ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1529 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 30561 - 30580 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30561 | ขออนุมัติจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล | กษ | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติในหลักการจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล ในแปลงที่ดินที่คณะทำงานแก้ไขปัญหาระดับอำเภอ และคณะทำงานพิจารณาคำร้องคัดค้านประกาศอำเภอ (อุทธรณ์) ได้รับรองการทำประโยชน์และผ่านความเห็นชอบการตรวจสอบจากคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล รวม ๓ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และร้อยเอ็ด โดยประกาศรับรองเนื้อที่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคัดค้านครบกำหนด ๓๐ วัน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลกำหนดไว้ รวมจำนวน ๑,๑๔๒ แปลง เนื้อที่ ๔,๑๗๓ - ๐ - ๘๖.๗๐ ไร่ ๆ ละ ๓๒,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๑๓๓,๕๔๒,๙๓๖ บาท ตามบัญชีรายละเอียดผลการตรวจสอบร่องรอยการทำประโยชน์ที่ดินที่ได้รับผลกระทบฯ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และร้อยเอ็ด ๑.๒ อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงิน ทั้ง ๓ จังหวัด ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ประธานกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลเสนอ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด อัยการจังหวัด คลังจังหวัด นายอำเภอท้องที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน ผู้แทนกลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน (นางบุรี อาจโยธา) ผู้แทนกลุ่มสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน (นายศักดา กาญจนเสน) ผู้แทนกลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (นายวิพล อุปสิทธิ์) ผู้แทนกลุ่มเกษตรกรฝายราษีไศล (นายจัง ท้าวผา) ผู้แทนกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน (นายทองวัน อาจสาลี) ผู้แทนกลุ่มอิสระ (นางวันเพ็ญ แสงศร) ผู้แทนกลุ่มสมัชชาลุ่มน้ำมูล (นายบุญมี โสภัง) ผู้แทนกลุ่มสมัชชาคนจน (จังหวัดศรีสะเกษ นายไพฑูรย์ โถทอง จังหวัดสุรินทร์ นายประดิษฐ์ โกศล และจังหวัดร้อยเอ็ด นายพุฒ บุญเต็ม) ผู้แทนกลุ่มชาวนา ๒๐๐๐ (จังหวัดศรีสะเกษ นายอภิรักษ์ สุธาวรรณ จังหวัดสุรินทร์ นายทองอินทร์ นงรักษ์ และจังหวัดร้อยเอ็ด นายวิชัย พันทอง) เป็นกรรมการ โดยมีผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง เป็นกรรมการและเลขานุการ ทำหน้าที่กำกับดูแลการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าชดเชยให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ และจำนวนเงินค่าชดเชย เพื่อให้เป็นไปตามบัญชีรายละเอียดผลการตรวจสอบฯ ๒. สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าว ให้กรมชลประทานพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จากแผนงานส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ รายการค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดิน ซึ่งมีเงินเพียงพอไปดำเนินการ ภายในวงเงินไม่เกิน ๑๓๓,๕๔๒,๙๓๖ บาท และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กรมชลประทานกำกับการตรวจสอบสิทธิของบุคคลให้เป็นไปอย่างถูกต้อง และการจ่ายเงินให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและโปร่งใสด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้มีคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าชดเชยฯ ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกรรมการ และมีรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมอบหมาย และรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม เพื่อทำหน้าที่พิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชยฯ ดังกล่าวในภาพรวมให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างกัน แล้วให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป ให้ชัดเจน ถูกต้องตรงกัน ก่อนดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยดังกล่าว ทั้งนี้ ให้นำหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับในกรณีที่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินชดเชย และ/หรือค่าขนย้ายให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการอื่น ๆ ของรัฐในทำนองเดียวกันในโอกาสต่อไปด้วย เช่น กรณีขออนุมัติจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษแก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||
30562 | การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดลำปางและจังหวัดสงขลา (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง) | กษ | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕ (ฝ่ายการเกษตร และการท่องเที่ยว) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายชุมพล ศิลปอาชา) เป็นประธานกรรมการ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอการจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ “ป่าแม่จาง” จังหวัดลำปาง (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๓) โดยเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๓ จำแนกพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าแม่จาง” เนื้อที่ประมาณ ๓๖๘ ไร่ ออกให้เป็นที่ทำกินของราษฎรหรือเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่น ตามกรอบของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๓ โดยมอบให้กรมที่ดินรับไปดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ๒. เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสงขลา (ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๒๕) โดยเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๒๕ เฉพาะในส่วนนอกเขตป่าไม้ถาวร ซึ่งไม่ได้สำรวจจำแนกประเภทที่ดิน ที่เดิมมอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมรับไปดำเนินการ เนื้อที่ประมาณ ๔,๗๖๐.๙๐๒ ตารางกิโลเมตร เห็นสมควรมอบให้คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติพิจารณามอบพื้นที่ดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
30563 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเจ็ดลูก ตำบลเขาทราย ตำบลทับคล้อ ตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ ตำบลหนองพยอม ตำบลวังหลุม ตำบลงิ้วราย ตำบลทุ่งโพธิ์ ตำบลดงตะขบ อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร และตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง ตำบลตะกุดไร ตำบลดงขุย อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเจ็ดลูก ตำบลเขาทราย ตำบลทับคล้อ ตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ ตำบลหนองพยอม ตำบลวังหลุม ตำบลงิ้วราย ตำบลทุ่งโพธิ์ ตำบลดงตะขบ อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร และตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง ตำบลตะกุดไร ตำบลดงขุย อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๖ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๗ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30564 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร และตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30565 | สรุปผลการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ความคืบหน้าการดำเนินการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผ่านระบบการประชุมทางไกล (video conference) | นร | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ความคืบหน้าการดำเนินการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการและมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (video conference) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ และให้รัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี มีดังนี้ ๑.๑ ให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละจังหวัดดูแลและเร่งรัดให้มีการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากบ้านเรือนเสียหายอันเนื่องมาจากน้ำท่วมโดยเร็ว รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ๑.๒ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามดูแลในเรื่องของการเยียวยา ช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณโครงการที่ใช้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ วงเงิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการที่ใช้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ (เงินกู้ ๓๕๐,๐๐๐ ล้านบาท) โดยให้ดูแลในภาพรวมของทุกโครงการที่ดำเนินการอยู่ในจังหวัดด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงการของหน่วยงานใด หากพบว่าเรื่องใดมีปัญหาอุปสรรค หรือมีสิ่งใดที่จะต้องแก้ไขหรือดำเนินการเพิ่มเติมให้แจ้งส่วนกลางเพื่อร่วมกันแก้ไขต่อไป ๑.๓ ให้จังหวัดรายงานความก้าวหน้าการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยผ่านทางระบบ PMOC Flood Recovery โดยปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันให้แล้วเสร็จภายใน ๑ เดือนนับตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลพื้นที่สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงพื้นที่ตรวจติดตาม โดยหากมีระบบ GPS ให้รายงานข้อมูลพิกัดของพื้นที่ที่ดำเนินการ เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงแผนที่ GPS ของส่วนกลาง ทั้งนี้ ให้พิจารณาปรับแผนการขอใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับความเร่งด่วนของโครงการที่จะต้องดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ๑.๔ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำรวจความสมบูรณ์และความพร้อมของระบบเตือนภัยในท้องถิ่น โดยให้มีการเชื่อมโยงไปถึงชุมชน และให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบูรณาการการติดตั้งระบบให้ครอบคลุมไปยังชุมชนให้ครบถ้วน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและน้ำท่วมขังเป็นประจำ ๑.๕ ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำพื้นที่รับน้ำและทางระบายน้ำ และการป้องกันมิให้มีการรุกล้ำพื้นที่เพิ่มเติมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๑.๖ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำรวจพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของทั้ง ๒๕ ลุ่มน้ำ ว่ามีพื้นที่ส่วนใดที่ยังไม่ได้ดำเนินการขุดลอกคูคลอง แล้วให้รายงานข้อมูลผ่านระบบ PMOC Flood Recovery และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม (กองทัพไทย) เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการบำรุงรักษาคูคลองที่ขุดลอกแล้วให้คงอยู่ในสภาพเดิมต่อไป ๑.๗ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลเรื่องการรักษาแหล่งน้ำต่าง ๆ โดยให้คำนึงถึงพื้นที่เพื่อการเกษตรด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะนำไปพิจารณาในการประชุมเชิงปฏิบัติการที่จะขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดให้มีขึ้น ซึ่งจะพิจารณาในภาพรวมของการเกษตรทั้งในเรื่องของ Zoning การใช้น้ำ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ในชั้นนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพในทางเศรษฐกิจและให้ผลผลิตที่ดี เนื่องจากต่อไปนี้จะไม่ส่งเสริมให้ปลูกพืชล้มลุกตามเชิงเขา และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณากำหนดให้ชัดเจนในเรื่องการใช้น้ำในระบบชลประทานเพื่อการเกษตรของแต่ละจังหวัดอย่างเต็มประสิทธิภาพตามแนวพระราชดำริ เนื่องจากต่อไปรัฐบาลจะจัดทำแผนการส่งเสริมสินค้าเกษตรของแต่ละจังหวัดให้สอดคล้องกับสินค้าที่มีศักยภาพในการที่จะสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดอย่างแท้จริง ๑.๘ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและเป็นไปในลักษณะเชิงรุก โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยเพื่อให้การดูแลประชาชนในเรื่องต่าง ๆ เป็นไปอย่างทั่วถึง และให้กระทรวงมหาดไทยใช้กลไกท้องถิ่นเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เพื่อมิให้มีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกแซงการดำเนินการ ในกรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและมีการชุมนุมเรียกร้อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว และเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้เรียกร้อง ตลอดจนหาทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเพื่อมิให้การชุมนุมลุกลาม หากผู้ชุมนุมเรียกร้องใช้วิธีการปิดถนน ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ๑.๙ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และกระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลด้านภัยพิบัติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยใช้ศาลากลางจังหวัดเป็นศูนย์บัญชาการประจำจังหวัด (single command) ทำหน้าที่เป็นส่วนหน้าในการรวบรวมและประมวลข้อมูลทั้งหมดเพื่อส่งต่อให้ส่วนกลาง ๑.๑๐ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเชิงรุก โดยให้ความสำคัญในการสร้างความตระหนักถึงภัยและอันตรายของยาเสพติด รณรงค์ให้มีการแจ้งเบาะแส การป้องกัน และให้ความสำคัญในการแยกแยะกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในสถานศึกษาและชุมชน ๑.๑๑ รัฐบาลจะใช้เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำในจังหวัด การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเครื่องชี้วัดประเมินผลการปฏิบัติงาน ดังนั้น ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้ร่วมมือกันทำงานอย่างจริงจัง เพื่อที่จะสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง ๒. ในกรณีเกิดสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรในพื้นที่ เช่น น้ำหลาก ดินถล่ม เป็นต้น และมีความฉุกเฉินจำเป็นที่จะต้องดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ป่า เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เห็นชอบเป็นหลักการให้จังหวัดที่เกี่ยวข้องประสานงานโดยตรงกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงทีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30566 | ท่าทีประเทศไทยสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2012 (United Nations Conference on Sustainable Development : UNCSD) หรือ Rio+20 | ทส | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบท่าทีประเทศไทยสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๑๒ (United Nations Conference on Sustainable Development) หรือ Rio+20 ทั้งนี้ หากมีข้อเจรจาใดที่นอกเหนือจากท่าทีการเจรจานี้และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Legally binding) ต่อประเทศไทยให้เป็นดุลยพินิจขององค์หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับท่าทีประเทศไทยในประเด็นการลงทุนที่ยั่งยืน อาจเชื่อมโยงกับเรื่องการลงทุนภาคเกษตร ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหว ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ผู้ลงทุนควรมีความรับผิดชอบ และไม่เอาประโยชน์ฝ่ายเดียวจากการใช้ทรัพยากร รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบและผลประโยชน์ต่อชุมชนเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30567 | ขยายระยะเวลารับจำนำมันสำปะหลัง และแผนการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง | พณ | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง ในการประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่อนุมัติให้ขยายระยะเวลารับจำนำมันสำปะหลัง โครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ ออกไปอีก ๑ เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ ราคารับจำนำหัวมันสดเชื้อแป้งร้อยละ ๒๕ กิโลกรัมละ ๒.๙๐ บาท ส่วนหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการดำเนินโครงการฯ อื่น ๆ ให้เป็นไปตามเดิม ๑.๒ เห็นชอบแผนการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (มันสำปะหลังเส้นและแป้งมันสำปะหลัง) ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ ด้วยวิธีการเจรจาขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) การขายเป็นการทั่วไป การขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และการขายเป็นกรณีพิเศษ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังต้องสอดคล้องกับสถานการณ์แนวโน้มราคาของตลาด และเป็นราคาที่เหมาะสม เพื่อเป็นประโยชน์แก่ภาครัฐมากที่สุด และรายงานผลการดำเนินการระบายและผลกำไรขาดทุนให้คณะรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่องทุกเดือนจนสิ้นสุดโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30568 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร | กษ | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน ๑๑ คน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ จำนวน ๕ คน ได้แก่ นายวิจักร อากัปกริยา นายโอฬาร พิทักษ์ นายไพรัตน์ เลื่อนไธสง นายปฤหัส วงศ์ชัยภูมิ และ ว่าที่ ร.ต.สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ และผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน จำนวน ๖ คน ได้แก่ นายชูชาติ ผิวสว่าง นายจวน แก้วกุลศรี นายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ นายธีรภัทร เอี่ยมไกรศร นายประยุทธ วีระกิตติ และนายนพพร นิลณรงค์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีความเห็นโดยสรุปว่า การเสนอรายชื่อเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเพียงจำนวน ๑๑ คน นั้น ไม่ขัดกับระเบียบคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรว่าด้วยการสรรหาและแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. ๒๕๔๒ และการที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรมีมติให้งดใช้ระเบียบดังกล่าวของตนเองก็ไม่มีผลให้การดำเนินการขัดต่อหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามที่มาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติไว้ จึงเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีในการที่จะพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอได้ตามที่เห็นควร
|
|||||||||||||||||||||||||||
30569 | การปรับปรุง ระเบียบ หลักเกณฑ์ และข้อปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ | นร | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง สรุปผลการตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง) โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการปรับปรุงระเบียบ หลักเกณฑ์ และข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป นั้น เนื่องจากขณะนี้หลายจังหวัดที่ประสบอุทกภัยมีความจำเป็นต้องประกาศกำหนดพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติเพื่อที่จะเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ จึงขอให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30570 | การประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ | นร | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในขณะนี้มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรปอาจส่งผลกระทบรุนแรงไปยังประเทศในภูมิภาคอื่นที่เป็นลูกค้า รวมทั้งประเทศไทย จึงมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงด้านเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจดังกล่าวอย่างใกล้ชิดทุก ๆ สัปดาห์ และกำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับและดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นให้ทันต่อสถานการณ์ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นฝ่ายเลขานุการ และให้นายนิรุตติ คุณวัฒน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าร่วมในการหารือด้วย และรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก ๆ สัปดาห์
|
|||||||||||||||||||||||||||
30571 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ ซึ่งเห็นชอบให้มีการปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติในวันอังคารที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30572 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (จำนวน 9 คน 1. นายสาคร ศิริชัย ฯลฯ) | ทส | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวน ๙ คน ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๕ มิถุนายน ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายสาคร ศิริชัย ๑.๒ นายพงษ์ภัทร สุวรรณศิริเขต ๑.๓ พลเอก ภัทรินทร์ ลีลายุทธ ๑.๔ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ๑.๕ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ๑.๖ นายทรงพล พนาวงศ์ ๑.๗ พลตำรวจตรี ศักดิ์ชัย ตันบุญเอก ๑.๘ นายชวลิต ชูขจร ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑.๙ นายธีรัชย์ อัตนวานิช ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๒. ส่วนกรณีนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติเป็นต้นไป แต่ต้องไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้แต่งตั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
30573 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชูชาติ หาญสวัสดิ์) | มท | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งให้นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชูชาติ หาญสวัสดิ์) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๕ มิถุนายน ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30574 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (นายโชติ ตราชู) | ทส | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายโชติ ตราชู เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านน้ำบาดาลในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๕ มิถุนายน ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30575 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ (จำนวน 3 คน 1. นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ฯลฯ) | กค | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ จำนวน ๓ คน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๕ มิถุนายน ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การคลัง การบริหารหนี้สาธารณะ และการงบประมาณ ๒. นายอัญญา ขันธวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การคลัง การบริหารหนี้สาธารณะ และการงบประมาณ ๓. นายเกษม มกราภิรมย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30576 | คำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 68 | นร | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้คณะรัฐมนตรีทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในสิบห้าวันนับแต่วันได้รับหนังสือ นั้น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับหนังสือเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ และจะครบกำหนดระยะเวลาการทำคำชี้แจงในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ โดยที่เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกิจการรัฐสภา จึงเห็นควรมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล) ดำเนินการ ดังนี้
๑. ศึกษาและหารือร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ ๒. ประสานประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อกำหนดวันปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30577 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. .... | นร | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30578 | การติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการบริหารจัดการลุ่มน้ำกว๊านพะเยา | นร | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการบริหารจัดการลุ่มน้ำกว๊านพะเยา เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ พบว่ามีโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๕ มกราคม ๒๕๕๕) อนุมัติให้ดำเนินการในพื้นที่ไว้แล้วทั้งในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดดำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ และของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เพื่อดำเนินการโครงการแก้มลิงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบและพิจารณารายละเอียดการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม บางโครงการควรดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนนี้ จึงมอบหมายให้ดำเนินการ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาปรับแผนเพื่อดำเนินการขุดลอกทางน้ำและกำจัดวัชพืชในพื้นที่ลุ่มน้ำกว๊านพะเยา และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงกำหนดการที่แล้วเสร็จภายใน ๒ สัปดาห์ ๒. ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) รับไปประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการดำเนินงานของทุกหน่วยงานในการแก้ไขปรับปรุงพื้นที่ลุ่มน้ำกว๊านพะเยาให้เป็นระบบ โดยนำรูปแบบ (Model) การพัฒนาของมูลนิธิชัยพัฒนามาดำเนินการเพื่อให้ลุ่มน้ำกว๊านพะเยาเป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร รวมทั้งพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ลุ่มน้ำกว๊านพะเยาซึ่งเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญประการหนึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารสิทธิที่ดินให้ถูกต้องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
30579 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | ศธ | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30580 | ร่างข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยงานต่างประเทศ จำนวน ๓ แห่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สถาบันนิติเวชศาสตร์วิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจฯ คู่ตกลงเห็นพ้องต้องกันในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในกิจกรรมและหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านมนุษยธรรม ด้านการอำนวยความสะดวกด้านนิติเวชศาสตร์และการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการให้ความร่วมมือด้านนิติวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ๑.๒ ทีมนักมานุษยวิทยา ประเทศอาร์เจนตินา โดยเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจฯ คู่ตกลงเห็นพ้องต้องกันในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในกิจกรรมและหลักสูตรต่าง ๆ ในด้านการพิสูจน์บุคคลสูญหายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงเหตุภัยพิบัติและอาชญากรรม ด้วยการอำนวยความสะดวกด้านนิติมานุษยวิทยาและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการให้ความร่วมมือด้านนิติวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ๑.๓ หน่วยบัญชาการสอบสวนทางอาญา กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจฯ คู่ตกลงจะร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้านการเสริมสร้างศักยภาพและการพัฒนาวิชาชีพ ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาหาความรู้ การฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ การเข้าร่วมสัมมนา ประชุม และอื่น ๆ การจัดหาเครื่องมือและทรัพยากร การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมแก้ไขชื่อภาษาไทยของ Memorandum of Understanding ให้เป็นชื่อเดียวกันว่า “บันทึกความเข้าใจ” ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
.....