ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1264 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 25261 - 25280 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25261 | การเสนอรายงานประเทศตามพันธกรณีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ฉบับที่ 2 | ยธ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการเสนอรายงานประเทศตามพันธกรณีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) ฉบับที่ ๒ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งรายงานประเทศฯ ประกอบด้วย ๔ ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ ๑ บทนำ ส่วนที่ ๒ รายงานสถานการณ์สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประเทศไทยตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ส่วนที่ ๓ ความก้าวหน้าทางด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประเทศไทยโดยเรียงตามข้อบทที่ ๑-๒๗ ของกติกาฯ และส่วนที่ ๔ การวิเคราะห์แนวโน้มและแนวทางการพัฒนาสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดส่งรายงานประเทศตามพันธกรณีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) ฉบับที่ ๒ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดดำเนินการจัดทำรายงานประเทศตามพันธกรณีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองฉบับต่อ ๆ ไป ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้ส่งไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองตามกรอบเวลาที่กำหนดต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
25262 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กษ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอำนวย ปะติเส) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25263 | เสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (จำนวน 9 คน) | ปง | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๙ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ดังนี้
๑. นายสมพล เกียรติไพบูลย์ เชี่ยวชาญในด้านเศรษฐศาสตร์ ๒. รองศาสตราจารย์อติ ไทยานันท์ เชี่ยวชาญในด้านการเงิน ๓. รองศาสตราจารย์ พันตำรวจเอก ทิวลิป เครือมา เชี่ยวชาญในด้านการคลัง ๔. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ เชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย ๕. พลตำรวจตรี สุเทพ รมยานนท์ เชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย ๖. นายพิทยา จินาวัฒน์ เชี่ยวชาญในด้านบริหาร ๗. นายปริญญา หอมอเนก เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ๘. พลโท สมร ศรีทันดร เชี่ยวชาญในด้านความมั่นคง ๙. นายวันชัย รุจนวงศ์ เชี่ยวชาญในด้านระหว่างประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||
25264 | การแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) เอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 (the 5th GMS Summit) และงบประมาณค่าใช้จ่าย จัดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 (the 5th GMS Summit) | นร11 | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็นรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (Greater Mekong Subregion Economic Cooperation : GMS) เพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานของประเทศไทยภายใต้แผนงานความร่วมมือ GMS รวมทั้งเพื่อปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรีตามกำหนดการประชุมที่สำคัญในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๗-ธันวาคม ๒๕๕๘ ๑.๒ เห็นชอบเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๕ (the 5th GMS Summit) ได้แก่ (๑) ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๕ (the 5th GMS Summit Joint Summit Declaration : JSD) และ (๒) แผนปฏิบัติการภายใต้กรอบการลงทุนในภูมิภาค (Regional Investment Framework-Implementation Plan : RIF-IP) ที่จะได้มีการรับรองโดยไม่มีการลงนามในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๕ (the 5th GMS Summit) ในระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสามารถปรับปรุงถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วมฯ ได้ในกรณีที่มิใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบอีก ๑.๓ เห็นชอบการอนุมัติงบประมาณจากงบกลาง ปี ๒๕๕๘ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๕ (the 5th GMS Summit) เพื่อการผลักดันการดำเนินงานภายใต้แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (GMS) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ เพิ่มเติมเป็นจำนวน ๑๕,๔๗๐,๐๐๐ บาท โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ๑.๔ เห็นชอบการกำหนดองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๕ (the 5th GMS Summit) ในระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำฯ อย่างไม่เป็นทางการ (Summit Retreat) ประกอบด้วย (๑) นายกรัฐมนตรี (๒) รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) (๓) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) (๔) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีประจำแผนงาน GMS (๕) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ (๖) รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายปรเมธี วิมลศิริ) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่อาวุโส ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เสนอให้นำประเด็นเรื่องความพร้อมของไทยในการสนับสนุนการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านโดยการระดมทุนในพันธบัตรเงินบาท (Baht Bond) ประกอบในแถลงการณ์ของฝ่ายไทย และให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในส่วนที่เกี่ยวกับด้านต่างประเทศด้วย ๓. มอบให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประชุม โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการจัดประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๕ (the 5th GMS Summit) ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25265 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (จำนวน 6 คน) | คค | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก จำนวน ๖ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจตรี อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวางแผนจราจร ๒. นายระพินทร์ จารุดุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมจราจร ๓. นายสมหวัง ดำรงพงศาวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ๔. นายภาณุมาศ ศรีศุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๕. นางเสาวนีย์ กมลบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจการคลัง ๖. นายอุดม พัวสกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผังเมือง
|
||||||||||||||||||||||||
25266 | เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายกองทุนสนับสนุนการวิจัยชุดใหม่ | นร62 | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายกองทุนสนับสนุนการวิจัยชุดใหม่แทนชุดเดิมที่ครบวาระ จำนวน ๘ คน ตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ประธานกรรมการ ๒. ศาสตราจารย์ยอดหทัย เทพธรานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์จรัญ จันทลักขณา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายครรชิต มาลัยวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. ศาสตราจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. ศาสตราจารย์ปราณี กุลละวณิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||
25267 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2557 | ตช | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยกำหนดจำนวน ๑๐๐ คน สำหรับคนต่างด้าวที่มีสัญชาติของแต่ละประเทศ และกำหนดจำนวน ๕๐ คน สำหรับคนต่างด้าวไร้สัญชาติ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
25268 | แต่งตั้งข้าราชการ (จำนวน 3 ราย) (กระทรวงแรงงาน) (1. นายสุวิทย์ สุมาลา ฯลฯ) | รง | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงานให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. นายสุวิทย์ สุมาลา ๒. นางกาญจนา เทวะศิลชัยกุล ๓. นายธนิช นุ่มน้อย
|
||||||||||||||||||||||||
25269 | ขอความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทก | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติขึ้นตามกฎหมาย รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการภายในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้มีหน้าที่ในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนให้เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจได้ตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนดไว้ และเปลี่ยนชื่อ “กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” เป็น “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ ยุทธวงศ์) เกี่ยวกับการเพิ่มตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านสังคมเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในร่างมาตรา ๖ ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้เชิญกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมชี้แจงแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ๒. เฉพาะในกรณีนี้ ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) |
||||||||||||||||||||||||
25270 | โครงการความร่วมมือระหว่างกรมธนารักษ์ กับโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักร | กค | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมธนารักษ์ดำเนินการลงนามในร่าง Technical Cooperation Agreement กับโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักร เนื่องจากความร่วมมือทางวิชาการของกรมธนารักษ์ และโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักร จะส่งผลให้กรมธนารักษ์สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันใน AEC และสามารถพัฒนาทักษะของบุคลากรด้านการผลิตเหรียญยิ่งขึ้น รวมทั้งในอนาคตศักยภาพของโรงกษาปณ์ไทยจะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าและประโยชน์เชิงพาณิชย์ให้แก่ประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25271 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านทรัพยากรน้ำและการชลประทานไทย - สาธารณรัฐประชาชนจีน | กษ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติจัดทำและลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรน้ำแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Agreed Record of the Third Meeting of the Joint Committee on Trade, Investment and Economic Cooperation between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the People’s Republic of China) เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในสาขาทรัพยากรน้ำและการชลประทานระหว่างสองประเทศ โดยมีขอบเขตความร่วมมือครอบคลุมในประเด็นการป้องกันและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการและก่อสร้างเขื่อน ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อทรัพยากรน้ำและมาตรการรับมือ การควบคุมภาวะอุทกภัยและการบรรเทาภัยพิบัติ การอนุรักษ์ดินและน้ำ การชลประทานและการระบายน้ำ การประสานงานและร่วมมือในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำในระดับนานาชาติ และความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน ๑.๒ อนุมัติในหลักการว่าก่อนที่จะมีการลงนามหากมีการแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในส่วนที่เกี่ยวกับด้านต่างประเทศด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25272 | การจัดทำแถลงข่าวร่วมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | กต | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำแถลงข่าวร่วมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Joint Press Communique between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the People’s Republic of China) โดยร่างแถลงข่าวร่วมฯ กล่าวถึงภาพรวมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน โดยระบุถึงแนวทางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคีในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในโอกาสที่จะครบรอบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี ๒๕๕๘ และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองเอกสารดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรีจีนโดยไม่มีการลงนาม ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของแถลงข่าวร่วมดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
25273 | ขอความเห็นชอบให้ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขพ้นจากตำแหน่ง | สธ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ให้นายสมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25274 | การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเดือนมหามงคล ธันวาคม 2557 และเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน | พณ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเดือนมหามงคล ธันวาคม ๒๕๕๗ และเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. จัดงานร่วมทำบุญปีใหม่ มอบความสุขแก่คนไทย น้อมใจถวายในหลวง ในวันที่ ๒๐-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ เทศบาลนครนนทบุรี โดยจัดกิจกรรมถวายราชสักการะ และลงนามถวายพระพร ทำบุญตักบาตร จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การบริการต่าง ๆ กับประชาชน การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาถูก ๒. จัดงานลดราคาจำหน่ายสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ในวันที่ ๒๔-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ รวม ๗ วัน โดยผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิด ทุกแผนก ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งร้านค้าส่งค้าปลีกรายย่อยในท้องถิ่นที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยลดราคาสินค้าสูงสุดร้อยละ ๗๐ ๓. Thailand Online Mega Sale 2015 ในวันที่ ๑๕-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และพันธมิตรจัดกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ www.ThailandMegaSale.com เพื่อจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในราคาพิเศษ ลดราคาสินค้าร้อยละ ๒๐-๙๐ ๔. Thai Commerce Store ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป โดยร่วมมือกับภาคเอกชนในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน และผลิตภัณฑ์จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ www.thaicommercestore.com ๕. จัดงานเปิดระบบ “คลังข้อมูลทางการค้าของไทย” เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านภาษีศุลกากร กฎระเบียบและมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศของไทยได้ ณ จุดเดียว ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก่อนจะเชื่อมโยง “คลังข้อมูลทางการค้าของไทย” ไป “คลังข้อมูลทางการค้าของอาเซียน” ๖. จัดกิจกรรมซื้อขายเพิ่มสภาพคล่องของขวัญปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป โดยตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยปรับเวลาเปิดตลาดให้เร็วขึ้นเป็น ๐๘.๐๐ น. และลดค่าธรรมเนียมลง ๑๕ บาท/สัญญา เพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ๗. จัดกิจกรรมมอบความสุขปีใหม่ด้วยบริการจากใจให้แก่ผู้ประกอบการ ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยขยายเวลาให้บริการการขอหนังสือรับรองเพื่อนำไปใช้ประกอบพิธีการศุลกากรได้ทันความต้องการของผู้ประกอบการ ๘. จัดหน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Unit) และสนับสนุนค่าธรรมเนียมยื่นในการขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๗-กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยจัดหน่วยบริการให้คำปรึกษาแนะนำและรับคำขอจดทะเบียนและแจ้งข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเคลื่อนที่ ในจังหวัดเป้าหมาย ๑๖ จังหวัด และสนับสนุนค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา
|
||||||||||||||||||||||||
25275 | ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2558 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงคมนาคม | คค | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดจัดเตรียมโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยมีของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๖๙ โครงการ ดังนี้
๑. ด้านนโยบายและแผน จำนวน ๒ โครงการ ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ๒. ด้านการขนส่งทางบก จำนวน ๓๓ โครงการ ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก จำนวน ๑๑ โครงการ กรมทางหลวง จำนวน ๑๑ โครงการ กรมทางหลวงชนบท จำนวน ๓ โครงการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน ๒ โครงการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๓ โครงการ และบริษัท ขนส่ง จำกัด จำนวน ๓ โครงการ ๓. ด้านการขนส่งทางราง จำนวน ๖ โครงการ ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน ๔ โครงการ และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน ๒ โครงการ ๔. ด้านการขนส่งทางน้ำ จำนวน ๑๘ โครงการ ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า จำนวน ๓ โครงการ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวน ๑๕ โครงการ ๕. ด้านการขนส่งทางอากาศ จำนวน ๑๐ โครงการ ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๖ โครงการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๒ โครงการ และบริษัท ไทยสมาย์แอร์เวย์ จำกัด จำนวน ๒ โครงการ
|
||||||||||||||||||||||||
25276 | การมอบของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานภาพรวมในการดำเนินการมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดเตรียมของขวัญเพื่อมอบให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ของขวัญ “เรียนรู้...สู่อาชีพ” ประกอบด้วย ของขวัญ ๕ ชิ้น คือ (๑) ครูพระราชทาน...สัญญาณจากฟ้า (๒) กศน. ฝึกอาชีพให้ประชาชน (หนึ่งคนหนึ่งอาชีพ) (๓) อาชีวะ ซ่อม สร้าง เสริม ส่งสุข (๔) สัปดาห์อาชีวะเอกชน สร้างคน สร้างชาติ และ (๕) อุดมศึกษาสร้างความรู้ สร้างอาชีพ สร้างความสุขสู่ชุมชน โดยไม่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||
25277 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ๑.๑ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำ Roadmap ในเรื่องที่เป็นการดำเนินการตามพันธกรณีกับองค์การระหว่างประเทศ เช่น กรณีการจัดส่งแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทยไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) การส่งรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) เป็นต้น โดยระบุถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานผู้รับผิดชอบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง งบประมาณในการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และแผนการดำเนินงานในอนาคต ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการในเรื่องที่มีผลกระทบสำคัญและมีเงื่อนไขเวลาที่จำกัดก่อน เช่น การแก้ไขปัญหาเรือประมง ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดกลุ่มความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับแต่ละกลุ่มประเทศและประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น อาเซียน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา สหพันธรัฐรัสเซีย รวมถึงประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและอื่น ๆ ในอนาคต ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบรายการสินค้านำเข้าเพื่อพิจารณาความจำเป็นและปริมาณในการนำเข้า รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อจูงใจให้ลดการนำเข้ารายการสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อไป ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาแนวทางในการแปรรูปยางเป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้เป็นส่วนผสมต่าง ๆ เช่น พื้นลู่วิ่ง พื้นช่องทางจักรยาน พื้นสนามฟุตซอล เป็นต้น ทั้งนี้ ให้นำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์ต่อไป ๒.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เกี่ยวกับการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศในภูมิภาคอื่น และเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๗ เกี่ยวกับการหาแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อการส่งออกให้สามารถรักษาคุณภาพความสดใหม่ให้คงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะส่งเสริมการส่งออกกล้วยไม้ไทยให้เป็นที่แพร่หลายในตลาดต่างประเทศยิ่งขึ้น และรายงานผลความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
25278 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 16/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๒/๒๕๕๗ วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ และครั้งที่ ๓๓/๒๕๕๗ วันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗
|
||||||||||||||||||||||||
25279 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 09/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎหมายใดที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยเป็นร่างกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาลหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนให้เร่งดำเนินการ หากยังมีประเด็นต้องแก้ไขให้ดำเนินการในชั้นกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้มีกฎหมายในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ไปดำเนินการโดยให้ประสานคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... ไปพิจารณาความจำเป็นของการมีร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติและซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่มีใช้อยู่แล้ว ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๓. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25280 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 09/12/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... ไปพิจารณาความจำเป็นของการมีร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติและซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่มีใช้อยู่แล้ว ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
|
.....