ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1262 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 25221 - 25240 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25221 | สรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 20 (20th Meeting of Mekong River Commission Council) | ทส | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๐ (20th Meeting of Mekong River Commission Council) ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat : MRCS) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ณ โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน โฮเต็ล แอนด์ ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้มีแถลงการณ์ให้นำโครงการไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะหง (Don Sahong Hydro Power Project) เข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า (Prior Consultation : PC) ซึ่งกำหนดระยะเวลาการปรึกษาหารือและประสานข้อมูลก่อนการก่อสร้างโครงการเป็นเวลา ๖ เดือน ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบปฏิบัติเรื่องการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement : PNPCA) ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบข้ามพรมแดนที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ โดยเฉพาะผลกระทบข้ามพรมแดนและการอพยพของปลา ฯลฯ ๒. ที่ประชุมอนุมัติหลักการงบประมาณหมวดบริหารองค์กร ปี ค.ศ. ๒๐๑๔ (Operation Expense Budget : OEB) ประกอบด้วย รายได้จากเงินอุดหนุนของประเทศสมาชิกและเงินค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการจำนวน ๔,๐๕๗,๕๔๘ ดอลลาร์สหรัฐ รายจ่ายจำนวน ๔,๐๕๗,๓๘๑ ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณคงเหลือจำนวน ๑๖๗ ดอลลาร์สหรัฐ ๓. ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าของการศึกษาการจัดการและพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลกระทบจากการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธาน (Council Study) ซึ่งมีความล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด และมีมติให้สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเร่งรัดจัดทำรายงานเริ่มงาน (Inception Report) เสนอประเทศสมาชิกพิจารณา พร้อมทั้งเตรียมการดำเนินการในขั้นตอนอื่น ๆ ต่อไป ๔. ที่ประชุมมีมติรับรองแผนแม่บทระดับภูมิภาค “การถ่ายโอนภารกิจหลักในการจัดการลุ่มน้ำมาสู่ประเทศสมาชิก” (Regional Roadmap’s overarching recommendations for decentralization of MRC’s Core River Basin Management Function) ได้แก่ การกำหนดกิจกรรมที่จะดำเนินการถ่ายโอนภารกิจและเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ การเชื่อมโยงและบูรณาการการวางแผนพัฒนาลุ่มน้ำ การปรับโครงสร้างสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงให้มีขนาดเล็กลงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การจัดทำสูตรคำนวณการจ่ายเงินอุดหนุนของประเทศสมาชิกฉบับใหม่ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
25222 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดความเสียหายที่จะให้ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น การร้องขอรับและการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดความเสียหายที่จะให้ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น การร้องขอรับและการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงการคลังได้แก้ไขปรับปรุงจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงวงเงินค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถในส่วนของค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีความเสียหายต่อร่างกายตามกฎกระทรวงกำหนดความเสียหายที่จะให้ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น การร้องขอรับ และการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น พ.ศ. ๒๕๕๒ เพิ่มจากจำนวนเงินไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาทต่อคน เป็นจำนวนเงินไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อคน โดยให้ได้รับเงินค่าเสียหายเบื้องต้นรวมกันแล้วต้องไม่เกิน ๖๕,๐๐๐ บาท และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
25223 | การดำเนินโครงการ "เกษตรกรได้รับ ประชาชนได้รู้ คืนความสุขสู่คนไทย จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์" | กษ | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการ “เกษตรกรได้รับ ประชาชนได้รู้ คืนความสุขสู่คนไทย จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวคิดในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๘ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ การดำเนินงานสรุปได้เป็น ๓ กิจกรรมหลัก ดังนี้
๑. “เกษตรกรได้รับ” ๑.๑ เกษตรกรได้รับระบบชลประทาน แหล่งน้ำขนาดเล็ก ระบบส่งน้ำ สระน้ำในไร่นา และกรรมสิทธิ์ในโค-กระบือ หน่วยงานที่มีกิจกรรมดำเนินการ ได้แก่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน และกรมปศุสัตว์ ๑.๒ จัดแจกปัจจัยการผลิต หน่วยงานที่มีกิจกรรมดำเนินการ ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน ๒. “ประชาชนได้รู้” ๒.๑ จัดสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและให้ความรู้ด้านการเกษตร เช่น ศูนย์/สถาบัน/เครื่องมือด้านการเกษตร หน่วยงานที่มีกิจกรรมดำเนินการ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมชลประทาน กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร และกรมหม่อนไหม ๒.๒ เปิดสถานที่เข้าชมโดยไม่เก็บค่าผ่านประตูช่วงเทศกาลปีใหม่ หน่วยงานที่มีกิจกรรมดำเนินการ ได้แก่ กรมประมง องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สำนักงานพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) และอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ๓. “กระเช้าปีใหม่” ๓.๑ จัดกิจกรรมเลือกชมและเลือกซื้อกระเช้าสินค้าจากกลุ่มสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๓.๒ จัดกิจกรรมเลือกชมและเลือกซื้อของขวัญและของที่ระลึก โดยองค์การสะพานปลา
|
||||||||||||||||||||||||
25224 | โครงการ 20 ของขวัญ พม. มอบสู่ประชาชน | พม | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ ๒๐ ของขวัญ พม. มอบสู่ประชาชน โดยของขวัญทั้ง ๒๐ ชิ้น มุ่งให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม พร้อมทั้งให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากรัฐ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. บริการทางสังคม ประกอบด้วย ๑๒ กิจกรรม ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพสายด่วน ๑๓๐๐ สถานีสวัสดิการส่งความสุข คืนรักสู่ครอบครัว วัคซีนครอบครัว เว็บไซต์ www.yingthai.net เพื่อเป็นศูนย์รวมการช่วยเหลือหญิงไทย การเพิ่มเบี้ยความพิการ พัฒนาศูนย์บริการคนพิการ ประมูลทรัพย์หลุดจำนำสัญจรที่สถานธนานุเคราะห์ คืนความสุขสู่ลูกบ้าน กคช. หรือโครงการปรองดองคืนความสุขให้ประชาชนตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สร้างชุมชนอารยสถาปัตย์เกาะเกร็ด ลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ และเจ้าหน้าที่ พม. เป็นมิตรแท้ของประชาชน ๒. พัฒนาที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย ๖ กิจกรรม ได้แก่ ซ่อมแซมบ้านผู้สูงอายุ มอบบ้านทางเลือกให้กับประชาชนที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มอบสิทธิที่ดินทำกินให้กับประชาชนในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ พัฒนาความมั่นคงที่อยู่อาศัยคนจนในชุมชนแออัด "คนอยู่กับคลองอย่างมั่นคง" และบ้านมั่งคงชนบทเพื่อผู้ยากจนและด้อยโอกาสในชนบท ๓. พัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพ ประกอบด้วย ๒ กิจกรรม ได้แก่ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ๘๗๘ แห่ง ทั่วประเทศ และฝึกทักษะอาชีพและส่งเสริมรวมกลุ่มประกอบอาชีพ
|
||||||||||||||||||||||||
25225 | รายงานการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน | วท | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ใน ๕ กล่องของขวัญ รวม ๒๖ โครงการ ดังนี้
๑. วิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน ประกอบด้วย (๑) งานคืนความสุขให้เธอ...เยาวชน ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (๒) งานถนนสายวิทยาศาสตร์ ๒๐๑๕ (๓) Ice Age The Exhibition เปิดประสบการณ์แสนสนุก...ยุคน้ำแข็ง (๔) สื่อเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ “จดหมายถึงดวงดาว” (๕) เปิดหอดูดาวส่วนภูมิภาค “เปิดบ้านฉายดาว” (๖) เทศกาลเปิดฟ้า...ตามหาดาวรับลมหนาว (๗) การพัฒนาเครื่องเคลือบกระจกเส้นผ่าศูนย์กลางกระจก ๒.๔ เมตร ของกล้องโทรทรรศน์สำหรับหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (๘) ค่ายเยาวชนตะลุยอวกาศ (๙) รายการโทรทัศน์ The surveyor เที่ยวสนุกทุกพิกัด (๑๐) เกมส์ผจญภัย G Adventure และ (๑๑) การพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (STEM Education) ๒. วิทยาศาสตร์เพื่อทรัพยากร ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาระบบน้ำอุปโภค-บริโภค ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง “ส่งน้ำสะอาด คืนความสุขชาวอีสานตอนล่าง” และ (๒) กิจกรรม GISTDA เพื่อชุมชน ๓. วิทยาศาสตร์เพื่อเศรษฐกิจ ประกอบด้วย (๑) คืนความสุข ชุบชีวิต สังคม OTOP/SMEs (๒) การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ OTOP ด้วย วทน. ๕ ภูมิภาค (Science Technology and Innovation Matching Programme : STIMP) (๓) คาราวานเทคโนโลยี ๔ ภาค เพื่อประชาชน (๔) คืนความสุขให้ประชาชน ด้วยสารละลายไคโตซานฉายรังสี (๕) การพัฒนานักประกอบการวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์ จังหวัดยโสธร (๖) ต้นแบบระบบบูรณาการการเรียนกับการทำงาน (Work Integrated Lerning หรือ WiL) ในรูปแบบโรงเรียน-โรงงาน (๗) แจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีฟิล์มยืดอายุผลิตผลสด และ(๘) นวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง (wood pallet) สำหรับโรงไฟฟ้าแก๊สซิฟิเคชั่นชีวมวลในระดับชุมชน ๔. วิทยาศาสตร์เพื่อการบริหาร ประกอบด้วย (๑) การมอบชุดทดสอบความกระด้างในน้ำเพื่อประชาชน และ (๒) การบริการรับคำขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ (e-License) ๕. วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและสังคม ประกอบด้วย (๑) ชุดความรู้คืนความสุขให้แก่ ผู้ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ (๒) การสร้างความมั่นใจในการใช้เครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยวิธีเป่าลมหายใจ และ (๓) มาตรวิทยากับการบูรณาการเพื่อพัฒนาวิธีการทดสอบเครื่องมือวัดทางการแพทย์ฉบับภาษาไทย
|
||||||||||||||||||||||||
25226 | มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ | กค | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ) และร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ) เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายในการปรับปรุงอัตราภาษี เพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ [เรื่อง แนวทางการส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarter : IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Centers : ITC)] ๑.๒ ขอแก้ไขหนังสือกระทรวงการคลัง ลับ ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๗๒๖/ล ๒๕๐๙ ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ หน้า ๖ โดยตัดข้อความในส่วนของผลกระทบตามข้อ ๕.๑ และข้อ ๕.๖ ออก ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ) และร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
25227 | เสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกากรฟอกเงิน | นร | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานว่า สำหรับเรื่องการเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นั้น คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแก้ไขเอกสารประกอบการเสนอรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินให้ทันสมัยสอดคล้องเป็นปัจจุบัน รวมทั้งจัดทำเอกสารประวัติของผู้ได้รับเสนอชื่อ จำนวน ๙ คน ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาในวันจันทร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
25228 | ร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
25229 | การแก้ไขกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 รวม 2 ฉบับ | ตช | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับโอนสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จากเดิมเป็นหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการศึกษา ไปเป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (จัดตั้งโรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นส่วนราชการในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ) |
||||||||||||||||||||||||
25230 | รายงานผลการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ | สว | 23/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นายวีระพันธ์ มุขสมบัติ) และนายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ รายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) สรุปได้ว่า การดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีความล่าช้าไปกว่าที่กำหนด (กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง ๙๐๐ วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๖ สิ้นสุดวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘) เนื่องจากมีการส่งมอบพื้นที่สำหรับดำเนินโครงการก่อสร้างล่าช้า จากเดิมที่กำหนดส่งมอบพื้นที่ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ แต่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้จริงในวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗ จำนวน ๑๐๒-๓-๗๖ ไร่ (ร้อยละ ๘๓.๕ ของพื้นที่ทั้งหมด) ยังเหลือพื้นที่ในส่วนของการปรับปรุงภูมิทัศน์ (บริเวณโรงเรียนโยธินบูรณะ ชุมชนองค์การทอผ้า และบ้านพักทหารของกรมการอุตสาหกรรมทหาร) อีกจำนวน ๒๐-๑-๒๘ ไร่ คาดว่าจะส่งมอบให้แก่ผู้รับจ้างได้ในช่วงเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างชั้นใต้ดิน โดยจะต้องทำงานเสาเข็มเจาะ งานระบบป้องกันดินพัง และงานขุดดิน ซึ่งมีขั้นตอนการก่อสร้างจากบนลงล่างเพื่อการก่อสร้างชั้นใต้ดิน ชั้น B2 ระดับความลึกที่ -๑๐.๓๐ ถึง -๑๖.๐๐ เมตร ใช้เวลาในการดำเนินการค่อนข้างมากถึง ๑๔ เดือน เมื่อเทียบกับแผนงานที่ได้รับอนุมัติทั้งโครงการ ๓๐ เดือน และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขุดดินที่ระดับ -๑๐.๓๐ เมตร เพื่อเร่งรัดจัดงานก่อสร้างฐานรากบริเวณฐานเครื่องยอดส่วนที่เป็นสายงานวิกฤติและส่วนอื่น ๆ ให้สามารถเร่งรัดงานโครงสร้างรองรับส่วนเครื่องยอดได้ต่อไป ซึ่งความก้าวหน้างานโครงสร้างปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ ๒๕ งานเตรียมการอยู่ที่ร้อยละ ๖๐ ในขณะนี้งานเสาเข็มเจาะอาคารหลักแล้วเสร็จ งานฐานรากแล้วเสร็จ ๓๔ ฐาน ดังนั้น เมื่อเทียบความก้าวหน้าของโครงการทั้งหมด จะมีความก้าวหน้าของงานก่อสร้างอยู่ที่ร้อยละ ๘.๖๖ ล่าช้าไปจากแผนงานที่กำหนดไว้ คิดเป็นระยะเวลาล่าช้า จำนวน ๓๔๑ วัน และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ได้แล้วเสร็จในช่วงปลายปี ๒๕๕๙ และสามารถเข้าใช้อาคารได้ในช่วงปลายปี ๒๕๖๐ ทั้งนี้ ในส่วนของดินที่ขุดขึ้นมาจากพื้นที่ก่อสร้าง ได้นำไปบริจาคให้กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์และวัดแก้วฟ้าจุฬามณี จำนวนประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ คิว นำไปขายทอดตลาดแล้ว จำนวนประมาณ ๒๔๐,๐๐๐ คิว และอยู่ระหว่างการดำเนินการขายทอดตลาดอีกจำนวนประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ คิว ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่ง โดยให้มีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ รวมทั้งโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการสร้างถนนและสะพานเกียกกาย เป็นต้น แล้วให้นำผลการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ พร้อมทั้งให้จัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25231 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี | นร | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์โดยดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง สถานการณ์การค้ามนุษย์และการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย) และดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เร่งรัดและกำกับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาและชาวสวนยางตามมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย และโครงการชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยางให้มีความโปร่งใสและแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ๒.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจติดตามสถานการณ์ความผันผวนของการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศให้ดำเนินมาตรการเพื่อดูแลสถานการณ์ดังกล่าวให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติต่อไป ๒.๓ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดการประกวดภาพถ่ายเพื่อใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ๒.๔ ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าของครัวเรือนให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าน้ำมันที่ขณะนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ๒.๕ ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ร่วมกันพิจารณาปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพในการจัดบริการระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยพิจารณาความเป็นไปได้ในการให้กรุงเทพมหานครบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นต้น ๒.๖ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาหาแนวทางการขยายตลาดสินค้าเกษตรชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมทั่วประเทศ โดยให้ศึกษาแนวทางการดำเนินงานจากประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ๒.๗ ให้กระทวงพาณิชย์พิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมการค้ากับประเทศที่สนใจซื้อข้าวและยางพาราจากประเทศไทย เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยพิจารณาใช้วิธีซื้อขายต่างตอบแทน หรือวิธีอื่นตามความเหมาะสม ๓. ด้านสังคม ๓.๑ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) พิจารณากำหนดแนวทางการจัดระเบียบพื้นที่ค้าขายบริเวณบนทางเท้า เช่น คลองถม ตลาดมหานาค โดยอาจจะกำหนดเวลาการค้าขาย จัดหาพื้นที่ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสวยงาม โดยอาจศึกษาวิธีการจัดการจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในลักษณะเป็นสะพานยกสูงเหนือระดับน้ำท่วมสูงสุดเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรรองรับการเดินทางด้วยจักรยาน (Bike Lane) การชมทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา การพักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย และการจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพและนันทนาการ โดยสะพานแต่ละฝั่งจะยกสูงกว่าระดับน้ำประมาณ ๒.๘ เมตร ตามที่รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยเสนอ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยนำข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในอดีตและระดับการทรุดตัวของพื้นดินในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งการคาดการณ์ระดับน้ำในอนาคตมาพิจารณาประกอบการกำหนดความสูงของพื้นที่โครงการด้วย ๔. ด้านกฎหมาย ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม พิจารณาดำเนินการเรียกตัวผู้กระทำผิดกฎหมายที่หลบไปพำนักในต่างประเทศกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ ให้ทุกส่วนราชการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ ๘ ด้านอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การบริหารราชการแผ่นดินร่วมกันของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี การปฏิรูปและการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การดำเนินการตามวาระแห่งชาติ การรักษาความสงบเรียบร้อย การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคม การส่งเสริมด้านการศึกษา และกระบวนการยุติธรรม ๕.๒ ให้คณะกรรมการติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะกรรมการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างความโปร่งใสและความยุติธรรม (ซึ่งอยู่ระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้ง) จัดทำรายงานผลการดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีทุกเดือน ๕.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ให้ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จขยายการดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราวให้ครอบคลุมถึงแรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม นั้น ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราวให้แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามโดยเร็วต่อไป ๕.๔ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินผลการปฏิบัติงานของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่เป็นไปตามหลักวิชาการ และสำรวจความความเห็นตามหัวข้อนโยบายของรัฐบาล ผลงานที่ดำเนินการไปแล้ว ผลงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ หรืองานที่จะทำในระยะต่อไป เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชนเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||
25232 | ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ของนายกรัฐมนตรี และผลการหารือทวิภาคีในระหว่างการประชุมฯ | นร | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ (ASEAN-ROK Commemorative Summit) ณ นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ในการนี้ ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-ROK CEO Summit) ด้วย ซึ่งในการประชุมดังกล่าวนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและบทบาทของเอเชีย พร้อมกับเน้นย้ำนโยบายของรัฐบาลไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยใช้แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและการส่งเสริมการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ รวมทั้งมีการหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และภาคเอกชนชั้นนำของสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับประเทศไทย และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีรายงานว่า ในการหารือทวิภาคีกับสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การพิจารณาให้ภาคเอกชนของสาธารณรัฐเกาหลีเข้ามาลงทุนในสาขาต่าง ๆ ในประเทศไทย และการให้สาธารณรัฐเกาหลีดูแลสินค้าส่งออกของไทยที่ยังมีปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะไก่แช่แข็งและผลไม้ไทย รวมทั้งเพิ่มการนำเข้าจากเดิม และมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25233 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสุชาดา ฮุนพงษ์สิมานนท์) | สธ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายวีระ สถิรอังกูร ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๕ ๒. นายเอกชัย โควาวิสารัช ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาสิติ-นรีเวชกรรม) กลุ่มงานสูติ-นรีเวชศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ๓. นายชุษณะ มะกรสาร ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ ๔. นางสุชาดา ฮุนพงษ์สิมานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขารังสีวิทยา) กลุ่มงานรังสีวิทยา กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ๕. นายวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลขอนแก่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
|
||||||||||||||||||||||||
25234 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายชุษณะ มะกรสาร 2. นายวีระ สถิริอังกูร 3. นายเอกชัย โควาวิสารัช) | สธ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายวีระ สถิรอังกูร ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๕ ๒. นายเอกชัย โควาวิสารัช ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาสิติ-นรีเวชกรรม) กลุ่มงานสูติ-นรีเวชศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ๓. นายชุษณะ มะกรสาร ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ ๔. นางสุชาดา ฮุนพงษ์สิมานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขารังสีวิทยา) กลุ่มงานรังสีวิทยา กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ๕. นายวีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลขอนแก่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ |
||||||||||||||||||||||||
25235 | รายงานสรุปการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยโภชนาการ ครั้งที่ 2 | สธ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานสรุปการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยโภชนาการ ครั้งที่ ๒ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี จัดโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ในหัวข้อเรื่อง “โภชนาการที่ดีขึ้น เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : Better nutrition for better lives” สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมได้รับรองเอกสารที่เกี่ยวข้อง ๒ ฉบับ ประกอบด้วย (๑) ประกาศปฏิญญากรุงโรมว่าด้วยโภชนาการ (Rome Declaration on Nutrition) เพื่อให้ทุกประเทศสมาชิกให้คำมั่นสัญญา ๑๐ ขั้นว่าจะดำเนินการขจัดความหิวโหยและป้องกันภาวะทุพโภชนาการในทุกรูปแบบตลอดช่วงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดอาหารในเด็ก โลหิตจางในสตรีและเด็ก การขาดวิตามินเกลือแร่อื่น ๆ รวมทั้งลดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน และ (๒) กรอบเพื่อการปฏิบัติการ (Framework for Action) ซึ่งเป็นชุดแนวทางนโยบายและยุทธศาสตร์ ๘ เรื่อง รวมคำแนะนำ ๖๐ ข้อ ประกอบด้วย การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อในการสร้างความเข้มแข็งของการจัดระบบอาหารอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการลงทุนทางการเกษตร การพัฒนาด้านอาหาร ยกระดับโภชนาการ การให้โภชนศึกษา การปกป้องด้านสังคม ด้านสุขภาพ น้ำสะอาด สุขาภิบาลและสุขลักษณะ อาหารปลอดภัย รวมทั้งข้อแนะนำในการรายงาน เพื่อให้รัฐบาลนำไปใช้ดำเนินการตามความสมัครใจ โดยนำไปผนวกเข้ากับแผนโภชนาการ สาธารณสุข เกษตร การพัฒนาและการลงทุนของประเทศนั้น ๆ ให้บรรลุเป้าหมายโภชนาการที่ดีขึ้นถ้วนหน้า ๑.๒ การประชุมครั้งนี้เพื่อให้รัฐบาลและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้คำมั่นสัญญาในการดำเนินการขจัดปัญหาทุพโภชนาการทั้งด้านขาดและเกินให้บรรลุเป้าหมาย ภายในปี ๒๕๖๘ โดยมีสาระสำคัญเน้นย้ำให้เห็นว่า ปัญหาทุพโภชนาการด้านขาดสารอาหาร แม้ว่าในสถานการณ์โลกโดยรวมจะดีขึ้นแต่ก็ยังมีการขาดสารอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมยอมรับในประกาศปฏิญญากรุงโรมและแนวทางในการดำเนินการเพื่อที่จะนำไปบรรจุในแผนพัฒนาแต่ละด้านของแต่ละประเทศ โดยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในด้านการเกษตร สาธารณสุข ศึกษาธิการ และการค้าการลงทุน โดยความร่วมมือทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลกเพื่อเป้าหมายในการขจัดภาวะทุพโภชนาการภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ๒. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นว่า ในการเข้าร่วมการประชุม/สัมมนาในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำเสนอประเด็นการกำหนดคุณภาพมาตรฐานทางโภชนาการของอาหาร รวมถึงการรณรงค์เผยแพร่คุณภาพ มาตรฐาน และคุณประโยชน์ของข้าวไทยและสินค้าเกษตรอื่น ๆ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพื่อเพิ่มความต้องการสินค้าไทยให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยยกระดับราคาสินค้าของไทยในตลาดโลกได้
|
||||||||||||||||||||||||
25236 | ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือ ส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ตช | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาล รวมทั้งหน่วยงานระดับกองบังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาลที่มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวน ให้สามารถปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... |
||||||||||||||||||||||||
25237 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6) ในคดีระหว่างนายชั้น ด้วงใหญ่ ที่ 1 กับพวกรวม 23 คน ผู้ฟ้องคดี กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ระงับการให้บริการการขึ้น - ลงของเครื่องบินทุกประเภท และขอให้ศาลพิพากษาให้ดำเนินการเพื่อประกาศให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ และการกำหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดดังกล่าว รวมทั้งร่วมกันชำระค่าเสียหายทางละเมิด (มีการแก้ไข บ. หน้าแรก ตรงหมายเลขคดี มาแก้หลังออกแฟ้มไปแล้ว) | อส | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖) ในคดีระหว่างนายชั้น ด้วงใหญ่ ที่ ๑ กับพวกรวม ๒๓ คน ผู้ฟ้องคดี กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ระงับการให้บริการการขึ้น-ลงของเครื่องบินทุกประเภท และขอให้ศาลพิพากษาให้ดำเนินการเพื่อประกาศให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ และการกำหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดดังกล่าว รวมทั้งร่วมกันชำระค่าเสียหายทางละเมิด เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๑๖๗๒-๑๖๙๔/๒๕๕๗
|
||||||||||||||||||||||||
25238 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. .... | รง | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้นายจ้างต้องมีระบบการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานอันจะทำให้ลูกจ้างมีความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้ายิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
25239 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 75) พ.ศ. 2533 พ.ศ. .... | พณ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๗๕) พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกมาตรการควบคุมเครื่องแต่งกายตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๗๕) พ.ศ. ๒๕๓๓ ที่กำหนดให้เครื่องแต่งกายตามพิกัดศุลกากรประเภทที่ ๖๑.๐๑ ถึง ๖๑.๑๔ ๖๑๑๗.๙๐, ๖๒.๐๑ ถึง ๖๒.๑๑ และ ๖๒๑๗.๙๐ เฉพาะที่ยังไม่สำเร็จรูปไม่ว่าจะสมบูรณ์แล้วหรือไม่ก็ตาม และส่วนต่าง ๆ ของเครื่องแต่งกายดังกล่าวตามพิกัดอัตราศุลกากรดังกล่าว เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากมาตรการที่มิใช่ภาษี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีกรณีการลดหรือยกเลิกมาตรการซึ่งเป็นอุปสรรคทางการค้าควรพิจารณาด้วยว่า การลดหรือยกเลิกมาตรการนั้น ๆ จะส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของไทยและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ส่งออกสินค้าไทยด้วยหรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25240 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่ราชอาณาจักรกัมพูชา ณ จังหวัดสระแก้ว [นายบุน สกวิบล (Mr. Bun Sokvibol)] | กต | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายบุน สกวิบล (Mr. Bun Sokvibol) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ราชอาณาจักรกัมพูชา ณ จังหวัดสระแก้ว โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๘ จังหวัดของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ตราด บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ศรีสะเกษ สระแก้ว สุรินทร์ และอุบลราชธานี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....