ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 876 จากทั้งหมด 6236 หน้า แสดงรายการที่ 17501 - 17520 จากข้อมูลทั้งหมด 124707 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 17501 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)(นายวิชญายุทธ บุญชิต) | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิชญายุทธ บุญชิต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 17502 | ทิศทางการพัฒนาภาคกลางและพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) | นร11 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบทิศทางการพัฒนาภาคกลางและพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ซึ่งมีแนวทางการพัฒนา ๖ แนวทาง (๑) พัฒนากรุงเทพมหานครเป็นมหานครทันสมัยระดับโลกควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม (๒) พัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและสร้างความเชื่อมโยงเพื่อกระจายการท่องเที่ยวทั่วทั้งภาค (๓) ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมโดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน (๔) บริหารจัดการน้ำและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และคงความสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน (๕) เปิดประตูการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย-ภาคกลาง-ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และ (๖) พัฒนาความเชื่อมโยงเศรษฐกิจและสังคมกับทุกภาคเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
| 17503 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์) | วท | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 17504 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นางอุมาพร สุขม่วง) | วท | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอุมาพร สุขม่วง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 17505 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (จำนวน 6 ราย 1. นายพีระ รัตนวิจิตร ฯลฯ) | ศธ | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายพีระ รัตนวิจิตร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวอุษณีย์ ธโนศวรรย์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. นายศรีชัย พรประชาธรรม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ๔. นายวีระกุล อรัณยะนาค ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายพิธาน พื้นทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายชาญ ตันติธรรมถาวร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
| 17506 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 4 ราย 1. นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ฯลฯ) | สธ | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุระ วิเศษศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสุเทพ เพชรมาก ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
| 17507 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (จำนวน 10 คน 1. นายอำพน กิตติอำพน ฯลฯ) | นร11 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติชุดใหม่ รวม ๑๐ คน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ ๒. นายคณิศ แสงสุพรรณ กรรมการ ๓. นายวรากรณ์ สามโกเศศ กรรมการ ๔. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา กรรมการ ๕. นายศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการ ๖. นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล กรรมการ ๗. นายสนิท อักษรแก้ว กรรมการ ๘. นายอัชพร จารุจินดา กรรมการ ๙. นายลักษณ์ วจนานวัช กรรมการ ๑๐. นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
| 17508 | การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (คณะกรรมการ ปปง.) (จำนวน 4 คน 1. พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ฯลฯ) | นร04 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๔ คน ตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๘/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ๒. นายประยงค์ ปรียาจิตต์ ๓. นายประสงค์ พูนธเนศ ๔. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ
|
||||||||||||||||||||||||
| 17509 | การขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ตามทิศทางประเทศไทย 4.0 | นร04 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) เสนอ ดังนี้
๑. แนวทางการดำเนินงานการขยายผลการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติซึ่งได้คัดกรองความพร้อมของผลงานวิจัย โดยใช้เทคโนโลยีสำหรับการวิจัยข้อมูลที่เรียกว่า Machine Learning โดยจัดกลุ่มผลงานออกเป็น ๕ กลุ่ม ประกอบด้วย (๑) กลุ่มงานวิจัยที่ใช้ประโยชน์แล้ว (๒) กลุ่มงานวิจัยที่พร้อมใช้ประโยชน์ (๓) กลุ่มงานวิจัยต้นแบบ (๔) กลุ่มงานวิจัยองค์ความรู้ทางวิชาการ และ (๕) กลุ่มงานวิจัยไม่ร่วมสมัย ซึ่งผลการคัดกรองจากผลงานวิจัยประมาณ ๑๗๘,๕๘๔ เรื่อง มีผลงานวิจัยที่ควรจะผลักดันไปสู่การต่อยอดและขยายผลเพื่อใช้ประโยชน์ จำนวน ๒,๘๔๔ ผลงาน ๒. การจัดกิจกรรมตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ ๒ ภายใต้แนวคิด “วิจัยขายได้” ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ กันยายน ๒๕๖๐ ณ อาคารไปรษณีย์กลาง และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ บางรัก กรุงเทพมหานคร โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เป็นผู้กำกับการดำเนินงานในภาพรวม
|
||||||||||||||||||||||||
| 17510 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 42/2560) | สลธ.คสช. | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๐/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการรองรับเพื่อให้การดำเนินการเดินอากาศเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๑/๒๕๖๐ เรื่อง การบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามโครงการพิเศษของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๒/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางสัญชาติไทย ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||
| 17511 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง | นร11 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ (๑) สรุปผลการพบปะหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกรในภาคกลาง เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๐ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ (๒) ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลางของรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคกลางไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้เร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
| 17512 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2560) | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
| 17513 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 40/2560 และ ที่ 41/2560 ) | สลธ.คสช. | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๐/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการรองรับเพื่อให้การดำเนินการเดินอากาศเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๑/๒๕๖๐ เรื่อง การบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามโครงการพิเศษของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๒/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางสัญชาติไทย ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||
| 17514 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง ๑.๑ ให้ฝ่ายความมั่นคงเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้มงวดในการตรวจตราผู้สัญจรผ่านแดน โดยกำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติให้ชัดเจน เคร่งครัด เช่น การกำหนดให้รถยนต์ที่ผ่านจุดตรวจต้องเปิดกระจกทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร รวมทั้งให้พิจารณากำหนดมาตรการตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจมีการลักลอบผ่านแดน โดยเฉพาะพื้นที่เอกชนที่ติดชายแดนที่อาจยังไม่มีมาตรการด้านความมั่นคงรองรับ ทั้งนี้ ให้พิจารณาความจำเป็นในการใช้อำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบผ่านแดนดังกล่าวด้วย ๑.๒ ให้คณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมและจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณจุดผ่านแดนหรือตามแนวชายแดนด้านต่าง ๆ ให้เพียงพอ ทั่วถึง รวมทั้งให้มีการตรวจสอบกล้อง CCTV ดังกล่าว ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอด้วย ๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเจรจากับฝ่ายมาเลเซียเกี่ยวกับความเหมาะสมในการขยายเวลาการเปิดจุดผ่านแดน โดยในเบื้องต้นอาจเปิดจุดผ่านแดน ๒๔ ชั่วโมง ให้เฉพาะการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เท่านั้น โดยให้กำหนดประเภทรถยนต์และวัตถุประสงค์ของการขนผ่านให้รัดกุมและชัดเจนด้วย ทั้งนี้ สำหรับการเดินทางของผู้สัญจรผ่านแดนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เห็นควรให้คงจำกัดเวลาไว้ตามเดิม ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับไปศึกษาและพิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินงาน บทบาท และภารกิจของสภาบันการเงินต่าง ๆ ของรัฐทั้งระบบ เพื่อให้สถาบันการเงินของรัฐเป็นองค์กรของรัฐที่สามารถดำเนินกิจการได้อย่างเหมาะสม ทั้งในด้านการให้บริการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาล และการให้บริการทางการเงินในฐานะสถาบันการเงินทั่วไป โดยไม่กระทบต่อสถานะทางการเงินโดยรวมของสถาบันการเงินของรัฐนั้น ๆ และให้รายงานผลการศึกษาต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน ๒.๒ ตามที่ได้มีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ (การจัดเก็บภาษีจากสินค้าสุราและยาสูบ) เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ แล้ว นั้น ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลผู้ประกอบการเพื่อมิให้มีการแสวงประโยชน์จากการกักตุนและขึ้นราคาสินค้าสุราและยาสูบในลักษณะที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ทั้งนี้ ให้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงในการดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลผู้ประกอบการให้ทั่วถึงด้วย ๒.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการให้มีการจัดตั้งตลาดกลางคืนเป็นศูนย์กลางการขายส่งสินค้าเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน (เช่น มาตรฐาน GAP) สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (สินค้า GI) ระหว่างผู้ผลิต/เกษตรกรและผู้จำหน่ายสินค้าปลีกในพื้นที่ให้ครบทุกจังหวัดภายในปี ๒๕๖๑ โดยพิจารณากำหนดพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ทั้งนี้ อาจพิจารณานำกลไกประชารัฐมาสนับสนุนการดำเนินการด้วย ๒.๔ ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการจัดให้มีหลักสูตรการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้นการสร้างเสริมอาชีพในสาขาต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน และความต้องการของตลาดแรงงานไทย เช่น หลักสูตรเพื่อพัฒนาเกษตรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) หลักสูตรเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ธุรกิจตั้งต้น (Startup) และภาคการท่องเที่ยวและบริการ ๒.๕ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขับเคลื่อนให้มีโรงเรียนชาวนาเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกร เช่น การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการเพาะปลูกข้าว ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความรู้ความสามารถของเกษตรกรไปสู่การเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) ต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาทบทวนและปรับปรุงแผนการใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และให้พิจารณาดำเนินโครงการ/งานที่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณและไม่ก่อให้เกิดภาระผูกพันในปีต่อ ๆ ไป เป็นลำดับแรก เพื่อให้งานบรรลุผลและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๑ ๓.๒ เพื่อให้การดำเนินงานของรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นปีแห่งการปฏิรูปเน้นการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) นอกเหนือจากงานตามภารกิจปกติ (Function) จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกท่านสรุปผลการปฏิบัติงานที่รับผิดชอบในช่วงการบริหารงานของรัฐบาลทั้งในส่วนของงานตามภารกิจ (Function) และงานตามยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล (Agenda) ที่ต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น การบริหารจัดการน้ำ การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่ามีการดำเนินการเรื่องใด อย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก และให้จัดทำแผนงานสำคัญที่จะดำเนินการต่อไปเป็นรายไตรมาสเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการแผ่นดินก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไปภายใน ๑ เดือน ๓.๓ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดองให้เป็นการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ซึ่งจัดตั้งตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามลำดับ ทั้งนี้ เพื่อลดภาระด้านการบริหารจัดการ รวมทั้งขั้นตอนการทำงานและปริมาณงานที่อาจซ้ำซ้อนกัน สำหรับสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (PMDU) นั้น ให้คงปฏิบัติหน้าที่ขับเคลื่อนเรื่องสำคัญเชิงนโยบายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 17515 | รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ (เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐) ไปแล้ว นั้น จากการติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว พบว่ายังมีรายการที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นอยู่ระหว่างการดำเนินมาตรการตามกระบวนการเบิกจ่ายและการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงเห็นควรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นดำเนินการ ดังนี้
๑. รายการงบประมาณที่ลงนามในสัญญาแล้ว แต่มีเงินเหลือจ่ายหรือยังไม่บันทึก PO ในระบบ GFMIS ให้หน่วยงานเร่งรัดบันทึก PO ในระบบ GFMIS ให้ครบถ้วนโดยเร็ว หากมีเงินเหลือจ่ายให้ดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สำหรับรายการที่ปรับแผนการเบิกจ่ายงบประมาณมาเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ๒. รายการงบประมาณที่ยังไม่ลงนามในสัญญา ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สำหรับรายการที่ปรับแผนการเบิกจ่ายงบประมาณมาเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ๓. รายการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว แต่ยังไม่ลงนามในสัญญา หรือยังไม่บันทึก PO ในระบบ GFMIS ให้ดำเนินการก่อหนี้หรือบันทึก PO ภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ และรายการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ยังไม่ขอรับการจัดสรรให้ขอรับการจัดสรรงบประมาณภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ หากไม่ดำเนินการตามกำหนดดังกล่าว ให้เสนอขอรับการจัดสรรงบกลางกรณีอื่นที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและมีความพร้อมเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 17516 | การเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรี (๑๙ มกราคม ๒๕๕๙) ว่า ในการเสนอขออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการใด ๆ ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการระบุตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของโครงการ รวมทั้งผลกระทบ/ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินโครงการให้ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 17517 | การตรวจสอบ TOR ย้อนหลัง | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การจัดทำเอกสารขอบเขตงาน (Terms of Reference : TOR) ของโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐมีความถูกต้อง เหมาะสม รอบคอบ และเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน จึงมีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปประสานและดำเนินการเพื่อให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๖๐ (เรื่อง การกำกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ) ตรวจสอบ TOR ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งมีวงเงินสูงหรือเป็นโครงการของรัฐที่อยู่ในความสนใจของประชาชนย้อนหลัง ๓ ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จนถึงปัจจุบัน) แล้วจัดทำความเห็นหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์สำหรับการจัดทำ TOR ของหน่วยงานภาครัฐในระยะต่อ ๆ ไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามนัยข้อ ๖ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
| 17518 | ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2560) | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
| 17519 | สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 2/2560 | คค | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ ประกอบด้วย เรื่องเพื่อทราบจำนวน ๔ เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องเพื่อทราบจากการประชุม คจร. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ ได้แก่ (๑) ผลการดำเนินโครงการตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (๒) ผลการดำเนินงานภายใต้ MOU ที่มอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (๓) รายงานการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของระบบมวลชนจังหวัดภูเก็ต (รถไฟรางเบา จังหวัดภูเก็ต) (๔) ความคืบหน้าการดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองภูมิภาค (จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดภูเก็ต และเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา) และเรื่องพิจารณา ๑ เรื่อง คือ โครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และออกแบบรายละเอียดโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 17520 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. .... | สว | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. .... โดยได้สั่งการและมอบหมายให้ส่วนงานภายในนำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปประกอบการปฏิบัติงานและยกร่างกฎหมายลำดับรองเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
.....
