ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1543 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 30841 - 30860 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30841 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี การแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม | พณ | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ (เรื่อง การแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม) ในส่วนของข้อ ๒ จากเดิม “...และให้ประเมินสถานการณ์และผลกระทบต่าง ๆ แล้วรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาความจำเป็นในการนำเข้าเพิ่มเติมตามแต่กรณีต่อไป” เป็น “...และมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประเมินสถานการณ์และผลกระทบต่าง ๆ หากจำเป็นต้องนำเข้าเพิ่มเติมให้ดำเนินการนำเข้าครั้งละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ตัน และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบทันทีที่ได้ดำเนินการนำเข้า หากปรากฏว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงก็ให้ยุติการนำเข้าทันที” ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศให้เสร็จสิ้นก่อนที่ผลผลิตของผลปาล์มในฤดูกาลใหม่ออก เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาผลปาล์มในช่วงเวลาดังกล่าว การจัดทำแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในเรื่องการจัดสรรน้ำมันปาล์มที่จะต้องนำไปผสมกับน้ำมันดีเซลที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่จำเป็นจะต้องรองรับสถานการณ์เฉพาะหน้าของภาวะขาดแคลนน้ำมันปาล์มเพื่อใช้ในการบริโภค การพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารปาล์มน้ำมันที่ใช้เพื่อบริโภคและพลังงานร่วมระยะยาว และให้มีโปรแกรมการวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมันด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อให้ได้ปาล์มน้ำมันที่สามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันและปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถมีการเตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30842 | ขอถอนรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออกจากตำแหน่ง | ทก | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมพรต สาระโกเศศ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30843 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย | อก | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธนา พุฒรังษี เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30844 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม | อก | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน ๒ คน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายสิทธิพร ประวัติรุ่งเรือง ๒. นายกริชชัย อรุณวงษ์ ณ อยุธยา ผู้แทนองค์การเอกชน
|
|||||||||||||||||||||||||||
30845 | สรุปผลการตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง | วท | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ณ จังหวัดลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท และพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ ๕ - ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และเห็นชอบตามข้อเสนอแนะตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นควรให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมชลประทาน หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทบทวนการประสานงานในเรื่องการบริหารจัดการน้ำใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการลดการปล่อยน้ำอย่างกะทันหัน ว่าจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้านานเท่าใด และผลกระทบหรือจุดเสี่ยงจะเกิดขึ้นที่ไหน ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้คล้าย ๆ กับที่เกิดขึ้นเมื่อเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เริ่มการปล่อยน้ำโดยไม่มีการประสานงานอย่างเหมาะสม ทำให้น้ำท่วมที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ๑.๒ การขาดแคลนน้ำของชาวนาขณะนี้ เกิดขึ้นเพราะการประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ชาวนาเลื่อนฤดูการปลูกข้าวเร็วขึ้น ๑ เดือน ดังนั้น ความต้องการน้ำในระยะต้นจึงสูงมาก ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำอย่างฉับพลัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องปรับปฏิทินการส่งน้ำเสียใหม่ โดยมุ่งการส่งน้ำให้ถึงไร่นาในช่วงต้นของฤดูกาลเพาะปลูกให้ทันทุกพื้นที่ ๑.๓ การขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาของกรมเจ้าท่า มุ่งเน้นในเรื่องของการเดินเรือตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น การขุดลอกดังกล่าวจึงมุ่งไปที่การสร้างร่องน้ำถาวรเท่านั้น ยังไม่ใช่เป็นการขุดลอกเต็มลำน้ำเพื่อสนองนโยบายการเร่งระบายน้ำ จึงเห็นควรให้กรมเจ้าท่าปรับแผนการขุดลอกลำน้ำเสียใหม่ หรืออาจต้องมีการทบทวนให้เอกชนเข้ามาขุดลอกโดยการจ่ายเงินค่าทรายให้กับทางราชการ ๑.๔ การประกาศเขตภัยพิบัติของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นการประกาศอย่างหลวม (เหวี่ยงแห) หวังผลเพียงให้สามารถเบิกงบประมาณไปช่วยประชาชนที่เดือดร้อนเท่านั้น โดยมองข้ามผลกระทบทางด้านจิตวิทยา ทำให้มองคล้าย ๆ ว่า ภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งไม่ควรจะขาดแคลนน้ำกลับเกิดภัยแล้งขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่าบางจังหวัดเมื่อประกาศแล้วใช้เงินช่วยเหลือเพียง ๔๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ถึงกับต้องประกาศภัยแล้ง จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงระเบียบและข้อปฏิบัติเสียใหม่ เพื่อสามารถให้พื้นที่ ใช้หรือจ่ายงบประมาณช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้ โดยไม่ต้องพึ่งการประกาศเป็นเขตภัยแล้ง เพราะพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือจริงนั้นมีขนาดเล็ก ๒. กรณีการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้อธิบดี/ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องประกาศกำหนดพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติก่อน จึงจะสามารถเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้ ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับการเกิดภัยพิบัติจริง ดังนั้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ประกอบกับเพื่อให้การควบคุมการใช้จ่ายเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการปรับปรุงระเบียบ หลักเกณฑ์ และข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการใช้จ่ายงบกลางฯ ให้สำนักงบประมาณรายงานการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลางของแต่ละส่วนราชการและยอดเงินคงเหลือให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30846 | สถานการณ์สิ่งแวดล้อมจากการรั่วไหลของสารพิษในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง | ทส | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสถานการณ์การปนเปื้อนสารพิษในพื้นที่มาบตาพุด และมาตรการในการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ของประชาชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ สถานการณ์การปนเปื้อนสารพิษในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ได้เกิดเพลิงไหม้และการระเบิดขึ้นบริเวณโรงงาน บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ จำกัด นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยหน่วยการผลิตที่มีการใช้สารโทลูอีน (toluene) ในการล้างถัง จนเกิดการระเบิดและเพลิงไหม้ รวมทั้งมีการรั่วไหลของสารพิษและควันดำสู่บรรยากาศ โดยมีคนงานเสียชีวิต ๑๒ ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก และเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ได้เกิดกรณีฉุกเฉินจากอุบัติเหตุการปิดวาล์วสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ (สารฟอกขาว) จากโรงงานอดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้เกิดก๊าซคลอรีนรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ใต้ลมในแคมป์คนงานบริเวณใกล้เคียงกว่า ๑๔๐ ราย และนอกสังเกตอาการที่โรงพยาบาล ๑๒ ราย โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ๑.๒ มาตรการในการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ของประชาชน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาทิ การจัดประชุมเพื่อตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ทั้งน้ำ อากาศ และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ การดำเนินการทบทวนแผนปฏิบัติการฉุกเฉินและเตือนภัยจากสารพิษในระดับพื้นที่และชุมชน การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อแปรผลข้อมูลคุณภาพอากาศและเผยแพร่สู่ชุมชน การเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการในระดับต่าง ๆ การดำเนินโครงการจัดทำทำเนียบการปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Registers, PRTR) ในการดำเนินการจัดทำทะเบียนการปลดปล่อยมลพิษ และการฝึกอบรมการสื่อสารความเสี่ยงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนในพื้นที่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการดำเนินโครงการฯ การตรวจสอบการควบคุมและการป้องกันการรั่วไหลของสารมลพิษประเภทสารอินทรีย์ระเหยง่ายในโรงงานเป้าหมายที่มีการเก็บ การใช้ และการปลดปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่าย รวมทั้งการควบคุมดูแลการระบายมลพิษ เป็นต้น ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปดำเนินการตรวจสอบการออกใบอนุญาตประกอบกิจการอุตสาหกรรมของโรงงานที่ก่อให้เกิดเหตุก๊าซคลอรีนรั่วไหลในครั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เนื่องจากโรงงานดังกล่าวได้เคยเกิดเหตุในทำนองเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่ง ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อทบทวนมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งที่ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยต้องจัดให้มีแผนประเมินความเสี่ยง แผนการฝึกซ้อมการเผชิญเหตุ และแผนการอบรมพนักงานให้มีความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และให้มีการทบทวนใบอนุญาตของโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มาตรฐานทุก ๆ ๓ เดือน ๔. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) รับไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย เป็นต้น เพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์บัญชาการประจำจังหวัด (single command) ขึ้น โดยให้มีการบูรณาการแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุก ๆ ด้านไว้ด้วยกัน และให้ศูนย์บัญชาการดังกล่าวเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูล และได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และให้ส่วนกลางสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30847 | มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม 2555 | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจต้องเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนและประเทศกาตาร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๑๔ ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ซึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ แทน
|
|||||||||||||||||||||||||||
30848 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันพุธที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30849 | การแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีบางท่านลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าตามตลาดต่าง ๆ รอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้รับรายงานโดยสรุปพบว่าในภาพรวมราคาสินค้ามีทั้งที่มีราคาสูงขึ้นและมีราคาลดลงตามสถานการณ์และฤดูกาล สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ อาหารปรุงสำเร็จและพืชผัก เช่น มะนาว คะน้า เป็นต้น ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึก และไข่ไก่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าบางชนิดที่มีการปรับราคาสูงขึ้นตั้งแต่ในช่วงที่เกิดเหตุอุทกภัยที่ผ่านมาแล้ว และยังไม่มีการปรับลดลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อจัดทำตารางเปรียบเทียบราคาสินค้าแต่ละประเภทตามช่วงฤดูกาล และวางแผนการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรในฤดูกาลต่าง ๆ เอาไว้ล่วงหน้าให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งการดำเนินการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียและล้นตลาดด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ติดตามดูแลและควบคุมราคาสินค้าแต่ละรายการในความรับผิดชอบให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ๓. ให้รัฐมนตรีที่ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าตามตลาดต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าตามตลาดในสัปดาห์นี้ด้วย โดยให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำตารางกำหนดการลงพื้นที่ดังกล่าว และแจ้งให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินโครงการจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกเพื่อเป็นทางเลือกและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยขอความร่วมมือในการดำเนินโครงการในด้านสินค้าและสถานที่จัดงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30850 | การดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การจัดหาเงินทุนเพื่อดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๕๕) ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบการออกใบประทวนในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๕๕ ให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม แล้วให้จัดทำรายงานเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปด้วย นั้น เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับเงินจากการจำนำอย่างรวดเร็ว จึงให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการออกใบประทวนให้แก่เกษตรกรให้ถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยให้พิจารณาเพิ่มจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรให้มากยิ่งขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30851 | การจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ และวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ (เรื่อง การจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่) รับทราบเกี่ยวกับการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งจะเป็นการจัดประชุมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ และ ๒ และกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๑ - ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพหลัก นั้น เนื่องจากในช่วงวันดังกล่าวตรงกับวันที่รัฐสภาจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเห็นชอบให้เลื่อนกำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี จากเดิมวันที่ ๒๑ - ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นวันที่ ๑๙ - ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕
|
|||||||||||||||||||||||||||
30852 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลสามกระทาย ตำบลหาดขาม ตำบลกุยเหนือ และตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30853 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม 2555 | อก | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสามารถฟื้นฟูและเริ่มกลับมาผลิตแล้ว ขณะที่อุตสาหกรรมผลิตเครื่องนุ่งห่มที่ได้รับผลกระทบจากค่าจ้างที่ปรับสูงขึ้นคาดว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตไปยังกัมพูชา ลาว และพม่า ซึ่งมีต้นทุนค่าจ้างถูกกว่ามาก ในส่วนของการจำหน่ายในประเทศคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปแนวแฟชั่น สำหรับปัจจัยเสี่ยงของอุตสาหกรรมการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในตลาดส่งออกหลักอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่ยังชะลอตัว รวมถึงตลาดส่งออกที่มีการแข่งขันมากขึ้น ๒. อุตสาหกรรมรถยนต์ โรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเป็นฐานการผลิตรถยนต์ Honda ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย มีกำลังการผลิตรถยนต์รวม ๒๔๐,๐๐๐ คันต่อปี
|
|||||||||||||||||||||||||||
30854 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการจัดซื้อสารต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์ 60 จำนวน 400,000 คูรี | วท | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันในการจัดซื้อสารต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์ ๖๐ จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ คูรี ข้ามปีงบประมาณ จากเดิม เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๖๐,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๐,๙๙๑,๖๐๐ บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๔๓,๙๖๖,๐๐๐ บาท และใช้จ่ายจากเงินรายได้ของสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สมทบ จำนวน ๕,๘๔๒,๔๐๐ บาท ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30855 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. การจัดประเภทตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) พ.ศ. .... | ศธ | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.ค.ศ. การจัดประเภทตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎ ก.ค.ศ. ฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ให้ยกเลิกกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการกำหนดระดับตำแหน่ง และการให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) มีสองประเภท คือ ประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป ๓. กำหนดให้ตำแหน่งประเภทวิชาการมีสี่ระดับ และตำแหน่งประเภททั่วไปมีสามระดับ ๔. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทใด สายงานใด และระดับใด ให้ได้รับเงินเดือนตามตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับนั้น ในขั้นต่ำของระดับเงินเดือนสำหรับตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับ ที่ได้รับแต่งตั้งตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน เว้นแต่กรณีที่กำหนด ๕. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส และตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนตามที่กำหนด ๖. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ๗. กำหนดให้ข้าชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสายงานตามบัญชีกำหนดสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งท้ายกฎ ก.ค.ศ. นี้ ในตำแหน่งประเภทใดและระดับใด ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||
30856 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและปัญหาเร่งด่วนของสาธารณสุข" | สว | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและปัญหาเร่งด่วนของสาธารณสุข” และผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้
๑. ความเสี่ยงของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการบริหารจัดการงบประมาณหลักประกันสุขภาพ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในวิกฤติทางการเงินของโรงพยาบาลรัฐ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติศึกษาข้อเท็จจริงว่า งบประมาณในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้รับอุดหนุนจากรัฐเพียงพอในการช่วยเหลือโรงพยาบาลต่าง ๆ หรือไม่ และการบริหารจัดการงบประมาณมีประสิทธิภาพเพียงใด ควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และการบริหารจัดการอย่างไร รวมทั้งพิจารณาจากรายงานการเงินของกองทุนย่อยทุกประเภท หากพบว่า กองทุนใดมียอดคงเหลือที่มีความจำเป็นไม่มาก ควรปรับเกลี่ยเงินจากกองทุนนั้น ๆ ไปช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในพื้นที่ที่ขาดแคลนก่อน หากไม่เพียงพอจึงเสนอรัฐจัดหางบประมาณสนับสนุนให้โรงพยาบาลผ่านวิกฤติการณ์ ๒. ปัญหาวิกฤติการเงินโรงพยาบาลภาครัฐสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้มีความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในการวิเคราะห์ปัญหาค่าใช้จ่ายที่ไม่เพียงพอ โดยจัดทำข้อมูลบัญชีรายงานการเงินที่มีมาตรฐานตรงกันเพื่อแสดงความขาดแคลนให้ชัดเจนในการสนับสนุนจากรัฐบาล ๓. ปัญหาค่าใช้จ่ายในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นภาระกับงบประมาณของแผ่นดินอย่างมาก ให้ทบทวนความจำเป็นและผลกระทบของการหักเงินเดือนในงบเหมาจ่ายรายหัว ซึ่งบัญญัติไว้ในกฎหมายหลักประกันสุขภาพ โดยเสนอให้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวไม่รวมเงินเดือน เพื่อเพิ่มเม็ดเงินชดเชยค่าใช้จ่ายของสถานบริการให้เพียงพอตามความเป็นจริง และในระหว่างกฎหมายยังไม่ได้รับการแก้ไข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรพิจารณาปรับลดสัดส่วนการหักเงินเดือนหรือจัดให้มีการหักเงินเดือนระดับประเทศเพื่อบรรเทาปัญหาวิกฤตทางการเงินในโรงพยาบาลของรัฐ ๔. ปัญหาผลกระทบของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... ต่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรทบทวนนโยบายการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยบริการต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของหน่วยบริการ ๕. นโยบายเรื่องการขยายสิทธิประกันสังคมแก่คู่สมรสและผู้ประกันตน การแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์แบบ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการจัดงบชดเชยในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยใช้ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำเป็นฐานในการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้กับสถานบริการ มีการกำหนดการจัดทำต้นทุนต่อหน่วยที่เป็นธรรม ๖. สรุปผลการพิจารณาศึกษาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและปัญหาเร่งด่วนของสาธารณสุข ทางเลือกเพื่อเป็นการลดภาระทางการเงินการคลังของภาครัฐในระยะยาว ควรพิจารณานำแนวทางการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมมาดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30857 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยกำหนดให้รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับไปดำเนินการแก้ไขถ้อยคำในคำปรารภของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพื่อให้มีความชัดเจน และตรงตามเนื้อหาสาระของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น จากเดิม “โดยที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๓ ให้มีความเหมาะสมและขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” แก้ไขเป็น “โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๓ ในส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น” ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30858 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมคิด ศริ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30859 | การอนุมัติให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ 99 รูป งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก เพื่อฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว | พศ | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ๙๙ รูป งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก เพื่อฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤษภาคม - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ รวม ๑๕ วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเป็นกรณีพิเศษ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30860 | การจัดประชุมสามัญประจำปีสมาคมอัยการระหว่างประเทศ ครั้งที่ 17 | อส | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมอัยการระหว่างประเทศ (The Executive Committee Meeting) ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ โรงแรม Royall Cliff Beach Resort เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และการจัดการประชุมสามัญประจำปีสมาคมอัยการระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๑๗ (The 17th IAP Annual Conference and General Meeting) ระหว่างวันที่ ๒๘ ตุลาคม - ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ (Bangkok Convention Center at Centralworld) กรุงเทพมหานคร ในนามราชอาณาจักรไทย สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดการประชุมฯ มีดังนี้ ๑.๑ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมอัยการระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างพนักงานอัยการในระดับผู้บริหาร ๑.๒ เพื่อส่งเสริมกระบวนการการดำเนินคดีอาญาให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ยุติธรรม และเป็นกลาง ตลอดจนส่งเสริมมาตรฐานและหลักเกณฑ์ระดับสูงในการบริหารจัดการงานยุติธรรมทางอาญา รวมถึงกระบวนการในการป้องกันหรือจัดการปัญหาความผิดพลาดในหลักนิติธรรม ๑.๓ เพื่อช่วยเหลืออย่างเป็นสากลให้กับพนักงานอัยการในการต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมหรืออาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ ในแง่มุมของการดำเนินคดีอย่างเหมาะสม เป็นอิสระ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ๑.๔ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ และสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานอัยการระดับบุคคล ระดับสำนักงาน ระดับระหว่างประเทศ ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศ และหน่วยงานยุติธรรมอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยน และการเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ระหว่างกัน และเพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีข้อมูลข่าวสารอย่างเพียงพอและคล่องตัวในการปราบปรามอาชญากรรมต่าง ๆ ให้สำเร็จบรรลุผล ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้วย |
.....