ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 194 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3861 - 3880 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3861 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2547 | ทส | 21/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุม
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2547 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ ให้การรับรองเรียบร้อยแล้วในการประชุม ครั้งที่ 6/2547 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2547 โดยมีมติคณะกรรม การ ฯ ทั้งสิ้นรวม 15 เรื่อง ประกอบด้วย (1) เรื่องที่ประธาน ฯ แจ้งต่อที่ประชุม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ฯ แทนรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรมการ ฯ ซึ่งติดภารกิจ มีเรื่องแจ้งรวม 3 เรื่อง ได้แก่เรื่อง การนำมติการประชุมคณะ กรรมการ ฯ ครั้งที่ 3/2547 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 นำเสนอคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 และคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 เรื่อง ให้ตั้งคณะอนุกรรมการภาย ใต้คณะกรรมการ ฯ เพื่อพิจารณาดูแลเรื่องมลพิษทางสายตาในกรุงเทพ ฯ โดยเฉพาะจากป้ายโฆษณาต่าง ๆ และเรื่อง ให้กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและโครงสร้างป้ายโฆษณา (2) เรื่องรายงานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2547 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 เพื่อให้คณะกรรมการ ฯ ให้การรับรอง (3) เรื่องสืบเนื่องเพื่อพิจารณา 1 เรื่อง ได้แก่ การขอผ่อนผัน การใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อกิจการเหมืองแร่ กรณี บริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย จำกัด (มหาชน) บริเวณเขา วง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เรื่องเพื่อพิจารณา 8 เรื่อง ได้แก่ แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณ ภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้น ทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ระหว่างสถานีศรีราชา ถึง สถานีฉะเชิงเทรา ของการรถไฟแห่งประเทศ ไทย รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรี อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ ตำบลหน้าพระลาน จังหวัดสระ บุรี การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการผู้ชำนาญการและคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติ การกำหนดมาตรฐานการระบายน้ำทิ้งจากท่าเทียบเรือประมง สะพานปลา และแพปลา การ กำหนดมาตรฐานความสั่นสะเทือนโดยทั่วไปที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารและส่วนต่างๆ ของอาคาร และ แผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการควบคุมการเผาในที่โล่ง และ (4) เรื่องเพื่อทราบ 4 เรื่อง ได้แก่ รายงานผลการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับ จังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ผลการดำเนินการโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยขององค์ การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ผลการดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2546 และ สถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย
|
|||||||||||||||
| 3862 | การปรับปรุงตำแหน่งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) และผู้ช่วย ปคร. | นร | 21/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (คกก.8)
ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ (job description) ในภารกิจของผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ให้ผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจ ปคร. ให้ ชัดเจน โดยให้แต่ละกระทรวงจัดบุคลากรมาช่วยปฏิบัติงานตามความจำเป็นและเหมาะสม และให้ทุกกระทรวง ให้ความสำคัญกับภารกิจของ ปคร. อย่างจริงจังด้วย และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับไปดำเนินการจัด ประชุมผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้าน ปคร. เพื่อชี้แจง และซักซ้อมความเข้าใจเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในภารกิจและมี แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความเข้าใจในกระบวนการนิติบัญญัติ รวมทั้งหามาตรการสร้างแรงจูง ใจ ให้แก่ข้าราชการระดับสูงของทุกกระทรวงในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานพิเศษที่มี ความสำคัญเช่นเดียวกับ ปคร. เช่น CIO, CFO เป็นต้น โดยพิจารณาทั้งระบบให้เป็นรูปธรรมและมีความเหมาะ สม และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป รวมทั้งให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งเวียนให้กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติในการจัดระบบสารบรรณกลางสำหรับเรื่องที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีรวมไว้ ที่ ปคร. ประจำกระทรวง เพื่อการรับเรื่องและส่งเรื่องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถคาดการณ์ ได้ล่วงหน้า และทราบถึงความเคลื่อนไหวของกระบวนการนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติ งานในภาพรวมมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
|||||||||||||||
| 3863 | งบประมาณลงทุนประจำปีงบประมาณ 2548 ของรัฐวิสาหกิจ | นร | 21/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
เห็นชอบงบประมาณลงทุนประจำปี พ.ศ. 2548 ของรัฐวิสาหกิจจำนวน 51 แห่ง วงเงินดำเนินการ 315,485 ล้านบาท และเบิกจ่าย 248,921 ล้านบาท และรับทราบงบประมาณทำการประจำปี พ.ศ. 2548 ของรัฐ วิสาหกิจในเบื้องต้นที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 1,082,184 ล้านบาท รายจ่ายรวม 998,956 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 83,228 ล้านบาท โดยให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้รัฐวิสาหกิจทำการปรับปรุงประมาณ การกำไรสุทธิในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย รัฐบาลในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งรับทราบแนวโน้ม การดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551 ของรัฐวิสาหกิจ โดยจะมีการเบิกจ่ายลงทุน 957,985 ล้าน บาท หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 319,328 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 284,388 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 94,796 ล้านบาท โดยให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจรับข้อเสนอแนะรายกระทรวง และข้อเสนอแนะ ในเชิงนโยบายไปพิจารณาดำเนินการและให้รายงานผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในสังกัดให้สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน เพื่อให้มีการติดตาม ผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ นอกจากนี้ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด กำกับดูแล การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด และถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ นั้น ๆ โดยตรง โดยกระทรวงการคลังเป็นเพียงผู้ถือหุ้นในนามของรัฐเท่านั้น |
|||||||||||||||
| 3864 | โครงการเพื่อการพัฒนาประจำปีงบประมาณ 2548 ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 21/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการเพื่อการพัฒนาประจำปีงบ
ประมาณ 2548 ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) รวม 20 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 2,197.308 ล้านบาท จำแนกเป็นโครงการปรับปรุงขยายการประปา จำนวน 11 โครงการ วงเงินลงทุน 1,851.081 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงกิจการประปาภายหลังการรับโอนจากท้องถิ่น จำนวน 9 โครงการ วง เงินลงทุน 346.227 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้พิจารณาเห็น ชอบแล้ว และให้ กปภ. รับความเห็นของ สศช. เกี่ยวกับการจัดเตรียมโครงการลงทุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดหาแหล่งเงินลงทุนของโครงการ ฯ และปัญหา ความขาดแคลนน้ำของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||
| 3865 | สรุปผลการประชุมระหว่างประเทศด้านการศึกษา ครั้งที่ 47 | ศธ | 21/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุมระหว่าง
ประเทศด้านการศึกษา (International Conference on Education : ICE) ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 8 - 11 กันยายน 2547 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมระหว่าง ประเทศที่สำคัญของสำนักงานระหว่างประเทศด้านการศึกษา (International Bureau of Education : IBE) เพื่อเป็นเวทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้นำทางการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการ ศึกษาที่จะอภิปรายนโยบายการศึกษา และแลกเปลี่ยนแนวทางในการจัดการศึกษาสำหรับประเทศสมาชิก ภายใต้หัวข้อ Quality Education for All Young People : Challenges, Trends and Priorities โดยแบ่งเป็น การประชุมปฏิบัติการกลุ่มย่อย 4 หัวข้อ คือ (1) Quality Education and Gender Equality เป็นการหารือ เกี่ยวกับความไม่เสมอภาคระหว่างชายและหญิงในการให้การศึกษา และเป็นเป้าหมายหนึ่งของแผนปฏิบัติ การดาการ์ว่าด้วยการศึกษาเพื่อปวงชน ซึ่งกำหนดที่จะขจัดความไม่เสมอภาคระหว่างเพศชายเพศหญิง ภาย ในปี ค.ศ. 2015 (2) Quality Education and Social Inclusion เป็นการหารือในเรื่องการจัดการศึกษาให้ กับกลุ่มคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนด้อยโอกาสต่าง ๆ เพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการศึกษา (3) Quality Education and Competencies of Life เป็นการหารือเกี่ยวกับการเรียนรู้ในการพัฒนาตนเองเพื่อ สร้างศักยภาพในการดำรงชีวิต โดยที่ประชุมเห็นว่าทักษะชีวิตจะช่วยให้เยาวชนสามารถที่จะเรียนรู้การเผชิญ กับความเสี่ยงต่าง ๆ มีส่วนในการช่วยตัดสินใจ และเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ดังนั้น การศึกษาในปัจจุบัน จำเป็นจะต้องครอบคลุมเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อให้เยาวชนรู้จักเผชิญกับการแก้ไขปัญหาสังคมต่าง ๆ โดยจะ ต้องเรียนรู้การแก้ไขข้อขัดแย้งและการสร้างสันติภาพ และ (4) Quality Education and the Key Role of Teachers เป็นการหารือในเรื่องของครูซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้กระบวนการเรียนการสอนมี คุณภาพโดยครูต้องสามารถสร้างสภาพการเรียนรู้ (learning environment) ให้กับนักเรียนเพื่อส่งเสริมให้ นักเรียนรู้จักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยที่ประชุมเห็นควรมี การปรับปรุงครูให้ได้รับการพัฒนาสภาพการปฏิบัติงาน และทำให้อาชีพครูเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นด้วยการ ปรับปรุงเงินเดือน ความก้าวหน้า และวิทยะฐานะของครู |
|||||||||||||||
| 3866 | รายงานผลการดำเนินงานอาหารปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุข ประจำเดือนกรกฎาคม 2547 | สธ | 21/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินงานโครงการความปลอด
ภัยด้านอาหาร ประจำเดือนกรกฎาคม 2547 ดังนี้ (1) การดำเนินการตรวจสอบเภสัชเคมีภัณฑ์นำเข้า 950 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 497.54 ล้านบาท ทั้งนี้ ไม่พบการสำแดงเท็จ หรือการลักลอบนำเข้า ตรวจสอบอาหารทุกชนิดที่นำเข้ารวม 8,483 รายการ พบ ข้อบกพร่องด้านเอกสาร 9 รายการ ได้แก่ ข้อบกพร่องด้านฉลาก และไม่มีใบรับรอง GMP และตรวจสอบ อาหารด้วยชุดทดสอบขณะนำเข้า 165 รายการ ไม่พบข้อบกพร่องในทุกรายการที่ทดสอบ (2) การตรวจสอบ GMP โรงงานอาหารแปรรูป 54 ประเภท ทั้งในกรุงเทพ ฯ และในส่วนภูมิภาค โดยทั่ว ประเทศมีสถานที่ผลิตที่ได้รับการตรวจประเมิน GMP แล้ว 9,967 แห่ง ผ่านเกณฑ์ GMP อาหาร 8,369 แห่ง (3) การสุ่มตรวจเคลื่อนที่ โดยตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ 74 ตลาด เก็บตัวอย่าง ทดสอบทั้งสิ้น 2,913 ตัวอย่าง พบตกมาตรฐาน 174 ตัวอย่าง (4) ความปลอดภัยด้านอาหารในโรงเรียน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้รับทุนจากสำนัก งานส่งเสริมสุขภาพ ในวงเงิน 13.89 ล้านบาท ตามโครงการ อย. น้อย (สสส) (5) อาหารสะอาดรสชาติอร่อย มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารได้รับป้ายสัญลักษณ์ Clean Food Good Taste ไปแล้วจำนวน 34,789 แห่ง (6) ตลาดสดน่าซื้อ มีจำนวนตลาดสดที่ผ่านเกณฑ์การพัฒนาระดับพื้นฐาน รวมทั้งสิ้น 573 แห่ง จำนวน ตลาดสดน่าซื้อ รวมทั้งสิ้น 270 แห่ง (7) การจัดกิจกรรมรวมพลังอาหารปลอดภัย มียอดจำหน่ายหนังสือ "กินตามแม่" รวม 162,621 เล่ม การเตรียมการจัดงาน "สืบสานปณิธานอาหารปลอดภัย ถวายแด่แม่ของแผ่นดิน" เป็นต้น (8) แผงอาหารปลอดภัย ได้มอบป้ายอาหารปลอดภัยให้แผงจำหน่ายอาหารสดทั่วประเทศ เป็นป้าย ทอง 28,487 ป้าย ป้ายชั่วคราว 63,224 ป้าย นอกจากนี้ได้มีการปรับปรุงพัฒนาห้องปฏิบัติการ Test kit การรณรงค์ให้ความรู้ประชาสัมพันธ์เพื่อเผย แพร่ความรู้ด้านอาหารปลอดภัย |
|||||||||||||||
| 3867 | การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการของกระทรวงคมนาคม | คค | 14/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเรื่อง การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กับการปฏิบัติราชการของกระทรวงคมนาคม ซึ่งคณะกรรมการวางนโยบาย ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการ ปฏิบัติราชการของกระทรวงคมนาคม ได้สรุปผลการดำเนินการ ดังนี้ (1) กำหนดกรอบและแนวทางการแก้ไข กฎหมายตามลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน และความจำเป็น โดยถือเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง คมนาคม และนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก (2) การเร่งจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรดำเนินการ โดยเน้นการจัดตั้ง องค์กรกำกับดูแล ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลประชาชนเป็นสำคัญ (3) กระทรวงคมนาคมมีกฎหมายที่แก้ไขแล้ว เสร็จ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวน 3 ฉบับ อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปรับปรุง 37 ฉบับ สมควรจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขประมาณ 24 ฉบับ และมีกฎหมายของหน่วยงานอื่นที่ควรเสนอขอแก้ไข 4 ฉบับ นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนนิติบัญญัติรายปีของกระทรวงคมนาคม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2547 เพื่อรองรับการเสนอกฎหมายตามปีงบประมาณ โดยจะเริ่มได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548 (4) ให้สำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีหรือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการพิจารณากฎหมายที่สำคัญเร่งด่วนและ จำเป็นต้องมีผลใช้บังคับโดยเร็ว จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติเรือไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่าง พระราชบัญญัติการรับขนของทางอากาศ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราช บัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 |
|||||||||||||||
| 3868 | ขอกันเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม (16,600 ล้านบาท) และงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (16,500 ล้านบาท และ 59,000 ล้านบาท) | นร | 14/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอขอกันเงินงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและ สังคม จำนวน 16,600 ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง ราย การค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ จำนวน 16,500 ล้านบาท รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการค่าใช้ จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ จำนวน 59,000 ล้านบาท เพื่อไปเบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 และที่แก้ ไขเพิ่มเติม โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ที่จะเบิกจ่ายจากงบกลางดังกล่าวเร่ง พิจารณาให้รอบคอบโดยเร็วว่า แผนงาน/โครงการใดหากกันเงินไว้แล้วจะเบิกจ่ายไม่ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้แจ้งระงับการขอกันเงินและให้ดำเนินการขอตั้งงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 แทนต่อไป และแผนงาน/โครงการใดที่ขอกันเงินไว้เบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 แต่เบิกจ่ายจริงไม่ทันและจะ ขอกันเงินไว้เบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ในภายหลังจะไม่อนุมัติให้กันเงินและจะถือว่างบประมาณ สำหรับแผนงาน/โครงการนั้นเป็นอันพับไป ทั้งนี้ ให้แจ้งยืนยันให้สำนักงบประมาณทราบ และนำเสนอ คณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 28 กันยายน 2547 นี้ และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำชับหัวหน้าหน่วยงานที่รับผิด ชอบแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อให้การจัดสรร งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ด้วย |
|||||||||||||||
| 3869 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการจ้างผู้บริหารจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 | กษ | 14/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ (กรมวิชาการเกษตร) ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการจ้างผู้บริหารจัดการงานมหกรรม พืชสวนโลก 2549 วงเงินรวม 396,000,000 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการ พัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (16,500 ล้านบาท และ 59,000 ล้านบาท) จำนวน 132,000,000 บาท ส่วนที่ยังขาดอยู่ จำนวน 264,000,000 บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2550 ต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชะลอการจัดทำสัญญาจ้างผู้บริหารจัด การงานมหกรรมพืชสวนโลก ฯ กับบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน และให้พิจารณาทบทวนความเหมาะ สมในการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ฯ ดังกล่าวให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก่อนว่าจะจัดในประเทศ ใด แล้วจึงดำเนินการต่อไป และในกรณีที่เห็นควรระงับการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ให้ปรับเปลี่ยน การดำเนินงานจากเดิมไปเป็นการปรับปรุงสถานที่เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเผยแพร่ความรู้ในด้านพืช สวนแก่ประชาชนและผู้สนใจแทน สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายให้ประสานและขอตกลงรายละเอียดกับ สำนักงบประมาณต่อไป และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรสนับสนุนการจ้างบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เป็นผู้บริหารจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ฯ ในวงเงิน 396 ล้านบาท จะต้องคงเนื้องาน ในส่วนของกิจกรรมเสริมบรรยากาศไว้ในสัญญาด้วย ไปพิจารณดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||
| 3870 | การตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 | นร | 07/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 ที่มีมติ
เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอเรื่อง การตั้งคณะทำงาน เพื่อศึกษาพิจารณาและให้ความเห็นเกี่ยว กับเรื่องที่นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธี การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะทำงาน ให้ชัดเจนและองค์ประกอบตามความเหมาะสม รวมทั้งรับทราบความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมของ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการตีความและวินิจฉัยปัญหากฎหมายในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยในส่วนของข้อสังเกตมีดัง นี้ โดยที่คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ได้เคยพิจารณาวางแนวทางในการตรวจ สอบร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา และคณะรัฐมนตรีได้ พิจารณาเห็นชอบรับหลั กการในแนวทางการตรวจสอบดังกล่าวแล้ว ซึ่งแนวทางตรวจสอบนั้นจะตรวจสอบ ดูไปถึงว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขัดหลักนิติธรรมหรือไม่ ควรทำหรือไม่ควรทำ และทำแล้วจะเป็นการ สร้างขั้นตอนขึ้นมาหรือไม่ ฉะนั้น เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณารับหลักการของร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ และ ข้อบังคับใดแล้ว ก็ควรจะได้ระบุในมติคณะรัฐมนตรีว่า ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีากตรวจเรื่องเหล่า นี้ตามแนวทางการตรวจสอบดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม ในการที่คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการในร่างกฎ หมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับ นั้น มิได้หมายความว่ารับหลักการในถ้อยคำในร่าง ฯ ทั้งหมด ฉะนั้น ใน การตรวจของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงไม่ถือว่าเป็นการขัดต่อการรับหลักการของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ มอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับความเห็นและข้อ สังเกตเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป และมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ไปดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลพื้นฐาน (groundwork) เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติราชการในเรื่องต่าง ๆ ที่ รัฐบาลจะประกาศในเดือนตุลาคม 2547 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นมาตรการในเชิงป้องกันการ ทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมไปถึงการกำหนดราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความเหมาะสมและไม่ เปิดช่องให้มีการสมยอมราคากันในระหว่างผู้เข้าร่วมการประมูล แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||
| 3871 | รายชื่อกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 2 เรื่อง) 1.1 กระทู้ถามที่ 1366 ร. เรื่อง ธนาคารของรัฐไม่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามนโยบายการให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล 1.2 กระทู้ถามที่ 1388 ร. เรื่อง การสร้างมัสยิดกลาง จังหวัดตรัง | นร | 07/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1366 ร.
เรื่อง ธนาคารของรัฐไม่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามนโยบายการให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล และ กระทู้ถามที่ 1388 ร. เรื่อง การสร้างมัสยิดกลาง จังหวัดตรัง และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดย สาระสำคัญของคำตอบกระทู้ถามที่ 1366 ร. สรุปได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ประเภท NPL โดยการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ดังกล่าว กรณีเจรจานอกกระบวนการศาล ให้จัดตั้งคณะกรรม การเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นประธาน เพื่อกำหนด นโยบายและส่งเสริมให้การเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างภาคเอกชน และสถาบันการเงินให้เกิดผลโดย เร็ว จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท สำนักระงับข้อพิพาท แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อการแก้ไข ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ จัดตั้งคณะกรรมการจัดการหนี้ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร กรณี เจรจาตามกระบวนการศาลล้มละลายกลาง ได้ปรับปรุงกฎหมายล้มละลาย และประกาศใช้พระราชบัญญัติจัด ตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2542 สำหรับมาตรการเพื่อเร่งรัดและ ส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มีมาตรการที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมาตรการที่ออกโดย หน่วยงานราชการอื่นๆ ได้แก่ กรมสรรพากรและกรมที่ดิน นอกจากนี้ ได้มีมาตรการในการควบคุมให้สถาบัน การเงินดำเนินการตามนโยบายการแก้ไขปัญหาลูกหนี้ดังกล่าว โดยการลงโทษเจ้าหนี้ตามสัญญาระหว่างลูก หนี้และเจ้าหนี้ และสัญญาระหว่างเจ้าหนี้ การลงโทษเจ้าหนี้ตามบันทึกข้อตกลงในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกันเงินสำรองเพื่อเร่งรัดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และปัจจุบันรัฐบาลกำลัง ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขจัดปัญหาและอุปสรรคการปรับปรุงโครง สร้างหนี้ รวมถึงการบังคับคดีด้วย และกระทู้ถามที่ 1388 ร. สรุปได้ว่า รัฐบาลโดยกรมการศาสนา กระทรวง วัฒนธรรม ได้ดำเนินการสนับสนุนการดำเนินงานของศาสนสถานทุกศาสนาที่รัฐบาลรับรอง และได้จัดงบ ประมาณอุดหนุนศาสนสถานในลักษณะบูรณะและซ่อมแซมในกรณีชำรุดเสียหายหรือเกิดภัยพิบัติ นอกจาก นี้ ได้สนับสนุนการบูรณะซ่อมแซมศาสนสถานและมัสยิด สนับสนุนการศึกษาอบรมด้านหลักธรรมคำสอน ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อนำศาสนาไปสู่การปฏิบัติต่อชาวมุสลิมในจังหวัดตรัง และจังหวัดต่าง ๆ |
|||||||||||||||
| 3872 | การปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ภายใต้แผนการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2547 ครั้งที่ 1 | กค | 07/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ
ภายใต้แผนการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2547 ครั้งที่ 1 ตามผลการพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศ ดังนี้ การปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2547 โครงการที่เห็นควรให้ถอนออกจากแผน ฯ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 (UA) ลำที่ 5 ลำที่ 6 และลำที่ 7 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และการปรับปรุงแผนการกู้เงิน ในประเทศทดแทนการกู้เงินจากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2547 โครงการที่เห็นควรให้ถอนออกจาก แผน ฯ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 7 ของการประปานครหลวง และ โครงการขยายเขตการติดตั้งระบบไฟฟ้าให้เกาะต่าง ๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โครงการที่เห็นควรปรับลดวง เงิน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 6 ส่วนที่ 2 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิ ภาค ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการ ฯ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐถือเป็นหลักปฏิบัติว่า การก่อหนี้ จากต่างประเทศจะต้องดำเนินการเท่าที่จำเป็นอย่างแท้จริง เพื่อให้ประเทศมีหนี้สาธารณะน้อยที่สุด โดยแผน งาน/โครงการใดที่จำเป็นต้องกู้เงินต่างประเทศ อาจพิจารณาให้เอกชนที่รับผิดชอบดำเนินการแผนงาน/โครง การนั้น เป็นผู้กู้จากต่างประเทศแทนหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งให้มีการจัดการทางการเงิน (project financing) อย่างเหมาะสม สำหรับหนี้ต่างประเทศที่มีอยู่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่ในแผนงาน/โครงการของรัฐวิสาหกิจ ต่าง ๆ หากรัฐวิสาหกิจใดมีฐานะทางการเงินดีและสภาพคล่องทางการเงินสูงเช่น กรณีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย เป็นต้น ให้รัฐวิสาหกิจนั้นพิจารณาชำระหนี้ต่างประเทศก่อนครบกำหนดเพื่อลดดอกเบี้ยและ ภาระหนี้ของประเทศในภาพรวมด้วย |
|||||||||||||||
| 3873 | การนำเสนอผลการดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ต่อคณะรัฐมนตรี | ทก | 07/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการ
ดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) สรุปได้ดังนี้ ณ วันที่ 1 มกราคม-31 กรกฎาคม 2547 ปณท มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากสามารถลดการขาดทุนมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน ปณท มีกำไรสุทธิเป็นจำนวนเงิน 1,018 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการปรับอัตราค่าบริการเพื่อ ให้สอดคล้องใกล้เคียงกันต้นทุนการดำเนินการ นอกจากนี้ ปณท ยังได้จัดทำแผนงาน/โครงการ ตลอดจน ปรับปรุงและพัฒนาองค์กร เพื่อให้การดำเนินงานและบริหารงานของ ปณท เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ความเป็นเชิงธุรกิจมากขึ้น และร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง จัดทำแผนยุทธศาสตร์การปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร จัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะการเงิน ประกอบด้วย การสร้างความมั่นคงทางด้านการเงินอย่างยั่งยืน การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ และการพัฒนาศักยภาพการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ อย่างไรก็ตาม ปณท ยังประสบปัญหา/อุปสรรคบางประการที่ต้อง เร่งรัดแก้ไข เช่น การขาดความคล้องตัวในการปรับอัตราค่าบริการพื้นฐานให้สอดคล้องกับภาวะต้นทุนที่ แท้จริง อำนาจในการพิจารณาให้ส่วนลดแก่ลูกค้ารายใหญ่ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญทางธุรกิจ และการหา เงินทุนจำนวนมากมาใช้ในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการให้บริการยุค ปัจจุบัน เป็นต้น
|
|||||||||||||||
| 3874 | การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน | นร | 07/09/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๘ (ฝ่ายกฎหมาย ระบบราชการ และการประชาสัมพันธ์) ๑. เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชน และการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ กรรมการ ที่ปรึกษาและอนุกรรมการขององค์การมหาชน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ โดยให้แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.๑ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เห็นควรจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ ๑ เนื่องจากเป็นองค์กรเพื่อพัฒนาและดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐเฉพาะด้าน ๑.๒ เบี้ยประชุมของอนุกรรมการให้ได้รับเป็นรายเดือน ๑.๓ กรณีองค์การมหาชนที่ผู้อำนวยการได้รับอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นสูงกว่าหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ ให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลรับไปดำเนินการเจรจาจัดทำข้อตกลงกับผู้อำนวยการที่ยังอยู่ในอายุสัญญาจ้าง โดยอาจนำส่วนต่างของเงินเดือนที่ได้รับเดิมกับเงินเดือนตามอัตราใหม่ไปจ่ายเป็นเงินตอบแทนในลักษณะอื่น เช่น เงินรางวัล เป็นต้น ๑.๔ การกำหนดอัตราค่าตอบแทนพื้นฐานในส่วนของเงินเดือนประจำในระยะเริ่มแรกไม่ควรกำหนดไว้ให้ใกล้เคียงกับขั้นสูงสุด เพื่อให้สามารถปรับอัตราค่าตอบแทนดังกล่าวได้ตามผลงานเป็นระยะ ๆ ตลอดอายุสัญญา ๒. เห็นควรให้นำหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน ไปใช้กับหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะซึ่งมีภารกิจในการให้บริการสาธารณะเช่นเดียวกับองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๓. เห็นควรให้ความเห็นชอบการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๔. เห็นควรกำหนดวงเงินรวมสำหรับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรสำหรับองค์การมหาชน เช่น เงินเดือน ค่าตอบแทน เบี้ยประชุม เป็นต้น ไว้ไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของเงินอุดหนุนประจำปีหากองค์การมหาชนใดไม่สามารถดำเนินการให้อยู่ในกรอบวงเงินดังกล่าวได้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเว้นเป็นราย ๆ ไป ๕. ในการสรรหาผู้อำนวยการขององค์การมหาชน เห็นควรให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลและคณะกรรมการองค์การมหาชนกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด ผลผลิต ตลอดจนกรอบวงเงินค่าตอบแทน แล้วแจ้งให้ ก.พ.ร. ทราบก่อนประกาศรับสมัครผู้อำนวยการ ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใส และเพื่อประโยชน์ในการติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานต่อไปด้วย ๖. ให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลองค์การมหาชน และ ก.พ.ร. ตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินงานขององค์การมหาชนต่าง ๆ หากองค์การมหาชนใดไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินงาน หรือไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หรือมีความซ้ำซ้อนกัน ให้พิจารณายุบเลิก หรือปรับปรุงแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ให้ ก.พ.ร. รับไปพิจารณาด้วยว่า เพื่อให้เกิดความประหยัดและมีประสิทธิภาพ ในกระทรวงหนึ่ง ๆ อาจกำหนดให้มีองค์การมหาชนเดียว แต่ภายใต้องค์กรนั้นอาจมีหน่วยงานที่มีภารกิจเฉพาะด้านหลาย ๆ หน่วยได้
|
|||||||||||||||
| 3875 | รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (การปรับปรุงระบบภาษีที่ดิน) | กค | 31/08/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานการปรับปรุงระบบภาษี
ที่ดิน โดยในส่วนของการเสนอร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการนี้ กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ และเตรียมความ พร้อมในการนำภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาใช้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความพร้อมในการนำภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างมาใช้แทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ส่วนการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดเก็บ ภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าตามขนาดการถือครองตามข้อเสนอของมูลนิธิสถาบันที่ดิน เห็นว่า การจัดเก็บภาษี ที่ดินดังกล่าว สมควรยุติ โดยให้เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นภาษีท้องถิ่น (Local Tax) ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เนื่องจากสามารถช่วยให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินได้ในระดับหนึ่ง และกระตุ้นให้ใช้ที่ดินที่เกิดประโยชน์มากขึ้นโดยเพิ่มบทลงโทษกรณีทิ้งที่ดินว่างเปล่าเกิน 5 ปีเพิ่มขึ้นอีกเพื่อลด การกักตุนที่ดินเพื่อเก็งกำไร สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับภาษีมรดก ได้มีการศึกษาในรายละเอียดเกี่ยวกับ หลักในการจัดเก็บ รวมไปถึงวิธีการจัดเก็บและอัตราภาษีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพตามบทบาทหน้าที่ของ ระบบภาษีทรัพย์สินที่ดีต่อไป และมอบให้กระทรวงการคลังไปหารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และมูลนิธิสถาบันที่ดิน เกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะยุติการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าตามขนาดการถือ ครอง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||
| 3876 | ขออนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2547 | ตช | 31/08/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติการดำเนินโครงการจัดหาอาคารที่พักอาศัย
สำเร็จรูปพร้อมที่ดินและสิ่งก่อสร้างประกอบจำนวน 14 โครงการ จากจำนวนทั้งหมด 19 โครงการ ตามแผน งานป้องกันและควบคุมอาชญากรรม งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม งบลงทุน รายการอาคารที่พัก อาศัยสำเร็จรูปพร้อมที่ดินและสิ่งก่อสร้างประกอบ 3,500 หน่วย และยุติการดำเนินการในส่วนที่เหลือ จำนวน 5 โครงการ และให้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 รายการอาคารที่พัก อาศัยสำเร็จรูปพร้อมที่ดินและสิ่งก่อสร้างประกอบ 3,500 หน่วย ที่เหลือจำนวน 5 โครงการ ซึ่งมีงบประมาณ เหลือ จำนวน 337,761,800 บาท ไปเป็นค่าใช้จ่ายในรายการต่าง ๆ เฉพาะในรายการดังต่อไปดังนี้ รายการ ลำดับที่ 1 อาคารที่พักอาศัย (แฟลต) ขนาด 40 ครอบครัว ของ สน.ธรรมศาลา จำนวน 2 หลัง รายการ ลำดับที่ 2 ครุภัณฑ์ตามโครงการถวายความอารักขาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ รักษาความปลอดภัย ประจำพระตำหนักทวีวัฒนา จำนวน 18 รายการ รายการลำดับที่ 3 ค่าย้ายเสาอากาศ ฐานสามเหลี่ยมแบบ Self Support ความสูง 120 เมตร จำนวน 1 แห่ง รายการลำดับที่ 10 เงินชดเชยค่างาน ก่อสร้าง ตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) จำนวน 10 แห่ง รายการลำดับที่ 12 เครื่องรับ-ส่งวิทยุ HF/ SSB/CW กำลังส่ง 90-100 วัตต์ ชนิดติดตั้งประจำที่แบบสังเคราะห์ความถี่พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 7 เครื่อง รายการลำดับที15 โครงการปรับปรุงศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนต่อขยาย C31 ราย การลำดับที่ 16 เสื้อเกราะอ่อนป้องกันกระสุน จำนวน 1,250 ตัว รายการลำดับที่ 17 ค่าปรับปรุงอาคารที่ พักอาศัย (แฟลต) สน.วัดพระยาไกร รายการลำดับที่ 18 โครงการผลิตและเผยแพร่รายการของสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติในสถานีโทรทัศน์ส่วนแยก จังหวัดยะลา กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อ สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รายการลำดับที่ 20 ชุดป้องกันการจุดระเบิด ด้วยคลื่อนความถี่วิทยุโทรศัพท์มือถือ (20-1000 เมกกะเฮิร์ท และ 1800-2000 เมกกะเฮิร์ท) จำนวน 1 ชุด 5,500,000 บาท และรายการลำดับที่ 22 เครื่องยิงช็อตไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 55 ชุด รวมทั้งโครงการ ซ่อมบำรุงอากาศยาน พร้อมจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น ในวงเงิน 38,000,000 บาท โดยให้ประสาน กับสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณารายละเอียดและวงเงินตามรายการ/โครงการดังกล่าว สำหรับรายการที่ 18 ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) พิจารณาความเหมาะสมและจำเป็นก่อน และดำเนินการ ต่อไปได้ รวมทั้งเห็นชอบการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 เรื่อง แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในไตรมาสที่ 3 และให้ถือปฏิบัติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2547 เรื่อง แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อ หนี้ผูกพันได้ทันภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2547 ที่กระทรวงการคลังเสนอต่อไป |
|||||||||||||||
| 3877 | ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2548 โครงการเปลี่ยนระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) โดยใช้งบกลาง | นร | 24/08/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอขอแก้ไขข้อความในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่ 17 สิงหาคม 2547 เรื่อง การขออนุมัติงบประมาณรายจ่าย ปี 2548 โครงการเปลี่ยนระบบการบริหาร การเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) โดยใช้งบกลาง จากเดิม แก้ไขเป็น "เห็นชอบในหลักการ วงเงินค่าใช้จ่ายลงทุนโครงการเปลี่ยนระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) จำนวน 1,400 ล้านบาท เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการ ค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้านบาท) และ ให้สำนักงบประมาณดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สาร และสำนักงบประมาณ เข้าไปร่วมดำเนินการกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานกำกับและ บริหารโครงการ ฯ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 เรื่อง รายงานผลการประชุมคณะ กรรมการปรับปรุงระบบการบริหารการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปตาม ระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีความถูกต้องเหมาะสมทางเทคนิคด้วย" |
|||||||||||||||
| 3878 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (โครงการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่) | สธ | 24/08/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5)
ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนองบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น เพื่อจัดทำโครงการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ เช่น โรค ซาร์ส ไข้หวัดนก เพื่อพัฒนาศักยภาพการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค วงเงินรวม 112,350,000 บาท โดยให้รับข้อสังเกตของ คกก.5 ที่เห็นว่า งบประมาณปี พ.ศ. 2547 เหลือเวลาเพียง 2 เดือน ระยะเวลาในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์ สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจของห้องปฏิบัติการที่มีอยู่เดิม ในวงเงิน 24 ล้านบาท จะต้องปรับแผน การดำเนินการ หากกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการในปีงบประมาณนี้ ต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณใน ปีต่อไป และงบประมาณส่วนที่เหลือขอให้แปรญัตติเพิ่มในงบประมาณ ปี พ.ศ. 2548 สำหรับโครงสร้างพื้น ฐานเพื่อการปรับปรุงห้องปฏิบัติการครุภัณฑ์ บุคลากร รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ กระทรวงสาธารณสุขมีแผน เพื่อดำเนินการทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลางอยู่แล้ว เนื่องจากยังไม่เห็นแผนงาน จะมีการฝึกอบรมบุคลา กรอย่างไรให้ได้มาตรฐาน เมื่อเทียบกับหน่วยปฏิบัติการสากลและของต่างประเทศอื่น ๆ มีการเตรียมงาน ไว้หรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||
| 3879 | ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบาย กอ.สสส.จชต. ครั้งที่ 11/2547 | นร | 24/08/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรายงานผลการประชุมคณะ
กรรมการกำหนดนโยบายของกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ครั้งที่ 11/2547 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2547 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติในเรื่องต่าง ๆ โดยสรุปดังนี้ รับทราบ ผลการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้และยุทธศาสตร์การ พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจสังคม และด้านความมั่นคง ใน 5 กลุ่ม ได้แก่ สถานการณ์ ด้านการข่าว การรักษาความสงบเรียบร้อย การพิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร งานกิจการพลเรือน การ ปจว./ปชส. การจัดระเบียบและชุมชนเข้มแข็ง และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และเห็นชอบโครง การส่งเสริมศาสนา ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับไปพิจารณาบูรณาการโครงการเรียบร้อยแล้ว จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายพื้นที่มัสยิดอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โครงการปรับปรุงบูรณะวัดช้าง ไห้ จังหวัดปัตตานี โครงการบูรณะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จังหวัดปัตตานี และโครงการอบรมเยาวชน รวมทั้งเห็นชอบในหลักการโครงการที่ผ่านการเห็นชอบของคณะเลขานุการร่วม รวม 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง การขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจัดหา สป. และเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติ งานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3 รายการ เรื่อง การขอสนับสนุนงบประมาณการเคลื่อนย้าย หน่วยของกองทัพบก และกองทัพเรือ และเรื่อง การขออนุมัติหลักการการปรับวงเงินงบประมาณของ กรมทางหลวง ในปี พ.ศ. 2547-2548 ในการนี้ ที่ประชุมมีความเห็นเพิ่มเติม เช่น เรื่อง การวาดภาพ เหตุการณ์ (Scenario) ควรนำแนวทางและข้อเสนอจากการประชุมแนวทางยุทธศาสตร์ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2547 มาพิจารณาประกอบกับการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งประเมินว่ายังมีความรุน แรงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เพื่อวาดภาพเหตุการณ์ล่วงหน้ารองรับสถานการณ์ที่อาจมีปฏิบัติการข้ามพื้นที่ จังหวัด กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) จึงจะดำเนินการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์และจัดเตรียมแนวทาง ปฏิบัติเพื่อรองรับเหตุการณ์ประเภทต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้า เป็นต้น |
|||||||||||||||
| 3880 | ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....(การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น) | ลต | 24/08/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรม
นูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไข เพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ร่างพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่ม เติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิก สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนน เสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า เมื่อมีการนำเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งมาใช้ แล้ว ลักษณะการทุจริตเกี่ยวกับการลงคะแนนและนับคะแนนเลือกตั้งก็จะมีความซับซ้อน และเป็นระบบมากยิ่ง ขึ้น จึงสมควรพิจารณากำหนดโทษให้สูงขึ้นตามความเหมาะสมด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือก ตั้งรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยใช้เครื่องลงคะแนนเลือกตั้ง ควรมีระบบรองรับการใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (smart card) และการนับคะแนนโดยเปิดเผย ณ สถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งแต่เพียงแห่งเดียว (นับคะแนนรวม) เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้เครื่องลงคะแนนมีระบบที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ สมควรให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติซึ่งมีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมและให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ อย่าง ไรก็ตาม ควรดำเนินการให้มีความพร้อมในทุกด้านก่อนนำเครื่องลงคะแนนมาใช้ในการเลือกตั้งจริงต่อไป |
|||||||||||||||
