ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1530 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30581 - 30600 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30581 | มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม 2555 | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจต้องเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนและประเทศกาตาร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๑๔ ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ซึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ แทน
|
|||||||||||||||||||||||||||
30582 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันพุธที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30583 | การแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีบางท่านลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าตามตลาดต่าง ๆ รอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้รับรายงานโดยสรุปพบว่าในภาพรวมราคาสินค้ามีทั้งที่มีราคาสูงขึ้นและมีราคาลดลงตามสถานการณ์และฤดูกาล สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ อาหารปรุงสำเร็จและพืชผัก เช่น มะนาว คะน้า เป็นต้น ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึก และไข่ไก่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าบางชนิดที่มีการปรับราคาสูงขึ้นตั้งแต่ในช่วงที่เกิดเหตุอุทกภัยที่ผ่านมาแล้ว และยังไม่มีการปรับลดลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อจัดทำตารางเปรียบเทียบราคาสินค้าแต่ละประเภทตามช่วงฤดูกาล และวางแผนการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรในฤดูกาลต่าง ๆ เอาไว้ล่วงหน้าให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งการดำเนินการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียและล้นตลาดด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ติดตามดูแลและควบคุมราคาสินค้าแต่ละรายการในความรับผิดชอบให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ๓. ให้รัฐมนตรีที่ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าตามตลาดต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าตามตลาดในสัปดาห์นี้ด้วย โดยให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำตารางกำหนดการลงพื้นที่ดังกล่าว และแจ้งให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินโครงการจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกเพื่อเป็นทางเลือกและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยขอความร่วมมือในการดำเนินโครงการในด้านสินค้าและสถานที่จัดงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30584 | การดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การจัดหาเงินทุนเพื่อดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๕๕) ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบการออกใบประทวนในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๕๕ ให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม แล้วให้จัดทำรายงานเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปด้วย นั้น เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับเงินจากการจำนำอย่างรวดเร็ว จึงให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการออกใบประทวนให้แก่เกษตรกรให้ถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยให้พิจารณาเพิ่มจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรให้มากยิ่งขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30585 | การจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ | นร | 08/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ และวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ (เรื่อง การจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่) รับทราบเกี่ยวกับการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งจะเป็นการจัดประชุมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ และ ๒ และกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๑ - ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพหลัก นั้น เนื่องจากในช่วงวันดังกล่าวตรงกับวันที่รัฐสภาจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเห็นชอบให้เลื่อนกำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี จากเดิมวันที่ ๒๑ - ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นวันที่ ๑๙ - ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕
|
|||||||||||||||||||||||||||
30586 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลสามกระทาย ตำบลหาดขาม ตำบลกุยเหนือ และตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30587 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม 2555 | อก | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสามารถฟื้นฟูและเริ่มกลับมาผลิตแล้ว ขณะที่อุตสาหกรรมผลิตเครื่องนุ่งห่มที่ได้รับผลกระทบจากค่าจ้างที่ปรับสูงขึ้นคาดว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตไปยังกัมพูชา ลาว และพม่า ซึ่งมีต้นทุนค่าจ้างถูกกว่ามาก ในส่วนของการจำหน่ายในประเทศคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปแนวแฟชั่น สำหรับปัจจัยเสี่ยงของอุตสาหกรรมการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในตลาดส่งออกหลักอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่ยังชะลอตัว รวมถึงตลาดส่งออกที่มีการแข่งขันมากขึ้น ๒. อุตสาหกรรมรถยนต์ โรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเป็นฐานการผลิตรถยนต์ Honda ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย มีกำลังการผลิตรถยนต์รวม ๒๔๐,๐๐๐ คันต่อปี
|
|||||||||||||||||||||||||||
30588 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการจัดซื้อสารต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์ 60 จำนวน 400,000 คูรี | วท | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันในการจัดซื้อสารต้นกำเนิดรังสีโคบอลต์ ๖๐ จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ คูรี ข้ามปีงบประมาณ จากเดิม เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๖๐,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๐,๙๙๑,๖๐๐ บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๔๓,๙๖๖,๐๐๐ บาท และใช้จ่ายจากเงินรายได้ของสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สมทบ จำนวน ๕,๘๔๒,๔๐๐ บาท ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30589 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. การจัดประเภทตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) พ.ศ. .... | ศธ | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.ค.ศ. การจัดประเภทตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎ ก.ค.ศ. ฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ให้ยกเลิกกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการกำหนดระดับตำแหน่ง และการให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) มีสองประเภท คือ ประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป ๓. กำหนดให้ตำแหน่งประเภทวิชาการมีสี่ระดับ และตำแหน่งประเภททั่วไปมีสามระดับ ๔. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทใด สายงานใด และระดับใด ให้ได้รับเงินเดือนตามตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับนั้น ในขั้นต่ำของระดับเงินเดือนสำหรับตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับ ที่ได้รับแต่งตั้งตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน เว้นแต่กรณีที่กำหนด ๕. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส และตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ได้รับเงินเดือนตามที่กำหนด ๖. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ๗. กำหนดให้ข้าชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสายงานตามบัญชีกำหนดสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งท้ายกฎ ก.ค.ศ. นี้ ในตำแหน่งประเภทใดและระดับใด ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||
30590 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและปัญหาเร่งด่วนของสาธารณสุข" | สว | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เรื่อง “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและปัญหาเร่งด่วนของสาธารณสุข” และผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้
๑. ความเสี่ยงของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการบริหารจัดการงบประมาณหลักประกันสุขภาพ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในวิกฤติทางการเงินของโรงพยาบาลรัฐ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติศึกษาข้อเท็จจริงว่า งบประมาณในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้รับอุดหนุนจากรัฐเพียงพอในการช่วยเหลือโรงพยาบาลต่าง ๆ หรือไม่ และการบริหารจัดการงบประมาณมีประสิทธิภาพเพียงใด ควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และการบริหารจัดการอย่างไร รวมทั้งพิจารณาจากรายงานการเงินของกองทุนย่อยทุกประเภท หากพบว่า กองทุนใดมียอดคงเหลือที่มีความจำเป็นไม่มาก ควรปรับเกลี่ยเงินจากกองทุนนั้น ๆ ไปช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในพื้นที่ที่ขาดแคลนก่อน หากไม่เพียงพอจึงเสนอรัฐจัดหางบประมาณสนับสนุนให้โรงพยาบาลผ่านวิกฤติการณ์ ๒. ปัญหาวิกฤติการเงินโรงพยาบาลภาครัฐสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้มีความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในการวิเคราะห์ปัญหาค่าใช้จ่ายที่ไม่เพียงพอ โดยจัดทำข้อมูลบัญชีรายงานการเงินที่มีมาตรฐานตรงกันเพื่อแสดงความขาดแคลนให้ชัดเจนในการสนับสนุนจากรัฐบาล ๓. ปัญหาค่าใช้จ่ายในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นภาระกับงบประมาณของแผ่นดินอย่างมาก ให้ทบทวนความจำเป็นและผลกระทบของการหักเงินเดือนในงบเหมาจ่ายรายหัว ซึ่งบัญญัติไว้ในกฎหมายหลักประกันสุขภาพ โดยเสนอให้จัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวไม่รวมเงินเดือน เพื่อเพิ่มเม็ดเงินชดเชยค่าใช้จ่ายของสถานบริการให้เพียงพอตามความเป็นจริง และในระหว่างกฎหมายยังไม่ได้รับการแก้ไข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรพิจารณาปรับลดสัดส่วนการหักเงินเดือนหรือจัดให้มีการหักเงินเดือนระดับประเทศเพื่อบรรเทาปัญหาวิกฤตทางการเงินในโรงพยาบาลของรัฐ ๔. ปัญหาผลกระทบของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... ต่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรทบทวนนโยบายการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยบริการต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของหน่วยบริการ ๕. นโยบายเรื่องการขยายสิทธิประกันสังคมแก่คู่สมรสและผู้ประกันตน การแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์แบบ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการจัดงบชดเชยในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยใช้ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำเป็นฐานในการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้กับสถานบริการ มีการกำหนดการจัดทำต้นทุนต่อหน่วยที่เป็นธรรม ๖. สรุปผลการพิจารณาศึกษาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและปัญหาเร่งด่วนของสาธารณสุข ทางเลือกเพื่อเป็นการลดภาระทางการเงินการคลังของภาครัฐในระยะยาว ควรพิจารณานำแนวทางการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมมาดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30591 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยกำหนดให้รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับไปดำเนินการแก้ไขถ้อยคำในคำปรารภของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพื่อให้มีความชัดเจน และตรงตามเนื้อหาสาระของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น จากเดิม “โดยที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๓ ให้มีความเหมาะสมและขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” แก้ไขเป็น “โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๓ ในส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น” ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30592 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมคิด ศริ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30593 | การอนุมัติให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ 99 รูป งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก เพื่อฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว | พศ | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ๙๙ รูป งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก เพื่อฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤษภาคม - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ รวม ๑๕ วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเป็นกรณีพิเศษ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30594 | การจัดประชุมสามัญประจำปีสมาคมอัยการระหว่างประเทศ ครั้งที่ 17 | อส | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมอัยการระหว่างประเทศ (The Executive Committee Meeting) ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ โรงแรม Royall Cliff Beach Resort เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และการจัดการประชุมสามัญประจำปีสมาคมอัยการระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๑๗ (The 17th IAP Annual Conference and General Meeting) ระหว่างวันที่ ๒๘ ตุลาคม - ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ (Bangkok Convention Center at Centralworld) กรุงเทพมหานคร ในนามราชอาณาจักรไทย สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดการประชุมฯ มีดังนี้ ๑.๑ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมอัยการระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างพนักงานอัยการในระดับผู้บริหาร ๑.๒ เพื่อส่งเสริมกระบวนการการดำเนินคดีอาญาให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ยุติธรรม และเป็นกลาง ตลอดจนส่งเสริมมาตรฐานและหลักเกณฑ์ระดับสูงในการบริหารจัดการงานยุติธรรมทางอาญา รวมถึงกระบวนการในการป้องกันหรือจัดการปัญหาความผิดพลาดในหลักนิติธรรม ๑.๓ เพื่อช่วยเหลืออย่างเป็นสากลให้กับพนักงานอัยการในการต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมหรืออาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ ในแง่มุมของการดำเนินคดีอย่างเหมาะสม เป็นอิสระ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ๑.๔ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ และสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานอัยการระดับบุคคล ระดับสำนักงาน ระดับระหว่างประเทศ ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศ และหน่วยงานยุติธรรมอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยน และการเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ระหว่างกัน และเพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีข้อมูลข่าวสารอย่างเพียงพอและคล่องตัวในการปราบปรามอาชญากรรมต่าง ๆ ให้สำเร็จบรรลุผล ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30595 | การประชุมคณะกรรมการประสานงานระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด | กต | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารสุดท้าย (Draft Final Document) ของการประชุมคณะกรรมการประสานงานระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Ministerial Meeting of the Non - Aligned Movement Coordinating Bureau) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๗ - ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ เมืองชาร์ม เอล เชค สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ โดยที่ประชุมฯ จะรับรองร่างเอกสารฯ ซึ่งสะท้อนท่าทีและการดำเนินการของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในเรื่องต่าง ๆ ในระดับโลกและภูมิภาค อาทิ ปัญหาการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศรับรองเอกสารสุดท้ายดังกล่าว ๑.๓ หากมีการแก้ไขร่างเอกสารฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาและดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นว่า ร่างเอกสารฯ ประเด็น ICT (หน้า ๑๔๘ - ๑๕๑) ในส่วนของทักษะที่เกี่ยวข้องกับความสามารถการใช้ประโยชน์จาก ICT ในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งมุ่งเน้นที่ทักษะ ๓ ประการ คือ Media Literacy, Information Literacy ควบคู่ไปกับ ICT Literacy (ซึ่งนิยามมักจะเน้นความสามารถใช้งานทางเทคนิค) ขณะที่ข้อความหัวข้อ ๕๙๗ ได้แสดงให้เห็นถึงข้อกังวลและบทบาทของ Media ดังนั้น รัฐบาลไทยอาจเสนอให้มีการขยายทักษะที่จำเป็นให้เหมาะสม คือ ต้องให้ประชาชนมีทักษะทั้ง ๓ ด้าน ไม่ใช่เฉพาะ ICT Literacy เพียงอย่างเดียว และประเด็นเรื่อง Trade ที่ระบุถึงผลกระทบของ Non - Tariff Barriers ที่ประเทศพัฒนาแล้วได้ใช้เป็นเสมือนมาตรการปกป้องตลาดของตนเอง และส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรและสินค้าเกษตรของประเทศกำลังพัฒนา และเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วลดมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ภาคการเกษตรไทยที่เผชิญกับมาตรการกีดกันเหล่านี้ ภาคอุตสาหกรรมไทยก็เผชิญกับ Non - Tariff Barriers เช่นกัน จึงควรเพิ่มประเด็นของภาคอุตสาหกรรมในร่างเอกสารสุดท้ายของการประชุมฯ นี้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30596 | ค่าตอบแทนคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) | วท | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) โดยกำหนดให้ กนอช. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ กบอ. ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นประธาน และคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าวได้รับค่าตอบแทน แทนการได้รับเบี้ยประชุมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เหมาะสมกับภารกิจและความรับผิดชอบ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ดังนี้ ๑.๑ ค่าตอบแทนคณะกรรมการและที่ปรึกษา ๑.๑.๑ ประธานกรรมการ ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่าย ๗,๕๐๐ บาท/เดือน ๑.๑.๒ รองประธานกรรมการ ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่าย ๖,๗๕๐ บาท/เดือน ๑.๑.๓ กรรมการและที่ปรึกษา ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่าย ๖,๐๐๐ บาท/เดือน ๑.๒ ค่าตอบแทนคณะอนุกรรมการ ๑.๒.๑ ประธานอนุกรรมการ ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่าย ๓,๗๕๐ บาท/เดือน ๑.๒.๒ อนุกรรมการ ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่าย ๓,๐๐๐ บาท/เดือน ทั้งนี้ ให้ได้รับค่าตอบแทนในเดือนที่ร่วมประชุม และให้มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ๒. สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รายการค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้านติดตามตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว จำนวน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30597 | ขออัตรากำลังข้าราชการเพิ่ม | ยธ | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย แรงงาน และประชาสัมพันธ์) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นประธานกรรมการ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕ ที่อนุมัติเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) อีกจำนวน ๑๕๐ อัตรา เพื่อปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด และภารกิจบังคับโทษปรับตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ [เรื่อง มาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖)]
|
|||||||||||||||||||||||||||
30598 | สรุปผลการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ตามที่สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. เห็นสมควรจัดสรรเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ (๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) ๒ โครงการ จำนวน ๒๑๗.๕๗๔๐ ล้านบาท ซึ่งได้มีการกันวงเงินไว้แล้ว ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา โครงการจัดซื้อเครื่องมือตรวจอากาศอัตโนมัติระบบตรวจวินเชียร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง ๑ ระบบ จำนวน ๑๖๘.๐๐๐๐ ล้านบาท และสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ครุภัณฑ์ และระบบสาธารณูปโภคภายในมหาวิทยาลัย จำนวน ๔๙.๕๗๔๐ ล้านบาท ๒. ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ แล้ว ๓ โครงการ จำนวน ๕,๗๑๑.๖๑๗๗ ล้านบาท ได้แก่ แผนการดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อลดค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อ โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย และโครงการสินเชื่อเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ๓. ได้มีการเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ แล้ว ๓ โครงการ จำนวน ๕๕๑.๐๔๐๐ ล้านบาท ได้แก่ โครงการรองรับภัยพิบัติจากอุทกภัยต่อทรัพยากรสัตว์น้ำบริเวณอ่าวไทย ค่าใช้จ่ายในการประกันภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๔ ๔. เห็นสมควรเสนอใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ (๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) ที่เหลือจ่าย หรือยกเลิกโครงการ จำนวน ๓๓๒.๐๐๖๐ ล้านบาท คือ การผ่อนปรนอัตราค่าเช่าในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ ที่จำเป็นต้องจ่ายชดเชยให้การเคหะแห่งชาติ ๕. ขอยกเลิกโครงการ ๑ โครงการ จำนวน ๑๕.๑๕๐๐ ล้านบาท คือ โครงการประมงเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส (ด้านประมงชายฝั่ง) ๖. ให้ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี หรือปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นลำดับแรก จำนวน ๓,๔๕๓.๕๕๕๙ ล้านบาท มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาฯ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน ๓,๑๓๑.๙๑๕๙ ล้านบาท ด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต จำนวน ๑๙๔.๙๒๖๐ ล้านบาท และโครงการบูรณะโบราณสถานที่ประสบอุทกภัยของกรมศิลปากร จำนวน ๑๒๖.๗๑๔๐ ล้านบาท ๗. โครงการตามข้อเสนอของจังหวัด ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ๓,๐๐๒ รายการ จำนวน ๙,๑๖๓.๐๖๔๐ ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับที่เคยจัดสรรเงินให้จังหวัดไปแล้ว จำนวน ๑๒,๒๔๓.๔๗๕๙ ล้านบาท จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ (๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) ๘. ค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการในพื้นที่ภาคใต้ ประมาณ ๑,๓๒๖.๔๗๕๙ ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ขอรับการจัดสรรในช่วงแรก เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้เกิดภัยพิบัติในช่วงหลังมี ๔ กระทรวง ๑ ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง
|
|||||||||||||||||||||||||||
30599 | รายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นเงิน ๑๑๘,๕๗๑.๘๑๔ ล้านบาท มีแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายสะสม ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงเมษายน ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๖๖,๖๓๓.๗๒๖ ล้านบาท ๑.๒ สถานะการเบิกจ่าย จำแนกออกเป็น ๒ ลักษณะ ดังนี้ ๑.๒.๑ มิติส่วนราชการ (Function) ผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๔๙,๙๘๒.๙๖๑ ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๕ เพิ่มขึ้น ๒,๕๒๒.๖๒๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕.๓๑ โดยส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลงนามในสัญญาหรือดำเนินการเองแล้ว เป็นเงิน ๗๗,๔๔๔.๔๑๐ ล้านบาท (ร้อยละ ๖๕.๓๑ ของวงเงินจัดสรร) เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๕,๑๕๗.๔๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗.๑๓ ๑.๒.๒ มิติพื้นที่ (Area) จำแนกตามจังหวัดที่ดำเนินการ ผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๕ จำนวน ๗๔ จังหวัด เป็นเงิน ๓๔,๒๕๔.๐๔๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๑.๔๑ ๑.๓ การยืนยันหรือปรับแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๕) ๑.๓.๑ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทำการยืนยันหรือปรับแผนฯ มายังสำนักงบประมาณ จำนวน ๒๔ หน่วยงาน (จากทั้งหมด ๖๖ หน่วยงาน) เป็นเงิน ๒๖,๒๖๐.๔๒๗๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๒.๑๖ ของวงเงินจัดสรร ๑.๓.๒ ยังไม่มีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรายงานงบประมาณเหลือจ่ายหรือคาดว่าจะเหลือจ่ายจากการลงนามสัญญาและการดำเนินการเองที่บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เพื่อดำเนินการจัดสรรงบประมาณคืนสำนักงบประมาณ ๒. เห็นชอบ ๒.๑ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการ/รายการซึ่งยังมิได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนการประกาศประกวดราคา หรือกรณีงานดำเนินการเองที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติงานภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ แจ้งส่งคืนงบประมาณรายการดังกล่าวให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ๒.๒ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเร่งรัดให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยาฯ วงเงิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ในระบบรายงานแผน/ผลของสำนักงบประมาณ ทั้งในมิติส่วนราชการ (Function) และมิติพื้นที่ (Area) ให้ครบถ้วน โดยรายงานผ่าน “ระบบรายงานแผน/ผลการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย” ทาง website สำนักงบประมาณ www.bb.go.th
|
|||||||||||||||||||||||||||
30600 | มอบหมายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธานกรรมการในคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ | นร | 01/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการ ในคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ ๑ ๒. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล) เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ ๒
|
.....