ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1261 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 25201 - 25220 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25201 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง กำแพงเพชร และตำบลวังชะพลู อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเมืองกำแพงเพชร และตำบลวังชะพลู อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเมืองกำแพงเพชร และตำบลวังชะพลู อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินให้มีที่ดินทำกิน และเป็นการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและดำเนินการให้เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิในที่ดินเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างทั่วถึง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25202 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... | คค | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท อต. ๒๐๑๔ และทางหลวงชนบท อต. ๕๐๐๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25203 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเพิ่มศักดิ์ คิดหมาย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) (วิศวกรชลประทานทรงคุณวุฒิ) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25204 | ขอยุติการดำเนินการร่างกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม (รวม 4 ฉบับ) | ยธ | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๙๖ กำหนดเวลาร้องทุกข์ และเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุความ) ๓. ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||
25205 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพิษณุโลก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. 2555) | มท | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพิษณุโลก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ๒๕๕๕) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25206 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และรายงานผลการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบ ควรกำหนดมาตรการและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อควบคุมกำกับการใช้ดุลพินิจในการตรวจสอบของนายตรวจ ชั่งตวงวัด พนักงานเจ้าหน้าที่ และผู้ผลิตหรือผู้ซ่อมที่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๔๑ ดังนี้
๑. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัด รวมทั้งจัดให้มีการฝึกอบรมนายตรวจชั่งตวงวัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการควบคุมกำกับดูแลการใช้ดุลพินิจของนายตรวจชั่งตวงวัดและผู้ตรวจสอบให้ถูกต้องตามกฎหมาย ๒. การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัดมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ๓. การกระจายอำนาจให้ผู้ผลิตหรือผู้ซ่อมที่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๔๑ เป็นผู้ตรวจสอบและให้คำรับรองเครื่องชั่งตวงวัดที่ตนผลิตหรือซ่อม ต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน
|
|||||||||||||||||||||
25207 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี - สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | สว | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ว่า รัฐต้องดูแลและเยียวยาความเสียหายให้บุคคลผู้ถูกเวนคืนอย่างเป็นธรรม โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของการใช้อำนาจและผลกระทบทางกายภาพและสภาวะทางจิตใจ จึงเห็นสมควรให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการศึกษาสภาพปัญหาอันเกิดจากการใช้อำนาจรัฐในการเวนคืนทรัพย์สินของบุคคลว่ามีผลกระทบอันจะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่บุคคลผู้ถูกเวนคืนอย่างไรบ้าง เพื่อนำผลการศึกษามาเป็นแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต่อไป ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอ ๒. รับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงาน มีอำนาจหน้าที่ศึกษาและพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มีอำนาจเรียกเอกสารหรือบุคคลใด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมมาให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นต่อคณะทำงานฯ ได้ และรายงานผลการดำเนินการต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนสำนักอุทธรณ์เงินค่าทดแทนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25208 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหาดคำ ตำบลโพธิ์ชัย และตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหาดคำ ตำบลโพธิ์ชัย และตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลหาดคำ ตำบลโพธิ์ชัย และตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหาดคำ ตำบลโพธิ์ชัย และตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พ.ศ ๒๕๕๔ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25209 | ผลการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป | พณ | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป (Memorandum of Understanding on Bilateral Co-operation between the Department of Intellectual Property of Thailand and the European Patent Office) โดยประธานสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปและอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ ตามลำดับ โดยการแลกเปลี่ยนทางไปรษณีย์ เนื่องจากหัวหน้าหน่วยงานทั้งสองฝ่ายไม่มีภารกิจที่จะต้องพบประชุมร่วมกันในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิบัตรระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาไทยและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป ครอบคลุมกิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่ กระบวนการตรวจสอบและบริหารจัดการสิทธิบัตร การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การดำเนินงานในระบบอัตโนมัติ ฐานข้อมูลสิทธิบัตรและการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งกิจกรรมระดับภูมิภาค ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง การขยายระยะเวลาการใช้สิทธิว่าด้วยข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิในการแปลภายใต้อนุสัญญากรุงเบิร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรม ฉบับแก้ไข ณ กรุงปารีส และเรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ที่ให้ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องต่าง ๆ ของไทย ทั้งในส่วนของผลงานที่ได้รับการคุ้มครองแล้วว่ามีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ อย่างไร และผลงานที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองว่าควรคุ้มครองในเรื่องใดบ้าง โดยเฉพาะด้านศิลปะและวัฒนธรรมของไทย และเร่งดำเนินการปกป้อง คุ้มครอง และจดลิขสิทธิ์ในเรื่องดังกล่าวไม่ให้ถูกแสวงหาประโยชน์จากต่างชาติ และรายงานความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
|
|||||||||||||||||||||
25210 | ข้อเสนอแนะจากการประชุมวิชาการ การค้าระหว่างประเทศและสุขภาพ ปี 2556 - 2557 | สช | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อเสนอแนะจากการประชุมวิชาการ การค้าระหว่างประเทศและสุขภาพ ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ ต่อกระบวนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและนโยบายสุขภาพ โดยมีข้อเสนอแนะในประเด็นการค้าระหว่างประเทศ ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ระบบยา การเข้าถึงยา การคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญาและประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องในการเจรจาการค้าเสรี และระบบบริการสุขภาพ รวมทั้งข้อเสนอแนะภาพรวมด้านข้อมูล ด้านการเจรจา และด้านการวางแผนระยะยาว ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25211 | รัฐบาลสาธารณรัฐมาซิโดเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอีลียา อีไซลอฟสกี (Mr. Ilija Isajlovski)] | กต | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอีลียา อีไซลอฟสกี (Mr. Ilija Isajlovski) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมาซิโดเนียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายโอลิเวอร์ ชัมเบฟสกี (Mr. Oliver Shambevski) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25212 | แผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ของกระทรวงคมนาคม และแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน | คค | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ ของกระทรวงคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีเป้าหมายหลักให้บริการประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวอย่างมี “ความสุข สะดวก และปลอดภัย” โดยกำหนดช่วงระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗-๕ มกราคม ๒๕๕๘ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ แผนการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แผนงานบริหารด้านความปลอดภัย ประกอบด้วย การบริการการขนส่งสาธารณะ การอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายถนน การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ/สถานีขนส่ง/ท่าอากาศยานและอาคารผู้โดยสาร/สถานีรถไฟ และการอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลการจราจร ๑.๒ แผนงานบริหารด้านความปลอดภัย ประกอบด้วย มาตรการด้านการบริหารจัดการผู้ขับขี่/ผู้โดยสารปลอดภัย มาตรการยานพาหนะปลอดภัย มาตรการถนนปลอดภัย มาตรการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการด้านสังคม และมาตรการด้านการประชาสัมพันธ์ ๒. รับทราบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ ตามที่ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนเสนอ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัด และอำเภอใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ โดยใช้ชื่อในการรณรงค์ว่า “มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน” และกำหนดช่วงระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗-๕ มกราคม ๒๕๕๘ สรุปได้ ดังนี้ ๒.๑ มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประกอบด้วย มาตรการด้านการบริหารจัดการ มาตรการด้านถนนและการสัญจรอย่างปลอดภัย มาตรการด้านยานพาหนะที่ปลอดภัย มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และมาตรการด้านการตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ ๒.๒ มาตรการเน้นหนัก ประกอบด้วย มาตรการป้องกัน มาตรการแก้ไขปัญหา และมาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ๓. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ ได้แก่ ขอความร่วมมือสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ในการประชาสัมพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงของประชาชนจากการขับขี่ยานพาหนะ เตรียมความพร้อมในส่วนของแพทย์และพยาบาลตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อรองรับกรณีมีประชาชนประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานระดับท้องถิ่นเพื่อตั้งจุดตรวจในชุมชน รวมทั้งกระทรวงการคลังได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงวงเงินค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถในส่วนของค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีความเสียหายต่อร่างกาย โดยเพิ่มจากจำนวนเงินไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาทต่อคน เป็นจำนวนเงินไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อคน โดยให้ได้รับเงินค่าเสียหายเบื้องต้นรวมกันแล้วต้องไม่เกิน ๖๕,๐๐๐ บาทต่อคน ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้ประสบภัยจากรถ ๔. ให้กระทรวงคมนาคมและศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนรับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการในการนำข้อมูลสถิติการดำเนินงานช่วงเทศกาลย้อนหลังมาวิเคราะห์สาเหตุ ปัญหาอุปสรรค และแนวทางมาตรการดำเนินงานให้มีความชัดเจนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการขอจัดสรรงบประมาณ การจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้เพียงพอ และซ่อมแซมเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดให้มีความพร้อมในการใช้งาน รวมทั้งการให้ความสำคัญกับผู้บริหารทุกระดับ ให้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้มากขึ้น และความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งพิจารณาแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ แล้ว สืบเนื่องจากในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา ตัวเลขของผู้เสียชีวิตไม่ได้ลดลงมากนัก และเมื่อพิจารณาดัชนีความรุนแรง พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จึงควรทบทวนสาเหตุที่เฉพาะเจาะจง พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเฉพาะ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25213 | สรุปผลการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 2 (2nd Mekong River Commission Summit) | ทส | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๒ [2nd Mekong River Commission (MRC) Summit] ระหว่างวันที่ ๔-๕ เมษายน ๒๕๕๗ ณ นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผู้นำประเทศสมาชิกได้ร่วมกันทบทวนผลการดำเนินงานภายใต้ปฏิญญาหัวหิน ค.ศ. ๒๐๑๐ (ซึ่งได้มีการประกาศรับรองในการประชุมสุดยอดลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๓) พบว่า การดำเนินงานประสบผลสำเร็จในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาลุ่มน้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ การศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การศึกษาและให้คำแนะนำการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานในลุ่มน้ำโขง ระเบียบปฏิบัติการใช้น้ำ การขยายความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพประเทศสมาชิก ฯลฯ พร้อมทั้งได้แสดงคำมั่นที่จะสนับสนุนและเร่งรัดการศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนของลุ่มน้ำโขง รวมถึงการศึกษาผลกระทบของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขงสายประธานของคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Council Study) เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถใช้ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์นำมาประกอบการตัดสินใจกำหนดนโยบายการพัฒนาโครงการบนแม่น้ำโขงสายประธาน เพื่อลดผลกระทบข้ามพรมแดนที่อาจเกิดขึ้น ๒. ที่ประชุมได้มีการประกาศปฏิญญานครโฮจิมินห์ ค.ศ. ๒๐๑๔ ซึ่งยืนยันเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรน้ำและทรัพยากรอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม รวมทั้งวางยุทธศาสตร์การพัฒนาในอนาคต ๓. ประเทศสมาชิกให้คำมั่นที่จะอนุวัติการดำเนินงานตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ค.ศ. ๑๙๙๕ โดยร่วมกันเสริมสร้างบทบาทของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง สนับสนุนการเตรียมการถ่ายโอนภารกิจแก่ประเทศสมาชิก และเตรียมการให้องค์กรมีความยั่งยืนทางการเงินโดยการสนับสนุนจากประเทศภาคีสมาชิกภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ๔. การประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๓ กำหนดจัดขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. ๒๐๑๘ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา
|
|||||||||||||||||||||
25214 | ขอทบทวนข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 | วท | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทบทวนข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ด้านสังคม
จากเดิม “ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เห็นชอบในหลักการโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้) พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘ พร้อมกรอบวงเงินงบประมาณดำเนินการ จำนวน ๘,๖๔๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ นั้น ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิจารณาทบทวนสถานที่ก่อสร้างอุทยานวิทยาศาสตร์ดังกล่าว โดยอาจก่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือในภาคกลาง หรือขยายพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่มีอยู่เดิมให้เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่ตั้งอยู่ภายในเทคโนธานี ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป” เป็น “ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ เห็นชอบกรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยมีโครงการศูนย์รวบรวมและถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรมชั้นสูงเพื่อการท่องเที่ยว (พิงคนคร) และโครงการศูนย์รวบรวมและถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรมชั้นสูงเพื่อการเกษตร (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมอยู่ด้วย นั้น ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิจารณาทบทวนโครงการและสถานที่ก่อสร้าง โดยอาจก่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือในภาคกลาง หรือขยายพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่มีอยู่เดิมให้เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่ตั้งอยู่ภายในเทคโนธานี ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป”
|
|||||||||||||||||||||
25215 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 15 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๑๕ (The 15th Informal ASEAN Ministerial Meeting on Environment : 15th IAMME) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ๕ ประเทศอนุภูมิภาคแม่โขงเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ ๔ การประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ ๑๐ การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน+๓ ครั้งที่ ๑๓ และการประชุมรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๔ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะหารือ ทบทวน และพิจารณาประเด็นความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการกลั่นกรองจากที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๒๗-๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ และให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องตามนัยผลการประชุมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปในโอกาสแรก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยผลการประชุม 15th IAMME สรุปได้ ดังนี้
๑. รับทราบความเห็นจากเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมที่มีต่อร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-สหรัฐฯ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN-US Joint Statement on Climate Change) โดยเฉพาะในส่วนการปรับเปลี่ยนถ้อยคำให้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของประเทศอาเซียนและสหรัฐฯ ในความพยายามที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกบนพื้นฐานความเท่าเทียมตามหลักความเสมอภาค และความเท่าเทียมกัน ในระดับความรับผิดชอบที่แตกต่างตามกำลังความสามารถ ๒. รับทราบสถานภาพของร่างกรอบข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรชีวภาพและทรัพยากรพันธุกรรมอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม โดยประเทศสมาชิกอาเซียน ๙ ประเทศ มีความเห็นว่าขณะนี้มีพิธีสารนาโงยาที่ครอบคลุมเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรอยู่แล้ว ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนอาจพิจารณารายละเอียดการดำเนินงานของพิธีสารดังกล่าวเพิ่มเติมต่อเนื่องร่วมกันเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศสมาชิกอาเซียนต่อไป ๓. เห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Joint Statement on Climate Change) ที่จะส่งเสริมความร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมิให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน ๒ องศาเซลเซียส และการปรับตัวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้หลักการของการรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เกิดการรักษาและจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน ๔. เห็นชอบข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขข้อตกลงการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Establishment Agreement of the ASEAN Centre for Biodiversity) ตามที่บทบัญญัติข้อ ๑๑ ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทบทวนข้อตกลงฯ อย่างน้อยทุก ๆ ๕ ปี ๕. ให้การรับรองเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Mt. Hamiguitan Range และอุทยานแห่งชาติ Tubbataha Reefs ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน แห่งที่ ๓๔ และ ๓๕ ๖. เห็นชอบต่อหัวข้อ “Empowering Youth for Green ASEAN Community” ของงานปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน ๒๐๑๕ และพิธีมอบรางวัลโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา ครั้งที่ ๒ ที่จะจัดขึ้น ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ๗. ให้การสนับสนุนในหลักการต่อการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยเศรษฐกิจสีเขียว (ASEAN Institute for Green Economy) ที่เสนอโดยสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยยังคงต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25216 | โครงการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2558 | พศ | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินโครงการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๕๘ และให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมสนับสนุนการดำเนินงานต่อไป ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคม โดยร่วมกับวัดทุกวัด จำนวน ๓๘,๙๘๔ วัด และวัดไทยในต่างประเทศ จำนวน ๔๖๒ วัด ซึ่งตั้งอยู่ใน ๓๓ ประเทศ สำนักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วนดำเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ด้วยการจัดกิจกรรมสวดมนต์เจริญจิตตภาวนาข้ามปี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ครอบครัว และสังคม
|
|||||||||||||||||||||
25217 | การดำเนินโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ที่กระทรวงมหาดไทยมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน | มท | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินงานโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ที่กระทรวงมหาดไทยมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ซึ่งส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดได้เร่งรัดดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ประกอบด้วยงานต่าง ๆ ดังนี้
๑. ศูนย์ดำรงธรรม นำสุข แก้ทุกข์ ๒๔ ชั่วโมง ๒. ท้องถิ่นโปร่งใส จัดสรรงบประมาณใหม่ ทั่วถึงเป็นธรรม ๓. อยุธยาเมืองประวัติศาสตร์ เมืองสะอาดปลอดขยะต้นแบบ ๔. ติดต่อราชการทันใจ ไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน ๕. OTOP ทั่วไทย ส่งความสุขปีใหม่ สร้างรายได้ ขยายตลาดสู่อาเซียน ๖. ตลาดนัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้ ๗. สำนักงานที่ดินทั่วไทย รวดเร็ว โปร่งใส ใส่ใจบริการ ๘. ๒๕๕๘ ปีทองผังเมือง พัฒนาทั่วไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน ๙. มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน ๑๐. รวมพลคนกู้ชีพกู้ภัย เพื่อคนไทยมีความสุข ๑๑. คลองสวยน้ำใส คนไทยมีความสุข ๑๒. ถนนสวย เดินได้ ปั่นได้ ค้าขายคล่องตัว ๑๓. สว่างไสวทั่วไทย จ่ายไฟทุกครัวเรือน ๑๔. LED สว่างไสว รับปีใหม่มหานคร ๑๕. ประปาสร้างสุข ทุกคนมีน้ำใช้ ๑๖. ประปาทันใจ คนไทยมีสุข ๑๗. ปากคลองตลาดโฉมใหม่ สะอาด ปลอดภัย สินค้าสดใหม่ทุกวัน
|
|||||||||||||||||||||
25218 | การจัดกิจกรรม "เติมความสุข ให้คนไทย จากใจทหาร" เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน | กห | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดกิจกรรม “เติมความสุข ให้คนไทย จากใจทหาร” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงกลาโหมได้จัดกิจกรรม “เติมความสุข ให้คนไทย จากใจทหาร” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยยึดหลักการใช้ศักยภาพของหน่วยทหารในพื้นที่ต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั้งในเรื่องการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาอาชีพ ตลอดจนการให้บริการและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จำนวน ๕๑ แผนงาน/โครงการ ได้แก่ ๑.๑ กลุ่มงานการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จำนวน ๑๙ แผนงาน/โครงการ ๑.๒ กลุ่มงานการช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาอาชีพ จำนวน ๒๓ แผนงาน/โครงการ ๑.๓ กลุ่มงานการให้บริการต่าง ๆ จำนวน ๙ แผนงาน/โครงการ ๒. การจัดกิจกรรมในภาพรวมของกระทรวงกลาโหม โดยดำเนินการพร้อมกันทุกหน่วยทั่วประเทศ จำนวน ๔ กิจกรรม ได้แก่ ๒.๑ กิจกรรมสัปดาห์ทำความสะอาดศาสนสถานและแหล่งชุมชนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๒ ถึงวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๒.๒ การจัดตั้งจุดบริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำ ระหว่างวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๘ ๒.๓ การเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ในเขตทหารโดยไม่คิดค่าบริการ ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๘ ๒.๔ การเปิดให้บริการศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในหน่วยทหาร ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
25219 | โครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี "ของขวัญปีใหม่จากใจ ทส." | ทส | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยโครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ของขวัญปีใหม่ตามนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ในระยะยาว และของชำร่วยปีใหม่ แถมให้ประชาชน สรุปได้ ดังนี้
๑. ของขวัญปีใหม่ตามนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ในระยะยาว ประกอบด้วย ๑.๑ นโยบายแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งได้แก่ จัดทำโครงการ “คืนคลองให้น้ำไหล คืนความใสให้แม่น้ำทั่วประเทศ” เพื่อบำรุงรักษา ขุดลอกคู คลอง แหล่งน้ำธรรมชาติ และสร้างระบบประปาบาดาลให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ให้บริการเป่าล้างและซ่อมแซมระบบบาดาลเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและมอบน้ำดื่มสะอาดแก่สถานสงเคราะห์เด็ก คนชรา และผู้ยากไร้ ๑.๒ นโยบายบริหารจัดการขยะของประเทศไทย ได้แก่ กำจัดขยะมูลฝอยเก่าที่ตกค้างสะสมและปรับปรุงฟื้นฟูสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่วิกฤติ และแจกเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควันให้กับพื้นที่นำร่อง เพื่อให้ประชาชนกำจัดขยะชีวมวลอย่างมีประสิทธิภาพและลดปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง ๑.๓ นโยบายการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้อย่างยั่งยืน ได้แก่ เปิดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเริ่มจากการเร่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ป่าที่คดีสิ้นสุดแล้ว และนำพื้นที่นี้กลับมาฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป รวมทั้งส่งเสริมและจัดตั้ง “ป่าชุมชน” เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ติดกับพื้นที่ป่าสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากของป่าแลกกับการช่วยดูแลรักษาป่า ให้ประชาชนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน ๑.๔ นโยบายจัดที่ดินให้ราษฎรผู้ไร้ที่ดินทำกิน ได้แก่ การจัดหาที่ดินเพื่อจัดให้ราษฎรผู้ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกินเข้าใช้ประโยชน์ในลักษณะเป็นสิทธิชุมชน และนำร่องระบบสหกรณ์เพื่อจัดการใช้ประโยชน์ที่ดินและฟื้นฟูป่าชายเลนเสื่อมสภาพให้เป็นป่าชายเลนสมบูรณ์ ๑.๕ จัดทำเส้นทางจักรยานในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จำนวน ๑๔๗ แห่ง โดยเริ่มที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นพื้นที่นำร่อง ๒. ของชำร่วยปีใหม่ แถมให้ประชาชน ได้แก่ ๒.๑ เปิดให้เข้าเยี่ยมชม ใช้บริการ และร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในช่วงระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึง ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ ในสถานที่ท่องเที่ยวของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ อุทยานแห่งชาติ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ทางธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ เป็นต้น ๒.๒ ปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ระยะทาง ๒ กิโลเมตร ๒.๓ จัดทำ Application คาร์บอนฟุตพรินท์ของกิจกรรมส่วนบุคคล เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักแก่ประชาชนให้มีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน ๒.๔ จัดทำโครงการรณรงค์รักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะและสร้างวินัยในการจัดการขยะ
|
|||||||||||||||||||||
25220 | ของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชนของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบของขวัญปีใหม่มอบให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยมีกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ จำนวน ๑๙ กิจกรรม ดังนี้
๑. จัดทำสติ๊กเกอร์ LINE ค่านิยม ๑๒ ประการ โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดได้ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ระยะเวลาในการใช้งานสติ๊กเกอร์ดังกล่าวเป็นระยะเวลา ๓ เดือน ๒. จัดงาน ICT Expo Grand Sale 2015 กำหนดจัดในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ภายในงานจะมีการลดราคาสินค้า ๒๐-๗๐% ในกลุ่ม IT, Telecom และเครื่องใช้ไฟฟ้า การประมูลสินค้าราคาถูก มอบของขวัญกับประชาชนที่มาร่วมงาน และจัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีการสื่อสารและเทคโนโลยีด้านการศึกษา ๓. โครงการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี WI-FI โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์สาธารณะ จำนวนกว่า ๑๓๐,๐๐๐ จุดทั่วประเทศ เริ่มให้บริการได้ภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๘ ๔. โครงการเสริมสร้างองค์ความรู้และการมีส่วนร่วมด้านอุตุนิยมวิทยาสู่ประชาชน เพื่อก้าวสู่ศักราชใหม่ปลอดจากภัยธรรมชาติ กำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๘ ณ ศูนย์เยาวชนบางนา ๕. โครงการพัฒนาเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อให้ประชาชน/หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านอุตุนิยมวิทยาได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทันเวลา ๖. โครงการปันน้ำใจให้น้อง โดยจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ มอบให้แก่นักเรียนและประชาชน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลปไทยอนุสรณ์ ๒ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ ๒๐-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๗. การจัดทำสื่อสร้างสรรค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา โดยจัดทำปฏิทิน พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่มีข้อมูลอุตุนิยมวิทยาสำหรับแจกจ่ายแก่หน่วยงานและประชาชน ๘. สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนและกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก่ประชาชน ๙. จัดทำรายการส่งเสริมการขาย “ทีโอที ขอบคุณ ๖๐ ปี” สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์ประจำที่ของทีโอที ทุกเลขหมาย จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นค่าโทรเฉพาะที่โทรไปยังเลขหมายปลายทางที่เป็นโทรศัพท์ประจำที่ทุกโครงข่ายทั่วไทย ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗-๒ มกราคม ๒๕๕๘ ๑๐. จัดโปรโมชั่นคืนประโยชน์ให้ผู้ใช้บริการ เช่น ปรับลดค่าอินเทอร์เน็ต ON Net 15M/1M ลง ๘% ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ (ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ น.) ปรับลดค่าโทรระหว่างประเทศ ๐๐๑ ทุกประเทศ ลง ๑๘% จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (สิ้นสุดเวลา ๒๓.๕๙ น.) ๑๑. กิจกรรม “เขียนคำว่ารัก ประเทศไทย” ระหว่างวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗-๙ มกราคม ๒๕๕๘ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเขียนบอกรักประเทศไทยผ่านโปสการ์ดแจกฟรีสำหรับเทศกาลปีใหม่ โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะรวบรวมส่งมอบให้กับรัฐบาลต่อไป ๑๒. แจกโปสการ์ดฟรีให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยจัดสรรโปสการ์ดออกแบบพิเศษชุด Love Series สำหรับวันปีใหม่ ระหว่างวันที่ ๑๑ ธันวาคม-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๑๓. รณรงค์ให้คนไทยส่งกำลังใจให้ทหารชายแดน โดยประชาชนสามารถขอใช้บริการไปรษณีย์สนามชายแดน น้ำหนักไม่เกิน ๕ กิโลกรัมฟรี เพื่อส่งสิ่งของ เช่น หนังสือ เสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ ไปชายแดน ๑๔. ให้บริการสืบค้นข้อมูลบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีผลิตภัณฑ์เป็นที่น่าเชื่อถือทางเว็บไซต์ http://sipamember.sipa.or.th พร้อมเปิดใช้งานได้ในเดือนมกราคม ๒๕๕๘ ๑๕. โครงการศึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการบริหารด้านสาธารณสุขข้อมูลส่วนบุคคลของจังหวัดนครนายก เป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนทั้งทางด้านระบบสุขภาพของคนไทย และได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครนายก ในการให้ความคิดเห็นและพัฒนาข้อมูล เพื่อนำไปใช้งานได้อย่างยั่งยืนต่อไป ๑๖. โครงการ Ancient Lanna สถาปัตยกรรมด้านซอฟต์แวร์เพื่อการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ในจังหวัดเชียงใหม่ มีการใช้เทคโนโลยีต่อยอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการพัฒนาสื่อผสมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้งาน ได้พัฒนาระบบพร้อมการติดตั้งให้มีการใช้งาน โดยให้บริการ ๓ วัด ได้แก่ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดสวนดอก และวัดเจดีย์หลวง ๑๗. โครงการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน เรื่อง “พระมหาชนก” โดยฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และฉายให้ประชาชนทั่วไปได้รับชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน-ธันวาคม ๒๕๕๗ รวมทั้งเผยแพร่ทาง Line TV และจัดทำแผ่น DVD เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ๒๕๕๘ ให้แก่ประชาชน ๑๘. โครงการพัฒนาแอปพลิเคชันภาครัฐ เพื่อช่วยให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีชีวิตที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น App "Lost Car" สำหรับการสืบค้นหารถที่ถูกแจ้งเป็นรถสูญหาย เป็นต้น ๑๙. การพัฒนางานตามนโยบาย Digital economy เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน “สุขพอที่พ่อสอน”ร่วมกับสำนักราชเลขาธิการ เป็นต้น
|
.....