ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 196 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3901 - 3920 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3901 | การดำเนินงานโครงการปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณตามแนวเส้นทางจราจร | นร | 27/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) ประธานคณะกรรม
การอำนวยการโครงการปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณตามแนวเส้นทางจราจรเสนอการดำเนินโครงการปรับปรุง ทัศนียภาพบริเวณแนวเส้นทางจราจร และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป และให้รับความเห็นเพิ่มเติม ของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการด้วย ดังนี้ การปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณตามแนวเส้นทางจราจรให้ยึดหลัก Green and Clean โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองและชุมชนควรให้รวมไปถึงการซ่อมแซมและทาสีบ้านเรือนและ อาคารต่าง ๆ การดูแลแม่น้ำลำคลองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม โดยเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่าง ชัดเจนภายในปี พ.ศ. 2550 และมีหน่วยงานเจ้าภาพติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการติดตั้งป้าย โฆษณาต่าง ๆ โดยเฉพาะป้ายขนาดใหญ่ ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องตรวจสอบดูแลและเข้มงวดกวดขันให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับ ห้องน้ำสาธารณะ และจุดบริการน้ำประปาดื่มได้และป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ขาดการ ดูแลรักษาและซ่อมแซม ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนิน การปรับปรุงแก้ไข และดูแลอย่างต่อเนื่อง หากชำรุดจนใช้การไม่ได้ก็ให้รื้อถอน ส่วนที่ดินบริเวณริมทางรถไฟ ในเขตชุมชนต่าง ๆ ที่ถูกบุกรุกเข้าทำประโยชน์และเกิดสภาพเป็นชุมชนแออัด นั้น ให้กระทรวงคมนาคม (การ รถไฟแห่งประเทศไทย) พิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่เกี่ยว ข้อง เพื่อดำเนินการจัดระเบียบการใช้พื้นที่ดังกล่าว โดยอาจประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อขอรับการสนับ สนุนจากเงินรายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศลพิเศษของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตามความจำเป็น ต่อไปได้ นอกจากนี้ การปลูกต้นไม้ตามแนวเส้นทางจราจรต่างๆ ควรพิจารณาเลือกพันธ์ไม้ยืนต้นชนิดต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และราคาไม่สูงเกินจำเป็น โดยในบริเวณเสาตอม่อของทางด่วนสายต่าง ๆ ให้การ ทางพิเศษแห่งประเทศไทยปลูกต้นตีนตุ๊กแกในทำนองเดียวกับประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น เพื่อให้ความสวยงาม และมีสภาพเป็นธรรมชาติ |
|||||||||||||||||||||
| 3902 | กระทู้ถามรัฐมนตรีที่รองนายกรัฐมนตรีสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว จำนวน 4 เรื่อง 1.1 กระทู้ถามที่ 485 เรื่อง การขยายไหล่ทางเท้าของเส้นทางหลวงชนบทที่ตำบลน้ำกุ่ม และตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก 1.2 กระทู้ถามที่ 486 เรื่อง การปรับปรุงถนนสายบ้านป่าแดงถึงบ้านห้วยท้องฟาน ตำบลป่าแดง และตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก 1.3 กระทู้ถามที่ 488 เรื่อง การลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ 1.4 กระทู้ถามที่ 489 เรื่อง ปัญหากากและขยะอุตสาหกรรม | สผ | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 485
เรื่อง การขยายไหล่ทางเท้าของเส้นทางหลวงชนบทที่ตำบลน้ำกุ่ม และตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก กระทู้ถามที่ 486 เรื่อง การปรับปรุงถนนสายบ้านป่าแดงถึงบ้านห้วยท้องฟาน ตำบล ป่าแดง และตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ของนายนคร มาฉิม สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดพิษณุโลก กระทู้ถามที่ 488 เรื่อง การลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ และกระทู้ถามที่ 489 เรื่อง ปัญหากากและขยะอุตสาหกรรม ของนายระวัง เนตรโพธิแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (บัญชีราย ชื่อ) และมอบให้รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 3903 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา และตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | มท | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา และตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา และตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อขยายห้วยบ้านนาและสร้างถนน เลียบห้วย ตามโครงการปรับปรุงชุมชนเมืองใหม่แหลมฉบัง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงมหาดไทยถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2541 ที่ให้กระทรวงมหาดไทยถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ว่า สมควร ดำเนินการให้เสร็จสิ้นในอายุของพระราชกฤษฎีกานั้น หากไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ก็ควรเสนอร่าง พระราชกฤษฎีกาเวนคืนมาเพื่อดำเนินการภายในระยะเวลาที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเสนอ เรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2531 กำหนดไว้เพื่อจะได้ใช้บังคับได้อย่างต่อเนื่องกับพระราชกฤษฎีกาฉบับเดิม โดยเคร่งครัด |
|||||||||||||||||||||
| 3904 | กระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว จำนวน 5 เรื่อง 1.1 กระทู้ถามที่ 031 ร. เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครู 1.2 กระทู้ถามที่ 033 ร. เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ครูผู้สอนดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3 1.3 กระทู้ถามที่ 034 ร. เรื่อง ปัญหาการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชน 1.4 กระทู้ถามที่ 035 ร. เรื่อง ปัญหาการจัดการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.5 กระทู้ถามที่ 036 ร. เรื่อง ปัญหาการแบ่งเขตพื้นที่การศึกษา (กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบในราชกิจจานุเบกษา รวม 13 ฉบับ) | นร | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 031 ร.
เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครู ของนายวิบูลย์ แช่มชื่น สมาชิกวุฒสิภา คำตอบกระทู้ถามที่ 033 ร. เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ครูผู้สอนดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3 คำตอบกระทู้ถามที่ 034 ร. เรื่อง ปัญหาการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชน คำตอบกระทู้ถามที่ 035 ร. เรื่อง ปัญหาการจัดการ ศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคำตอบกระทู้ถามที่ 036 ร. เรื่อง ปัญหาการแบ่งเขตการศึกษา ของนายวิทยา มะเสนา สมาชิกวุฒิสภา และให้ประกาศในราชกิจจานุ เบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ถามที่ 031 ร. สรุปได้ว่า ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลา กรทางการศึกษา พ.ศ. .... ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาได้มีการจัดทำบัญชีเงินเดือนข้าราชการครู แยกจากบัญชีเงินเดือนของข้าราชการประเภทอื่น ๆ รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดให้มีการจัดค่าตอบ แทนพิเศษกรณีต่าง ๆ จากสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตามความเหมาะสมในรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่ข้าราช การครูและบุคลากรทางการศึกษา คำตอบกระทู้ถามที่ 033 ร. สรุปได้ว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราช การครูและบุคลากรทางการศึกษา มีแนวทางการปรับปรุงวิธีการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งของข้าราชการ ครูสายผู้สอนโดยกระบวนการหรือวิธีการดำเนินงานดังกล่าวอยู่ระหว่างการยกร่างเพื่อเสนอคณะกรรมการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพิจารณาหลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษามีผลใช้บังคับแล้ว คำตอบกระทู้ถามที่ 034 ร. สรุปได้ว่า ให้โรงเรียนเอกชนในกรุงเทพมหา นครดำเนินการตามเดิมก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายโรงเรียนเอกชน ส่วนในจังหวัดต่าง ๆ ให้ยื่นคำ ร้องขอต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียนตั้งอยู่ โดยให้เขตพื้นที่การศึกษาตรวจสอบความถูกต้อง และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 และให้ดำเนินการอื่นใดตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งเกี่ยวกับการบริหารงานและการจัดการของโรงเรียนเอกชนที่ใช้ บังคับอยู่ก่อนวันที่มีคำสั่งนี้ ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปโดยอนุโลมจนกว่าจะได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นอย่าง อื่น คำตอบกระทู้ถามที่ 035 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการจัดทำโครงการยกระดับคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กขึ้น โดยดำเนินงานตาม กิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ (Geographical Information System : GIS) การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพ การจัดหาหนังสือแบบเรียนและแบบฝึกหัด การจัดทำหน่วย คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ (Mobile Unit) การจัดหาหนังสือห้องสมุดและสื่อการเรียนการสอน การแก้ปัญหา การขาดแคลนครู การพัฒนาครู การนิเทศติดตามผล การซ่อมแซมอาคารเรียน และการบริหารจัดโครง การ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กระจายอำนาจการจัดการโครงการไปยังเขตพื้นที่การศึกษาที่เป็นหน่วย งานที่อยู่ใกล้ชิดสถานศึกษาและมีข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อนำมาประยุกต์ ใช้เพื่อพัฒนาโรงเรียนเหล่านี้ และคำตอบกระทู้ถามที่ 036 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนด เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 175 เขต ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2546 เป็นต้นมา ซึ่งในการบริหารและการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาส่วนมากเป็นไป ตามเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษา |
|||||||||||||||||||||
| 3905 | กระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว จำนวน 3 เรื่อง 1.1 กระทู้ถามที่ 037 ร. เรื่อง ค่าตอบแทนและสวัสดิการของกำนัน ผู้ใหญ่บัาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บัาน สารวัตรกำนัน และแพทย์ประจำตำบล 1.2 กระทู้ถามที่ 1106 ร. เรื่อง การส่งเสริมให้เลี้ยงจระเข้ 1.3 กระทู้ถามที่ 1335 ร. เรื่อง การดำเนินโครงการจัดทำหาดทรายเทียม (กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบในราชกิจจานุเบกษา รวม 13 ฉบับ) | นร | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 037 ร.
เรื่อง ค่าตอบแทนและสวัสดิการของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และแพทย์ประจำ ตำบล ของนายวิทยา มะเสนา สมาชิกวุฒิสภา คำตอบกระทู้ถามที่ 1106 ร. เรื่อง การส่งเสริมให้เลี้ยงจระเข้ และคำตอบกระทู้ถามที่ 1335 ร. เรื่อง การดำเนินโครงการจัดทำหาดทรายเทียม ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ถามที่ 037 ร. สรุปได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2547 เห็นชอบการปรับปรุงเพิ่มอัตราเงิน ตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันในอัตราดังนี้ กำนัน จากเดิม 3,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 4,000 บาท ผู้ใหญ่บ้าน จากเดิม 2,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 3,000 บาท และ แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จากเดิม 1,800 บาท ปรับเพิ่มเป็น 2,000 บาท โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2547 เป็นต้นไป ส่วนคำตอบกระทู้ถามที่ 1106 ร. สรุปได้ ว่า วัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการส่งเสริมการเลี้ยงจระเข้ให้เป็นที่แพร่หลายคือ ต้องการ สร้างแหล่งวัตถุดิบ (หนังจระเข้) ให้เกิดขึ้นภายในประเทศ และลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ (ลด การนำเข้าหนังดิบ) รวมทั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมเครื่องหนังของไทยให้ สามารถแข่งขันกับตลาดแฟชั่นของโลก และส่งเสริมผู้ประกอบการเครื่องหนังไทยที่เป็น SMEs ให้สามารถ ใช้วัตถุดิบภายในประเทศได้ในราคาที่ถูกกว่าการนำเข้า ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้กับผู้ประกอบการ หรือ SMEs และเนื้อจระเข้สามารถนำไปพัฒนาเป็นอาหารซึ่งเป็นที่นิยมของชาวเอเชียเนื่องจากมีคุณสมบัติ เป็นยารักษาโรค และคำตอบกระทู้ถามที่ 1335 ร. สรุปได้ว่า การก่อสร้างหาดทรายเทียมในเขตเทศบาล ตำบลลำนารายณ์ เทศบาลตำบลท่าหลวง องค์การบริหารส่วนตำบลอำเภอท่าหลวง องค์การบริหารส่วน ตำบล อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบล คลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัด เพชรบูรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจออกแบบโครงการ โดยเทศบาลตำบลลำนารายณ์ได้ดำเนิน การสำรวจออกแบบโครงการจัดทำหาดทรายเทียมในเขตพื้นที่แล้ว จำนวน 4 โครงการ และเทศบาลตำบล บ้านท่าหลวงได้ดำเนินการสำรวจเพื่อดำเนินการโครงการจัดทำหาดทรายเทียมในพื้นที่บริเวณเขื่อนป่าสัก ชลสิทธิ์ สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์ จากการพิจารณาสภาพพื้นที่โดยรอบบริเวณอ่างเก็บน้ำคลองกระจังแล้ว ไม่มีพื้นที่สามารถจะดำเนินการจัดทำหาดทรายเทียมได้ |
|||||||||||||||||||||
| 3906 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... | มท | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (คกก.2)
(ฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ร่างพระราชบัญญัติเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบล ในเมืองอำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... ดยมีสาระสำคัญคือ เวนคืน อสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสร้างและขยายถนนตามโครง การผังเมืองรวมเมืองสุรินทร์ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการ ประสานงานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และให้กระทรวง มหาดไทยถือปฏิบัติและดำเนินการร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในทำนองนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการ เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2531 ข้อ 20 วรรคสี่ และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2526 โดย เคร่งครัด ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของ คกก.2 ไปดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กรณีที่การเวนคืนอสังหาริม ทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลในเมือง และตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2543 มีปัญหาไม่สามารถดำเนิน การได้ตามกำหนดเวลา เนื่องจากได้มีการปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของกรมโยธาธิการ และกรมการผังเมือง ตามพระราช บัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งได้มีการโอนกิจการ อำนาจ หน้าที่ อัตรากำลัง ฯลฯ บาง ส่วนไปเป็นของกระทรวงคมนาคม รวมไปถึงปัญหาการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ที่มี หลายหน่วยงานเกี่ยวข้องใน การดำเนินการ ดังนั้น เพื่อให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวดำเนินการไปได้ ตามเป้าหมาย กระทรวง มหาดไทยจึงควรเร่งรัดเตรียมการดำเนินงานเพื่อให้การบริหารจัดการและประสานเชื่อม โยงการทำงานร่วมกับ ส่วนราชการต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ นอกจากนี้ การเสนอร่าง พระราชบัญญัติเวนคืน อสังหาริมทรัพย์มาภายหลังพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ฯ หมด อายุแล้ว จะมีผล ต่อการกำหนดเงินค่าทดแทนซึ่งต้องเป็นไปตามราคาที่ประเมินในขณะที่พระราชบัญญัติเวนคืน ฯ ใช้ บังคับการ เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของกระทรวงมหาดไทยในครั้งต่อ ๆ ไป ควรต้องดำเนิน การ ภายในระยะเวลาที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ฯ มีผลใช้บังคับ |
|||||||||||||||||||||
| 3907 | ขอความเห็นชอบในการปรับปรุงโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานการไฟฟ้า
ส่วนภูมิภาคให้เท่ากับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2547 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ควรเร่งปรับปรุ งประสิทธิภาพประสิทธิผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้สามารถเพิ่มพูนรายได้และลดรายจ่าย ขององค์กรได้โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพและอัตราค่าบริการแก่ประชาชน และหากรัฐวิสาหกิจใด มีผลการประกอบการที่ดี เมื่อสามารถดำเนินการแปลงสภาพและนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยแล้ว ก็อาจขอปรับปรุงค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อื่น ๆ ของพนักงานเพิ่มเติม ตามความเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 3908 | การไฟฟ้านครหลวงขอปรับปรุงโครงสร้างอัตราเงินเดือน | มท | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2547 ที่เห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานการ ไฟฟ้านครหลวงให้เท่ากับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ คณะรัฐ มนตรีมีข้อสังเกตว่า รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ควรเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพประสิทธิผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้ สามารถเพิ่มพูนรายได้ รวมทั้งลดรายจ่ายขององค์กรได้โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพและอัตราค่าบริการแก่ ประชาชน และหากรัฐวิสาหกิจใดมีผลการประกอบการที่ดี เมื่อสามารถดำเนินการแปลงสภาพและนำเข้าจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว ก็อาจขอปรับปรุงค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อื่น ๆ ของพนัก งานเพิ่มเติม ตามความเหมาะสมต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
| 3909 | การปรับปรุงสภาพการจ้างเกี่ยวกับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานและลูกจ้าง ททท. | กก | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการแรงงานสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 4/2547
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2547 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอทั้ง 2 ข้อ การปรับโครงสร้าง อัตราเงินเดือนของพนักงานและลูกจ้างเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ให้ ททท. พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ไปดำเนินการ โดยไม่เสียหายต่อวัตถุประสงค์และเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะโครงการหรือรายการตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดไว้เดิม และให้ทำความตกลงรายละเอียดค่าใช้ จ่ายกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้ถือว่า การปรับปรุงโครงสร้าง เงินเดือนของพนักงานและลูกจ้าง ททท. ในครั้งนี้ไม่ถือเป็นบรรทัดฐานสำหรับรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงาน อื่นของรัฐที่จะขอปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันแต่ประการใด |
|||||||||||||||||||||
| 3910 | การปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการในพื้นที่ชายแดน | นร | 16/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงาน
ราชการในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ศุลกากร แรงงาน ตรวจคนเข้าเมือง จะตั้งสำนัก งานและแต่งตั้งข้าราชการมาปฏิบัติงานอย่างเอกเทศ ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติหน้าที่ และส่งผล กระทบต่อปัญหาดังกล่าวในภาพรวม จึงควรที่จะบูรณาการหน่วยงานราชการที่มีภารกิจ/อำนาจหน้าที่ เฉพาะในแต่ละด้านเข้าเป็นหน่วยงานเดียว อันอาจทำให้การปฏิบัติงานในภาพรวมรวมทั้งการแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ตามแนวชายแดนมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น จึงขอให้รองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับแนวทางดังกล่าวไปศึกษาและพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ใน รายละเอียดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วรายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 3911 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | สผ | 16/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณโดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ดำเนินการปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ โดยปรับแผนใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 รายการค่าใช้จ่ายในการจัดหาที่ทำการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทน ราษฎร 1 แห่ง ขยายเวลากันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีดังกล่าวภายในวงเงิน 30,200,800 บาท โดยในส่วนของ ค่าใช้จ่ายด้านระบบคอมพิวเตอร์ ระบบนำเสนอข้อมูล ระบบโสตทัศนูปกรณ์และระบบควบคุมการทำงาน จำนวน 19,695,800 บาท โดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สารพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2545 แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0504/ว210 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2545 ก่อนดำเนินโครงการด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 3912 | ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคใต้ | นร | 16/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ (สศช.) เสนอ ยุทธศาสตร์ แนวทางการพัฒนา และแผนงาน/โครงการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขันของภาคใต้ที่มีศักยภาพสูง และให้ สศช. สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวน ความจำเป็นเหมาะสมและวงเงินงบประมาณของโครงการต่าง ๆ อีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรี ที่เห็นว่า ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาสู่ความเป็น เลิศ และให้เป็นศูนย์กลางยางพาราโลก อนุมัติในหลักการให้ใช้เงินสงเคราะห์ (CESS) ของสำนักงานกองทุนสง เคราะห์การทำสวนยาง เพื่อดำเนินการตามแผนงานสร้างนักวิจัยและบุคลากรด้านอุตสาหกรรมยางพารา และ พัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างมูลค่าเพิ่มของยางพารา โดยในการดำเนินการตามแผนงาน ฯ ดังกล่าวควรมอบให้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นเจ้าภาพหลักร่วมพิจารณาดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการขอใช้เงิน CESS ให้ สศช. รับไปประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาต่อไป โดยให้ยึดหลักการใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสม คุ้มค่า เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด สำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภูเก็ตอย่างยั่งยืน ซึ่งได้แก่ การพัฒนาและส่ง เสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตมากขึ้นจำเป็นจะต้องศึกษาและพิจารณาศักยภาพในการรองรับนัก ท่องเที่ยว คุณภาพของนักท่องเที่ยว รวมถึงการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตกับจังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่ ใกล้เคียง ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) รับเรื่องนี้ไปพิจารณาเพื่อให้ สศช. รับไปประสานและ ดำเนินการต่อไป ส่วนโครงการปรับปรุงสุขอนามัยท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต ให้ สศช. รับไปพิจารณาทบทวน ขนาดของโครงการและงบประมาณที่จะใช้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนการดำเนิน การต่อไป และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รับโครงการพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์และ พิพิธภัณฑ์สถานกลางชนะศึกไปพิจารณารายละเอียดในภาพรวมภายใต้การดำเนินโครงการจัดตั้งสถาบันพิพิธ ภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 3913 | การดำเนินงานโครงการที่ราชพัสดุเพื่อสันติสุข 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกรมธนารักษ์ (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | กค | 16/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอโครงการที่ราชพัสดุเพื่อสันติสุข
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) ของกรมธนารักษ์เฉพาะส่วนของการปรับปรุงซ่อม แซมอาคารราชพัสดุ ภายในวงเงิน 356 ล้านบาท โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในวงเงินดังกล่าว ให้ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัด ทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ชัดเจน โดยพิจารณาปรับแผนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีเพื่อดำเนินงานตามแผนที่ต้องใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ในโอกาสแรกก่อน และหากไม่ สามารถปรับแผนงบประมาณดังกล่าวได้ เห็นควรให้เริ่มดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็น ต้นไป โดยให้เสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ต่อไป ส่วนแผนการดำเนินงานในปีต่อ ๆ ไป จะพิจารณา จัดสรรงบประมาณให้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ ในส่วนของการสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างตาม ยุทธศาสตร์หรือตามความต้องการของจังหวัด รวมทั้งการจัดหาที่อยู่อาศัย และหรือที่ทำกินให้แก่ผู้มีรายได้ น้อย ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส. จตช) รับไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และหากเห็นควรให้ดำเนินการ ก็ให้พิจารณาให้จ่ายจากกรอบวงเงินที่คณะ รัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มีนาคม และ 7 เมษายน 2547 อนุมัติหลักการตามยุทธศาสตร์การพัฒนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม และด้านความมั่นคงไว้แล้ว |
|||||||||||||||||||||
| 3914 | การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและด้านความมั่นคง) (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | อส | 16/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอโครงการปรับปรุงซ่อมแซม
อาคารและสิ่งปลูกสร้างใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ขอตกลงรายละเอียด กับสำนักงบประมาณ สำหรับโครงการอื่นของสำนักงานอัยการสูงสุดอีกจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการอำนวยความ ยุติธรรมแก่ประชาชนในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล โครงการจัดหาครุภัณฑ์สำหรับจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และโครงการจัดหาครุภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย สำหรับ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขชายแดนภาคใต้ รับไปพิจารณาอีก ครั้งหนึ่ง และหากเห็นควรให้ดำเนินการ ก็ให้พิจารณาให้จ่ายจากกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2547 และ 7 เมษายน 2547 อนุมัติหลักการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม และด้านความมั่นคงไว้แล้ว |
|||||||||||||||||||||
| 3915 | มาตรการรับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการใหม่ | ศธ | 06/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 ที่มีมติ
เกี่ยวกับมาตรการรับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ศึกษาธิการใหม่ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยเห็นชอบให้ขยายเวลามาตรการรับเงินประจำตำแหน่ง ในช่วงปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรมใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี (17 กันยายน 2545) ของข้าราชการใน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ออกไปอีก 6 เดือน ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2547 ซึ่งมติคณะรัฐมนตรี ( 17 กันยายน 2545 )ได้ระบุให้ส่วนราชการจัดสรรอัตรากำลังข้าราชการที่มีสิทธิ ได้รับเงินประจำตำแหน่งในโครงสร้างใหม่ให้มากที่สุด โดยกรณีไม่อาจจัดลงในตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจำ ตำแหน่งได้ ให้กำหนดเป็นมาตรการชั่วคราว ให้ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับเงิน ประจำตำแหน่งที่ได้รับเดิมต่อไปเป็นการเฉพาะตัวไม่เกิน 1 ปี โดยมีเงื่อนไขให้เร่งรัดจัดบุคคลดังกล่าวเพื่อดำรง ตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งโดยเร็วภายใน 1 ปี |
|||||||||||||||||||||
| 3916 | การจัดตั้งสำนักงานทะเบียนกลางของประเทศและการปรับปรุงแต่งตั้งกรรมการบูรณาการและปฏิรูประบบการทะเบียนแห่งชาติ | มท | 06/07/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต
ยงใจ ยุทธ) เสนอขอถอนเรื่องการจัดตั้งสำนักงานทะเบียนกลางของประเทศและการปรับปรุงแต่งตั้งกรรม การบูรณาการและปฏิรูประบบการทะเบียนแห่งชาติคืนไปให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาทบทวนให้เหมาะ สมสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี และคำสั่งนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการมอบหมายและมอบอำนาจให้รอง นายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีฉบับปัจจุบัน แล้วให้ นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3917 | ขออนุมัติงบประมาณและอัตราค่าตอบแทน เบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่น | นร | 29/06/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณเป็นทุนประเดิมเบื้องต้น สำหรับการดำเนินงาน
ของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จำนวน 500 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้านบาท) รวมทั้งอัตราค่าตอบแทนผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารและพัฒนา องค์ความรู้เสนอ สำหรับอัตราเบี้ยประชุมและผลตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ กรรมการที่ปรึกษา อนุกรรมการ และอัตราค่าตอบแทนของหัวหน้างานเฉพาะด้านมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อีกครั้งหนึ่งตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนและผลประโยชน์ ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของ คณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การเบิกจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน/ค่าจ้าง จากทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐอยู่แล้ว ควรให้ผู้นั้นเลือกรับเงินเดือน/ค่าจ้างหรือเงินค่าตอบแทนสูงสุด ทางใดทางหนึ่งเพียงทางเดียว หรือให้ได้รับเงินเพิ่มเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินเดือน/ค่าจ้างที่ได้รับอยู่เดิมเท่านั้น |
|||||||||||||||||||||
| 3918 | ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พ.ศ. 2547 - 2551 (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | กก | 29/06/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอยุทธศาสตร์การ
ท่องเที่ยว พ.ศ. 2547-2551 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวให้ บังเกิดผลและมีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ นั้น ให้ยึดหลักการในภาพรวมว่า ภารกิจด้าน การรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เป็น หน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินการ ส่วนภารกิจด้านการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ต่าง ๆ ให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นหน่วยงานที่เข้ามามีบท บาทในเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณา ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ภารกิจต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ฯ จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องและ เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์จังหวัด และกลุ่มจังหวัดและท้องถิ่นด้วย โดยให้สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง พิจารณา ดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบให้เหมาะสม โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การประชาสัมพันธ์ รณรงค์ เชิญชวน ให้นัก ท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ประสบความสำเร็จ จึงควรดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งการที่นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการต่าง ๆ ในประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่ง ของการจำหน่ายสินค้าส่งออกของประเทศ โดยมิต้องส่งออกไปต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงควรประสานและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุม ดูแลสินค้าต่าง ๆ ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ทัดเทียมกับของที่ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ และให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวง พาณิชย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงระบบภาษีสินค้านำเข้าชนิดต่าง ๆ เพื่อให้กรุงเทพมหา นครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางเข้ามาเพื่อหาซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าที่จำหน่ายอยู่ใน แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาค ในส่วนของจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ จำเป็นจะต้องปรับ ปรุง พัฒนา และบำรุงรักษาสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม จึงขอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งประสานการดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับห้องน้ำที่สะอาด ถูกสุข อนามัย และเพียงพอ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญประการหนึ่งในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ เดินทางไปท่องเที่ยวในแหล่งต่าง ๆ จึงควรสร้างให้เหมาะสม ทันสมัย สอดคล้องกับบรรยากาศและสภาพ แวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่ง รวมไปถึงการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทางด้าน การจราจรและขนส่งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว ให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาและเร่งรัดการ ดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ การปรับปรุง พัฒนา และบำรุงรักษาแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการ ดำเนินการใดที่ส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศซึ่งปัจจุบันได้ถ่ายโอนภารกิจนั้น ๆ จากราชการ ส่วนกลางไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการแต่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นยังไม่สามารถดำเนินการ หรือไม่พร้อมที่จะดำเนินการ ให้ส่วนราชการส่วนกลางที่เคยรับผิดชอบอยู่ เดิมพิจารณาดำเนินการแทน โดยให้ยึดผลประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง และมิให้นำประเด็นเรื่อง การกระจายอำนาจและการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว มาเป็นข้ออ้างว่าเป็นอุป สรรคในการดำเนินการ ทั้งนี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2546 เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม แนวทางการส่งเสริมและขยายแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการพัฒนาอุตสาหกรรมประการหนึ่งที่อาจดำเนิน การได้ คือ การให้เอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพแห่งใหม่ แต่ยังอยู่ในที่ห่างไกล โดยอาจจะ กำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำที่จะต้องนำมาลงทุน และกำหนดระยะเวลาที่จะให้สัมปทานแก่เอกชนนั้น ๆ เข้า ทำประโยชน์ในพื้นที่ โดยจะต้องกำหนดเงื่อนไข หลักเกณฑ์ มิให้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและ สภาพธรรมชิตของพื้นที่ด้วย เช่น การเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาพื้นที่ชายทะเลแห่งใหม่ในเขตสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำหนดให้สัมปทานเป็นเวลา 99 ปี และต้องนำเงินมาลงทุนไม่น้อยกว่า 5 เท่าของมูลค่าของพื้นที่ตามราคาประเมิน เป็นต้น จึงขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาความ เหมาะสมและเป็นไปได้ต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 3919 | ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองศูนย์กลางภาคเหนือตอนบน (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | นร | 29/06/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ (สศช.) เสนอ และให้ สศช. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ ฯ ต่อ ไป โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตบางประการของกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุน รวมทั้งความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปตรวจราชการ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนในเร็ว ๆ นี้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการ ต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ ฯ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป หลังจากที่ได้ทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์เรียบร้อยแล้วตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ คณะ รัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมดังนี้ ในภาพรวมของยุทธศาสตร์ ฯ ยังไม่ครอบคลุมถึงแผนงาน/โครงการที่จะแก้ ไขปัญหาสังคมต่าง ๆ ในพื้นที่ และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในพื้นที่สูง จึงขอให้ สศช. และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการกำหนดแผนงาน/โครงการเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควรต่อ ไป และการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือตอนบนดังกล่าว จะต้องระมัดระวังมิให้เกิดผลกระทบต่อเขตเมือง เก่า เขตโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งควรอนุรักษ์ไว้โดยกระทรวงมหาดไทยควรเร่งรัดดำเนินการ ให้กฎหมายเกี่ยวกับผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะแล้วเสร็จ และมีผลใช้บังคับโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินโครง การพัฒนาต่าง ๆ สอดคล้องกับกฎหมายผังเมืองดังกล่าว สำหรับโครงการด้านการพัฒนาระบบการจราจร และขนส่งควรคำนึงถึงการประหยัดพลังงานโดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการใช้การขนส่งทางน้ำ ตลอด จนการสร้างทางรถจักรยานเป็นทางเลือกให้มากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันจังหวัดลำพูนมีการขยายตัวทาง ด้านอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก จึงควรพิจารณาจัดทำโครงการพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว รวมถึงโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค นอกเหนือจากโครงการในด้านการแก้ไขปัญหาการจราจร ส่วนปัญหาการจราจรติดขัดในจังหวัดเชียงใหม่ สมควรเร่งดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ ในส่วนของแผน งาน/โครงการตามยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงรายทั้งหมดรวม 4 โครงการซึ่งได้แก่ โครงการปรับปรุงฝายเชียง ราย โครงการผันน้ำแม่กรณ์-แม่กก โครงการอ่างเก็บน้ำดอยงู และโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สรวย มอบให้ สศช. พิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง โดยให้นำเรื่อง ผลการพิจารณาและบูรณาการแผนโครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณงบกลางปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2547 โครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในส่วนของจังหวัดเชียงราย ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลังมารวมพิจารณา ด้วย กับเห็นชอบให้มีการศึกษาเพื่อพัฒนาเมืองศูนย์กลางความเจริญภาคเหนือตอนบน เชียงใหม่-ลำพูน และการจัดทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นฐานการรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ และการ เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างเมือง โดยมอบให้ สศช. รับไปดำเนินการ โดยค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ในวงเงิน 43 ล้านบาท ให้ สศช. ขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตามขั้นตอนต่อ ไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ นอกจากนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนิน งานเร่งรัดการจัดทำผังเมืองให้มีผลบังคับตามกฎหมายโดยเร็ว โดยลดขั้นตอนการดำเนินงานลง ให้องค์ การบริหารส่วนจังหวัดเป็นกลไกการประสานแผนงานการพัฒนาระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดย เฉพาะพื้นที่ส่วนขยายของเมืองกับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล โดยใช้ผังเมืองเป็นกรอบ และจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพัฒนาพื้นที่ระหว่างเมืองร่วมกัน คือ เชียงใหม่-ลำพูน โดยใช้ยุทธศาสตร์การ พัฒนาเมืองศูนย์กลางภาคเหนือตอนบนเป็นหลักในการพัฒนา |
|||||||||||||||||||||
| 3920 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณาส่งเสริมความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างรัฐบาลไทยกับมหาวิทยาลัยอัล อัสฮัร (AL-AZHAR) แห่งอียิปต์ | ศธ | 29/06/2547 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรม
การพิจารณาส่งเสริมความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างรัฐบาลไทยกับมหาวิทยาลัยอัล อัสฮัร (AL-AZHAR) แห่งอียิปต์ ดังนี้ เพิ่มองค์ประกอบ จำนวน 5 ท่าน คือ ศาสตราจารย์นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ศาสตราจารย์ อิมรอน มะลูลีม ผู้ช่วยศาสตราจารย์หะสัน หมัดหมาน นายรุ่ง แก้วแดง และนายนิสสัย เวชชาชีวะ เป็น กรรม การ ปรับเปลี่ยน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา จาก เดิมเป็น กรรมการ ปรับเปลี่ยน เป็น กรรม การและเลขานุการ เพิ่ม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และ ตัดหมายเลข 1.12 ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์อุดมศึกษาต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการการอุดม ศึกษา กรรมการและเลขานุการ ออก |
|||||||||||||||||||||
.....
