ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1548 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30941 - 30960 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30941 | รายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ | นร | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ วงเงิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑.๑ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๖๔ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑๑๕,๑๔๙.๙๗๓ ล้านบาท ไม่มีการจัดสรรเพิ่มเติม ๑.๑.๑.๑ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายสะสม ณ เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๕๖,๒๖๒.๐๕๗ ล้านบาท เปรียบเทียบกับแผนฯ ณ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๔๑,๗๘๓.๐๓๗ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑๔,๔๗๙.๐๑๙ ล้านบาท คิดเป็น ๓๔.๖๕ ๑.๑.๑.๒ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการแล้วมีการเบิกจ่ายสะสม ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๓๙,๖๙๔.๙๐๖ ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๓๗,๒๑๒.๒๙๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๒,๔๘๒.๖๑๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖.๖๗ ๑.๑.๑.๓ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลงนามในสัญญาแล้ว เป็นเงิน ๔๙,๕๑๑.๔๒๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๓.๐๐ ของวงเงินจัดสรร และยังไม่ลงนามในสัญญา เป็นเงิน ๖๕,๖๓๘.๕๕๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๗.๐๐ ของวงเงินจัดสรร ๑.๑.๒ สถานะการเบิกจ่าย จำแนกออกเป็น ๓ กลุ่ม ๑.๑.๒.๑ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ยังไม่เบิกจ่าย ประกอบด้วย (๑) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ยังไม่เบิกจ่ายเนื่องจากยังไม่ถึงกำหนดการใช้จ่ายตามแผนฯ จำนวน ๑๓ หน่วยงาน วงเงินจัดสรร ๑๐,๓๘๑.๑๘๑ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๓ หน่วยงาน เป็นเงิน ๒๐๗.๒๓๖ ล้านบาท ที่เหลืออีก จำนวน ๑๐ หน่วยงาน ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และมีการลงนามในสัญญาแล้วบางส่วนแต่อยู่ระหว่างการบันทึกข้อมูลการลงนามในสัญญาจัดซื้อ หรือ Purchase Order : PO ในระบบระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์” หรือ ระบบ Government Fiscal Management System : GFMIS และ (๒) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ถึงกำหนดการใช้จ่ายตามแผนฯ แล้ว แต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย จำนวน ๑๐ หน่วยงาน วงเงินจัดสรร ๓,๐๓๙.๓๕๑ ล้านบาท เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๑ หน่วยงาน เป็นเงิน ๓.๖๙๘ ล้านบาท ๑.๑.๒.๒ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ เมื่อเปรียบเทียบกับแผนการใช้จ่ายสะสม ประกอบด้วย (๑) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมต่ำกว่าร้อยละ ๓๐ จำนวน ๑๖ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๕๒,๓๕๔.๒๓๗ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๑๖ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑๐,๒๓๔.๐๙๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๙.๕๕ ของวงเงินจัดสรร (๒) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมระหว่างร้อยละ ๓๐ ถึง ๕๐ จำนวน ๔ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๓,๒๖๗.๒๑๗ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๔ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑,๐๘๒.๗๔๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๑๔ ของวงเงินจัดสรร และ (๓) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมระหว่างร้อยละ ๕๐ ถึง ๘๐ จำนวน ๘ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๗,๑๔๙.๕๓๖ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๘ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑,๗๙๘.๕๓๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๑๖ ของวงเงินจัดสรร ๑.๑.๒.๓ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมสูงกว่าร้อยละ ๘๐ จำนวน ๑๓ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๓๘,๙๕๘.๔๕๒ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๑๓ หน่วยงาน เป็นเงิน ๓๖,๑๘๕.๑๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๘๘ ของวงเงินจัดสรร ๑.๒ เห็นชอบแนวปฏิบัติ ดังนี้ ๑.๒.๑ กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ยังมิได้ดำเนินการหรือยังมิได้เบิกจ่าย หรือเบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายสะสม ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเร่งรัดส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง/ลงนามในสัญญา หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง รายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ) เพื่อให้สามารถดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยได้อย่างเหมาะสม ๑.๒.๒ กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ลงนามในสัญญาแล้ว และมีวงเงินจัดซื้อจัดจ้างหรือวงเงินดำเนินการเองต่ำกว่าวงเงินที่ได้รับการจัดสรร ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการจัดสรรงบประมาณคืนสำนักงบประมาณโดยด่วนภายใน ๑๕ วัน หลังจากทราบผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือวงเงินดำเนินการเองตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ๑.๒.๓ หากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนการประกวดราคา หรือกรณีดำเนินการเองที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติงานตามแผนฯ ภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ ให้สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นในการดำเนินการโครงการอีกครั้ง หากเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ของแผนงานตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ก็ให้แจ้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจให้นำเสนอโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อพิจารณาใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกรณีที่ทบทวนโครงการแล้วปรากฏว่ามีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการและเป็นโครงการที่ไม่เป็นลักษณะเฉพาะที่ต้องดำเนินการโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ให้สามารถปรับเปลี่ยนหน่วยงานเจ้าของโครงการที่มีความพร้อมมากกว่าได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ในการรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประมวลผลข้อมูลการเบิกจ่ายและผลการดำเนินงานโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการให้เสร็จสิ้นทุกวันพุธ เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดี และนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในวันอังคารสัปดาห์ถัดไป เพื่อที่รัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบได้อย่างรวดเร็วต่อไป ๔. ให้รัฐมนตรีนำข้อมูลตามรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ไปตรวจสอบและติดตามการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในความรับผิดชอบ โดยเฉพาะโครงการในกลุ่มที่ถึงกำหนดตามแผนฯ แล้วแต่ยังไม่ได้เบิกจ่าย กลุ่มที่เบิกจ่ายต่ำกว่าร้อยละ ๓๐ และกลุ่มที่เบิกจ่ายระหว่างร้อยละ ๓๐ - ร้อยละ ๕๐ และให้รายงานสถานะความก้าวหน้าล่าสุด ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและสาเหตุของความล่าช้าในการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไปในวันจันทร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ |
||||||||||||||||||||||||
30942 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) | ศธ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นางรัตนา ศรีเหรัญ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายปัญญา แก้วกียูร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวอาภรณ์ แก่นวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางผานิตย์ มีสุนทร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
30943 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองลงนามระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 20 (ร่างแถลงการณ์เกี่ยวกับพิธีสารของสนธิสัญญา ว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ฯ) | กต | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์เกี่ยวกับพิธีสารของสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Draft Statement on the Protocol to the Treaty on Southeast Asia Nuclear Weapon - Free Zone) ซึ่งมีพิธีสารต่อท้ายสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Protocol to the Treaty on the Southeast Asia Nuclear Weapon - Free Zone) แนบท้าย ซึ่งจะลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ มีสาระสำคัญเพื่อระบุว่า พิธีสารต่อท้ายสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้จะเป็นพิธีสารที่กล่าวถึงในสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๘ โดยพิธีสารจะระบุว่า รัฐอาวุธนิวเคลียร์จะเคารพสนธิสัญญาฯ และไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับรัฐภาคีสนธิสัญญาฯ รวมทั้งจะไม่ทิ้งลงทะเลหรือปล่อยสู่บรรยากาศซึ่งวัสดุหรือกากกัมมันตรังสีใด ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมลงนามในเอกสารดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
30944 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองหรือลงนามระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 20 (ร่างปฏิญญาพนมเปญว่าด้วยอาเซียน : หนึ่งประชาคม หนึ่งจุดมุ่งหมาย) | กต | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาพนมเปญว่าด้วยอาเซียน : หนึ่งประชาคม หนึ่งจุดมุ่งหมาย (Phnom Penh Declaration on ASEAN : One Community, One Destiny) ซึ่งจะรับรองโดยผู้นำอาเซียน มีสาระสำคัญเพื่อแสดงความสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของกัมพูชาในปี ๒๕๕๕ ภายใต้หัวข้อ “อาเซียน หนึ่งประชาคม หนึ่งจุดมุ่งหมาย” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และสร้างความเป็นเอกภาพและความสมานฉันท์ เพื่อก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ และภายหลังปี ๒๕๕๘ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นแก้ไขร่างเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. ให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||
30945 | การเสนอชื่อผู้สมัครจากประเทศไทยเข้ารับการคัดเลือกสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก | พณ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเสนอชื่อ ดร. ธเนศ สุจารีกุล เป็นผู้สมัครไทยเข้ารับการคัดเลือกสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) และอนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเสนอชื่อบุคคลดังกล่าวต่อองค์กรระงับข้อพิพาทของ WTO รวมถึงดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนผู้สมัครไทยในกระบวนการคัดเลือกสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ของ WTO ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานประเทศต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนผู้สมัครไทยเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ของ WTO
|
||||||||||||||||||||||||
30946 | ขอถอดถอนรายชื่อกรรมการองค์การจัดการน้ำเสียเฉพาะรายนายสมเจตน์ ชัยเฉลิมปรีชา และขอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย | ทส | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติถอดถอนรายชื่อนายสมเจตน์ ชัยเฉลิมปรีชา ออกจากการเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ๒. เห็นชอบแต่งตั้งนายเดช บุบผาวัลย์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
30947 | การเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (2 เมษายน 2555) | นร | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาในวันอังคารที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๕ จึงเห็นควรเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี จากวันอังคารที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๕ เป็นวันจันทร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๕
|
||||||||||||||||||||||||
30948 | ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณากรณีเหตุระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | สผ | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณากรณีเหตุระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ เป็นผู้เสนอด้วยวาจา) และผลการดำเนินการตามญัตติด่วนดังกล่าว ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30949 | การจัดทำสัญญาเช่าอาคารที่ทำการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก | พณ | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมส่งเสริมการส่งออกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ รายการค่าเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก ในวงเงินผูกพันตลอดระยะเวลาสัญญาเช่าทั้งสิ้น ๘,๖๘๙,๙๐๐ บาท หรือเท่ากับ ๒๘๐,๓๒๐ ดอลลาร์สหรัฐ คิดอัตราแลกเปลี่ยน ๑ ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ ๓๑ บาท หรือไม่เกินวงเงินผูกพันตลอดระยะเวลาเช่าตามสกุลเงินท้องถิ่น กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๓๕,๐๔๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ ๑,๐๘๖,๒๔๐ บาท ส่วนงบประมาณที่เหลือให้กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๙ ตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
30950 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง ผลกระทบทางด้านสุขภาพที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | สว | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง ผลกระทบทางด้านสุขภาพที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้
๑. กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังโรคติดต่อต่าง ๆ รวมทั้งศึกษาวิจัยเพื่อคาดการณ์โรคติดต่อที่สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้จัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาอุทกภัยและศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยหนาวด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหาดังกล่าวซึ่งคาดการณ์ว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้ผลกระทบต่อสุขภาพจากภัยหนาวและอุทกภัยมีความรุนแรงมากขึ้น ๒. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมต่อโรคไข้เลือดออกและยุงพาหะ เพื่อให้ได้ข้อมูลการคาดการณ์การเกิดโรคไข้เลือดออกเชิงพื้นที่ และจัดทำแผนที่ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) แสดงสถานะเชิงพื้นที่ของโรคไข้เลือดออก ประชากรยุงพาหะ และการดื้อสารเคมีในระดับพันธุกรรม และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ๓. กรมอนามัย ได้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศใน ๒ ส่วน ได้แก่ การลดก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) โดยดำเนินกิจกรรมเพื่อสนับสนุนให้ลดก๊าซเรือนกระจกในสถานบริการสาธารณสุข เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานลดโลกร้อนและเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรสาธารณสุขเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการปรับตัว (Adaptation) โดยพัฒนาองค์ความรู้เรื่องผลกระทบต่อสุขภาพที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ การดำเนินโครงการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดทำแผนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายในการป้องกันและควบคุมโรคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลักดันให้เกิดแผนแม่บทด้านสาธารณสุขด้านการปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในการลดหรือป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๔. กรมสุขภาพจิต ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติ พัฒนาแนวปฏิบัติการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในภาวะวิกฤต การเตรียมความพร้อมบุคลากรที่ปฏิบัติงาน และเครื่องมือเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเกิดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ๕. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้จัดทำองค์ความรู้เรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความตระหนักเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งแนวทางการปรับตัวเพื่อรับมือกับผลกระทบอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้ดำเนินการรวมกับกรมควบคุมโรคในการแก้ไขปัญหาภัยหนาวด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยสำรวจกลุ่มเสี่ยง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการเฝ้าระวังด้านสุขภาพและเป็นฐานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่ในการให้ความช่วยเหลือต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30951 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณี นายทรงศักดิ์ สำราญสุข ฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 3 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด | อส | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ ฟ. ๖/๒๕๕๕ ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้องคดีหมายเลขดำที่ ฟ. ๓๕/๒๕๕๑ ระหว่างนายทรงศักดิ์ สำราญสุข ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม ๓ คน ผู้ถูกฟ้องคดีเรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
30952 | ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ | สผ | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก (นายอำนวย คลังผา เป็นผู้เสนอ) และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ (นายวรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นผู้เสนอ) และผลการดำเนินการตามญัตติด่วนดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30953 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุรชัย นิระ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
30954 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายวัฒนชัยฯ) | สธ | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายวัฒนชัย สุแสงรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลขอนแก่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๔ ๒. นายรณไตร เรืองวีรยุทธ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลแม่สอด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
30955 | การขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย กับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี ว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร (Memorandum of Understanding between the Ministry of Defence of the Kingdom of Thailand and the Ministry of National Defense of the Republic of Korea Concerning Cooperation in the Field of Defence) | กห | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยกับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี ว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร (Memorandum of Understanding between the Ministry of Defence of the Kingdom of Thailand and the Ministry of National Defense of the Republic of Korea Concerning Cooperation in the Field of Defence) โดยสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ภายใต้กรอบของกฎหมายของทั้งสองประเทศ คู่ภาคีจะส่งเสริม และสนับสนุนความร่วมมือทางการทหาร ซึ่งอาจรวมถึง แต่ไม่จำกัดอยู่ภายใต้สาขาต่าง ๆ ดังนี้ ๑.๑.๑ นโยบายและยุทธศาสตร์ทางทหาร ๑.๑.๒ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และข้อมูลข่าวสารทางทหาร ๑.๑.๓ การแลกเปลี่ยนการเยือนของกำลังพลและผู้เชี่ยวชาญ ๑.๑.๔ การฝึก/ศึกษา และการฝึกร่วมทางทหาร ๑.๑.๕ การวิจัยและพัฒนา และความร่วมมือด้านเทคโนโลยีทางทหาร ๑.๑.๖ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ๑.๑.๗ การส่งกำลังบำรุง และการซ่อมบำรุง ๑.๑.๘ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาภัยพิบัติ ๑.๑.๙ การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ ๑.๑.๑๐ กีฬาทางทหาร และกิจกรรมทางวัฒนธรรม ๑.๑.๑๑ การแพทย์ทหาร และการบริการทางสุขภาพ ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ หากมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนรายละเอียดของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการปรับแก้ถ้อยคำบางประการเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
30956 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง ไข้หวัดนกและการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย : ยุทธศาสตร์การป้องกัน และควบคุม | สว | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินการตามรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง ไข้หวัดนกและการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย : ยุทธศาสตร์การป้องกัน และควบคุม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เสร็จแล้ว และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30957 | ร่างกฎกระทรวงตามแผนพัฒนากฎหมายของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง รวม 3 ฉบับ | กค | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงตามแผนพัฒนากฎหมายของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นภาษีสุราสำหรับสุราที่ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖๗ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ ๑.๒ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทำสุราซึ่งประสงค์จะส่งสุราที่ตนทำในราชอาณาจักรออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ส่งสุราออกไปนอกราชอาณาจักร จากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสุรานั้นด้วย จึงจะยื่นคำขอยกเว้นภาษีสุราสำหรับสุราดังกล่าวได้ และให้แนบใบอนุญาตนั้นไปพร้อมกับการยื่นคำขอ ๑.๓ กำหนดให้สุราที่จะส่งออกไปนอกราชอาณาจักรโดยได้รับยกเว้นภาษีสุรา เป็นสุราที่ได้รับการยกเว้นให้ทำการขนได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตขนสุรา ๑.๔ กำหนดเงื่อนไขในการจัดส่งสุราออกไปนอกราชอาณาจักรสำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตทำสุราซึ่งได้รับยกเว้นภาษีสุรา ๒. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการคืนภาษีสุราสำหรับสุราที่ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๒.๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๐๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ ๒.๒ ให้ผู้ส่งสุราออกไปนอกราชอาณาจักรโดยขอคืนค่าภาษีสุรายื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิต พร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่าสุราที่จะส่งออกไปนั้นได้เสียค่าภาษีสุราครบถ้วนแล้ว ๓. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มีสาระสำคัญคือ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖๒ (พ.ศ. ๒๕๑๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗๕ (พ.ศ. ๒๕๒๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓
|
||||||||||||||||||||||||
30958 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1084 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 (ป่าแดง) - ต่อเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชรควบคุม ที่บ้านดอนดู่ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 122 สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตอนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก พ.ศ. .... | คค | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘๔ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๗ (ป่าแดง) - ต่อเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชรควบคุมที่บ้านดอนคู่ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๒ สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตอนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘๔ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๗ (ป่าแดง) - ต่อเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชรควบคุม ที่บ้านดอนคู่ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๒ สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตอนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก ในท้องที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
30959 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาเกาะ อำเภอหล่มเก่า และตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำเฮี้ย ตำบลฝายนาแซงตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | กษ | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาเกาะ อำเภอหล่มเก่า และตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำเฮี้ย ตำบลฝายนาแซง ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาเกาะ อำเภอหล่มเก่า และตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำเฮี้ย ตำบลฝายนาแซง ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อก่อสร้างระบบส่งน้ำตามโครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำก้อ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตรกรรม การอุปโภคและบริโภค ตลอดจนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
30960 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ | 20/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นสมควรแก้ไขบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ เฉพาะในส่วนของเหตุผล ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ และให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แก้ไข ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบด้วยแล้ว เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ และมอบให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณา และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
.....