ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 878 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17541 - 17560 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17541 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ แทนตำแหน่งที่ว่าง (นายรวี ประจวบเหมาะ) | ยธ | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายรวี ประจวบเหมาะ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคงประเทศในคณะกรรมการคดีพิเศษ แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากนายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่งคงประเทศในคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มิถุนายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17542 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. ....) | มท | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดชัยภูมิ เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว มีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตและการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17543 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. ....) | มท | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดชัยภูมิ เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว มีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตและการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17544 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560) | นร | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๔/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๓๕/๒๕๖๐ วันศุกร์ที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17545 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เช่น การประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตของประเทศในตะวันออกกลางกับกาตาร์ อย่างใกล้ชิด และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขศึกษาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา โดยเฉพาะปัญหาโรคระบาด การจัดบริการด้านสาธารณสุขและการศึกษา การเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าว และการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ต้นทางที่เป็นสาเหตุ ๓. ด้านเศรษฐกิจ ๓.๑ ให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พิจารณาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยอาจศึกษาจากรูปแบบต่าง ๆ จากต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่น การจัดตั้งศูนย์เพื่อวิจัยและพัฒนาด้านการลงทุนร่วมกันระหว่างประเทศจีนและมาเลเซีย และนำแนวทางต่าง ๆ ดังกล่าวมาปรับใช้เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาการลงทุนให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยต่อไป ๓.๒ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแผนการบริหารจัดการการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนและเป็นระบบ โดยเฉพาะโครงการที่มีกรอบระยะเวลาและพื้นที่ก่อสร้างใกล้เคียงกัน เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อสภาพการจราจร ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการเพื่อให้ทุกโครงการเริ่มต้นดำเนินงานได้ทันภายในปี ๒๕๖๐ ๓.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๐ มอบหมายให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน รับไปเตรียมการวางแผนการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำน้ำจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัมไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ภาคตะวันออก และให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัมและการนำน้ำจากโครงการฯ ไปใช้ประโยชน์ ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป นั้น ให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยเร็ว ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๔.๑ ในการดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ให้ทุกส่วนราชการกำหนดเป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถวางแผนการประชาสัมพันธ์ การสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสามารถวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไขได้อย่างเหมาะสม เช่น โครงการด้านการเกษตร อาจแบ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิต (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย) กลุ่มผู้แปรรูป (กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม) และกลุ่มการตลาด (กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ) หรือโครงการด้านคุณภาพชีวิต ที่อาจแบ่งตามกลุ่มช่วงวัยของประชาชน โดยมีหน่วยงาน เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน เกี่ยวข้องตามช่วงวัยต่าง ๆ ๔.๒ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาแผนงาน/โครงการเร่งด่วนต่าง ๆ ในความรับผิดชอบ ว่ามีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการหรือไม่ อย่างไร และให้เร่งรัดการดำเนินโครงการในส่วนที่มีความเป็นไปได้ และไม่มีปัญหาและอุปสรรคใด ๆ ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบที่ควรดำเนินการเร่งด่วน เช่น การขุดลอกคูคลอง การแก้ไขปัญหาเครื่องกีดขวางทางน้ำ การขุดคลองระบายน้ำใหม่ การส่งน้ำจากพื้นที่ที่น้ำท่วมขังไปยังพื้นที่เก็บกักน้ำหรือพื้นที่ขาดแคลนน้ำโดยใช้ทางน้ำธรรมชาติ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้โดยเร็วต่อไป ๔.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานกีดขวางทางระบายน้ำในจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและป้องกันปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นอีก นั้น ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดการสำรวจและศึกษารายละเอียดการจัดทำโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากรจากคลองบางบัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็ว เพื่อใช้สำหรับการระบายน้ำในกรณีเกิดอุทกภัยและป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมืองในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ๔.๔ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานตรวจสอบราคาของผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติดังกล่าว รวมทั้งจัดทำและประกาศบัญชีนวัตกรรมไทย และต่อมานายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงบประมาณเร่งรัดดำเนินการแจ้งบัญชีนวัตกรรมไทยให้ทุกหน่วยงานทราบและใช้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการใช้งานของแต่ละหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอย่างน้อยให้แต่ละหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในอัตราส่วนร้อยละ ๓๐ ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของหน่วยงาน นั้น ให้ดำเนินการเพิ่มเติม ๔.๔.๑ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ๔.๔.๒ ให้สำนักงบประมาณปรับปรุงบัญชีนวัตกรรมไทยให้มีความครบถ้วนและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ รวมทั้งจัดให้มีช่องทางในการเผยแพร่บัญชีนวัตกรรมไทยให้ทุกหน่วยงานทราบอย่างชัดเจนและทั่วถึงต่อไปด้วย ๔.๕ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการค้าขายรายใหญ่ให้ร่วมมือกับภาครัฐในการลดการใช้ถุงพลาสติก โดยอาจพิจารณาให้มีการลดราคาสินค้าเมื่อผู้ใช้บริการไม่ใช้ถุงพลาสติกหรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นเพื่อรณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติก ทั้งนี้ ให้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และให้เร่งดำเนินการในพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อน แล้วจึงขยายผลการดำเนินการไปยังพื้นที่อื่นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17546 | ความคืบหน้าการดำนินงานด้านการปฏิรูปประเทศ ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2560 | นร | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ประธานกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ ครั้งที่ ๑๙/๒๕๖๐ วันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ รวม ๒ เรื่อง ๑.๑ รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน และคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แนวทางส่งเสริมและขจัดอุปสรรคในการนำขยะมูลฝอยไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า ๑.๒ รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่อง การปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและข้อเสนอการปฏิรูปอื่นที่เกี่ยวข้อง ๒. สรุปสถานะข้อเสนอประเด็นปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐) รวม ๑๕๓ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17547 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านระบบราง ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และ การท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น | คค | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านระบบราง ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Memorandum of Cooperation between the Ministry of Transport of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism of Japan on the Railway Sector : MLIT) มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงประเด็นความร่วมมือเดิมทั้ง ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) การพัฒนารถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ (๒) การพัฒนาเส้นทางรถไฟตามแนวเศรษฐกิจด้านใต้ (๓) การให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟ (๔) การพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (EWEC) และ (๕) ระบบการขนส่งมวลชนทางราง ให้สอดคล้องกับความคืบหน้าในการดำเนินการในปัจจุบัน และเพิ่มเติมประเด็นความร่วมมือใหม่อีก ๓ ด้าน ได้แก่ (๑) แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ ๒ (๒) การพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และ (๓) ความร่วมมือเพิ่มเติมสำหรับรถไฟความเร็วสูง ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับการลงนามดังกล่าว ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทนสำหรับการลงนามดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความร่วมมือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17548 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีรับสัญญาณต่อเนื่องถาวรแบบบูรณาการ | วท | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism : MLIT) เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีรับสัญญาณต่อเนื่องถาวรแบบบูรณาการ [Memorandum of Cooperation between the Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism of Japan and the Ministry of Science and technology of the Kingdom of Thailand on Development of Integrated CORS (Continuously Operating Reference Stations) Infrastructure] มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินความร่วมมือด้านระบบดาวเทียมนำทาง (Global Navigation Satellite System : GNSS) ในประเทศไทย และการขยายความร่วมมือเชิงลึกในด้านนี้ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสังคมสารสนเทศขั้นสูงโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ โดยเป็นความร่วมมือเกี่ยวกับ (๑) การจัดตั้งศูนย์บูรณาการข้อมูลกลาง (๒) การติตตั้งเครือข่ายสถานีระบบดาวเทียมนำทางรับสัญญานต่อเนื่องถาวร และ (๓) การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านระบบดาวเทียมนำทาง ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกข้อตกลงฯ ในโอกาสการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะ ในระหว่างวันที่ ๔-๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกข้อตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจากความร่วมมือดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เห็นควรให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17549 | ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นเรื่องด่วนต่อไป ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17550 | การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๕๐ ท่าน ประกอบด้วย (๑) กรรมาธิการที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อจำนวนไม่เกิน ๑ ใน ๕ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ หรือจำนวนไม่เกิน ๑๐ ท่าน และ (๒) กรรมาธิการในสัดส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๔๐ ท่าน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17551 | ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่กระทรวงคมนาคมเสนอในครั้งนี้ คณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งได้พิจารณาแก้ไขสัญญาฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) เรียบร้อยแล้ว จึงอยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอได้ ๒. เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในลักษณะการก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรค ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยสามารถก่อหนี้ผูกพันล่วงหน้าเกินกว่า ๕ ปีได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาทิ การเร่งจัดทำแผนการส่งมอบพื้นที่และมีกลไกในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนดังกล่าว การพิจารณาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารและการกำหนดอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ และโครงการอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) และการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม (Common Fare) ในอนาคตอันใกล้ การกำหนดกลไกการกำกับสัญญาให้ผู้รับสัมปทานมีการลงทุนจัดหาและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้า รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานตลอดอายุโครงการเป็นไปตามสมมติฐานที่ได้ประมาณการไว้ในเอกสารข้อเสนอของผู้รับสัมปทาน และการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของระดับการให้บริการในแต่ละด้านที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการที่รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ๕. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17552 | ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2560 | นร07 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการกำหนดระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ ขึ้นเป็นการเฉพาะ แยกออกจากระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเกิดความชัดเจนในการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งสำนักงบประมาณได้ดำเนินการเวียนแจ้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและถือปฏิบัติแล้ว และมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๒.๑ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) ในส่วนของข้อ ๑ ๒.๒ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แนวทางการเสนอเรื่องงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี) ในส่วนของข้อ ๑ และ ๒ ๒.๓ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักการกรณีที่องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานที่ไม่อยู่ภายใต้กำกับของฝ่ายบริหาร เสนอเรื่องขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้สำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการ) ๒.๔ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานที่ไม่อยู่ในบังคับบัญชาหรือกำกับของฝ่ายบริหาร)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17553 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (จำนวน 9 ราย 1. นายอำนาจ วิชยานุวัติ ฯลฯ) | ศธ | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๙ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายอำนาจ วิชยานุวัติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางเสาวนีย์ พนัสสรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางปัทมา วีระวานิช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๓ (อุบลราชธานี) สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายศรีชัย พรประชาธรรม ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๕ (เชียงใหม่) สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางสาวอุษณีย์ ธโนศวรรย์ ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๒ (ลพบุรี) สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายชาญ ตันติธรรมถาวร ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค ๗ (ภูเก็ต) สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายณรงค์ แผ้วพลสง ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๙. นางอรสา ภาววิมล ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17554 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (นายวิริยะ อุปัติศฤงค์) | ดศ | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิริยะ อุปัติศฤงค์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แทน นายธีระ อภัยวงศ์ ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ ๗๐ ปีบริบูรณ์ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17555 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง [ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล)] | พม | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17556 | แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา | นร04 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ตามมาตรา ๒๖๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๒๕ คน และมีสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา โดยให้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษามีอำนาจหน้าที่ รวมจำนวน ๘ ข้อ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ๒. ในการเสนอแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาต้องมีการหารือร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในทางปฏิบัติก่อนเสนอรัฐบาล/คณะรัฐมนตรี โดยต้องให้ได้ข้อยุติที่มีความเห็นชอบร่วมกัน และต้องนำไปปฏิบัติได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17557 | ผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) | นร04 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ของกระทรวงการต่างประเทศ ตามคำเชิญของนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงิน สปป.ลาว มีวัตถุประสงค์เพื่อสานต่อความร่วมมือทวิภาคีในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งผลักดันนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงด้านต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค (Connectivity) ความร่วมมือด้านพลังงาน การส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย-ลาว การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-ลาว ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ และกองทุนตามโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และแผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทย-ลาว (ระยะ ๕ ปี) ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการปฏิบัติตามผลการหารือข้างต้นในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป รวมทั้งให้นำข้อมูลผลการหารือไปใช้ประโยชน์ในการประสานงาน/การเจรจาต่อรองกับประเทศคู่ภาคีให้เหมาะสมภายใต้หลักการผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ต้องการพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโตไปพร้อม ๆ กัน ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17558 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก อำนาจ อันอาตม์งาม) | นร04 | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง พลตำรวจเอก อำนาจ อันอาตม์งาม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17559 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 32/2560 และครั้งที่ 33/2560 | นร | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๒/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๓๓/๒๕๖๐ วันศุกร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17560 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 30/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านต่างประเทศ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเด็นอื่นที่สำคัญ เช่น กรณีผลการจัดสถานะประเทศไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มาตรา ๓๐๑ พิเศษ การแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การจัดตั้งอนุกรรมการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการหารือกับฝ่ายสหรัฐอเมริกาในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนกรกฎาคมต่อไป ทั้งนี้ ให้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ๒. ด้านเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการรวบรวมงานวิจัยต่าง ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดการดำเนินการในเชิงพาณิชย์หรือนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งพิจารณาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถนำงานวิจัยดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ นั้น ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยด่วน เพื่อให้สามารถดำเนินการขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ และรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย ๔.๐ ต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการกำหนดมาตรการในการกำจัดขยะมูลฝอยให้สอดคล้องตามแนวทางประชารัฐ นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยเร่งพิจารณากำหนดมาตรการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการกำจัดขยะในระบบระบายน้ำในพื้นที่รับผิดชอบให้หมดไปโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาขยะอุดตันช่องทางระบายน้ำและป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เมื่อเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้ดำเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ความร่วมมือในการเก็บและกำจัดขยะให้ถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดดังกล่าว ๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนการอพยพประชาชนจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งการเตรียมพื้นที่แก้มลิงรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาจากภาคเหนือลงสู่ตอนกลางของประเทศ ตลอดจนเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการเกิดน้ำท่วมด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาแผนบริหารจัดการน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในแต่ละพื้นที่ต่อไป ๓.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนให้ครอบคลุมถึงเรื่องการส่งเสริมการอ่านและการสร้างจิตสำนึก นั้น ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณานำหนังสือและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาสาระเป็นการให้มุมมอง แง่คิด ข้อเตือนใจ หลักการในการประพฤติ ปฏิบัติ และการดำรงตนที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น หนังสือสุภาษิต ปรัชญา มาเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาตนเองต่อไป
|
.....