ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 30 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 581 - 600 จากข้อมูลทั้งหมด 6665 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
581 | โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 | พณ. | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลความคืบหน้าการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ปี ๒๕๖๓/๖๔ ซึ่งได้จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรแล้ว ๗ ครั้ง จำนวน ๒๐๗,๗๙๖
ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๙๗ ของเกษตรกร จำนวน ๔๕๒,๐๐๐ ราย จำนวนเงิน ๖๐๖.๓๐
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๐๕ ของวงเงินจ่ายขาดทั้งหมด (จำนวน ๑,๕๕๒.๗๘ ล้านบาท)
คงเหลืองบประมาณจ่ายขาด ๙๔๖.๔๘ ล้านบาท และรับทราบมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ปี ๒๕๖๓/๖๔ ประกอบด้วย โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ปีการผลิต ๒๕๖๓/๖๔ (สนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้สามารถรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และเก็บสต็อกไว้เพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด
วงเงินสินเชื่อ ๑,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท วงเงินงบประมาณชดเชยดอกเบี้ย ๑๕.๐๐ ล้านบาท
โดยใช้งบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร) การบริหารจัดการการนำเข้า
การดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการดูแลความสมดุล
โดยแจ้งปริมาณการครอบครอง การนำเข้า สถานที่เก็บ การตรวจสอบสต็อก
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒.
อนุมัติในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี ๒๕๖๓/๖๔
กรอบวงเงิน ๑,๙๑๒,๒๑๐,๒๔๕ บาท
และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่ม
โดยสถาบันเกษตรกร ปี ๒๕๖๓/๖๔ กรอบวงเงิน ๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นและเป็นภาระต่องบประมาณนั้น ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามผลการดำเนินงานจริงต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้มีการจัดทำระบบหรือกลไกในการตรวจสอบที่มีมาตรฐานเพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างถูกต้องและทันต่อสถานการณ์
คำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
รวมทั้งบูรณาการข้อมูลด้านการลงทะเบียนเกษตรกร จำนวนเกษตรกร ปริมาณผลผลิตต่อไร่
จำนวนพื้นที่เพาะปลูก จำนวนสถาบันเกษตรกร ให้ถูกต้องครบถ้วน ไม่ซ้ำซ้อน
ตลอดจนจัดให้มีระบบการรายงาน การติดตาม
และการประเมินผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากการดำเนินโครงการฯ
เพื่อให้มีข้อมูลในการบริหารงานอย่างถูกต้องครบถ้วน
สำหรับประกอบการกำหนดนโยบายของภาครัฐที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
๓.
ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
(๑) การดำเนินโครงการฯ
ส่งผลให้ภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายมียอดคงค้างเพิ่มขึ้น
แต่ยังคงไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของงบประมาณ (๒) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
จัดทำระบบหรือกลไกในการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน ตลอดจนจัดให้มีระบบรายงาน
การติดตามและการประเมินผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่เกษตรกรได้รับจากการดำเนินโครงการฯ
และ (๓)
กระทรวงพาณิชย์ควรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนในการสร้างเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านมาตรการโครงการคู่ขนาน
รวมถึงวางแผนบริหารจัดการผลผลิตร่วมกับผู้ประกอบการและเครือข่ายตลอดห่วงโซ่การผลิต
และควรมีการติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
582 | ร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ. | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) รายงานว่า
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยได้มีหนังสือขอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.
๒๕๐๙ เพื่อให้สมาคมการค้าสามารถนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ได้ จึงเห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์รับประเด็นดังกล่าวไปพิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
583 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ | นร.04 | 13/08/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๑๔ ราย ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง หนึ่งปี โดยลำดับที่ ๑-๔ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ลำดับที่ ๕-๑๐ ในวันที่
๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๓ และลำดับที่ ๑๑-๑๔ ในวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓
ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ๓. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๔. นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๕. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๖. นายสากล ม่วงศิริ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๗. นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ๘. นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ๙. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ๑๐. นายสำเริง
แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ๑๑. นายนราพัฒน์
แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑๒. พลตำรวจโท
ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ๑๓. นายปรเมศวร์
งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ๑๔. นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
584 | การปรับปรุงกลไกการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ฮาลาล | 13/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อให้การดำเนินการรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลเป็นไปอย่างถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งศาสนาอิสลามและมาตรฐานสากล
เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคชาวมุสลิมทั้งในและต่างประเทศ
รวมทั้งตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลเพื่อการส่งออก
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม
และกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาปรับปรุงกลไกและกฎระเบียบเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ฮาลาลให้ชัดเจน
เหมาะสม และมีเอกภาพมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งให้พิจารณากำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องกรณีที่กระทำการไม่ถูกต้องตามหลักการฮาลาลด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
585 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนสมัยพิเศษและการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษว่าด้วยโควิค - 19 | พณ. | 13/08/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนสมัยพิเศษและการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม
(จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) สมัยพิเศษว่าด้วยโควิด-๑๙ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video
Conference) เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งที่ประชุมฯ
ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-๑๙ โดยประเทศสมาชิกได้เน้นย้ำความสำคัญของการรักษาตลาดที่เปิดและไม่ใช้มาตรการจำกัดการค้าและการลงทุนโดยไม่จำเป็น
เพื่อเป็นการรักษาห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งยืนยันที่จะลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
(RCEP) ภายในปี ๒๕๖๓ และที่ประชุมฯ
ได้รับรองแผนปฏิบัติการฮานอยว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของอาเซียนให้เข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-๑๙
เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-๑๙
โดยกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการเคลื่อนย้ายสินค้าที่จำเป็น
โดยเฉพาะสินค้าทางการแพทย์และอาหารซึ่งต้องมีการอำนวยความสะดวกทางการค้า
รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อบรรเทาผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-๑๙ เป็นต้น
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฮานอยฯ
เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
586 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563)] | นร 05 | 04/08/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ดังต่อไปนี้
ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๑.
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร
และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) ทั้งนี้ ก่อนส่งสภาผู้แทนราษฎร ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกับกระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับแก้ไขรูปแบบการเขียนและแก้ไขถ้อยคำเพื่ออ้างอิงกฎหมายให้ชัดเจน
และปรับลำดับมาตรา ปรับแก้ไขบันทึกหลักการและเหตุผล บันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญ และตารางเปรียบเทียบให้สอดคล้องกัน
เนื่องจากในร่างมาตรา ๓ ร่างมาตรา ๔ และร่างมาตรา ๖ ได้มีการแก้ไขโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๒๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ แล้ว ๒. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้งนี้ ก่อนส่งสภาผู้แทนราษฎร ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกับกระทรวงพาณิชย์ปรับแก้ไขถ้อยคำในร่างกฎหมายให้เหมาะสม ๓. ร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้งนี้
ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๒
เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวเนื่องกัน
ทั้งนี้
คณะกรรมากรประสานงานสภาผู้แทนราษฎรมีข้อสังเกต เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๑
และข้อ ๒ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เหมือนกัน
และมีประเด็นการแก้ไขไม่มาก อีกทั้งมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน
จึงควรที่จะรวมร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวทั้ง ๒ ฉบับ
เป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
587 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563)] | นร.05 | 04/08/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ดังต่อไปนี้
ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ทั้งนี้
ก่อนส่งสภาผู้แทนราษฎร ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกับกระทรวงพาณิชย์ปรับแก้ไขถ้อยคำในร่างกฎหมายให้เหมาะสม
ดังนี้ ๑.
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร
และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) ทั้งนี้ ก่อนส่งสภาผู้แทนราษฎร ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกับกระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับแก้ไขรูปแบบการเขียนและแก้ไขถ้อยคำเพื่ออ้างอิงกฎหมายให้ชัดเจน
และปรับลำดับมาตรา ปรับแก้ไขบันทึกหลักการและเหตุผล
บันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญ และตารางเปรียบเทียบให้สอดคล้องกัน เนื่องจากในร่างมาตรา
๓ ร่างมาตรา ๔ และร่างมาตรา ๖
ได้มีการแก้ไขโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๔
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ แล้ว ๒.
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... ๓. ร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้งนี้
ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๒
เนื่องจากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวเนื่องกัน
ทั้งนี้
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรมีข้อสังเกต เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๑
และข้อ ๒
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เหมือนกัน และมีประเด็นการแก้ไขไม่มาก
อีกทั้งมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน จึงควรที่จะรวมร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวทั้ง ๒ ฉบับ
เป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
588 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราส่วนทุนกับเงินกู้ที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงินจากเหตุระบาดของโรคติดเชื้่อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... | พณ | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราส่วนทุนกับเงินกู้ที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงินจากเหตุระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อไม่นำเงื่อนไขอัตราส่วนทุนกับเงินกู้ที่จะใช้ในการประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘๑ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ มาใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) ที่ได้รับสินเชื่อและได้ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้ได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรเพิ่มถ้อยคำให้ครอบคลุมผู้ประกอบวิสาหกิจการเงินที่ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และควรกำหนดวิธีปฏิบัติรองรับการกลับไปใช้อัตราส่วนทุนกับเงินกู้ตามปกติ ภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนปรน เช่น การทยอยลดสัดส่วนการก่อหนี้เดิมลง เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) สามารถเตรียมการได้ รวมทั้งอาจทบทวนการขยายระยะเวลาการผ่อนปรนเงื่อนไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต ไปประกอบการพิจารณา โดยพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) ที่เป็นผู้ประกอบการชาวไทยด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรหารือร่วมกันเพี่อพิจารณาถึงความเหมาะสมของการขอปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขดังกล่าว โดยให้คำนึงถึงความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และความเป็นธรรมกับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงินที่เป็นผู้ประกอบการชาวไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
589 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงการค้าเสรี ไทย - ออสเตรเลีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไทย - นิวซีแลนด์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (กำหนดให้มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่เป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลง TAFTA และ TNZCEP) | พณ | 29/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงการค้าเสรี ไทย-ออสเตรเลีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นไทย-นิวซีแลนด์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สินค้ามันฝรั่งตามความตกลงการค้าเสรี ไทย-ออสเตรเลีย [Thailand-Australia Free Trade Agreement (TAFTA)] และสินค้ามันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นไทย-นิวซีแลนด์ [Thailand-New Zealand Closer Economic Partnership Agreement (TNZCEP)] ต้องนำเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านศุลกากรที่มีด่านตรวจพืชและด่านอาหารและยา หรือมีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจของด่านปฏิบัติหน้าที่ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรคำนึงถึงความสอดคล้องของการกำหนดเงื่อนไขการนำเข้าสินค้าดังกล่าวกับพันธกรณีของไทยภายใต้ความตกลง TAFTA และความตกลง TNZCEP และควรพิจารณาให้มั่นใจว่า การดำเนินตามมาตรการนี้ไม่มีผลเป็นการสร้างอุปสรรคที่ไม่จำเป็นต่อการค้าระหว่างภาคีและสอดคล้องกับเงื่อนไขต่าง ๆ ตามความตกลงว่าด้วยการใช้บังคับมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (Agreement on the Application of Sanitary and Phytosanitary Measures-SPS Agreement) ของ WTO เช่น ไม่เป็นการปฏิบัติตามอำเภอใจหรือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่มีเหตุผล และไม่เป็นการจำกัดการค้าระหว่างประเทศโดยแอบแฝง ไม่เป็นการจำกัดการค้าเกินกว่าที่จำเป็นต่อระดับที่เหมาะสมของการคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้พิจารณาการช่วยเหลือเกษตรกรโดยกำกับดูแลการนำเข้าสินค้ามันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ให้เป็นไปตามพันธกรณี โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรภายในประเทศ รวมทั้งให้สนับสนุนการจัดจำหน่ายสินค้าสมุนไพรและสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรดูแลเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งและหอมหัวใหญ่ในประเทศให้ได้ผลผลิตที่แน่นอน มีคุณภาพ มาตรฐาน จะเป็นแนวทางในการช่วยให้เกษตรกรมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น และหากดำเนินการควบคู่กับการส่งเสริมระบบเกษตรพันธสัญญาจะทำให้อุตสาหกรรมมีความแน่นอนทางวัตถุดิบ เพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
590 | ขอความเห็นชอบต่อร่างแผนปฏิบัติการด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจอาเซียน - ญี่ปุ่น | พณ | 21/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Economic Resilience Action Plan) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างเอกสารดังกล่าว โดยร่างแผนปฏิบัติการด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น เป็นเอกสารที่จะมีการรับรองโดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AEM-METI) สมัยพิเศษ ว่าด้วยโควิด-๑๙ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นในการตอบสนองต่อความท้าทายทางเศรษฐกิจต่าง ๆ จากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอันใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น การบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการกำหนดมาตรการทางยุทธศาสตร์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
591 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2533 ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการควบคุมการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย การจำหน่ายการนำเข้าและการส่งออกน้ำตาลทราย และการใช้จ่ายเงินของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... | อก | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๓๓ ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการควบคุมการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย การจำหน่าย การนำเข้าและการส่งออกน้ำตาลทราย และการใช้จ่ายเงินของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๓๓ ว่าด้วยการใช้จ่ายในการควบคุมการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย การจำหน่าย การนำเข้าและการส่งออกน้ำตาลทราย และการใช้จ่ายเงินของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อนำหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายไปรวมกันไว้ในร่างระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุน ว่าด้วยการเก็บรักษา การหาผลประโยชน์ และการใช้จ่ายเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นควรให้มีการกำกับดูแลการเบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ถูกต้องและปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
592 | ร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 08/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ โดยแก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่ของหอการค้าให้ดำเนินภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการค้า และเพิ่มข้อยกเว้นเพื่อให้หอการค้าสามารถประกอบวิสาหกิจเพื่อส่งเสริมการค้าได้มากขึ้น แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การเลิกหอการค้าเพื่อให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น และปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติ ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
593 | ร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับมาตรการตอบโต้การอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ รวม 2 ฉบับ | พณ | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะการให้การอุดหนุนที่มีเงื่อนไขเพื่อการส่งออก พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงการคำนวณประโยชน์ที่ได้รับจากการอุดหนุน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของการให้การอุดหนุนแก่การส่งออก และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการคำนวณประโยชน์ที่ผู้รับการอุดหนุนได้รับจากรัฐบาลประเทศแหล่งกำเนิดหรือประเทศผู้ส่งออก เพื่อรองรับการใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุนที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาความเสียหายของอุตสาหกรรมภายในประเทศที่เกิดจากสินค้าต่างประเทศที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลของประเทศผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกอย่างไม่เป็นธรรม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
594 | การกำหนดสินค้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี ๒๕๖๓ จำนวน ๕๑ รายการ จำแนกเป็น ๔๖ สินค้า ๕ บริการ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
595 | การแก้ไขปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด | นร | 30/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อเพิ่มอุปสงค์ของการใช้น้ำนมดิบให้มากขึ้น อันเป็นแนวทางหนี่งในการแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดมาตรการสนับสนุนให้มีการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศเพิ่มขึ้น รณรงค์ส่งเสริมการบริโภคน้ำนมโคพร้อมดื่มและผลิตภัณฑ์นมที่ใช้น้ำนมโคเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งพิจารณาแจกจ่ายผลิตภัณฑ์นมให้แก่กลุ่มต่าง ๆ เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก ผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชรา และผู้ด้อยโอกาสตามความเหมาะสมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
596 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | พณ | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท การควบรวมบริษัท การจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เพื่อลดอุปสรรคและเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในส่วนของการจ่ายเงินปันผลและการควบรวมบริษัทจำกัดเข้ากัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
597 | รายงานผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจำปี 2563 และการจัดทำรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า (Notorious Markets) | พณ | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการจัดสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ตามมาตรา ๓๐๑ พิเศษ ประจำปี ๒๕๖๓ โดยประเทศไทยยังคงอยู่ในบัญชีประเภทที่ต้องจับตามอง (Watch List : WL) และการจัดทำรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า (Notorious Markets) ซึ่งมีการระบุชื่อตลาดในประเทศไทย ๒ แห่ง โดยเป็นการละเมิดในท้องตลาด ๑ แห่ง คือ ย่านพัฒน์พงษ์ และตลาดออนไลน์ ๑ แห่ง คือ www.shopee.co.th ๒. รับทราบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๓. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาตามขั้นตอนต่อไปโดยเร็ว ๔. มอบหมายให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กวดขันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในท้องตลาดและอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในตลาดที่มีการระบุในรายงานการจดทำรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า (Notorious Markets) ตลอดจนสกัดกั้นการลำเลียงและขนส่งสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ๕. มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการร่วมกันเพื่อให้มีการระงับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ตหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาออกจากระบบคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องต่อไป ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเข้มงวด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
598 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 114) พ.ศ. 2539 พ.ศ. .... | พณ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๑๑๔) พ.ศ. ๒๕๓๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๑๑๔) พ.ศ. ๒๕๓๙ ลงวันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ เนื่องจากพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓ และประกาศกรมธุรกิจพลังงานออกตามความในมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมีบทบัญญัติครอบคลุมถึงการควบคุมและการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดที่จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดให้มีการตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ดังกล่าวอีก ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
599 | การจัดสรรและแจกจ่ายหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ภายในประเทศ | นร | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศสามารถผลิตได้มากขึ้น ส่งผลให้มีหน้ากากอนามัยที่เหลือจากการแจกจ่ายให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว จึงเห็นสมควรจัดสรรหน้ากากอนามัยให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเพิ่มขึ้น และหากมีส่วนเหลือก็เห็นควรแจกจ่ายให้แก่กลุ่มที่จำเป็นต่อไป ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตได้ในประเทศเพื่อแจกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ จำนวนไม่เกิน ๑,๘๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน และให้กระทรวงพาณิชย์จัดซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตได้ในประเทศเพื่อจัดสรรให้แก่กระทรวงมหาดไทย จำนวนไม่เกิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวนประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน จากที่ได้รับการจัดสรรเพิ่มแล้วไปแจกจ่ายให้นักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓ นี้ต่อไป ในกรณีมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก ให้กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
600 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) | พณ | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัทเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้สามารถยื่น ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทแห่งใดก็ได้ การลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนต่าง ๆ การกำหนดให้ประทับตราบริษัทในใบหุ้นทุกใบเฉพาะกรณีที่บริษัทมีตราประทับเพื่อให้สอดคล้องกับหนังสือบริคณห์สนธิ และการกำหนดให้หนังสือบริคณห์สนธิซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้วแต่มิได้จดทะเบียนบริษัทภายใน ๓ ปี สิ้นผลลง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|