ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1522 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30421 - 30440 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30421 | การประดับธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 และตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 | นร | 29/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ และตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเมื่อมีการผลิตเป็นธงตราสัญลักษณ์แล้ว ก็สามารถนำมาประดับในโอกาสอันเป็นมงคลต่าง ๆ ได้ต่อไป ทั้งนี้ เชิญชวนให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ ตลอดจนภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าประดับธงตราสัญลักษณ์ดังกล่าวในโอกาสอันเป็นมงคลต่าง ๆ โดยพร้อมเพรียงกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30422 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสมรัก ชูวานิชวงศ์) | สธ | 29/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวเบญจพร ปัญญายง ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๓ ๒. นางสมรัก ชูวานิชวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
30423 | สรุปสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2555 | กษ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เสนอ โดย ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำทั้งหมด จำนวน ๓๗,๗๕๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๔ ของความจุอ่างฯ (ปริมาตรน้ำใช้การได้ จำนวน ๑๔,๒๕๓ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของความจุอ่างฯ) มีปริมาตรน้ำไหลลงอ่าง จำนวน ๔๕.๓๗ ล้านลูกบาศก์เมตร และปริมาตรน้ำระบาย จำนวน ๑๒๐.๗๔ ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเปรียบเทียบย้อนหลัง ๓ ปี (ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๔) ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่ามีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รวมทั้งประเทศ คิดเป็นร้อยละ ๕๕, ๔๙, ๕๓ ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
30424 | คณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์ | สธ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติองค์ประกอบของคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจัยและค่าบริการทางการแพทย์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕) เป็นต้น ดังนี้
๑. องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นรองประธานกรรมการ หัวหน้าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารยา เวชภัณฑ์ และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์เป็นกรรมการ โดยมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ ๒. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ๒.๑ จัดทำข้อเสนอระบบบริหาร ยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง รับไปเป็นแนวทางดำเนินการปฏิบัติต่อไป ๒.๒ จัดทำข้อเสนอระบบตรวจสอบ ติดตามในการเบิกจ่าย ยา เวชภัณฑ์ ค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์ที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืนต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง รับไปดำเนินการปฏิบัติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30425 | ขอเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (นายวีรพงษ์ รามางกูร) | กค | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
30426 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชัยยง กฤตพลชัย ฯลฯ) | อก | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายประพัฒน์ วนาพิทักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ๒. นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ๓. นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ๔. นายชัยยง กฤตผลชัย ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ๕. นายโสภณ ผลประสิทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||
30427 | ขอความเห็นชอบร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. .... | คค | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างข้อบังคับฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้ยกเลิกข้อบังคับ รฟม. ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับ การยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒. ค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล จากเดิมเริ่มต้นที่ ๑๕ บาท สูงสุด ๔๐ บาท เปลี่ยนเป็น เริ่มต้นที่ ๑๖ บาท สูงสุด ๔๐ บาท ๓. กำหนดให้คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยมีอำนาจออกประกาศลดหรือยกเว้นอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า ได้เป็นครั้งคราวเพื่อส่งเสริมการใช้บริการรถไฟฟ้า หรือเพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||
30428 | การรับรองร่างคำแถลงการณ์ร่วมสำหรับการเยือนเครือรัฐออสเตรเลียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | กต | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ในหลักการ ซึ่งจะมีการรับรองโดยนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ในระหว่างการเยือนเครือรัฐออสเตรเลียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยร่างคำแถลงการณ์ร่วมมีสาระสำคัญเพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมและแสดงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและออสเตรเลียในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้ก้าวไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในมิติด้านความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน การค้า การลงทุน การศึกษา การบริหารจัดการภัยพิบัติ พลังงาน ความปลอดภัยด้านอาหาร ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในระดับภูมิภาคและในเวทีระหว่างประเทศ ๒. อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองคำแถลงการณ์ร่วม ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างคำแถลงการณ์ร่วมในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
|
||||||||||||||||||||||||
30429 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๐๕ โดยน้ำหนัก ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ออกไปอีก ๑ เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
30430 | ผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้งที่ 4/2555 | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้งที่ ๔/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (กกร.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ๒. เห็นชอบตามมติที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้งที่ ๔/๒๕๕๕ ณ จังหวัดกาญจนบุรี และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามมติที่ประชุมและรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนี้ ๒.๑ ข้อเสนอของ กกร./สทท. จำนวน ๙ เรื่อง ได้แก่ ๒.๑.๑ การพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการสนับสนุนการพัฒนาโครงการดังกล่าว และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนพัฒนาความเชื่อมโยงของไทยกับท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย รวมทั้งบูรณาการแผนงานและโครงการโดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒.๑.๒ การเร่งรัดการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงภาคตะวันตก ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการพัฒนาท่าเรือทวายและการเปิดด่านบ้านพุน้ำร้อน พร้อมทั้งจัดลำดับความสำคัญของถนนสายทางหลักและสายทางรอง และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๓ การเตรียมความพร้อมรองรับการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจ Southern Economic Corridor (SEC) ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และจังหวัดกาญจนบุรี ประสานงานกับรัฐบาลเมียนมาร์ในการเร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราว และเจรจาเพื่อขอเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรีต่อไป ๒.๑.๔ การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนไทย - เมียนมาร์ ที่ประชุมมีมติ ดังนี้ ๒.๑.๔.๑ ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องของพื้นที่ที่มีศักยภาพในการยกระดับเป็นจุดผ่านแดนระหว่างไทย - เมียนมาร์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเจรจากับรัฐบาลเมียนมาร์ ๒.๑.๔.๒ รับทราบแนวทางการดำเนินงานของกองกำลังสุรสีห์ กระทรวงกลาโหม ในการแก้ไขปัญหาร่วมกับเมียนมาร์ เพื่อให้มีการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวพระเจดีย์สามองค์ และเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความพร้อม เห็นควรส่งเรื่องให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาความเหมาะสมในการยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวร และให้กระทรวงกลาโหมประสานกับกระทรวงมหาดไทยในด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด ๒.๑.๔.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ติดตามและประเมินสถานการณ์การพัฒนาในเมียนมาร์ ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง หากเห็นสมควรให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าตะโกบนให้ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๔.๔ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาผลกระทบจากการเปิดจุดผ่านแดนระหว่างไทย - เมียนมาร์ โดยเฉพาะการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาความสามารถแข่งขันของสินค้าเกษตรไทย ๒.๑.๕ โครงการลดการสูญเสียในวงจรการผลิต และโครงการบริหารจัดการพลังงานแบบบูรณาการเพื่อลดต้นทุนและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน หรือพลังงานชีวมวล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ โดยให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนำโครงการลดการสูญเสียในวงจรการผลิตไปพิจารณาดำเนินการ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงพลังงานดำเนินการในรายละเอียดของการดำเนินโครงการบริหารจัดการพลังงานแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถลดต้นทุนและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานชีวมวล ๒.๑.๖. การส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในกลุ่มภาคกลางตอนล่าง ที่ประชุมมีมติ ดังนี้ ๒.๑.๖.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงสภาพคลองตาหลวงจากสำนักงบประมาณ ภายใต้กรอบวงเงินการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๖.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อเสนอโครงการปรับปรุงระบบนิเวศคลองดำเนินสะดวกและคลองสาขา จังหวัดราชบุรี - สมุทรสาคร - สมุทรสงคราม และการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการของแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ (จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี) ไปพิจารณาในรายละเอียดแล้วเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อขอรับการสนับสนุนในการดำเนินการต่อไป ๒.๑.๖.๓ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาโครงการนำร่องสู่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง โดยให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมเมืองอุตสาหกรรมนิเวศ และให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายและการพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่น ๒.๑.๗ โครงการถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย จังหวัดสมุทรสาคร - สมุทรสงคราม (Royal Coast Road) ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงคมนาคมรับไปศึกษารายละเอียดของโครงการดังกล่าว เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๘ การประกาศเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองหัวหินและพื้นที่เชื่อมโยง (ชะอำและปราณบุรี) ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาดำเนินการประกาศเมืองหัวหินและพื้นที่เชื่อมโยง (ชะอำ - ปราณบุรี) ภายในกลุ่มท่องเที่ยว The Royal Coast ให้เป็นเขตพื้นที่พิเศษตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๙ การปรับปรุงอุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชีวิต ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงกลาโหมขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับปรุงอุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชีวิต โดยหารือกับกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการต่างประเทศในรายละเอียดของการจัดแสดงนิทรรศการด้วย ๒.๒ เรื่องอื่น ๆ ที่ภาคเอกชนเสนอเพิ่มเติม ได้แก่ ๒.๒.๑ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. .... (ผลกระทบตามประกาศ Financial Action Task Force : FATF) ที่ประชุมมีมติรับทราบและให้นำความเห็นที่ประชุมที่เห็นว่าประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงในการป้องกันและปราบปรามในการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายที่เข้มงวดในการติดตามธุรกรรมทางการเงิน การอายัดทรัพย์ หรือการดำเนินทางกฎหมายผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งการออกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. .... จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความพร้อมของภาคเอกชนไทย และความเป็นไปได้ในการบังคับใช้ ไปประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ๒.๒.๒ การปรับกลไกและกระบวนการบริหารจัดการด้าน Climate Change ของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อเสนอของ กกร. เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบายและเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศโดยสมัครใจ และจัดทำแผนแม่บทการดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการ
|
||||||||||||||||||||||||
30431 | ข้อเสนอแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 และ 2 รวม 8 จังหวัด ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี วันที่ 20 พฤษภาคม 2555 | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบกรอบแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดและจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ และ ๒ รวม ๘ จังหวัด (จังหวัดนครนายก กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ จำนวน ๒๐๓ โครงการ วงเงินรวม ๓๓,๑๑๑.๔๙ ล้านบาท ๑.๒ เห็นชอบโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที จำนวน ๖๐ โครงการ วงเงินรวม ๑,๐๔๑.๔๓ ล้านบาท โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายใน ๒ สัปดาห์ เพื่อสำนักงบประมาณพิจารณาวงเงินงบประมาณที่เหมาะสม โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป ๑.๓ สำหรับแผนงาน/โครงการที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ และ ๒ เสนอในส่วนที่เหลือ ให้หน่วยงานรับผิดชอบรับไปพิจารณาศึกษาความเหมาะสม และจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการ รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี และนำเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป เช่น โครงการจัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์เกษตร (Agricultural Science Park) วงเงิน ๓,๓๐๐ ล้านบาท ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อเสนอโครงการดังกล่าวไปศึกษาความเหมาะสมและดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โครงการพัฒนาวิชาชีพดนตรีสู่ความเป็นเลิศ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ วงเงิน ๗๖๐ ล้านบาท และโครงการพัฒนาโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน สู่ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและถ่ายทอดนวัตกรรมทางสัตวแพทย์แห่งเอเชีย วงเงิน ๕๐๒ ล้านบาท ให้กระทรวงศึกษาธิการหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เป็นต้น ๑.๔ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ในส่วนที่เกี่ยวกับด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม/เกษตร ได้แก่ ทรัพยากรน้ำ และเกษตรสิ่งแวดล้อม ด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ได้แก่ ระบบขนส่งทางบก ระบบขนส่งทางอากาศ ระบบขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์ และระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ด้านสังคม และด้านความมั่นคง ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการตามขั้นต่อไป ๒. สำหรับการดำเนินโครงการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูมะพร้าวและฟื้นฟูสวนมะพร้าว ซึ่งในส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รับอนุมัติงบประมาณในวงเงิน ๒๔.๗๓ ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักประสานการดำเนินงานกับจังหวัดในพื้นที่กลุ่มเสี่ยงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการทำงานให้เป็นระบบและไม่เกิดความซ้ำซ้อน และสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
30432 | ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 และภาคกลางตอนล่าง 2 และเรื่อง การติดตามและตรวจพื้นที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการในการแก้ไขปัญหาของรัฐมนตรีที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ (จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี) และตอนล่าง ๒ (จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม) รวม ๘ จังหวัด โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดโครงการและรับข้อสั่งการของรัฐมนตรีไปดำเนินการ ๑.๒ เห็นชอบโครงการที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จัดส่งให้สำนักงบประมาณโดยเร่งด่วน ๑.๓ เห็นชอบตามความเห็นและข้อสั่งการเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากโครงการในพื้นที่ดูงานของรัฐมนตรีในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดสมุทรสาคร ๒. ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่มีความพร้อมและความจำเป็นเร่งด่วนซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที จัดทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จัดส่งให้สำนักงบประมาณโดยด่วนภายใน ๒ สัปดาห์ ๓. รับทราบการติดตามสภาพปัญหา และการตรวจพื้นที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การตรวจเยี่ยมราษฎรติดตามสภาพปัญหาและตรวจพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำในจังหวัดสิงห์บุรี และการติดตามและตรวจพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
30433 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันพุธที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ประกอบด้วย
๑. การพิจารณาแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓๓ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓๔ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันอังคารที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และครั้งที่ ๓๕ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ๒. การพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓๑ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ๓. การพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓๒ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕
|
||||||||||||||||||||||||
30434 | มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม 2555 | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจต้องเดินทางไปเยือนเครือรัฐออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๒๖ ถึงวันอังคารที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ซึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ แทน
|
||||||||||||||||||||||||
30435 | การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเรื่อง การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้หารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นสมควรกำหนดเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากยังมีความเห็นแตกต่างกัน ซึ่งหากได้ข้อยุติเรื่องดังกล่าวแล้วจะได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
30436 | ข้อเสนอแผนงาน/โครงการของกลุ่มจังหวัดและจังหวัดในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การพิจารณาแผนงาน/โครงการตามข้อเสนอของกลุ่มจังหวัดหรือของจังหวัดในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่เป็นไปอย่างเหมาะสมและรอบคอบ ให้ถือเป็นหลักปฏิบัติว่า ให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการและส่งคำของบประมาณและรายละเอียดแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวข้องไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณารวบรวมและประมวลข้อมูลคำขอล่วงหน้าก่อนการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๑ สัปดาห์ ดังนั้น ในการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ณ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๑๘ - ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ จึงให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดที่เกี่ยวข้อง (จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) จัดทำคำของบประมาณพร้อมทั้งรายละเอียดของแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวข้องของกลุ่มจังหวัดและของจังหวัดให้แล้วเสร็จและส่งไปถึงสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติล่วงหน้าอย่างน้อย ๑ สัปดาห์ ก่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ณ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๑๘ - ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕
|
||||||||||||||||||||||||
30437 | การแก้ไขปัญหาพืชเกษตรมีราคาตกต่ำ | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการแก้ไขปัญหาพืชเกษตรมีราคาตกต่ำ ดังนี้
๑. แนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาพืชเกษตรมีราคาตกต่ำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเกิดผลดีทั้งแก่เกษตรกรผู้เพาะปลูก และประชาชนผู้บริโภค คือ การส่งเสริมการปลูกพืชผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพดี ที่มีต้นกำเนิดและเพาะปลูกได้ดีในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งมีการกำหนดพื้นที่ (Zoning) สำหรับเพาะปลูกพืชดังกล่าวให้เหมาะสม เพื่อให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณสอดคล้องกับความต้องการของตลาด เช่น กรณีส้มโอซึ่งถือว่าเป็นพืชผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์และเพาะปลูกได้ดีในเขตพื้นที่ ๓ จังหวัด คือ จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม จึงควรมีการส่งเสริม พัฒนาสายพันธุ์ และสนับสนุนให้เพาะปลูกในพื้นที่ ๓ จังหวัดดังกล่าว โดยอาจจะกำหนดเป็นสินค้า ๑ จังหวัด ๑ ผลิตภัณฑ์ ชนิดหนึ่งเพื่อส่งเสริมการตลาดด้วย จึงมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการและประยุกต์ใช้กับพืชเกษตรชนิดอื่น ๆ ต่อไป ๒. จากการลงพื้นที่สำรวจสินค้าในตลาดพบว่า ราคาสินค้าโดยเฉพาะพืชผักชนิดต่าง ๆ ที่กำหนดจากแหล่งผลิตไปถึงขั้นตอนการค้าส่ง ค้าปลีก ไปจนถึงผู้บริโภค นั้น ในแต่ละขั้นตอนมีราคาแต่ละช่วงสูงขึ้นมาก ทำให้ราคาจำหน่ายปลีกแก่ผู้บริโภคเป็นราคาที่สูงเกินสมควร จึงมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษาแนวทางการคำนวณราคาต้นทุนและราคาจำหน่ายสินค้าพืชผักต่าง ๆ ให้เป็นระบบ เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้มีส่วนได้เสียในทุกขั้นตอน จากต้นทางถึงปลายทางสู่ผู้บริโภค แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
30438 | ผลการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนและประเทศกาตาร์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี (14 - 17 พฤษภาคม 2555) | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอผลการเดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนและประเทศกาตาร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรน ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหาร การค้าและการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะอาหารฮาลาล รวมทั้งได้หารือและแลกเปลี่ยนทั้งในประเด็นทวิภาคี ภูมิภาค และระดับโลก พร้อมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีบาห์เรนจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ หากกระทรวงใดมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีของบาห์เรน ให้เร่งแจ้งไปที่กระทรวงการต่างประเทศโดยด่วน ทั้งนี้ งานก่อสร้างที่กำลังขยายตัวในบาห์เรนจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งแรงงานไทยและผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างไทย จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานศึกษาในรายละเอียดและแสวงหาแนวทางสนับสนุนส่งเสริมแรงงานไทยและผู้ประกอบการก่อสร้างไทยไปทำงานในบาห์เรนต่อไป ๒. ผลการเยือนประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในความตกลงร่วมกัน จำนวน ๔ ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐกาตาร์กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหาร การค้าและการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะอาหารฮาลาล ความตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานในกาตาร์และร่างสัญญาจ้างแรงงานในกาตาร์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับกาตาร์ และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐกาตาร์ ซึ่งในเรื่องพลังงาน ประเทศไทยตกลงในหลักการจะซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จำนวน ๒ ล้านตัน จากกาตาร์เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยกระทรวงพลังงานจะเจรจาในรายละเอียดเพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้งจะมีความร่วมมือทางการแพทย์และสาธารณสุขเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กาตาร์แสดงความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจด้านต่าง ๆ รวมทั้งในตลาดทุนของไทย และความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนตกลงที่จะซื้อผลผลิตทางการเกษตรของไทย สำหรับธุรกิจการบิน สายการบินกาตาร์แอร์ไลน์ยังจะเปิดเส้นทางการบินตรงไปยังสนามบินเชียงใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
|
||||||||||||||||||||||||
30439 | การบริหารจัดการการระบายน้ำ | นร | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการการระบายน้ำ) ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยรับไปดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่บูรณาการการบริหารจัดการระบายน้ำทั้งระบบ โดยให้นายรอยล จิตรดอน เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ และให้คณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกสัปดาห์ นั้น เพื่อให้การกำกับดูแลการบริหารจัดการการระบายน้ำเป็นไปอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ครอบคลุมถึงการควบคุมปริมาณการระบายน้ำ และการกำหนดทิศทางไหลของน้ำ รวมถึงปริมาณและช่วงเวลาการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอย่างเหมาะสม จึงขอให้คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการการระบายน้ำประสานงานและเชื่อมโยงข้อมูลในการปฏิบัติงานกับคณะกรรมการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) อย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง และให้มีการจัดประชุมหารืออย่างเป็นทางการทุกสัปดาห์ ๆ ละ ๑ ครั้ง และรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกสัปดาห์ รวมทั้งให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ และการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สาธารณชนทราบโดยด่วนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
30440 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2555 ครั้งที่ 3 | กค | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ ซึ่งบรรจุการก่อหนี้ใหม่ของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) วงเงิน ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ในแผนการก่อหนี้ของหน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากประมาณการฐานะของกองทุนฯ ณ วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๕ กองทุนฯ มีฐานะติดลบสุทธิ ๒๒,๐๖๓ ล้านบาท ซึ่งติดลบเพิ่มขึ้น จาก ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จำนวน ๓,๓๖๔ ล้านบาท โดยมีประมาณการหนี้สินที่ครบกำหนดชำระภายใน ๑ เดือน จำนวน ๗,๑๑๘ ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราชดเชย LPG ที่นำเข้าจากต่างประเทศสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ที่สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน ประกอบกับกองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซปิโตรเลียมอื่น ๆ ได้แก่ น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และ E85 และก๊าซ NGV เป็นรายวัน ซึ่งสูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ๒. อนุมัติให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ที่องค์การสวนยางกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท |
.....