็นควรให้หน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นมืออาชีพและได้รับ
การรับรองถูกต้องเข้ามีส่วนร่วมในการตรวจสอบฐานะทางการเงิน และงบประมาณของรัฐวิสาหกิจ ส่วนปัญหา
ที่ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจยังไม่เข้าใจระบบการเงินการคลัง  และการตลาดอย่างเพียงพอ   ให้กระทรวงการคลังรับ
ไปพิจารณาดำเนินการโดยอาจจัดหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้แก่ผู้บริหารรัฐ
วิสาหกิจ ตามความเหมาะสมต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (คกก.2)
ที่มีมติเห็นชอบผลการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนากิจการอาหารฮาลาล ครั้งที่ 1/2545 (ยุทธศาสตร์การ
ส่งเสริมให้ภาคใต้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล) ได้แก่  แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมแปร
รูปผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล  การพัฒนาและปรับปรุงเขตอุตสาหกรรมและท่าเทียบเรือประมงปัตตานี  และกล
ไกการบริหารจัดการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ  ทั้งนี้  ให้คณะอนุกรรมการพัฒนากิจการ
อาหารฮาลาลรับความเห็นของ คกก.2 (เกี่ยวกับการเร่งรัดปรับปรุงกลไกการรับรองเครื่องหมายฮาลาล  การ
พัฒนาด้านการตลาดอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล  รวมทั้งการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลและปรับ
ปรุงท่าเทียบเรือประมงปัตตานี) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป   และเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อ   "สถาบันรับรอง
มาตรฐานอาหารฮาลาล" เป็น "สถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาล"

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ เกี่ยวกับการเร่งรัดดำเนินการตามผลการ
เจรจาข้อตกลงและความร่วมมือในเรื่องต่าง ๆ กับหลายประเทศ  เช่น ประเทศอินเดีย  และสหรัฐอเมริกา 
เรื่อง การตั้งเขตการค้าเสรี  (Free Trade Area -FTA) และประเทศญี่ปุ่น เรื่อง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 
(Closer Economic Partnership-CEP) โดยให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและเร่งรัดดำเนินการตาม
ภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะเรื่องที่ไทยเป็นฝ่ายริเริ่ม กระทรวงการต่างประเทศ
ต้องช่วยดูแลประสานการดำเนินงานและแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทราบอย่างชัดเจนและ
รวดเร็วเพื่อมิให้การดำเนินงานในเรื่องเหล่านี้เกิดการกระจุกตัวและชะงักงัน   ทั้งนี้   ให้รองนายกรัฐมนตรี  
(นายกร ทัพพะรังสี) ซึ่งได้รับมอบหมายและมอบอำนาจให้เป็นผู้กำกับดูแลติดตามเรื่องหรือข้อตกลงใด ๆ  
ที่ได้มีการเจรจาทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีกับต่างประเทศ ได้ติดตามและเร่งรัดเพื่อให้การดำเนินการ
สัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการ
ประกวดคัดเลือก  รวมทั้งการส่งเสริมด้านการตลาดของการจำหน่ายสินค้าของโครงการหนึ่งตำบล  หนึ่ง
ผลิตภัณฑ์  โดยให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีประสานการดำเนินงานกับรองนายกรัฐมนตรี  (นายปองพล
อดิเรกสาร)  ประธานคณะกรรมการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์  เพื่อจัดการประกวดสินค้าของโครงการฯ
โดยมีการแยกหมวดหมู่สินค้าแต่ละประเภทให้ชัดเจน   และกำหนดให้มีรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด   เพื่อ
เป็นการสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาคุณภาพสินค้า   การออกแบบผลิตภัณฑ์   และพิจารณาเกี่ยวกับการ
จัดหาสถานที่สำหรับแสดงสินค้า (Show Room) ของโครงการฯ เป็นการถาวรด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรี
เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
ของหน่วยงานในสังกัด งวดที่ 2 (กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2545) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 รวม 101 เรื่อง
ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 1 เรื่อง กรมการปกครอง 8 เรื่อง กรมการพัฒนาชุมชน 10 เรื่อง กรม
ที่ดิน 2 เรื่อง กรมโยธาธิการ 17 เรื่อง กรมราชทัณฑ์ 5 เรื่อง  กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท 3 เรื่อง  กรมการผัง
เมือง 12 เรื่อง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2 เรื่อง การประปานครหลวง 3 เรื่อง  การประปาส่วนภูมิภาค 1
เรื่อง  การไฟฟ้านครหลวง 6 เรื่อง  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง  การเคหะแห่งชาติ 1 เรื่อง  องค์การตลาด 2 
เรื่อง และกรุงเทพมหานคร 25 เรื่อง

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยถอนเรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี 2545
งบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ให้กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท เพื่อดำเนินการบูรณะ
ลาดยางและปรับปรุงทางในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 34,066,428 บาท คืนไปได้ ตาม
ที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 131 เรื่อง โครงการก่อสร้างถนนลาดยางและปรับปรุง
ถนนของกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท ในเขตอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ของนายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง สมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์  ซึ่งถามว่า   กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่ดำเนินการก่อสร้างถนนลาดยาง
สายบ้านหนองแวงศรีสวัสดิ์-บ้านหนองแวงดง  กส. 12007  ให้แล้วเสร็จเมื่อใด ใช้งบประมาณในการดำเนินงาน
เท่าใด   รวมทั้งมีมาตรการที่จะพัฒนาเชื่อมโยงโครงการก่อสร้างถนนลาดยางในเขตชุมชนบ้านหนองปะโอ-บ้าน
ป่าหวาย กส. 3104  อย่างไร ให้มีมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ และได้ดำเนินการก่อสร้างถนนลาดยางดังกล่าว อยู่
ในขั้นตอนใด  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบที่ประชุมสภา
ผู้แทนราษฎรต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 132 เรื่อง โครงการก่อสร้างถนนลาดยางและปรับ
ปรุงถนน รพช. ในเขตอำเภอหนองกุงศรี  จังหวัดกาฬสินธุ์  ของนายวิทยา  ภูมิเหล่าแจ้ง  สมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถามว่า  กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่จะดำเนินการก่อสร้างถนนลาดยางสาย
บ้านโนนศรีสวัสดิ์-บ้านนาอวน สายบ้านห้วยยางดง-บ้านหนองกล  ให้แล้วเสร็จเมื่อใด ต้องใช้งบประมาณ
ในการดำเนินงานเท่าใด     และมีมาตรการที่จะพัฒนาเชื่อมโยงโครงการก่อสร้างถนนลาดยางในเขตชุมชน
ดังกล่าวอย่างไร และจะให้มีมาตรฐานเดียวกันหรือไม่  ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างถนนลาดยางทั้ง 2 สาย 
ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนใด   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 141 เรื่อง ขอให้กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบทราดยาง
ถนนเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร ของนายนิยม วรปัญญา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี 
ซึ่งถามว่า  ขอให้อธิบดีกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท ศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทนครราชสีมา สำนักงาน
เร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดลพบุรี  ดำเนินการสำรวจ  ออกแบบเข้าแผนโครงการราดยางถนนสายน้ำตกวังก้าน
เหลือง-หนองปลาไหล-หนองขาม-หนองกระสังข์-เขาสมโภชน์  สายหนองกระเต็ง-เขาสมโภชน์   สายหนอง
มะค่า-แหลมชนแดน-วังพิกุล-ไพศาลี-จังหวัดนครสวรรค์ สายหัวลำสุด-เขาใหญ่-ดินแดง สายทรัพย์สมบูรณ์
-วัดวังไทร-ห้วยวัวตาย-วังขอน-นาสวรรค์-วังตาอินทร์-หัวเขา-สระเพลง - วัดเนินสวรรค์ - พุแว้ - โรงเรียน
มัธยมโคกเจริญ  สายทะเลวังวัด-วังน้ำสุด-วังม่วง  สายลำโกศทอง-เนินศิลา   และสายเขายายกะตา-โกรกรก
ฟ้า โดยเร็วจะได้หรือไม่ ประการใด ถ้ามิได้เพราะเหตุใด  ถนนดังกล่าวมีสายใดบ้างที่รัฐบาลได้จัดทำเข้าแผนไว้
แล้ว   และจะดำเนินการราดยางถนนในปีใดบ้าง    และสายใดที่ยังไม่ได้จัดทำเข้าแผนโครงการ จะขอให้สำรวจ 
ออกแบบเข้าแผนโครงการราดยางให้โดยเร็วต่อไปเพื่อส่งเสริมการศึกษา  และกระจายความเจริญออกสู่ชนบท
จะได้หรือไม่   ประการใด   ถ้ามิได้เพราะเหตุใด   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และมอบให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทยตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 619 ร. เรื่อง  การให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ 
ของนายองอาจ  คล้ามไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ซึ่งถามว่า รัฐบาลมีนโยบาย
และมาตรการในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุหรือไม่ อย่างไร ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุจำนวน
เท่าใด และได้เข้าไปดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้หรือไม่  อย่างไร  รวมทั้งมีนโยบายที่จะส่งเสริมการดำเนินชีวิต
และแก้ไขปัญหาให้กับผู้สูงอายุอย่างครบวงจรด้วยการเร่งรัดให้มีพระราชบัญญัติผู้สูงอายุหรือไม่ อย่าง
ไร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการตรวจติดตามการ
ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545
งวดที่ 1  ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2545  ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในจังหวัดต่าง ๆ 
ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ของส่วนราชการที่ถ่ายโอนภารกิจ ฯ กรมชลประทาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมพัฒนา
ชุมชน    กรมการศาสนา    และสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ  ในส่วนของการดำเนินการ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณตามโครงการถ่ายโอน  ฯ  การเตรียมความพร้อมในการ
ถ่ายโอนและรับโอนภารกิจ ฯ การประชาสัมพันธ์  รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน  ซึ่งผลจากการ
ตรวจติดตามเห็นว่า    ควรจัดให้มีการอบรมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.)  เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณ   ระเบียบและวิธี
การจัดซื้อจัดจ้าง  ปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณ   กับจัดให้มีการประชุมเพื่อ
ซักซ้อมความเข้าใจในขั้นตอนวิธีการเบิกจ่ายงบประมาณ   และการเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วม
ในการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการ  สำหรับการตรวจติดตามการดำเนินการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงิน
ภาครัฐในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545 งวดที่ 1 ได้กำชับและเร่งรัดให้หน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิ
ภาค   และส่วนราชการที่ถ่ายโอนงาน/กิจการบริการสาธารณะให้แก่  อปท.  ที่เป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุน
ดำเนินการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนและเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วย
งาน     โดยให้ถือปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางที่ปฏิบัติเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามมติคณะ
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2544 และวันที่ 22 ตุลาคม 2544

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 176 เรื่อง การกระจายอำนาจให้แก่องค์การบริหาร
ส่วนท้องถิ่น ของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งถามว่า รัฐบาลมีนโยบาย
ที่จะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่เป็นการโอนเฉพาะเงิน
งบประมาณเพียงอย่างเดียวได้เมื่อใด   และจะใช้เวลากี่ปี   รวมทั้งมีนโยบายที่จะให้ข้าราชการในส่วนราชการ
ต่าง ๆ เช่น  กรมโยธาธิการ กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย มาช่วยราชการ
หรือทำงานในองค์การบริหารส่วนตำบล  (อบต. )  แล้วขอกลับคืนต้นสังกัดเดิมได้   โดยไม่ต้องอยู่ประจำจน
เกษียณอายุราชการ เพื่อให้มีความก้าวหน้าในชีวิตราชการได้หรือไม่   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และ
มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเงินกู้ต่อเงินงบประมาณจาก 80 : 20 เป็น 50 : 50
ของการก่อสร้างเส้นทางตามโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร  ทั้ง 5 สายทาง  ตามที่
กระทรวงคมนาคมเสนอ  ส่วนการขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณงานก่อสร้างทางหลวงหมาย
เลข 23 สาย อ.เขื่องใน-อุบลราชธานี นั้น  เนื่องจากเส้นทางสายนี้ยังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดี และไม่มี
ความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องก่อสร้างและขยายเส้นทางจากเดิมให้เป็น 4 ช่องจราจร  แต่อย่างใด   จึงไม่ให้ขยาย
ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อก่อสร้างและขยายเส้นทางดังกล่าว และให้กระทรวงคมนาคมรับไป
พิจารณาทบทวนเสนอเส้นทางอื่นที่เหมาะสมและจำเป็น เพื่อดำเนินการแทน  แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ต่อไป   ทั้งนี้   ในการก่อสร้างทางหลวงครั้งต่อไป  ควรมองทั้งระบบ  มิควรมุ่งสร้างถนนเป็น  4  ช่องจราจรที่มี
ความหรูหรา โดยให้มองความพอเพียงของถนนเป็นหลัก ตลอดจนการบำรุงรักษาถนนที่มีอยู่ให้ใช้การได้ดีก่อน
และต้องพิจารณาบนพื้นฐานของความเป็นจริงและความเหมาะสมโดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า โดยให้
จัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ จึงให้กระทรวงคมนาคมรับแนวคิดดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 202 เรื่อง นโยบายการจัดสรรงบประมาณในการ
ก่อสร้างถนนของกรมโยธาธิการ และกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท ของนายสุรชัย เบ้าจรรยา สมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎร  (บัญชีรายชื่อ)  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการก่อสร้าง
ถนนทุกหมู่บ้านทั่วประเทศหรือไม่ อย่างไร หากมีนโยบายดังกล่าว จะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นเมื่อ
ใด  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบในที่ประชุมสภา
ผู้แทนราษฎรต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงคมนาคมรับเรื่อง ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางตามโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร โดยใช้เงินกู้ ADB
ไปพิจารณาทบทวน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ โดยให้จัดทำโครงข่ายทางหลวง
ทั่วประเทศ พร้อมทั้งแผนงานปัจจุบันซึ่งแสดงให้เห็นว่าจะมีการก่อสร้างและขยายทางสายใดให้เป็น 4 ช่องจราจร
ด้วยเหตุผลใด  รวมทั้งการจัดลำดับความสำคัญในการก่อสร้างและขยายทาง  เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะ
รัฐมนตรี และให้หารือกับกระทรวงการคลังถึงความเป็นไปได้ในการที่จะปรับเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ โดยใช้แหล่งเงินกู้
ในประเทศแทนแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแนวทางการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  ประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545 รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรค สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2546  โดยรายการ
รายจ่ายลงทุนตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี  (ยกเว้นงบกลาง   รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐ
กิจ 58,000 ล้านบาท)  ที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันในไตรมาสที่  3  ของปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545   ให้ขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2545   โดยรายการที่ยังไม่
ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง  ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ
กับสำนักงบประมาณเพื่อไปตั้งจ่ายเป็นค่าสาธารณูปโภคที่ค้างชำระ  (ถ้ามี)  เป็นลำดับแรกก่อน    และหากมี
งบประมาณเหลือ  ให้นำไปตั้งจ่ายในรายการที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นเร่งด่วนอื่น  ๆ  ที่ดำเนินการได้
แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม  2545     และหากไม่สามารถดำเนินการได้  ก็ให้เสนอขอผ่อนผันต่อสำนักงบ
ประมาณเป็นกรณี ๆ  ไป   ส่วนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  (58,000  ล้านบาท)
ผ่อนผันให้มีระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพัน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการ   สำหรับ
แนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี  พ.ศ. 2546     ให้หน่วย
งานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงการคลังเสนอโดยเคร่งครัดต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ
ประมาณ และให้ส่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานและการบริหารเงิน
นอกงบประมาณ  ในส่วนของการจัดทำฐานข้อมูลเงินนอกงบประมาณ  การติดตามประเมินผล  การบริหาร
จัดการทุนหมุนเวียน การเร่งรัดเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณ การนำส่งเงินเป็นรายได้แผ่นดิน  การรวมหรือ
ยุบเลิกทุนหมุนเวียน  และการโอนงานเบิกจ่ายเงินและการบัญชีของทุนหมุนเวียน  ทั้งนี้  ประโยชน์ที่คาดว่า
จะได้รับจากการดำเนินการดังกล่าว  ได้แก่   ฐานข้อมูลเงินนอกงบประมาณสามารถนำไปสู่การวิเคราะห์ใน
เชิงวิชาการ เพื่อนำมากำหนดเป็นนโยบายในการบริหารเงินนอกงบประมาณ  ตลอดจนการติดตามประเมิน
ผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ทำให้การควบคุมและดูแลเงินนอกงบประมาณในเรื่องการใช้จ่ายเงินเป็นไปตาม
วัตถุประสงค์ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของเงินนอกงบประมาณ
อย่างเป็นระบบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้