ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1267 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 25321 - 25340 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25321 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการทางลอดที่จุดตัด ทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 (รวมสะพานข้ามแม่น้ำปิง) จังหวัดเชียงใหม่ | คค | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมทางหลวงก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการทางลอดที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข ๑๑ กับทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๑ (รวมสะพานข้ามแม่น้ำปิง) จังหวัดเชียงใหม่ ในวงเงิน ๑,๑๘๑,๙๘๗,๘๐๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้เบิกจ่ายค่างานก่อสร้างจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๑๖๙,๙๙๙,๒๐๐ บาท ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้ว ส่วนที่เหลือจำนวน ๘๓๑,๙๘๘,๖๐๐ บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยให้กรมทางหลวงเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อ ๆ ไป เพื่อให้ครบวงเงินค่างานตามสัญญา ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
25322 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมเจ้าท่า พ.ศ. .... | คค | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมเจ้าท่า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมเจ้าท่า เพื่อให้สอดคล้องกับระบบจำแนกตำแหน่งใหม่ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ และการเปลี่ยนชื่อและเครื่องหมายราชการของกรมเจ้าท่า ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25323 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหารและเครื่องแบบผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร พ.ศ. 2521 | กห | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหารและเครื่องแบบผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร พ.ศ. ๒๕๒๑ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิดและลักษณะของเครื่องแบบฝึกของนักศึกษาวิชาทหารและผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารเพิ่มเติม และเพิ่มเติมส่วนประกอบของเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหารและเครื่องแบบผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25324 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น [นายหลี่ หมิงกัง (Mr. Li Minggang)] | กต | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายหลี่ หมิงกัง (Mr. Li Minggang) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๒๐ จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25325 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย พ.ศ. .... | กษ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน เพื่อการก่อสร้างระบบส่งน้ำฝั่งขวา พร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลิ้นควาย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25326 | ผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ (ระหว่างวันที่ 26 - 27 พฤศจิกายน 2557) | วท | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-ลาว ครั้งที่ ๖ ในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้กล่าวขอบคุณประเทศไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีด้วยดีตลอดมา ในครั้งนี้ สปป.ลาว ได้ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยร่วมวิจัยและพัฒนาในระดับที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้เพื่อส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจและบุคลากร ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของทรัพยากรลุ่มแม่น้ำโขงและเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเข้มแข็ง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ๒. การประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-ลาว ครั้งที่ ๖ สามารถสรุปประเด็นการหารือได้ ๑๔ สาขา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศบนพื้นฐานของความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน อนึ่ง ได้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของทั้งสองประเทศเพื่อสรุปและกำหนดแนวทางการทำงานภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว รวมถึงข้อเสนอเพิ่มเติมด้านการจัดตั้งคณะทำงานวิชาการ (Technical Committee) ในสาขาการจัดการทรัพยากรน้ำและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และการหารือในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสในรูปแบบการจัดตั้งคณะกรรมการร่วม (Joint Committee) และการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีทุก ๒ ปี โดยทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันทำงานในรูปแบบทวิภาคีเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์สูงสุดของทั้งสองฝ่าย ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีข้อสังเกตว่า การเยือนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้ การหารือได้ผลคืบหน้าในทุกด้าน อีกทั้งโครงการที่เกิดขึ้นภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือสามารถดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้ภายในระยะเวลา ๑-๓ ปี เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาคมไทย-ลาว โดยเฉพาะเรื่องการจัดการทรัพยากรบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง การเตรียมความพร้อมของเขตเศรษฐกิจไทย-ลาว และการเตรียมกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ จากกรอบความร่วมมือดังกล่าว จะส่งผลให้ความสัมพันธ์สองประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25327 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงคมนาคม) | คค | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงคมนาคม จำนวน ๗ คณะ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ๑.๒ คณะกรรมการแห่งชาติในการค้นหาและช่วเยหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย ๑.๓ คณะกรรมการร่วมถาวรไทย-มาเลเซีย ว่าด้วยการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ๑.๔ คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๑.๕ คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๑.๖ คณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งแห่งชาติ ๑.๗ คณะกรรมการประสานการขนส่งผ่านแดนแห่งชาติ ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใดให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25328 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) ประจำปีงบประมาณ 2557 | ทก | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ โดยสถิติการใช้บริการในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ มีจำนวน ๖,๓๒๗,๐๗๖ ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ ๒๕๕๖ จำนวน ๑๔๑,๓๐๑ ครั้ง คิดเป็นร้อยละ ๒.๒๘ ข้อมูลทั่วไปที่ประชาชนสนใจสอบถาม อาทิ การขอตรวจคัดและรับรองสำเนาทะเบียนราษฎร์ การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว การจดทะเบียนคนพิการ การชำระภาษีประจำปี ๒๕๕๗ การรับจำนำข้าวเปลือกประจำปีการผลิต ๒๕๕๖/๒๕๕๗ การรับจำนำพืชผลทางการเกษตร การทำบัตรประกันสังคมและการใช้สิทธิประกันสังคม การขอและต่ออายุใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว การขอรับเบี้ยยังชีพและสวัสดิการต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ ความรู้เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) การขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) ได้ดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่สำคัญ ๒ ประการ คือ งานด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วราชอาณาจักร และงานการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้านการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของภาครัฐ ด้านการศาสนา ด้านการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ และด้านคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการเกี่ยวกับการรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการข้อมูลแก่ประชาชนร่วมกับศูนย์ดำรงธรรม ๒. มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกันพิจารณากำหนดขอบเขตการให้บริการของศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) ให้มีความชัดเจน โดยให้เชื่อมข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรม รวมทั้งให้มีการติดตามผลการดำเนินงานในการให้บริการแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ด้วย
|
|||||||||||||||||||||
25329 | การเสนอขอปรับปรุงองค์ประกอบและการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับองค์การยูเนสโกและซีมีโอ (กระทรวงศึกษาธิการ) | ศธ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๙ คณะ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีมีโอ) ๑.๒ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๓ คณะกรรมการฝ่ายการศึกษา ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๔ คณะกรรมการฝ่ายวิทยาศาสตร์ ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๕ คณะกรรมการฝ่ายสังคมศาสตร์ ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๖ คณะกรรมการฝ่ายวัฒนธรรม ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๗ คณะกรรมการฝ่ายสื่อสารมวลชน ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๘ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑.๙ คณะกรรมการโครงการมนุษย์และชีวมณฑล ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใด ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
25330 | แต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กษ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๑๑ คณะ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ ๑.๒ คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ๑.๓ คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ๑.๔ คณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ๑.๕ คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ๑.๖ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา ๑.๗ คณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางป้องกัน แก้ไขและฟื้นฟูผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล ๑.๘ คณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ๑.๙ คณะกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ๑.๑๐ คณะกรรมการประสานงานกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและการเกษตรต่างประเทศ ๑.๑๑ คณะกรรมการกำกับและขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใด ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25331 | การแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร09 | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางณัฐนันทน์ อัศวเลิศศักดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25332 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) | พม | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน ๔ คณะ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการบริหารโครงการฝึกอบรมผู้นำเยาวชน ๑.๒ คณะกรรมการบริหารโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ๑.๓ คณะกรรมการอำนวยการโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ หุบกะพง ดอนขุนห้วย หนองพลับ กลัดหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี ๑.๔ คณะกรรมการจัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใด ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25333 | การจัดงานรำลึกครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย | กต | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑ การจัดงานรำลึกครบรอบ ๑๐ ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ จังหวัดพังงา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย การสดุดีผู้ให้ความช่วยเหลือ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเตือนภัยล่วงหน้าของไทย โดยงานรำลึกจะจัดที่บริเวณอนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต. ๘๑๓ ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ จะเชิญแขกฝ่ายไทยและฝ่ายต่างประเทศ ได้แก่ ประชาชนในพื้นที่ ญาติผู้เสียชีวิตชาวไทยและชาวต่างประเทศ คณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ร่วมหรือมีบทบาทให้ความช่วยเหลือเหตุการณ์สึนามิในไทย ผู้แทนระดับสูงจากบางประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และผู้บริหารองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ จะจัดกิจกรรมให้ผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศและคณะทูตาทูตและองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทยที่สนใจเยี่ยมชุมชนต้นแบบด้านการต้านทานภัยพิบัติ และด้านการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในจังหวัดพังงา ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีผู้แทนอยู่ในคณะกรรมการสำหรับการจัดงานครบรอบ ๑๐ ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ให้การสนับสนุนการเตรียมการและการจัดงานของคณะกรรมการจัดงานฯ และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง |
|||||||||||||||||||||
25334 | รายงานผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2556 | กค | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปี ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมของการประเมินผล ฯ ประจำปี ๒๕๕๖ ของรัฐวิสาหกิจในระบบประเมินผลฯ ตามระบบปัจจุบัน พบว่า รัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ (๑) การกีฬาแห่งประเทศไทย ๔.๐๖๙๘ คะแนน (๒) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ๔.๐๒๗๙ คะแนน และ (๓) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ๔.๐๑๘๒ คะแนน สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินต่ำสุด ๓ อันดับสุดท้าย ได้แก่ (๑) องค์การตลาด ๒.๑๑๒๕ คะแนน (๒) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ๒.๒๔๓๕ คะแนน และ (๓) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ๒.๓๓๗๗ คะแนน ทั้งนี้ คะแนนเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ ๓.๒๑๑๕ คะแนน ลดลงจากปี ๒๕๕๕ ๐.๐๘๒๖ คะแนน เนื่องจากผลการดำเนินการตามนโยบายและผลการดำเนินงานด้านการเงินและไม่ใช่การเงินของรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ๒. ภาพรวมของการประเมินผล ฯ ประจำปี ๒๕๕๖ ของรัฐวิสาหกิจในระบบประเมินผลฯ ตามระบบประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Performance Appraisal : SEPA) พบว่า รัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ (๑) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ๔.๘๘๐๐ คะแนน (๒) บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ๔.๗๙๓๓ คะแนน และ (๓) การประปานครหลวง ๔.๗๖๐๗ คะแนน สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีผลประเมินต่ำสุด ๓ อันดับสุดท้าย ได้แก่ (๑) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ๒.๔๗๕๐ คะแนน (๒) องค์การเภสัชกรรม ๓.๒๘๔๗ คะแนน และ (๓) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ๓.๓๙๔๗ คะแนน ทั้งนี้ คะแนนเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ ๔.๐๖๕๒ คะแนน ลดลงจากปี ๒๕๕๕ ๐.๒๗๖๘ คะแนน เนื่องจากการดำเนินงานด้านผลลัพธ์ของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
|
|||||||||||||||||||||
25335 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการลงทัณฑ์แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... | ยธ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการลงทัณฑ์แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการลงทัณฑ์แก่เด็กและเยาวชนที่ละเมิดกฎหมาย ประพฤติชั่ว หรือกระทำผิดวินัย ในระหว่างที่อยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25336 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 214 สายต่อเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ควบคุม - ช่องจอม ตอนทางเลี่ยงเมืองสุรินทร์ด้านเหนือ พ.ศ. .... | คค | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๔ สายต่อเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ควบคุม-ช่องจอม ตอนทางเลี่ยงเมืองสุรินทร์ด้านเหนือ พ.ศ. .... เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมาย ๒๑๔ สายต่อเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ควบคุม-ช่องจอม ตอนทางเลี่ยงเมืองสุรินทร์ ด้านเหนือ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25337 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. .... | กษ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยตะโก เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการกระจายน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25338 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... | กษ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างทำนบดินและอาคารประกอบอื่นตามโครงการพัฒนากุดจับ-กึดหมากเห็บ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25339 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 [แก้กฎกระทรวง ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2524) ออกตามความในพระราชบัญญัติขนส่งทางบก พ.ศ. 2522] | คค | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ [แก้ไขกฎกระทรวง ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๒๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒] โดยเป็นการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถให้มีความทันสมัยและปลอดภัย รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันกับสภาวการณ์และเทคโนโลยี ตลอดจนสามารถรองรับให้เป็นไปตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนที่ประเทศไทยเป็นภาคี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25340 | ขออนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติเพื่อใช้งบประมาณที่ได้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ค้างชำระปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | ยธ | 09/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อนำงบประมาณที่ได้กันไว้เบิกเหลื่อมปีชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ค้างชำระปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑๗๓,๕๖๒,๕๘๒ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๗ ที่กรมราชทัณฑ์ได้ขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกับกระทรวงการคลังแล้ว จำนวน ๓ รายการ ได้แก่ (๑) รายการก่อสร้างแดนความมั่นคงสูงสุดเรือนจำกลางพิษณุโลก ๑ แห่ง จำนวนเงิน ๓๐,๔๙๐,๕๘๒ บาท (๒) รายการปรับปรุงสถานพยาบาลเรือนจำทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา ๑ แห่ง จำนวนเงิน ๖,๖๒๖,๐๐๐ บาท และ (๓) รายการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ตพร้อมส่วนประกอบ ๑ แห่ง จำนวนเงิน ๑๓๖,๔๔๖,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ และคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ และ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ปรับปรุงพื้นที่ควบคุมผู้ลี้ภัยให้มีสภาพที่เหมาะสมเพียงพอต่อการพำนักในช่วงระหว่างรอการส่งกลับประเทศต้นทาง และเร่งการดำเนินการเพื่อผลักดันผู้ลี้ภัยดังกล่าวกลับประเทศต่อไป นั้น เพื่อเป็นช่องทางในการลดความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำต่าง ๆ จึงให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการปรับเปลี่ยน “ศูนย์พักพิง” ในจังหวัดต่าง ๆ เช่น แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี และราชบุรี เพื่อใช้เป็นสถานที่ควบคุมนักโทษที่ต้องคดีไม่ร้ายแรงหลังจากที่มีการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศต้นทางแล้ว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
.....