ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 879 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17561 - 17580 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17561 | ขอความเห็นชอบในการจัดทำบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้เครื่องบิน Gripen ฉบับใหม่ | กห | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้เครื่องบิน Gripen ฉบับใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้งานเครื่องบิน Gripen และระบบอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิกทั้งในทางยุทธศาสตร์และทางเทคนิค โดยการนำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับปี ๒๕๕๓ มาปรับปรุงแก้ไขให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับผลการประชุมระดับผู้บัญชาการทหารอากาศของกลุ่มผู้ใช้เครื่องบิน Gripen (Gripen User’s Group Air Chief Conference 2016) เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งมีมติให้รับกองทัพอากาศสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลเข้าเป็นสมาชิก รวมทั้งปรับแก้ไขข้อความบางส่วนให้มีความถูกต้องเหมาะสม ๑.๒ ให้ผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้ร่วมลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรแก้ไขชื่อของประเทศบราซิลที่ปรากฏในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้เป็นชื่อทางการที่ถูกต้องคือ Federative Republic of Brazil (สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล) และเห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการลงนาม แต่ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17562 | ขออนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณและระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอดพร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 จังหวัดตาก ของกรมทางหลวง | คค | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติขยายกรอบวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอดพร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ ๒ จังหวัดตาก ของกรมทางหลวง จากวงเงินเดิม ๓,๙๐๐ ล้านบาท ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นวงเงิน ๔,๒๖๗.๕๗๐๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการงานก่อสร้างอาคารด่าน BORDER CONTROL FACLITIES (BCF) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๒ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๑๘๗.๕๖๖๘ ล้านบาท เป็นกรณีเฉพาะราย ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๓ สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ กรมทางหลวงได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๐ ไว้แล้ว จำนวน ๓,๒๙๒ ล้านบาท โดยสำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รองรับไว้แล้ว จำนวน ๑๒๗ ล้านบาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๘๔๘.๕๗๐๐ ล้านบาท ให้กรมทางหลวงเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๑.๔ ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประชาชนที่จะได้รับเป็นสำคัญด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประสานกับเมียนมาในการพิจารณาหารือรูปแบบและแนวทางที่จะเปิดใช้ทางเลี่ยงเมืองและสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ ๒ ที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จไปพลางก่อนในช่วงที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารด่าน BCF เพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยกับเมียนมาในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ซึ่งจะช่วยให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ในการริเริ่มแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ในอนาคต ให้กระทรวงคมนาคมถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17563 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม | นร10 | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติการเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ในกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตำแหน่งนักวิชาการยุติธรรม ระดับปฏิบัติการหรือชำนาญการ จำนวน ๑๐ อัตรา ในกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อรองรับภารกิจการจัดทำรายงานการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights : ICESCR) สำหรับตำแหน่งที่ขอรับการจัดสรรอีก ๑๐ อัตรา เพื่อปฏิบัติงานตามพันธกรณี ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เห็นควรให้นำไปพิจารณารวมกับการวิเคราะห์อัตรากำลังข้าราชการเพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ในภาพรวมของกระทรวงยุติธรรม ๑.๒ เห็นชอบให้นำผลการพิจารณากรอบอัตรากำลังพนักงานราชการกลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ จำนวน ๒ อัตรา เสนอคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) พิจารณาอนุมัติต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17564 | กาารดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 | นร | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ณ วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบมอบหมายคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว จำนวน ๙ เรื่อง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ประธานกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ แผนการขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ๑.๒ การจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้และการเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ : มาตรการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. .... ๑.๓ นำร่องเมืองข้าว : จังหวัดกาฬสินธุ์ Rice City Pilot Project : Kalasin Province ๑.๔ การปฏิรูประบบนิเวศและการลงทุนในเศรษฐกิจกระแสใหม่ ๑.๕ การจัดการข้าวโดยระบบสหกรณ์ ๑.๖ การวางแผนกำลังคนภาครัฐเชิงยุทธศาสตร์ ๑.๗ การปฏิรูประบบที่พักแรมและข้อมูลคนเข้าเมือง ๑.๘ การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลไม้โตเร็วเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับเกษตรกร สร้างป่าและเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน ๑.๙ ข้อเสนอประเด็นสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่ตำแหน่งกำนัน วาระการดำรงตำแหน่งกำนัน และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน และร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณาขับเคลื่อนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17565 | ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่กระทรวงคมนาคมเสนอในครั้งนี้ คณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งได้พิจารณาแก้ไขสัญญาฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง ผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) เรียบร้อยแล้ว จึงอยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอได้ ๒. เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาฯ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในลักษณะการก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรค ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยสามารถก่อหนี้ผูกพันล่วงหน้าเกินกว่า ๕ ปีได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๓. ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาทิ การเร่งจัดทำแผนการส่งมอบพื้นที่และมีกลไกในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนดังกล่าว การพิจารณาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารและการกำหนดอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ และโครงการอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) และการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม (Common Fare) ในอนาคตอันใกล้ การกำหนดกลไกการกำกับสัญญาให้ผู้รับสัมปทานมีการลงทุนจัดหาและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้า รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานตลอดอายุโครงการเป็นไปตามสมมติฐานที่ได้ประมาณการไว้ในเอกสารข้อเสนอของผู้รับสัมปทาน และการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของระดับการให้บริการในแต่ละด้านที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการที่รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ๕. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17566 | การเปลี่ยนโฆษกประจำกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงโฆษกประจำกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งแต่งตั้งให้ นางพิมพ์กาญจน์ ชัยจิตร์สกุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม แทน นางสาววิมลลักษณ์ ชูชาติ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม แทน นายวิโรจน์ ใจอารีรอบ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งนี้ ตามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม ที่ ๙๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17567 | ขออนุมัติเช่ารถยนต์นั่งส่วนกลาง | กษ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เช่ารถยนต์นั่งส่วนกลาง จำนวน ๕ คัน ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๕ วงเงินทั้งสิ้น ๕,๕๓๕,๐๐๐ บาท โดยเห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๓๖๙,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๕,๑๖๖,๐๐๐ บาท ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ ตามขั้นตอนให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และประโยชน์ของทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17568 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกลุ่มภารกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร12 | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกลุ่มภารกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยกลุ่มภารกิจ พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อกำหนดให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นกระทรวงที่มีกลุ่มภารกิจด้านพัฒนาศักยภาพมนุษย์และสังคมและกลุ่มภารกิจด้านพัฒนาสวัสดิการสังคมและคุณภาพชีวิต ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17569 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอและร่างกฎหมายเกี่ยวกับแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ข้อเสนอและร่างกฎหมายเกี่ยวกับแผนและขั้นตอนการดำเนินการการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา โดยกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวแล้วเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะดังกล่าว และได้มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในบางประเด็น ได้แก่ (๑) ด้านเด็กเล็ก ควรพิจารณากลไกการทำงานที่มีอยู่เดิมมากกว่าการจัดตั้งสถาบันใหม่ (๒) ด้านกองทุน การจัดตั้งกองทุนควรคำนึงถึงความซ้ำซ้อนของกฎหมายที่มีอยู่แล้ว และเจตนารมณ์ของการจัดตั้งกองทุนด้วย (๓) ด้านครูและอาจารย์ การรับรองสถาบันผลิตครูในระบบปิดและระบบเปิด ควรมีมาตรการควบคุมจำนวนการผลิตมากกว่าการรับรองสถาบันฯ (๔) ด้านการเรียนการสอน ควรสอดแทรกการพัฒนาที่เน้นความมีวินัย ซื่อสัตย์สุจริตไปในหลักสูตรในทุกระดับการศึกษา และ (๕) ด้านอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา การกำหนดมาตรฐานอาชีพ ควรเชื่อมโยงกับค่าตอบแทน และใบประกอบวิชาชีพไม่ควรเป็นแบบตลอดชีพ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17570 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. .... | สว | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า การกำหนดอาณาเขตของราชอาณาจักร ควรให้กรมศุลกากรดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการยกร่างกฎหมาย โดยให้คำนึงถึงบทบัญญัติแห่งอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมาย สำหรับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการพิจารณาอุทธรณ์ในร่างมาตรา ๓๗ วรรคสอง แห่งร่างพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. .... กำหนดให้การยื่นอุทธรณ์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ซึ่งกรมศุลกากรจะดำเนินการยกร่างประกาศกรมศุลกากรต่อไป ส่วนการจัดทำระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งผลักดันให้มีการเปิดให้บริการระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบโดยเร็ว และจะพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้มีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้ กรมศุลกากรและกรมประมงได้เจรจาจัดทำบันทึกความเข้าใจตามมาตรการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย ตลอดจนกรมศุลกากรจะดำเนินการพัฒนาระบบ Website เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลของหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการจัดทำและปรับปรุงอนุสัญญาศุลกากรขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17571 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและยกระดับสมรรถนะมาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและยกระดับสมรรถนะมาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แล้ว ได้แก่ (๑) การดำเนินการด้านการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ได้กำหนดให้มีการประเมินเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา โดยมีการประเมินความรู้ความสามารถทั่วไป สมรรถนะทางการบริหาร และความเหมาะสมกับตำแหน่ง และกำหนดให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดหรือคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแต่งตั้งเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก (๒) การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะผู้บริหารสถานศึกษา โดยการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ ลักษณะงานที่ปฏิบัติ คุณลักษณะและสมรรถนะที่จำเป็น คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งและผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (๓) การดำเนินการด้านการพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา และกำหนดให้มีระยะเวลาการพัฒนาไม่น้อยกว่า ๖๐ ชั่วโมง หากผ่านการพัฒนาจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนด และจะต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เป็นระยะเวลาอีก ๑ ปี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17572 | สรุปผลการจัดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 3 (The 3rd RISE 2017) | วท | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการจัดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ ๓ (The 3rd RISE 2017) ระหว่างวันที่ ๙-๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ณ สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ มักกะสัน โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี [สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)] ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย Railway Technical Research Institute (RTR) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยระบบรางของประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น รูปแบบการจัดงานฯ ประกอบด้วย (๑) การบรรยายและเสวนาวิชาการ (๒) การนำเสนอผลงานวิจัยมุ่งเป้าด้านการคมนาคมระบบรางของไทย (๓) การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับงานวิจัยด้านเทคโนโลยีการคมนาคมขนส่งระบบรางของประเทศญี่ปุ่น (๔) การจัดแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบรางไทย รวมทั้งการเสวนาร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมระบบขนส่งภายใต้หัวข้อ “อนาคตอุตสาหกรรมระบบรางไทย : ก้าวกระโดดไปด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือการจัดซื้อจัดจ้างที่มีเงื่อนไขความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางไทย” เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยโดยใช้มาตรการจัดซื้อจัดจ้างที่มีเงื่อนไขความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ (International Collaboration Program : ICP) หรือ Offset Policy (กิจกรรมชดเชยเพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ) ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีของประเทศตนเองและเปลี่ยนจากประเทศผู้ซื้อไปเป็นผู้พัฒนาและผู้ผลิตในอนาคตได้ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17573 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | ยธ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ ออกไปอีก ๕ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งผลิตแพทย์ให้เพียงพอแก่การดำเนินการชันสูตรพลิกศพ ตามมาตรา ๑๕๐ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17574 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขื่อน ตำบลยางน้อย และตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขื่อน ตำบลยางน้อย และตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประเมินผลการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินและการนำที่สาธารณะไปจัดรูปที่ดินที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงและวางแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17575 | ร่างกฎกระทรวงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายใต้พิธีสารมาดริด พ.ศ. .... และคำประกาศ (Declarations) ของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) | พณ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายใต้พิธีสารมาดริด พ.ศ. .... และคำประกาศ (Declarations) ของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. เห็นชอบการทำคำประกาศ (Declarations) ภายใต้พิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) และระเบียบร่วม (Common Regulations) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยหากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงพิธีสารที่มิได้เป็นสาระสำคัญ กระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องเสนอเรื่องเพื่อขอความเห็นชอบอีก ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. เห็นชอบและมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำภาคยานุวัติสาร (Instrument of accession) ที่มีคำประกาศตามข้อ ๒ แนบท้าย เพื่อการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดเมื่อกระทรวงพาณิชย์มีหนังสือแจ้งกระทรวงการต่างประเทศว่าได้ดำเนินการภายในต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการออกกฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17576 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครอง หรือใช้อสังหาริมทรัพย์ และส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างเพื่อขยายทางหลวงชนบท ชบ. ๓๐๒๗ สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๓๘ กับทางหลวงชนบท ชบ. ๓๐๒๗ ให้เป็นไปตามแผนการที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17577 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการเครื่องบินขนาดกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร | กษ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรณีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป โดยมีผลการจัดซื้อรายการเครื่องบินขนาดกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ในวงเงิน ๙๙๔,๘๘๐,๐๐๐ บาท กำหนดส่งมอบภายใน ๘๗๐ วัน โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17578 | การแต่งตั้งกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอัยการ | อส | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๐ เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอัยการ ที่อนุมัติแต่งตั้งให้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) อีกวาระหนึ่ง เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๗๗ วรรคสอง บัญญัติให้ ก.อ. ที่มีอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ทำหน้าที่ ก.อ. ไปพลางก่อน ในระหว่างที่ยังไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขกฎหมายให้มี ก.อ. ตามมาตรา ๒๔๘ วรรคสาม ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17579 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงวัฒนธรรม) (นางสาวบุษกร ลิมจิตติ) | วธ | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวบุษกร ลิมจิตติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่างศิลปกรรม (ช่างศิลปไทย) (นักวิชาการช่างศิลป์ทรงคุณวุฒิ) กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซี่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17580 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเคหะชุมชนคลองเตย ระยะที่ 3 | คค | 30/05/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเคหะชุมชนคลองเตย ระยะที่ ๓ ซึ่งเดิมมีวัตถุประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับชาวชุมชนแออัด เพื่อให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยสามารถนำอาคารแฟลตดังกล่าวมาบริหารจัดการด้านที่อยู่อาศัยให้แก่พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยคัดเลือกพนักงานชั้นผู้น้อยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเข้าพักในอาคารแฟลต ๒๖-๒๙ จำนวน ๖๒๐ หน่วยเป็นลำดับแรก ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคต ให้สำรวจความต้องการของชุมชนก่อนดำเนินการ และเสนอผลการสำรวจประกอบการพิจารณาอนุมัติโครงการตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยเร่งพิจารณาจัดทำแผนการบริหารจัดการชุมชนแออัดในปัจจุบันให้มีความชัดเจนและเหมาะสมตามความเห็นของกระทรวงการคลัง รวมทั้งกำหนดมาตรการไม่ให้เกิดการบุกรุกที่ดินว่างเปล่าขึ้นอีก ตามความเห็นของกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยให้มุ่งเน้นการทำความเข้าใจกับชาวชุมชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยร่วมกับการเคหะแห่งชาติ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาใช้ประโยชน์จากโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลโครงการอื่น เช่น โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงการบ้านประชารัฐ เป็นต้น เพื่อให้ชาวชุมชนมีทางเลือกที่อยู่อาศัยที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของชาวชุมชนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่าต่อไป
|
.....