ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1546 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30901 - 30920 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30901 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลสองห้อง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของวัดข่อยใต้ ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลสองห้อง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของวัดข่อยใต้ ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลสองห้อง อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของวัดข่อยใต้ ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ให้แก่กรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างคลองระบายน้ำสายใหญ่มหาราช ๒ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30902 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกห้าปีจำนวน 1 ฉบับ) | มท | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านแพรก - โรงช้าง - มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไปอีกห้าปีเพิ่มขึ้น จำนวน ๑ ฉบับ จากระยะเวลาการใช้บังคับเดิม ๕ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๐ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นขยายระยะเวลาการใช้บังคับ ๕ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30903 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดสุวรรณประดิษฐ์ ตำบลหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดสุวรรณประดิษฐ์ ตำบลหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดสุวรรณประดิษฐ์ ตำบลหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ สายต่อทางของเทศบาลนครเชียงใหม่ควบคุม - ต่อเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนควบคุม ตอนต่อเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ควบคุม - อำเภอสันป่าตอง ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30904 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่ธรณีสงฆ์ วัดท่าฉนวน ตำบลท่าฉนวน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่ธรณีสงฆ์ วัดท่าฉนวน ตำบลท่าฉนวน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนที่ธรณีสงฆ์ วัดท่าฉนวน ตำบลท่าฉนวน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๙๓ สายต่อเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีควบคุม - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖๕ (บางระกำ) ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30905 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดด่านแม่คำมัน ตำบลด่านแม่คำมัน อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดด่านแม่คำมัน ตำบลด่านแม่คำมัน อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนที่วัด วัดด่านแม่คำมัน ตำบลด่านแม่คำมัน อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๑๑๙๖ สายแยกทางหลวงหมายเลข ๑๐๔ (วังโป่ง) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๒ (ด่านแม่คำมัน) ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30906 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏสงขลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาและสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30907 | ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ | มท | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ (เรื่อง ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ) โดยแจ้งให้จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก เร่งดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ อย่างจริงจัง โดยให้มีการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ดังนี้
๑. ให้มีการบูรณาการแผนการทำงานทั้งระดับจังหวัด/กลุ่มจังหวัด และตามยุทธศาสตร์/มาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ อย่างจริงจัง ๒. ให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันตระหนักในผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อม สุขภาพร่างกายของประชาชน รวมถึงบรรยากาศด้านการท่องเที่ยว ๓. มีการกำหนดโซนให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบและร่วมกันดูแลป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการเผาป่าอย่างเคร่งครัดและจริงจัง ๔. ให้ปรับแนวทางปฏิบัติโดยให้อำเภอประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนฉีดพ่นน้ำในพื้นที่บ้านเรือนและพื้นที่ปลูกต้นไม้หน้าบ้านพักอาศัย สวนสาธารณะ สวนหย่อม บริเวณทางลอด ทางร่วม ทางแยก และแหล่งก่อให้เกิดมลพิษทางด้านอากาศอื่น ๆ ๕. ให้จังหวัดรายงานสถานการณ์หมอกควันต่อนายกรัฐมนตรีทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ๖. สำหรับการรายงานสถานการณ์ไฟไหม้ป่าและหมอกควันในพื้นที่ และการรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของจังหวัด จังหวัดยังคงต้องรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบทุกวันจันทร์ของสัปดาห์เช่นเดิม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30908 | การกู้เงินเพื่อทดแทนพันธบัตรเดิมที่ครบกำหนดของธนาคารอาคารสงเคราะห์ | กค | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กู้เงินในประเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๒๑,๑๐๐ ล้านบาท เพื่อทดแทนพันธบัตรเดิมที่ครบกำหนดในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน ๑.๒ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน และการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ๒. ให้ ธอส. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในสภาวะปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงจากธนาคารพาณิชย์เอกชน เห็นควรให้ ธอส. รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น ๆ ของรัฐ เร่งปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดต้นทุนในการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรักษาส่วนแบ่งตลาด และเป็นกลไกที่สำคัญในการสนับสนุนนโยบายของรัฐต่อไป รวมทั้งพิจารณาปรับโครงสร้างอายุของทรัพย์สินและหนี้สินให้มีความสอดคล้องกัน อาทิ การขยายฐานเงินฝากไปสู่กลุ่มผู้ฝากเงินรายย่อยให้มากขึ้น และเพิ่มการระดมทุนระยะยาว เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่องและสร้างความแข็งแกร่งของ ธอส. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30909 | มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทย | กค | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้แก่ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยและได้รับเงินปันผลจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศอันเนื่องมาจากหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน ที่มีการซื้อขายผ่านระบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้นเพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรศึกษาผลกระทบต่อรายได้รัฐและผลประโยชน์โดยรวมของประเทศจากการยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อประเมินความคุ้มค่าจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงระบบภาษีของประเทศ และการบรรลุเป้าหมายงบประมาณสมดุลภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยนำผลการศึกษารายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30910 | มาตรการภาษีเพื่อให้ผู้ขายบุหรี่ที่ผลิตภายในประเทศเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ภายใต้กระบวนการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก | กค | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อให้ผู้ขายบุหรี่ที่ผลิตภายในประเทศเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ภายใต้กระบวนการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก โดยมีหลักการ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้การประกอบกิจการขายบุหรี่ที่ผลิตภายในประเทศเป็นกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยการยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายบุหรี่ซิกาแรตที่ผลิตโดยผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบที่เป็นองค์การของรัฐบาล โดยผู้ขายที่มิใช่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบที่ผลิตสินค้าดังกล่าว แต่ไม่รวมถึงผู้ขายที่เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร ๑.๒ ให้กฎหมายใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาในการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มและเตรียมความพร้อมระบบคอมพิวเตอร์ ๑.๓ ให้ผู้ประกอบการที่เดิมเคยได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายบุหรี่ที่ผลิตในประเทศที่มีรายรับเกิน ๑.๘ ล้านบาท ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายบุหรี่ซิกาแรตที่ผลิตโดยผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบที่เป็นองค์การของรัฐบาล โดยผู้ขายที่มิใช่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบที่ผลิตสินค้าดังกล่าว แต่ไม่รวมถึงผู้ขายที่เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร ตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๔๐๘) พ.ศ. ๒๕๔๕ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30911 | หนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุบันทึกความเข้าใจโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการสาธารณสุข (มาลาเรีย) ครั้งที่ 2 | กต | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุบันทึกความเข้าใจโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการสาธารณสุข (มาลาเรีย) ครั้งที่ ๒ เพื่อต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ โดยเนื้อหาของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฉบับนี้เหมือนกับหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ ครั้งที่ ๑ ๑.๒ อนุมัติให้พลเอก วาภิรมย์ มนัสรังสี รองสมุหราชองครักษ์ เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฝ่ายไทย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ ครั้งนี้ ได้ขยายความช่วยเหลือเพื่อให้ครอบคลุมถึงโรคอื่น ๆ ที่มียุงเป็นพาหะ อาจทำให้งบประมาณในการดำเนินการเพิ่มมากขึ้น จึงควรกำหนดขอบเขตในเรื่องพื้นที่และระยะเวลาในการดำเนินงาน รวมทั้งชื่อโรคในพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกต่อการประมาณการค่าใช้จ่ายของโครงการฯ ในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินโครงการฯ ช่วงที่ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาสนับสนุนงบประมาณให้กรมราชองครักษ์ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รายการเงินอุดหนุนการให้ความช่วยเหลือและความร่วมมือทางด้านวิชาการและเศรษฐกิจแก่ต่างประเทศ จำนวน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||||||||
30912 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวปองใจ วิรารัตน์ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านทันตกรรม กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ ๒. นางศรีประพา เนตรนิยม ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาวัณโรค) สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ๓. นางสาวนิพรรณพร วรมงคล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านส่งเสริมสุขภาพ) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๔. นายชาญวิทย์ ทระเทพ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ |
||||||||||||||||||||||||||||||
30913 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ดังนี้
๑. กำหนดให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจยื่นคำร้องขอรังวัดต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายที่ดินแทนเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้ ๒. กำหนดให้การขอขยายระยะเวลาในการพิจารณากำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์และจำนวนเงินค่าทดแทนให้ขยายออกไปอีกได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ๓. กำหนดให้ผู้มีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนจากคณะรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรี ๔. กำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิร้องขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืนโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างที่เหลืออยู่ซึ่งใช้การไม่ได้ และกำหนดระยะเวลาการพิจารณาคำร้องของเจ้าหน้าที่ ๕. กำหนดหลักเกณฑ์การร้องขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืนหรือจัดซื้อที่ดินส่วนที่เหลือและใช้การไม่ได้ ตลอดจนกำหนดระยะเวลาการยื่นคำร้องและกำหนดสิทธิอุทธรณ์ ๖. กำหนดขยายระยะเวลาการวินิจฉัยอุทธรณ์ของรัฐมนตรีจากหกสิบวันเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ๗. กำหนดสิทธิฟ้องคดีต่อศาลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ๘. กำหนดให้รัฐคืนอสังหาริมทรัพย์ให้เจ้าของเดิมหรือทายาท ในกรณีที่อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนภายในระยะเวลาที่กำหนดในพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ หรือในกรณีที่รัฐไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนอีกต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
30914 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ | มท | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการใหม่ ๔ โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๔๕,๙๓๙,๒๐๐ บาท ส่วนงบประมาณในการดำเนินให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ประสานกับเทศบาลนครเชียงใหม่และสำนักงบประมาณ ประกอบด้วย ๑.๑ โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจรถนนราชดำเนิน วงเงิน ๑๔,๒๓๐,๐๐๐ บาท ๑.๒ โครงการปรับปรุงและซ่อมแซมก่อสร้างสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่และลานกีฬาภายในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ วงเงิน ๘,๑๘๐,๐๐๐ บาท ๑.๓ โครงการติดตั้งตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ATC และระบบบันทึกภาพภายในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ วงเงิน ๑๙,๒๘๙,๒๐๐ บาท ๑.๔ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ไฟฟ้าแสงสว่างและพัฒนาภูมิทัศน์คูเมือง วงเงิน ๔,๒๓๐,๐๐๐ บาท ๒. โดยที่โครงการอุทยานการเรียนรู้แห่งใหม่ของเทศบาลนครเชียงใหม่มีความสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตของภูมิภาค และมีความจำเป็นต่อการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบกับโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายในการดำเนินงานสอดคล้องกับสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ : สบร. (Office of Knowledge Management and Development : OKMD) ซึ่งปัจจุบันได้มีการขยายพื้นที่ให้บริการความรู้สู่ภูมิภาค รวมถึงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยแล้ว จึงมอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางนลินี ทวีสิน) ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ และกระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยในเรื่องสถานที่ก่อสร้างให้ประสานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนเรื่องงบประมาณดำเนินการให้ประสานกับสำนักงบประมาณต่อไป ๓. ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงโครงการอุทยานการเรียนรู้ใหม่ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ทั้งการยกระดับเนื้อหาสาระโครงการและขอบเขตการให้บริการให้ครอบคลุมระดับภูมิภาค รวมทั้งการจัดหาที่ตั้งโครงการที่เหมาะสม โดยประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ภาคเอกชนและหน่วยราชการในพื้นที่ และผลักดันการดำเนินโครงการให้เกิดประสิทธิผลต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||||||||
30915 | ร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | กษ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้จัดตั้งการยางขึ้นเรียกว่า “การยางแห่งประเทศไทย” เรียกโดยย่อว่า “กยท.” เป็นนิติบุคคล มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร บริหารจัดการเกี่ยวกับการเงินกองทุนพัฒนายางพารา ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา จัดให้มีการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนา และเผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศเกี่ยวกับยางพารา ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยาง ด้านวิชาการ การเงิน การผลิต การแปรรูป การอุตสาหกรรม การตลาด การประกอบธุรกิจ ดำเนินการให้ระดับราคายางพารามีเสถียรภาพ และดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนและการปลูกใหม่ ๑.๒ กำหนดแหล่งที่มาของทุนของ กยท. และแหล่งที่มาของรายได้ของ กยท. รวมทั้งกำหนดให้รายได้ที่ กยท. ได้รับจากการดำเนินงานให้ตกเป็นของ กยท. สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ กำหนดให้ทรัพย์สินของ กยท. และกองทุนไม่อยู่ในความรับผิดชอบแห่งการบังคับคดี และ กยท. มีอำนาจในการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้ จำหน่าย และจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของ กยท. ๑.๓ กำหนดให้มีคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย มีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ กยท. และให้คณะกรรมการเป็นผู้แต่งตั้งและกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้ว่าการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี โดยผู้ว่าการมีหน้าที่บริหารกิจการของ กยท. และมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้าง ๑.๔ กำหนดให้ผู้ที่จะได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนตามพระราชบัญญัตินี้ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่มีต้นยางอายุกว่ายี่สิบห้าปีขึ้นไป หรือต้นยางทรุดโทรมเสียหายหรือต้นยางได้ผลน้อยตามหลักเกณฑ์ที่ กยท. กำหนด ๑.๕ กำหนดให้ผู้ที่ไม่มีสวนยางมาก่อนและมีที่ดินเป็นของตนเองไม่น้อยกว่าสองไร่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกใหม่ และให้เกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางที่ประสงค์จะขอรับการส่งเสริม สนับสนุน และความช่วยเหลือในด้านวิชาการ การเงิน การแปรรูป การอุตสาหกรรม การตลาด และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับยางพาราขอรับการส่งเสริมตามแบบและวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ๑.๖ กำหนดให้จัดตั้งกองทุนขึ้นใน กยท. เรียกว่า “กองทุนพัฒนายางพารา” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนายางพารา ๑.๗ กำหนดให้บุคคลซึ่งส่งยางพาราออกนอกราชอาณาจักรต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ กยท. การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและการยกเว้นค่าธรรมเนียมจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน และหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๑.๘ กำหนดสัดส่วนในการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และให้การบริหารและจัดสรรเงินจากกองทุนเป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ๑.๙ กำหนดให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชี ทำการตรวจสอบรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของ กยท. ๑.๑๐ กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ กยท. และกำหนดให้ กยท. ทำรายงานปีละครั้งเสนอต่อรัฐมนตรี ๒. เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายและเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางอย่างยั่งยืน ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของสมาคมหรือสถาบันที่เกี่ยวข้องกับชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางในการเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมและได้รับการยอมรับเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และในการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนายางพารา ควรให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรรายย่อยและสถาบันเกษตรกรให้สามารถผลิตและแปรรูปยางพาราที่มีคุณภาพและจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม ควบคู่กับการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดยางพาราตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางไปสู่สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสและมีมูลค่าสูง รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยางในทุกระดับเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางในระยะต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
30916 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. .... | คค | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เพื่อขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๓๘ กับทางหลวงชนบท ลย. ๔๐๐๙ บริเวณบ้านท่าข้าม เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30917 | รายงานการใช้งบลงทุนกรณีฉุกเฉินของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2554 [การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)] | นร | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการใช้งบลงทุนกรณีฉุกเฉินของรัฐวิสาหกิจประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ [การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)] ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. คณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เห็นชอบให้ กฟภ. เพิ่มเติมงบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติกรณีฉุกเฉิน วงเงินดำเนินการ ๗๘๔.๒๗ ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ทำให้ กฟภ. ได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไข ซ่อมแซม และจัดหาอุปกรณ์ไฟฟ้าทดแทนของเดิมให้สามารถจ่ายไฟฟ้ากลับคืนให้แก่ผู้ใช้ไฟและผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ ซึ่งคณะทำงานฟื้นฟูระบบการจ่ายไฟภายในสถานีไฟฟ้าเพื่อเตรียมการจ่ายไฟหลังสถานการณ์น้ำลดของ กฟภ. ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เช่น สวิตซ์เกียร์ หม้อแปลง รีเลย์ เป็นต้น นอกจากนี้ สถานีไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายต้องก่อสร้างใหม่ทดแทนสถานีเดิม ได้แก่ สถานีไฟฟ้าบางพระครูภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสถานีไฟฟ้าบางกะดีภายในสวนอุตสาหกรรมบางกระดี จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสถานีไฟฟ้าที่ต้องดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุง รวมทั้งสิ้น ๑๖ สถานี ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถจ่ายไฟฟ้ากลับคืนให้แก่ผู้ใช้ไฟและผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ ๒. คณะกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้เห็นชอบให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ใช้งบลงทุนกรณีฉุกเฉิน วงเงินดำเนินการจำนวน ๓๖๓.๕๐ ล้านบาท เพื่อจัดหาอุปกรณ์ชุมสาย สื่อสัญญาณ ข่ายสาย และอุปกรณ์การกำลัง ทดแทนของเดิมที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จึงมีความจำเป็นต้องเร่งจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้การบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30918 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 วรรคสี่ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (รายการเช่าอาคารเพื่อเป็นที่ทำการ สำนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานซิดนีย์) | กก | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ สำหรับการเช่าอาคารที่ทำการ ททท. สำนักงานซิดนีย์ จากเดิม ๓๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๓๖,๖๔๗,๖๐๐ บาท ดังนี้ ๑.๑ ค่าเช่าปีที่ ๑ (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕) จำนวน ๖,๗๑๗,๐๐๐ บาท ๑.๒ ค่าเช่าปีที่ ๒ (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖) จำนวน ๗,๐๒๒,๒๐๐ บาท ๑.๓ ค่าเช่าปีที่ ๓ (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗) จำนวน ๗,๓๑๐,๖๐๐ บาท ๑.๔ ค่าเช่าปีที่ ๔ (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘) จำนวน ๗,๖๓๑,๗๐๐ บาท ๑.๕ ค่าเช่าปีที่ ๕ (วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙) จำนวน ๗,๙๕๖,๑๐๐ บาท ๒. สำหรับงบประมาณส่วนที่ต้องใช้เพิ่มเติมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๕๑๗,๐๐๐ บาท ให้ ททท. ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มาดำเนินการ และส่วนที่ต้องใช้เพิ่มเติมในการผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๙ จำนวน ๕,๑๓๐,๖๐๐ บาท ให้ ททท. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
30919 | ร่างกฎกระทรวงสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว พ.ศ. .... | พน | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดบทนิยามคำว่า “สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว” “อาคารบริการ” “เขตสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว” “เขตบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว” “บริเวณอันตราย” เป็นต้น ๑.๒ กำหนดลักษณะและระยะปลอดภัยของสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวให้แก่ยานพาหนะทางบกที่ติดตั้งถังก๊าซรถยนต์ ระยะห่างจากสถานที่สำคัญ ๆ กำหนดจุดเริ่มต้น ระยะห่างระหว่างทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะ และกำหนดเขตพื้นที่ห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นใด ๑.๓ กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งถังเก็บและจ่ายก๊าซ การวางระบบท่อก๊าซ การติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับถังเก็บและจ่ายก๊าซ หัวจ่ายก๊าซและสายหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว การตั้งตู้จ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวในสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว ๑.๔ กำหนดให้บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซรถยนต์ได้ไม่เกินร้อยละ ๘๕ ของความจุของถังก๊าซรถยนต์ กำหนดห้ามบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซหุงต้มภายในสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว กำหนดวิธีปฏิบัติในการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากถังขนส่งก๊าซทางบก ๑.๕ กำหนดบริเวณอันตรายของสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการก๊าซปิโตรเลียมเหลวยื่นหนังสือขอรับการตรวจสอบและหนังสือรับรองการปฏิบัติจากผู้ทดสอบและตรวจสอบ เมื่อติดตั้งระบบไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าเสร็จแล้ว ๑.๖ กำหนดระบบการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว วิธีปฏิบัติเมื่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวรั่ว กำหนดห้ามกระทำการใด ๆ ที่อาจเกิดเปลวไฟหรือประกายไฟในสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว กำหนดให้ติดตั้งเครื่องส่งเสียงดังเมื่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวรั่วไว้ที่บริเวณที่ตั้งถังเก็บและจ่ายก๊าซและบริเวณตู้จ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวอย่างน้อยบริเวณละหนึ่งเครื่อง ๑.๗ กำหนดเขตสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวของสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้รับอนุญาตแล้ว ก่อนกฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ถือเป็นเขตบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงนี้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดทิศทางลมเพื่อตรวจสอบทิศทางของการแพร่กระจายของก๊าซปิโตรเลียมเหลวกรณีเกิดการรั่วไหล การกำหนดแผนปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินซึ่งมีรายละเอียดของแผนอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย และการซ้อมแผนฉุกเฉินตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนผู้มาใช้บริการและผู้อยู่อาศัยโดยรอบ รวมทั้งการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการตรวจทดสอบความปลอดภัยของถังเก็บก๊าซและอุปกรณ์ส่วนควบที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ นอกจากนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวทราบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ และวิธีการในการประกอบกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ที่ผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวพึงมีตามกฎหมาย การจัดทำระบบการติดตามประเมินผลการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าว และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการทราบเกี่ยวกับช่องทางในการร้องเรียนกรณีสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและร่วมหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่างกฎกระทรวงฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
30920 | ร่างพระราชบัญญัติความลับทางการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 29/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติความลับทางการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๕ ดังนี้
๑. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการความลับทางการค้า โดยกำหนดให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่งและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับกรรมการโดยตำแหน่งประกอบด้วยข้าราชการประจำของหน่วยงานที่รับผิดชอบและมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับพระราชบัญญัติความลับทางการค้าฯ โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรและเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ๒. ยกเลิกลักษณะต้องห้ามของกรรมการตามมาตรา ๑๗ ๓. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่ง เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขโครงสร้างของคณะกรรมการ และกำหนดเพิ่มเติมให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระดำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ๔. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ วิธีการประชุมของคณะกรรมการ และกำหนดให้กรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมโครงสร้างของคณะกรรมการ ๕. แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ในการดูแลรักษาความลับทางการค้า และผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัตินี้ โดยยกเลิกอัตราโทษขั้นต่ำ เพื่อให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษได้ตามความหนักเบาของลักษณะการกระทำความผิด และใช้ดุลพินิจในการรอการลงอาญาได้ในกรณีที่ศาลลงโทษจำคุกไม่เกินสามปี ตามมาตรา ๕๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา และลดอัตราโทษในมาตรา ๓๔ เป็น “จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” รวมทั้งปรับปรุงอัตราโทษในมาตรา ๓๕ เป็น “จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
|
.....