ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 877 จากทั้งหมด 6236 หน้า แสดงรายการที่ 17521 - 17540 จากข้อมูลทั้งหมด 124707 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 17521 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับกรณีข้าราชการตุลาการซึ่งมีอายุครบ ๖๕ ปีบริบูรณ์ต้องเข้ารับการประเมินสมรรถภาพทั้งทางร่างกายและความสามารถ ด้านการฟังและสายตา ตลอดจนการประเมินด้านสุขภาพจิตด้วยนั้น ซึ่งการประเมินสมรรถภาพดังกล่าวได้มีการตรวจสุขภาพร่างกาย ประกอบด้วยการตรวจเลือด การตรวจระดับการได้ยิน และการตรวจสายตา เป็นต้น และมีการตรวจสุขภาพจิตโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีการประเมินสุขภาพจิตโดยการสัมภาษณ์ การตอบแบบคัดกรองภาวะสมองเสื่อม ภาวะซึมเศร้า และแบบสอบถามสุขภาพจิตทั่วไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17522 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยได้จัดทำร่างประกาศประธานศาลปกครองสูงสุด เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกกรรมการบริหารศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการข้าราชการฝ่ายศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นตุลาการศาลปกครอง ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17523 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงการแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ 2 และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ 1 พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวการงแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17524 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. ....) | มท | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพังงา จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดปัตตานี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพังงา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปัตตานี พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17525 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การติดตามผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดินสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง การติดตามผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ที่ประชุมมีมติ (๑) การจัดทำคู่มือสำหรับประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ควรจัดทำและปรับคู่มือดังกล่าวให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และควรกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนเพื่อให้สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (๒) การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนและผู้ปฏิบัติงาน ควรให้กรมประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร และ (๓) การบริหารจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทำหน้าที่ติดตามการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามผลการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดินสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17526 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการกำกับและติดตามจับกุมผู้หลบหนีการปล่อยชั่วคราวโดยศาล พ.ศ. .... | สว | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการกำกับและติดตามจับกุมผู้หลบหนีการปล่อยชั่วคราวโดยศาล พ.ศ. .... ที่เห็นควรมีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดให้ศาลอาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานศาลเพื่อดำเนินการจับกุมหรือควบคุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่จะหลบหนีไว้ได้ ซึ่งขณะนี้สำนักงานศาลยุติธรรมได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดให้ศาลมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานศาลทำหน้าที่แจ้งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หลบหนีการปล่อยชั่วคราวของศาลหรือจับด้วยตนเองในกรณีจำเป็น เพื่อให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17527 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17528 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 | กค | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17529 | แจ้งคำสั่งศาลปกครองกลางให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ในคดี หมายเลขดำที่ บ.70/2558 คดีหมายเลขแดงที่ บ.168/2560 ระหว่างนายกฤต ธนิศราพงศ์ ฟ้องคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีที่แต่งตั้งให้นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล เป็นผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | อส | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งของศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ บ.๗๐/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่ บ.๑๖๘/๒๕๖๐ ระหว่างนายกฤต ธนิศราพงศ์ ผู้ฟ้องคดี คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓) ที่ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีที่แต่งตั้งให้นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล เป็นผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีถอนคำฟ้องและให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความ โดยไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลปกครองกลางตามความเห็นของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17530 | การลงนามและเพิ่มเติมข้อความในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมรัฐอิสราเอลว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร | กห | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการลงนามและเพิ่มเติมข้อความในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมรัฐอิสราเอลว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร โดยเพิ่มเติมข้อความใน PARAGRAPH 2 SCOPE AND AREAS OF COOPERATION ในข้อ 2.1 L. other areas where mutually agreed upon by both Participants เพื่อให้ครอบคลุมถึงทุกสาขาความร่วมมือทางทหาร ซึ่งหมายรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางด้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ และอาชญากรรมข้ามชาติ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17531 | แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สับปะรด ปี 2560 - 2569 และการบริหารจัดการผลผลิตสับปะรดในช่วงปลายปี 2560 | กษ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สับปะรด ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๙ และการบริหารจัดการผลผลิตสับปะรดในช่วงปลายปี ๒๕๖๐ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ประธานกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติเสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สับปะรด ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๙ ๑.๑ ด้านการผลิต เช่น กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมและกลุ่มเป้าหมายในการเข้าไปพัฒนาศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดโรงงาน และใช้กลไกระดับพื้นที่ผ่านทาง Single Command จังหวัด ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกสับปะรดจัดทำแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์สับปะรด ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๙ ด้านการผลิต ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๔ เป็นต้น ๑.๒ ด้านการแปรรูป เช่น ศึกษาวิจัยและส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ควบคุมคุณภาพบรรจุภัณฑ์สับปะรดให้ได้มาตรฐาน การใช้สิทธิประโยชน์หรือมาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น ๑.๓ ด้านการตลาดและการส่งออก เช่น รณรงค์และส่งเสริมการบริโภคสับปะรดและผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ และแสดงคุณค่าทางโภชนาการผ่านสื่อต่าง ๆ ส่งเสริมการเจรจาทางการค้าเพื่อขยายตลาดใหม่ และส่งเสริมการส่งออกสับปะรดไปยังตลาดต่างประเทศ เป็นต้น ๒. แนวทางการบริหารจัดการผลผลิตสับปะรดในช่วงปลายปี ๒๕๖๐ (เดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๖๐) ๒.๑ ผลผลิตส่วนเกิน ๑๕,๐๐๐ ตัน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานผู้ประกอบการ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร ผ่านกลไกประชารัฐเพื่อเชื่อมโยงการรับซื้อผลผลิตสับปะรดจากเกษตรกรกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณปกติ ๒.๒ ส่งเสริมการส่งออกสับปะรดผลสดไปยังตลาดค้าชายแดน ๒.๓ ผลักดันการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างเกษตรกรและโรงงานแปรรูปเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17532 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย ประจำปี 2559 | พน | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ในปี ๒๕๕๙ ซึ่งผลิตก๊าซธรรมชาติได้รวมทั้งสิ้น ๔๐๒ พันล้านลูกบาศก์ฟุต (ส่งเข้าไทย ๑๙๕ พันล้านลูกบาศก์ฟุต) ก่อให้เกิดรายได้สุทธิจำนวน ๑,๐๑๙,๓๓๓,๙๓๙ ดอลลาร์สหรัฐ โดยได้นำส่งรายได้ช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘-ตุลาคม ๒๕๕๙ ให้แก่รัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซียในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ ๕๐) อย่างต่อเนื่อง ๒. รายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว แสดงข้อมูลถูกต้อง สอดคล้องกับสถานะการดำเนินงาน รายรับและรายจ่าย และงบกระแสเงินสด โดยสถานะของกองทุนองค์กรร่วมฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ มียอดรวมทั้งสิ้น จำนวน ๕๓๕,๐๖๗,๙๗๖ ดอลลาร์สหรัฐ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17533 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ 3 และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ 2 พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวการงแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17534 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกาณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวการงแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17535 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17536 | ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มเติมอำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงินเพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลัง โดยกำหนดกรอบเพดานการกู้เงิน โดยกระทรวงการคลังจะมีหนี้คงค้างเพื่อบริหารสภาพคล่อง ณ ขณะใดขณะหนึ่งได้ไม่เกินร้อยละ ๕ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นและงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ตลอดจนหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้และชำระหนี้ดังกล่าว และกำหนดให้การชำระคืนต้นเงินกู้เพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลังให้จ่ายจากเงินคงคลัง ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มเติมบทบัญญัติให้กระทรวงการคลังสามารถสั่งจ่ายเงินจากบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ ๒ (บัญชีกระแสรายวันที่กระทรวงการคลังมีไว้เพื่อจ่ายเงิน) เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลังได้โดยไม่ต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรพิจารณากำหนดกรอบวงเงินกู้เพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลังตามความเหมาะสมเท่าที่จำเป็นและไม่ควรเกินกรอบวงเงินกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยผ่านกลไกของคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รวมทั้งควรประมาณการสภาพคล่องเงินคงคลังโดยคำนึงถึงความต้องการใช้จ่าย ประสิทธิภาพการเบิกจ่าย และความสามารถในการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานภาครัฐในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้ประมาณการมีความแม่นยำและสอดคล้องกับสถานการณ์ในระยะใกล้ที่ประเมินว่าจะเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17537 | ร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขภาคผนวก 2 และภาคผนวก 5 ของความตกลงการค้าเสรี ไทย - ออสเตรเลีย | พณ | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขภาคผนวก ๒ และภาคผนวก ๕ ของความตกลงการค้าเสรี ไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปริมาณสินค้าที่มีการใช้มาตรการโควตาภาษี (Tariff Rate Quota : TRQ) ตามบัญชีแนบท้ายภาคผนวก ๒ โดยเพิ่มปริมาณโควตานมผงขาดมันเนย ร้อยละ ๑๐ และแก้ไขปริมาณการนำเข้าสินค้าที่มีการใช้ปกป้องพิเศษ (Special Safeguard : SSG) ตามบัญชีแนบท้ายภาคผนวก ๕ โดยเพิ่มปริมาณการนำเข้า (Tigger Volume) ของสินค้า ๓ รายการ (๖ พิกัดสินค้า) ของไทย ได้แก่ หางนม ไขมันเนย และเนยแข็ง โดยมีผลในทางปฏิบัติภายในปี ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) และเมื่อลงนามแล้ว ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา แล้วเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบพิธีสารฯ ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารฯ ๔. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือแจ้งการมีผลใช้บังคับของพิธีสารฯ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภามีมติเห็นชอบพิธีสารฯ และกระทรวงพาณิชย์ได้มีหนังสือแจ้งยืนยันไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่าได้ดำเนินกระบวนการต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการมีผลใช้บังคับของพิธีสารฯ เสร็จสิ้นแล้ว ๕. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการส่งเสริมอุตสาหกรรมนมไทยเพื่อลดปริมาณการนำเข้า และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมโคนมไทย ซึ่งฝ่ายออสเตรเลียจะเสนอความร่วมมือให้กับฝ่ายไทยนั้น ควรระบุรายละเอียดโครงการให้เป็นรูปธรรมและชัดเจน และควรประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการผู้มีส่วนได้เสียรับทราบถึงการดำเนินการจากการทบทวนพันธกรณีการเปิดตลาดสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นตามความตกลง TAFTA อย่างทั่วถึง รวมทั้งติดตามประเมินผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากมาตรการที่มีอยู่ของหน่วยงานภาครัฐอย่างเต็มที่ และเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรและสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็งเพื่อรองรับการแข่งขันจากการเปิดเสรีทางการค้าในระยะต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๖. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับสินค้าที่มีการใช้มาตรการโควตาภาษี (TRQ) จำนวน ๘ รายการ โควตาภาษีดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๖ รายการ ได้แก่ มั่นฝรั่ง (สดและแช่แข็ง) เมล็ดกาแฟ กาแฟสำเร็จรูป ชา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) และจะสิ้นสุดในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ จำนวน ๒ รายการ ได้แก่ นมดิบและนมพร้อมดื่ม นมผงขาดมันเนย และสินค้าที่มีการใช้มาตรการปกป้องพิเศษ (SSG) กำหนดเพดานปริมาณ Tigger Volume โดยเก็บภาษีนำเข้าในอัตราต่ำ ส่วนปริมาณที่นำเข้าเกินกำหนดจะเก็บภาษีในอัตราสูงกว่า จำนวน ๑๗ รายการ เช่น ไขมันเนย หางนม และเนยแข็ง จะสิ้นสุดในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ หลังจากนั้นจะไม่กำหนดเพดานนำเข้าและอัตราภาษีนำเข้าจะเป็นร้อยละ ๐ จึงเห็นควรพิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรดังกล่าวภายในประเทศ ไปพิจารณาต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17538 | ร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560 - 2564) | กค | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๓ (ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยให้สามารถเป็นแหล่งระดมทุน แหล่งการออม และการลงทุนของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทในธุรกรรมด้านการเงินการลงทุนมากขึ้น รองรับกระแสการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค โดยมีประเด็นสำคัญที่มุ่งเน้นในการพัฒนาใน ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) การปรับปรุงตลาดทุนให้เป็นแหล่งทุนสำหรับ SMEs นวัตกรรม และกลุ่ม Startup (๒) การปรับปรุงตลาดทุนให้เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (๓) การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน (๔) การปรับปรุงให้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของภูมิภาค และ (๕) การปรับปรุงตลาดทุนให้รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ร่างแผนพัฒนาตลาดทุนฯ มีมาตรการในการดำเนินการที่ครอบคลุมและเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ การกำกับดูแลให้บรรลุเป้าหมายอย่างเป็นองค์รวมภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดจะต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ ชัดเจนอย่างโปร่งใส และมีประสิทธิภาพภายใต้กรอบของวินัยการเงินการคลังที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ร่างแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับนี้ เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์การระดมทุนที่เป็นนวัตกรรมและผู้ประกอบการรูปแบบใหม่สำหรับตลาดทุนไทย ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับการระดมทุนสำหรับกลุ่มประเทศในภูมิภาค จึงควรพิจารณาศึกษาผลกระทบและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรอบด้านด้วย และเนื่องจากสภาวะแวดล้อมของภาคการเงินมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงเห็นควรให้คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกปี และประเมินผลสัมฤทธิ์ของร่างแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ในระยะครึ่งแผน เพื่อให้สามารถพิจารณาปรับปรุงแผนงานและตัวชี้วัดให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย รวมทั้งให้ดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ จัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการตามร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฯ ให้ชัดเจน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุนให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ลงทุนรายใหญ่และรายย่อย ๒.๒ พิจารณาดำเนินการเพื่อจัดให้มีกลไกในการประสานความร่วมมือในการพัฒนาและกำกับดูแลตลาดการเงินในภาพรวมที่ครอบคลุมทั้งสถาบันการเงิน การประกันภัย ตลาดทุน รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การพัฒนาภาคการเงินในภาพรวมของประเทศมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน และมีการกำกับดูแลที่มีมาตรฐานเท่าเทียมกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17539 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2559 | นร09 | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี ๒๕*๙ ซึ่งมีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ ได้แก่ (๑) ให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และ (๒) การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยในส่วนของปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการปฏิบัติราชการทางปกครอง มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการศึกษาและยกร่างกฎหมายเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการบังคับทางปกครองขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับทางปกครองให้มีประสิทธิภาพต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17540 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 408 สายนครศรีธรรมราช - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (นาทวี) ที่บ้านหัวถนนการะเกด บ้านปากช่อง บ้านทรายขาว และที่บ้านบางแค พ.ศ. .... | คค | 12/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๘ สายนครศรีธรรมราช-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๒ (นาทวี) ที่บ้านหัวถนนการะเกด บ้านปากช่อง บ้านทรายขาว และที่บ้านบางแค พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๘ สายนครศรีธรรมราช-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๒ (นาทวี) ที่บ้านหัวถนนการะเกด บ้านปากช่อง บ้านทรายขาว และที่บ้านบางแค ในท้องที่อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร จังหวัดนครซรีธรรมราช เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้างด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
