ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1070 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 21381 - 21400 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21381 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... | พม | 09/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21382 | รายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ของชาติ | ทส | 09/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ของชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยมีผลการพิจารณา ดังนี้
๑. ให้มีคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เพื่อกำหนดนโยบายด้านป่าไม้ของประเทศในภาพรวม โดยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นนโยบายของทุกรัฐบาล ๒. รวมกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเข้าด้วยกัน เพื่อให้การป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้มีเอกภาพ ๓. จัดตั้งสำนักงานป่าไม้จังหวัดและสำนักงานป่าไม้อำเภอให้เป็นหน่วยงานส่วนภูมิภาค ๔. เห็นด้วยกับการจัดทำแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน ๑ : ๔,๐๐๐ (One Map) เพื่อปรับปรุงแนวเขตป่าไม้แต่ละประเภท ๕. ให้กรมที่ดินทำหน้าที่ดูแลฐานข้อมูลรูปแปลงที่ดินของรัฐ ๖. ควรเปิดเผยข้อมูลแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ ที่หวงห้ามของรัฐ และภาพถ่ายทางอากาศทุกชั้นปีให้ประชาชนเข้าถึง ๗. ควรบูรณาการฐานข้อมูลที่ดินป่าไม้ แนวเขตป่าไม้และที่ดินรัฐประเภทอื่นร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้เกิดความชัดเจนเป็นมาตรฐานเดียวกัน ๘. ควรทบทวนกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแนวเขตที่ดินของรัฐโดยให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม
|
||||||||||||||||||||||||
21383 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | มท | 09/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ในท้องที่บางส่วนของตำบลวัดหลวง บางส่วนของตำบลไร่หลักทอง บางส่วนของตำบลหน้าพระธาตุ บางส่วนของตำบลวัดโบสถ์ บางส่วนของตำบลบ้านช้าง ตำบลกุฏโง้ง ตำบลพนัสนิคม บางส่วนของตำบลนาวังหิน บางส่วนของตำบลบ้านเซิด บางส่วนของตำบลนามะตูม และบางส่วนของตำบลหมอนนาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ควรมีการตรวจสอบรายละเอียดแผนที่ท้ายกฎกระทรวงก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินท้องที่บางแห่งในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมทั้งการพัฒนาระบบผลิตพลังงานทดแทนบางประเภทที่เข้าข่ายเป็น “โรงไฟฟ้า” เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ หรือระบบผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ จะมีลักษณะการเป็น “โรงงาน” ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และอาจจะจัดตั้งไม่ได้ในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภท จึงเห็นควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมาก ตามที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะกำหนดเพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่ากรมโยธาธิการและผังเมืองควรพิจารณากำกับดูแลเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินริมคลองห้วยน้อยและคลองห้วยอีแขก เพื่อรักษาคุณภาพลำน้ำและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก ตลอดจนควบคุมการขยายตัวของเมือง ไม่ให้ขยายตัวกระจัดกระจาย เพื่อให้สอดคล้องกับภูมิสังคมของพื้นที่และสถานการณ์การพัฒนาเมืองได้อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21384 | ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ | นร | 09/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและประเภทสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสิ่งมีชีวิตอื่น เป็นสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต การต่อใบอนุญาต และใบแทนใบอนุญาตใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้สัตว์และผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับ (๑) ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและประเภทสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ในการพิจารณากำหนดรายละเอียดประเภทของสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจนว่า ครอบคลุมถึงการวิจัยสัตว์จากธรรมชาติในสถานที่ธรรมชาติด้วยหรือไม่ (๒) ร่างกฎกระทรวงกำหนดสิ่งมีชีวิตอื่น เป็นสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ในการกำหนดให้สัตว์ที่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ว่ามีประสาทรับรู้ถึงความเจ็บปวดเป็นสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ควรรวมแมลงและแมง หอยและหมึก (ยกเว้น หมึกยักษ์ Octopus vulgaris) ปูและกุ้งเป็นสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ และไม่ควรกำหนดให้แมลงและแมงรวมอยู่ในร่างกฎกระทรวงกำหนดสิ่งมีชีวิตอื่นฯ (๓) ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต การต่อใบอนุญาต และใบแทนใบอนุญาตใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... มีความคลาดเคลื่อนในข้อ ๗ (ง) ในส่วนของข้อความ “พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองป่า พ.ศ. ๒๕๔๕” ที่ถูกต้องควรเป็น “พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕” และนิยามของผลผลิตจากสัตว์ที่ระบุว่า รวมถึง ไข่ เลือด อวัยวะ เนื้อเยื่อ เซลล์ เซรุ่ม และฮอร์โมน ควรระบุให้ชัดเจนว่าการวิจัย cell line จะได้รับการยกเว้นหรือไม่ หากไม่ได้รับการยกเว้น นักวิจัยที่ดำเนินการวิจัยกับเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ จำเป็นต้องขอรับใบอนุญาตหรือไม่ ตลอดจนการลดจำนวนปีของประสบการณ์ของนักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญลงมาเป็นประมาณ ๒๐ ปี ในข้อกำหนดที่ให้นักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า ๓๐ ปี เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติรับข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับพระราชบัญญัติเพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่เห็นควรให้มีการจัดทำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ที่ชัดเจนและมีความเหมาะสมในการกำหนดว่าการดำเนินการต่อสัตว์ภารกิจลักษณะใด จึงถือว่าเป็นงานทางวิทยาศาสตร์ การพิจารณาภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกอบการพิจารณาร่างกฎกระทรวงฯ ทั้ง ๔ ฉบับ เพื่อให้ภารกิจในการดำเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตฯ ควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ ข้อยกเว้นการขอรับใบอนุญาตใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ สำหรับการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและเป็นปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน สำหรับร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้สัตว์และผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ควรเพิ่มเติมการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้สัตว์และผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ สำหรับการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ฯ เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21385 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2558 และครั้งที่ 5/2558 | ทส | 09/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๖ เรื่อง ได้แก่ (๑) โครงการทางหลวงหมายเลข ๑๑๘ สายเชียงใหม่-เชียงราย ตอนอำเภอดอยสะเก็ด-บ้านแม่เจดีย์ ของกรมทางหลวง (๒) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองตำมะลัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ของกรมทางหลวงชนบท (๓) โครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าระดับแรงดัน ๑๑๕ กิโลโวลต์ ช่วงสถานีไฟฟ้าฮอด อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานีไฟฟ้าแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (๔) (ร่าง) กรอบทิศทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๒๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๕๙ และ (ร่าง) ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขอจัดสรรและขอกู้ยืมเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ....) (๕) รายงานโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) ในพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และ (๖) แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๒ มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๑ เรื่อง ได้แก่ โครงการระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ (ระยะที่ ๑) แนวเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ๒. ให้ทุกส่วนราชการจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อให้โครงการสำคัญต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21386 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) (นายปวัตร์ นวะมะรัตน) | กร | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปวัตร์ นวะมะรัตน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21387 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 8/2558 | กค | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ ๘/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และเห็นชอบผลการพิจารณาของ คนร. เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ ๖ แห่ง ตามที่ประธาน คนร. เสนอ ดังนี้
๑. ให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยดำเนินการตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กรและการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อย่างเคร่งครัด ๒. ให้คณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเร่งพิจารณาการจัดซื้อรถโดยสารก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน ๔๘๙ คัน ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ๓. ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งพิจารณาเกี่ยวกับการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line Airport Rail Link) ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ๔. ให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดทำแผนปฏิรูปองค์กร พร้อมทั้งจัดทำเป้าหมายและประมาณการด้านรายได้และค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนที่จะดำเนินการจนถึงไตรมาสที่ ๒ ของปี ๒๕๕๙ ๕. การแก้ไขปัญหาข้อพิพาทต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเสาโทรคมนาคม ให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ดำเนินการนำเสนอคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ กระทรวงเจ้าสังกัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||
21388 | รายงานผลการตรวจราชการแบบบูรณาการ ของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 (Annual Inspection Report : Fiscal Year 2015) ประเด็นนโยบายสำคัญการดำเนินการตามกรอบประชาคมอาเซียน และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการขยะมูลฝอย | นร | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการตรวจราชการแบบบูรณาการ ของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ (Annual Inspection Report : Fiscal Year 2015) ประเด็นนโยบายสำคัญการดำเนินการตามกรอบประชาคมอาเซียน และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการขยะมูลฝอย ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินการตามกรอบประชาคมอาเซียน ได้แก่ การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและบริการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ การเพิ่มศักยภาพของเมืองเพื่อเชื่อมโยงโอกาสจากอาเซียน (เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและด่านชายแดน) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คุณภาพชีวิตและการคุ้มครองทางสังคม และการพัฒนากฎหมาย กฎ และระเบียบ ๑.๒ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการขยะมูลฝอย โดยดำเนินการตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ได้แก่ การกำจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสมในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่วิกฤต (ขยะมูลฝอยเก่า) การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายที่เหมาะสม (ขยะมูลฝอยใหม่) การวางระเบียบมาตรการการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย และการสร้างวินัยของคนในชาติมุ่งสู่การจัดการที่ยั่งยืน ๒. ให้สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากสัดส่วนงบกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามความเหมาะสมเพื่อส่งเสริมให้การจัดการขยะมูลฝอยของประเทศเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล การดำเนินการตามกรอบประชาคมอาเซียนให้เร่งรัดดำเนินการเชื่อมโยงระบบข้อมูลภายใต้ระบบเชื่อมโยงข้อมูล ณ จุดเดียว และให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมโยงในห่วงโซ่มูลค่าระหว่างภาคการผลิตกับภาคเกษตรและภาคบริการภายในประชาคมอาเซียนให้มากขึ้น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้านการจัดการขยะมูลฝอยให้มีการเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลด้วยรูปแบบการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยให้มีการจัดการขยะที่ต้นทาง ลดปริมาณการผลิตขยะ และส่งเสริมให้เกิดกลไกการคัดแยกขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ให้มากที่สุด และการวัดผลสัมฤทธิ์จากการตรวจราชการซึ่งมีตัวชี้วัดผลสำเร็จเชิงผลลัพธ์ที่มีความชัดเจนเพื่อสะท้อนผลการปฏิบัติงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21389 | ขออนุมัติแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม สาธารณรัฐซูดาน (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายอะห์มัด บาเชียร์ เอลเนอเฟดี (Ahmed Bashir Elnefeidi)] | กต | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอะห์มัด บาเชียร์ เอลเนอเฟดี (Ahmed Bashir Elnefeidi) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม สาธารณรัฐซูดาน สืบแทน นายกามาล บาเชียร์ เอลเนอเฟดี (Gamal Bashir Elnefeidi) ซึ่งถึงแก่กรรม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21390 | การขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลกระทบจากปัญหาการบินพลเรือน ความคืบหน้า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการดำเนินการของศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (GovChannel) | นร | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ในเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลกระทบจากปัญหาการบินพลเรือน ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการดำเนินการของศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (Government Access Channel : GovChannel) ของคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของ กขร. ดังนี้
๑. การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลกระทบจากปัญหาการบินพลเรือน กขร. เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบปพ.) โดยให้กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ (Project Manager) โดยให้มีอำนาจตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนโดยเฉพาะและให้ผู้บริหารทุกระดับของกระทรวงคมนาคมกำกับดูแลบุคลากรให้ปฏิบัติตามแผนที่กำหนด และให้ความร่วมมือกับ ศบปพ. อย่างเคร่งครัด รวมถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนทั้ง ๘ ด้าน ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ศบปพ. ทุกครั้ง ๒. ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กขร. เห็นว่า โครงการตำบลละ ๕ ล้านบาท ยังมีการเบิกจ่ายที่ต่ำกว่าเป้าหมายมาก (กรอบเงิน ๓๖,๒๗๕ ล้านบาท อนุมัติแล้ว ๓๒,๗๕๙ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้วเพียง ๗.๓ ล้านบาท) จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการและรายงานผลความคืบหน้าให้ทราบต่อไป ๓. การดำเนินการของศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (GovChannel) กขร. ได้เร่งรัดและขอให้ส่วนราชการให้การสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ในการนำข้อมูลและบริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาเผยแพร่และให้บริการผ่าน GovChannel ในช่องทางต่าง ๆ อาทิ Government e-Service Website Government Mobile Application Portal Government Kiosk & Government Smart Box เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
21391 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ศรีสะเกษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ของสาขาวิชารัฐศาสตร์ และสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และกำหนดสีประจำสาขาวิชาดังกล่าวเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
21392 | การออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 | มท | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา และค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราเพื่อบังคับใช้กับแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่ผ่านการตรวจสัญชาติ หรือพิสูจน์สัญชาติ และแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ที่เข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย ตามข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานระหว่างรัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
21393 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานสุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 4 ฉบับ | กษ | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานสุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยระหาร ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำบ้านจรัส และทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยระหาร เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำบ้านจรัส เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับกรณีพื้นที่ตามร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๑.๓ ซึ่งทับซ้อนกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า นั้น ในกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ยืนยันไม่เพิกถอนพื้นที่อ่างเก็บน้ำออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาพื้นที่ จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า หากไม่ดำเนินการเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในส่วนที่ทับซ้อนกับพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านจรัส จะสามารถแต่งตั้งเจ้าพนักงานหรือนายช่างชลประทานเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อมิให้การปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานหรือนายช่างชลประทานขัดต่อมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้หรือไม่ ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ ก็จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานหรือนายช่างชลประทาน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
21394 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในสถาบันวิทยาลัยชุมชน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | นร09 | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในสถาบันวิทยาลัยชุมชน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งส่วนราชการในสถาบันวิทยาลัยชุมชน กระทรวงศึกษาธิการ รวม ๒๑ ส่วนราชการ ได้แก่ (๑) สำนักงานสถาบัน (๒) วิทยาลัยชุมชนตราด (๓) วิทยาลัยชุมชนตาก (๔) วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส (๕) วิทยาลัยชุมชนน่าน (๖) วิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์ (๗) วิทยาลัยชุมชนปัตตานี (๘) วิทยาลัยชุมชนพังงา (๙) วิทยาลัยชุมชนพิจิตร (๑๐) วิทยาลัยชุมชนแพร่ (๑๑) วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร (๑๒) วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน (๑๓) วิทยาลัยชุมชนยโสธร (๑๔) วิทยาลัยชุมชนยะลา (๑๕) วิทยาลัยชุมชนระนอง (๑๖) วิทยาลัยชุมชนสงขลา (๑๗) วิทยาลัยชุมชนสตูล (๑๘) วิทยาลัยชุมชนสมุทรสาคร (๑๙) วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว (๒๐) วิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู และ (๒๑) วิทยาลัยชุมชนอุทัยธานี และให้ส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21395 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. .... | กค | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญที่ระลึก ๑๐๐ ปี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลายและลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว ราคา ๒๐ บาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
21396 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... | รง | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... โดยกระทรวงแรงงานได้มีคำสั่งกระทรวงแรงงาน ที่ ๑๑๙/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณา เร่งรัด ติดตามร่างกฎหมายลำดับรองเพื่อรองรับร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... ซึ่งคณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนถ้อยคำในมาตรา ๑๓ แห่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จากคำว่า “เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม” เป็นคำว่า “เลือกปฏิบัติ” นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นควรให้ใช้คำว่า “เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม” ดังเดิม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21397 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. มาตรการในการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรให้กระทำได้ง่ายขึ้น กรมที่ดินชี้แจงว่าการกำหนดจำนวนเสียงของผู้ซื้อไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง เพื่อคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรร โดยมิให้ผู้จัดสรรที่ดินพ้นจากหน้าที่ดูแลในการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคได้โดยง่ายเพียงแต่อาศัยจำนวนเสียงข้างน้อย ซึ่งการกำหนดให้มีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนแปลงย่อยตามแผนผังโครงการจะทำให้การบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อที่ดินจัดสรรในโครงการได้อย่างเหมาะสม ๒. การจดแจ้งในโฉนดที่ดินจัดสรรส่วนที่เป็นสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะ กรมที่ดินได้กำหนดแนวทางให้เจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการจดแจ้งในโฉนดที่ดินจัดสรรส่วนที่เป็นสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ๓. การกำหนดอัตราค่าปรับสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ชำระเงินค่าบำรุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภคล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนด กรมที่ดินได้แจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดตรวจสอบว่าคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดประกาศกำหนดอัตราค่าปรับและกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินจัดสรรแล้วหรือไม่ หากยังไม่ดำเนินการ ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนำเรื่องเสนอคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ตามแบบตัวอย่างแล้วรายงานให้กรมที่ดินทราบ
|
||||||||||||||||||||||||
21398 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ประกอบการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ) | มท | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ประกอบการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดระเบียบชายหาด เป็นแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในที่สาธารณประโยชน์บริเวณชายหาด ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและประชาชน ซึ่งในการจัดระเบียบชายหาดตามนโยบายดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ชายหาดดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการจัดระเบียบชายหาดให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ให้จัดระเบียบพื้นที่และขอบเขตของผู้ประกอบการให้ชัดเจน โดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนผู้ใช้พื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21399 | รายงานการพิจารณาศึกษา ภาคที่ 1 เรื่อง แนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและการสร้างเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุ ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา ภาคที่ ๑ เรื่อง แนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและการสร้างเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุ และข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการออกกำลังกายและนวัตกรรมเครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ การบูรณาการงานด้านผู้สูงอายุ ระบบการเบิกจ่ายงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการงานด้านผู้สูงอายุ และข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานและข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21400 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศย | 02/02/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยสำนักงานศาลยุติธรรมได้พิจารณากำหนดกรอบอัตรากำลังศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ แบ่งเป็น ๑๑ คณะ จำนวน ๗๓ อัตรา และได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดตั้งและเปิดทำการศาลยุติธรรมและแผนกคดีในศาลยุติธรรม เพื่อขับเคลื่อนการจัดตั้งศาลและเปิดทำการศาลยุติธรรมและแผนกคดีในศาลยุติธรรม รวมทั้งประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้การจัดตั้งและเปิดทำการศาลยุติธรรมและแผนกคดีในศาลยุติธรรมเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ที่ประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ได้มีมติเห็นชอบให้เปิดทำการศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ และได้มีการประชุมผู้แทนหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ เรียบร้อยแล้ว ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....