ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 880 จากทั้งหมด 6236 หน้า แสดงรายการที่ 17581 - 17600 จากข้อมูลทั้งหมด 124707 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 17581 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน แทนตำแหน่งที่ว่าง (พลเอก อภิชาต แสงรุ่งเรือง) | รง | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พลเอก อภิชาต แสงรุ่งเรือง เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน แทน นายอาทิตย์ อิสโม ที่ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17582 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (จำนวน 3 คน 1. รองศาสตราจารย์สุริยเดว ทรีปาตี ฯลฯ) | ยธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน ๓ คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์สุริยเดว ทรีปาตี ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อภินันท์ อร่ามรัตน์ ๓. นายพิทยา จินาวัฒน์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17583 | แต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (จำนวน 6 คน 1. นายสมพร ใช้บางยาง ฯลฯ) | พม | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน รวม ๖ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นายสมพร ใช้บางยาง ประธานกรรมการ ๒. นางฑิฆัมพร กองสอน กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน ๓. นายจินดา บุญจันทร์ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน ๔. นายไพโรจน์ สุวรรณหงส์ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน ๕. นายแก้ว สังข์ชู กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายชัชวาล ทองดีเลิศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17584 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา (จำนวน 28 คน/รูป 1. นายอรรถการ ตฤษณารังสี ฯลฯ) | ศธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา จำนวน ๒๘ คน/รูป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอรรถการ ตฤษณารังสี กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรเอกชน ๒. นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๓. นายวรชาติ เฉิดชมจันทร์ กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรวิชาชีพ ๔. พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการที่เป็นภิกษุซึ่งเป็นผู้แทนคณะสงฆ์ ๕. พระราชวรมุนี (พล อาภากโร) กรรมการที่เป็นภิกษุซึ่งเป็นผู้แทนคณะสงฆ์ ๖. รองศาสตราจารย์วินัย ดะห์ลัน กรรมการที่เป็นผู้แทนคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ๗. นายปานชัย สิงห์สัจเทพ กรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรศาสนาอื่น ๘. ศาสตราจารย์ชุติมา สัจจานันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ๙. นายสุภกร บัวสาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ๑๐. รองศาสตราจารย์อนุชาติ พวงสำลี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ๑๑. นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑๒. นายอภิมุข สุขประสิทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑๓. นายอำนาจ บัวศิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านศาสนา วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ๑๔. นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการกีฬา กิจการเยาวชน ลูกเสือ ยุวกาชาด และเนตรนารี ๑๕. รองศาสตราจารย์จีรเดช อู่สวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา และการวัดและ ประเมินผลการศึกษา ๑๖. ศาสตราจารย์ชนิตา รักษ์พลเมือง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา และการวัดและ ประเมินผลการศึกษา ๑๗. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการ ๑๘. นายนนทวัฒน์ สุขผล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการ ๑๙. นายบดินทร์ อูนากูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการ ๒๐. นายสุกิจ อุทินทุ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการ ๒๑. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาสังคมและสิทธิมนุษยชน ๒๒. ศาสตราจารย์สุพจน์ หารหนองบัว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการสื่อสาร ๒๓. นายธาดา เศวตศิลา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน ๒๔. นายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเมืองการปกครอง ๒๕. รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒๖. นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒๗. พลเอก พหล สง่าเนตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านส่งเสริมการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต ๒๘. นายกิติ มาดิลกโกวิท กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผลิตและพัฒนากำลังคน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17585 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 26 ราย) | มท | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒๖ ราย ได้แก่ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง จำนวน ๔ ราย และตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน ๒๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17586 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพลังงาน) (นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ และนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ) | พน | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงพลังานเสนอ ดังนี้
๑. นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17587 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์) | พณ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และให้นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17588 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (จำนวน 11 ราย 1. นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ ฯลฯ) | กษ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๑ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน ๒. นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ๓. นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๔. นายสรวิศ ธานีโต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายมีศักดิ์ ภักดีคง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางจันทร์ธิดา มีเดช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นางสาววราภรณ์ พรหมพจน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นางสาวจิรทรัพย์ ปลอดกระโทก ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐. นายอานัติ วิเศษรจนา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายคมสัน จำรูญพงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17589 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | นร07 | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙-๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ งบประมาณทั้งสิ้น ๒,๙๒๓,๐๐๐ ล้านบาท (รวมงบประมาณเพิ่มเติม) เบิกจ่ายแล้ว ๒,๔๘๗,๓๔๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๕.๑๐ สรุปได้ ดังนี้
๑. มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบประมาณ จำนวน ๒,๗๓๓,๐๐๐ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๒,๓๙๙,๑๕๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๗๘ เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๑๕๑,๕๕๑ ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ ๑.๒๐ (เป้าหมายภาพรวมร้อยละ ๘๘.๙๘) ๒. มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กทั่วประเทศ ๒.๑ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข้มแข็งและก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูป กรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติรวมทั้งสิ้น ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท จัดสรรงบประมาณแล้ว จำนวน ๒๑,๗๑๑ ล้านบาท มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๒๐,๖๖๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๒๐ และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๒๐,๔๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๔.๐๑ ๒.๒ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รายการรายจ่ายลงทุนที่มีวงเงินไม่เกิน ๒ ล้านบาท จัดสรรงบประมาณแล้ว จำนวน ๓๐,๘๙๖ ล้านบาท มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๒๙,๖๓๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๙๒ และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๒๘,๖๘๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๘๖ ๓. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๙๐,๐๐๐ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๘๘,๑๙๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๖.๔๒ ๔. เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๙ รวมทั้งสิ้น ๒๗๖,๖๐๓ ล้านบาท มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๒๔๒,๑๖๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๕๕ และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๑๙๑,๙๕๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖๙.๔๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17590 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปัตตานี พ.ศ. ....) | มท | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพังงา จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดปัตตานี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพังงา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปัตตานี พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17591 | ร่างพระราชบัญญัติการบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญัญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2560)] | ยธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17592 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือการทำการเกษตรกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การปลูกข้าวโพด โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรทั้งสองฝ่ายมีการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบตั้งแต่ต้นทาง (การเพาะปลูก) ไปจนถึงปลายทาง (การตลาด) โดยให้พิจารณากำหนดช่วงเวลาเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนกับการออกสู่ฤดูกาลของผลผลิตในประเทศ ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ รับทราบและเห็นชอบมติคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ครั้งที่ ๙/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ ซึ่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปดำเนินการปรับโครงสร้างและรูปแบบการทำงานของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) โดยให้อยู่ภายใต้กำกับของนายกรัฐมนตรี มีการเชื่อมโยงการทำงานตั้งแต่ระดับนโยบายผ่านศูนย์ PMOC และศูนย์บริการครบวงจร (One Stop Service) ที่ผ่านการบูรณาการระดับกระทรวงในทุกกิจกรรม นั้น ให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ขับเคลื่อนการดำเนินงานในเรื่องการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว (One Stop Service) ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลภาครัฐ (Government Data Center) โดยประสานหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ นำข้อมูลที่พร้อมให้บริการมาดำเนินการเป็นโครงการนำร่องให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในปี ๒๕๖๐ ด้วย ๒.๒ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับดูแลให้กระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการกำหนดค่าครองชีพและค่าตอบแทนให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อย ให้เหมาะสมและเป็นธรรม โดยให้ประสานงานกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อกำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ในประเด็นการปฏิรูปต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17593 | การพัฒนาโรงงานต้นแบบและการพัฒนาเซลล์กักเก็บไฟฟ้าโดยใช้ถ่านชีวภาพและวัสดุชั้นสูง (Super Capacitor) แทนโครงการ FCV | นร | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) เสนอผลการหารือเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนารถยนต์ต้นแบบที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell Vehicle : FCV) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พบว่า การพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิต FCV เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์เก็บไฮโดรเจนในระยะเริ่มต้น ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีหลักของ FCV จึงไม่เหมาะสมกับการผลักดันให้มีการพัฒนา FCV ต้นแบบขึ้นในระยะเวลานี้ อย่างไรก็ตาม มีโครงการที่น่าสนใจซี่งเกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน คือ การพัฒนาเซลล์กักเก็บไฟฟ้าโดยใช้ถ่านชีวภาพและวัสดุชั้นสูง (Super Capacitor) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาระบบกักเก็บไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้ โดยโครงการนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนการวิจัยจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ในการพัฒนาโรงงานต้นแบบที่ผลิตเซลล์กักเก็บพลังงานใช้สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งโครงการมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการพลังงาน และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และทิศทางของกระทรวงพลังงาน ดังนั้น จึงเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโรงงานต้นแบบและการพัฒนาเซลล์กักเก็บไฟฟ้าโดยใช้ถ่านชีวภาพและวัสดุชั้นสูง (Super Capacitor) แทนการดำเนินโครงการ FCV เนื่องจากมีความเป็นไปได้ในการดำเนินการ และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินงานต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๓ เดือน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17594 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญัญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2560) | นร | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๗/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๐ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามที่ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๐ ได้มีการบรรจุร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดขอบเขตของนิยามคำว่า “หนี้สาธารณะ” ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ) ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วในระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นเรื่องด่วน แต่เนื่องจากคณะรัฐมนตรีจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดเพดานการกู้เงินเพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลัง) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ อีกหนึ่งฉบับในวันนี้ ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะรวมเป็นฉบับเดียวกันและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ จะได้ประสานงานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ชะลอการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติไว้ก่อน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17595 | การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ | นร05 | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เร่งหารือในรายละเอียดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับเรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ที่นายกรัฐมนตรีได้มีดำริให้โอนกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปเป็นสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยอยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และให้รวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำเข้ามาด้วยเพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17596 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายเอนก มีมงคล) | นร11 | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายเอนก มีมงคล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๐ ๒. นายวิโรจน์ นรารักษ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17597 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นรายการอุดหนุนสำหรับการจัดการศึกษาภาคบังคับ (ค่าบำเหน็จ บำนาญ) | มท | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๕๖๘,๖๓๒,๖๓๗ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายการเงินอุดหนุนสำหรับการจัดการศึกษาภาคบังคับ (ค่าบำเหน็จ บำนาญ) ตามสิทธิของผู้รับบำนาญ หรือทายาทผู้มีสิทธิในบำเหน็จบำนาญ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17598 | กรอบการเจรจาของประเทศไทยและองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ 13 | กษ | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบท่าทีการเจรจาของประเทศไทยสำหรับเป็นกรอบในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ ๑๓ ระหว่างวันที่ ๖-๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ ณ เมืองออร์โดส เขตปกครองตนเองอินเนอร์มองโกเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยท่าทีการเจรจาของประเทศไทย เช่น (๑) สนับสนุนการดำเนินงานของอนุสัญญาฯ ที่ส่งผลประโยชน์ต่อความสำเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย ฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรม และ (๒) สนับสนุนการขยายกรอบความร่วมมือของอนุสัญญาฯ กับกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility : GEF) เป็นต้น ๑.๒ รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมภาคีอนุสัญญาฯ ประกอบด้วยรองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ผู้แทนกรมพัฒนาที่ดิน ๒ คน ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ๒ คน ผู้แทนกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ๒ คน ผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ๒ คน ผู้แทนกรมทรัพยากรน้ำ ๑ คน และผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ๑ คน ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกรอบการเจรจาของประเทศไทยสำหรับการประชุมภาคีอนุสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17599 | ร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 14 | ทส | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารจำนวน ๓ ฉบับ ที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๔ (14th ASEAN Ministerial Meeting on the Environment : 14th AMME) วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ ณ เนการาบรูไนดารุสซาลาม ประกอบด้วย ๑.๑.๑ ร่างแผนยุทธศาสตร์อาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๘ (ASEAN Strategic Plan on Environment 2016-2025) เพื่อเป็นแผนงานและกรอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อไปสู่เป้าหมายแผนงานประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน พ.ศ. ๒๕๖๘ ๑.๑.๒ ร่างแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียน-จีน พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ (ASEAN-China Environmental Cooperation Action Plan 2016-2020) เพื่อเป็นแนวทางดำเนินการตามยุทธศาสตร์อาเซียน-จีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ ๑.๑.๓ ร่างแผนดำเนินงานอาเซียน-สหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๓ (ASEAN-UN Action Plan on Environment and Climate Change 2017-2020) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับสหประชาชาติต่อการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอาเซียน ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองเอกสารจำนวน ๓ ฉบับดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17600 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 2 | กษ | 05/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าทางการเกษตรที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๕ และแผนปฏิบัติการเสียมราฐ (GMS Strategy for Promoting Safe and Environment-Friendly Agro-based Value Chains 2018-2022, Reap Action Plan หรือ GMS SEAP Strategy, and Action Plan) และร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒ (Joint Ministerial Statement) ที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๗-๘ กันยายน ๒๕๖๐ โดยร่างยุทธศาสตร์ฯ และแผนปฏิบัติการฯ เป็นการกำหนดแนวทางการดำเนินการ ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบายและกฎระเบียบ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านความรู้และนวัตกรรม และด้านการตลาด โดยมีคณะทำงานด้านการเกษตรทำหน้าที่ขับเคลื่อนและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุผลที่กำหนดไว้ ส่วนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ มีเนื้อหาสาระเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการรับรองร่างยุทธศาสตร์ฯ ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๕ เพื่อให้คณะทำงานด้านการเกษตรดำเนินการให้บรรลุผลตามยุทธศาสตร์ฯ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯ ควรผลักดันให้เกิดความร่วมมือตามแนวชายแดนในลักษณะที่เป็นการลงทุนเพื่อผลิตและแปรรูปสินค้าให้มีมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีการจัดการผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในระดับพื้นที่ และป้องกันการลักลอบนำเข้าที่อาจนำมาซึ่งโรคและแมลงศัตรูพืชที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตในประเทศได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามร่างยุทธศาสตร์ฯ และแผนปฏิบัติการฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศบังคับใช้แล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
