ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1065 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 21281 - 21300 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21281 | ข้อคิดเห็นของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี | นร | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล) รายงานข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและการบริหารราชการแผ่นดิน สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รองนายกรัฐมนตรี (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้บังคับบัญชาต้องติดตามการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เช่น การรับเงิน การคบหากับผู้ที่ค้ามนุษย์ และให้รายงานตามลำดับชั้นภายใน ๓๐-๖๐ วันตามหลักเกณฑ์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาได้มีการตรวจสอบติดตามการดำเนินคดีและไม่ละเลย มิฉะนั้นผู้บังคับบัญชาจะมีความผิดทางวินัยฐานปล่อยปละละเลย ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ไม่ว่าเป็นผู้กระทำเอง ให้การสนับสนุนหรือพบปะสังสรรค์กับผู้กระทำความผิดเป็นประจำจะมีโทษเป็น ๒ เท่า โดยตั้งแต่ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกอบด้วย พลเรือน ทหาร และตำรวจ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ๘ คดี จำนวน ๓๕ คน จากคดีประมาณ ๑,๒๐๐ คดี ผู้ต้องหาจำนวน ๑,๕๐๐ คน ซึ่งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวจะมีการรวบรวมแล้วรายงานไปยังหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาเรื่องการจัดอันดับในการค้ามนุษย์ของไทยด้วย ๑.๒ รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รายงานเกี่ยวกับการชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการบังคับใช้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ และร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทยว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาในประเด็นการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ นั้น ในขณะนี้กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมในการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติดังกล่าว ส่วนกรณีการปรับอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน นั้น คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานศึกษาความเหมาะสม ผลดี และผลเสียก่อนเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๑.๓ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล) รายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ จำนวน ๘ คณะ คือ (๑) คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ (๒) คณะกรรมการฝ่ายพิธีการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (๓) คณะกรรมการฝ่ายจัดกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (๔) คณะกรรมการฝ่ายจัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (๕) คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรการจัดงานและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (๖) คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ (๗) คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือจดหมายเหตุงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ และ (๘) คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองโครงการและกิจกรรมงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับคดีการค้ามนุษย์ให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ๓. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและสรุปรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการต่อนายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||
21282 | ผลการประชุมหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กรอ. ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2559 | นร11 | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กรอ. ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๙ และเห็นชอบข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. การฟื้นฟูและพัฒนาบึงบอระเพ็ดอย่างเป็นเอกภาพเพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำและการท่องเที่ยว มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณากำหนดแนวทางการฟื้นฟูและพัฒนาบึงบอระเพ็ด รวมทั้งกลไกการบริหารจัดการให้เป็นเอกภาพ โดยคำนึงถึงหลักการพัฒนาพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืน ตลอดจนความสอดคล้องกับแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐด้วย ๒. การแก้ไขปัญหาภัยแล้งโดยการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลพิจารณาดำเนินการในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเป็นอันดับแรก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่โดยความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐ ๓. การส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ ๓.๑ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการต่อยอดเส้นทางจักรยานที่ยาวที่สุดในเอเชียจากจังหวัดชัยนาทสู่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดกำแพงเพชร ระยะทาง ๑๘๔.๔ กิโลเมตร และโครงการขยายไหล่ทางเส้นทางมรดกโลกห้วยขาแข้งสู่เมืองมรดกโลกกำแพงเพชรเส้นทางหลวงชนบท หมายเลข ๓๔๕๖ หมายเลข ๓๕๐๔ และหมายเลข ๑๐๗๒ ระยะทางรวมประมาณ ๙๐ กิโลเมตร โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้เป็นสำคัญ ๓.๒ มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหารือกับกระทรวงมหาดไทยพิจารณาความเหมาะสมของโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี รวมทั้งให้ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ Night & Live Historical Park อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โดยคำนึงถึงกลุ่มคลัสเตอร์ท่องเที่ยวในประเทศและความเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ๔. การกระตุ้นการจับจ่ายและท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๒ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยจัด “เทศกาล กิน ช๊อป เที่ยวของดี ๔ จังหวัด มีรางวัล” มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับกระทรวงมหาดไทยพิจารณากิจกรรมในการดำเนินงานและการใช้ประโยชน์จากงบประมาณของท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ๕. การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจร (Bio Hub) เพื่อการเกษตรยั่งยืน มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาข้อเสนอการกำหนดให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นจังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษคลัสเตอร์อุตสาหกรรมชีวภาพเพื่อส่งเสริมการลงทุนโครงการอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจรเพื่อการเกษตรยั่งยืนตามที่ภาคเอกชนเสนอไปพิจารณาในรายละเอียด เนื่องจากการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารชีวภาพ (Bio Food) และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ (Bio Fuel) อยู่ในอุตสาหกรรม S-Curve ที่ให้การส่งเสริมการลงทุนอยู่แล้ว ทั้งนี้ ให้สถาบันการศึกษาในพื้นที่ดำเนินการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในประเด็นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ รวมทั้งการผลิตกำลังคนที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด |
|||||||||||||||||||||
21283 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดตราเครื่องหมายการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | กษ | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดตราเครื่องหมายการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรูปลักษณะตราเครื่องหมายการยางแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
21284 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนอ้อมใหญ่ จังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... | มท | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนอ้อมใหญ่ จังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม การพัฒนาระบบผลิตพลังงานทดแทนบางประเภทที่เข้าข่ายเป็น “โรงไฟฟ้า” อาจจะจัดตั้งไม่ได้ในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภท ควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมาก ตามที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะกำหนด และข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงที่การประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน ๗๔ ประเภท ๓๔๐โรงงาน ส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ ควรเพิ่มประเภทและขนาดโรงงานในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว รวมทั้งเพิ่มโรงงานประเภท ๑๐๕ โรงงานคัดแยก ฝังกลบสิ่งปฏิกูล และประเภท ๑๐๖ โรงงานนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกฎกระทรวงประกาศใช้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะต้องให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงอย่างเข้มงวดและจริงจัง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
21285 | การขอยกระดับกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่เป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่ และการขอยกระดับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่ (กระทรวงการต่างประเทศ) (หม่อมหลวงปรียพรรณ ศรีธวัช) | กต | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอกรณีรับบาลสาธารณรัฐเปรูมีความประสงค์ ดังนี้
๑. ขอยกระดับ หม่อมหลวงปรียพรรณ ศรีธวัช กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่ เป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่ ๒. ขอยกระดับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรูประจำจังหวัดเชียงใหม่
|
|||||||||||||||||||||
21286 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายชนะชาติ พลพงศ์) | นร10 | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายชนะชาติ พลพงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21287 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลปงแสนทอง ตำบลบ่อแฮ้ว ตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย และตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... | คค | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลปงแสนทอง ตำบลบ่อแฮ้ว ตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย และตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลปงแสนทอง ตำบลบ่อแฮ้ว ตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย และตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมต่อระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑ กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
21288 | ขอถอนคืนร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีภาษีอากรฝ่ายสรรพากร พ.ศ. .... | กค | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีภาษีอากรฝ่ายสรรพากร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21289 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ การจดทะเบียนจำนองเรือที่อยู่ระหว่างการต่อ พ.ศ. .... | คค | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ การจดทะเบียนจำนองเรือที่อยู่ระหว่างการต่อ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวการทำสัญญาจำนอง การยื่นคำขอจดทะเบียนจำนอง การออกใบทะเบียนการจำนอง การเปลี่ยนแปลงใบทะเบียนการจำนอง การไถ่ถอนการจำนอง และการแก้ไขสัญญาจำนอง เรือที่อยู่ระหว่างการต่อ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
21290 | ขอความเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์สุขภาพโลกของประเทศไทย พ.ศ. 2559 - 2563 (Thailand Global Health Strategic Framework 2016 - 2020) | สธ | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของกรอบยุทธศาสตร์สุขภาพโลกของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ (Thailand Global Health Strategic Framework 2016-2020) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านสุขภาพและปลอดภัยจากภัยคุกคามด้านสุขภาพเพื่อขับเคลื่อนและส่งเสริมให้เศรษฐกิจและสังคมไทยพัฒนาได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งสามารถมีบทบาทและความร่วมมือระดับสากลเพื่อแสดงความรับผิดชอบอย่างสร้างสรรค์ด้านสุขภาพโลกในเวทีระหว่างประเทศ ประกอบด้วย ๕ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การส่งเสริมความมั่นคงด้านสุขภาพ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การเสริมสร้างระบบสุขภาพให้เข้มแข็ง ยุติธรรม และเป็นธรรม ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การส่งเสริมบทบาทนำและความรับผิดชอบด้านสุขภาพโลกของไทยในประชาคมโลก ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การเสริมสร้างความสอดคล้องระหว่างนโยบายสุขภาพภายในประเทศและระหว่างประเทศ และยุทธศาสตร์ที่ ๕ การเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรและองค์กรในด้านสุขภาพโลกอย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ และดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๙ เรื่อง การเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี โดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเพิ่มเติมประเด็นด้านมติปัญหาสุขภาพที่เกิดจากภัยคมนาคมขนส่งที่เกิดจากพฤติกรรมบุคคล การเพิ่มกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานสนับสนุนใน ๒ ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ ให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขที่ประเทศไทยมีศักยภาพแก่ประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๕ กลยุทธ์ที่ ๒ พัฒนาความร่วมมือและใช้ประโยชน์ขององค์ความรู้ด้านสุขภาพโลก การกำหนดรายละเอียด การกำหนดกิจกรรมให้ชัดเจนและการกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการ การกำหนดแผนและตัวชี้วัดการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างแท้จริง รวมทั้งการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตยา และยุทธศาสตร์ที่ ๒ กลยุทธ์ที่ ๓ ควรเน้นส่งเสริมเอกชนลงทุนสถานบริการสุขภาพบริเวณชายแดนในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทยและคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ตามชายแดน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
21291 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญและวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... | ศร | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญและวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. .... ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21292 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... | มท | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลห้วยทราย ตำบลแม่ปูคา ตำบลสันกำแพง ตำบลร้องวัวแดง ตำบลทรายมูล ตำบลแช่ช้าง และตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการตรวจสอบรายละเอียดแผนที่ท้ายกฎกระทรวงเพื่อมิให้เกิดปัญหาในการใช้ประโยชน์เพื่อการปฏิรูปที่ดิน การพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน รวมทั้งข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงอาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
21293 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสระบุรี พ.ศ. .... | มท | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสระบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลผึ้งรวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และตำบลดาวเรือง ตำบลตะกุด ตำบลปากเพรียว ตำบลตลิ่งชัน ตำบลปากข้าวสาร ตำบลโคกสว่าง อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม และพิจารณาเพิ่มระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งในอนาคตที่เชื่อมโยงศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรีแห่งใหม่ และชุมชนเมือง ถนนมิตรภาพ และบริเวณที่สำคัญอื่น ๆ การพัฒนาระบบผลิตพลังงานทดแทนบางประเภทที่เข้าข่ายเป็น “โรงไฟฟ้า” อาจจะจัดตั้งไม่ได้ในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภท ควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมาก รวมทั้งข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงอาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
21294 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร12 | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับมาตรา ๘ (เพิ่มมาตรา ๑๙/๑) ที่บัญญัติให้ผู้ใดจะดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์การมหาชนเกินกว่าสามแห่งไม่ได้ โดยให้นับรวมการเป็นกรรมการในตำแหน่งและการได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทนในตำแหน่งกรรมการด้วย ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. จะนำข้อสังเกตดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน เพื่อนำไปกำหนดเป็นข้อควรระวังในหลักเกณฑ์กลางเกี่ยวกับการสรรหาประธานกรรมการ กรรมการในคณะกรรมการ และผู้อำนวยการ ต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21295 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 8/2559 เรื่อง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน | สลธ.คสช. | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘/๒๕๕๙ เรื่อง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน สั่ง ณ วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21296 | ขอความเห็นชอบให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ | วท | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Sub-regional Workshop on the Logical Framework Approach for TC Project Design ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ภายใต้กรอบโครงการภูมิภาค RAS/0/073 “Supporting Human Resource Development and Nuclear Technology” (การสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์) และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะได้ดำเนินการประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแจ้งให้คณะผู้แทนถาวรไทยประจำกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ทราบและแจ้งทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ตามแนวทางปฏิบัติต่อไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21297 | ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงสำหรับดำเนินโครงการ ASEAN - German Programme on Response to Climate Change in Agriculture and Forestry (GAP-CC), Module ll: Forestry and Climate Change (FOR-CC) | กษ | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสาร จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนถึงสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Exchange of Notes) และ (๒) ร่างความตกลงเพื่อการดำเนินการโครงการ ASEAN-German Programme on Response to Climate Change in Agriculture and Forestry (GAP-CC), Module II : Forestry and Climate Change (FOR-CC) ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ให้อาเซียนมีการพัฒนาความร่วมมือและการจัดท่าทีร่วมกันในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคการเกษตรและป่าไม้ โดยรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจะสนับสุนนงบประมาณให้กับ Deuthsche Gesselschaft fur Internationale Zusammenarbeit (GIZ) เป็นเงินจำนวน ๔,๘๐๐,๐๐๐ ยูโร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการของ GIZ รวมถึงการจัดหาบุคลากรและการสนับสนุนอื่น ๆ ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียน (Secretary-General of ASEAN) ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และรองเลขาธิการอาเซียน (Deputy Secretary-General of ASEAN) ลงนามในร่างหนังสือความตกลงฯ เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าว ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่า รัฐบาลไทยเห็นชอบต่อร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับ และให้เลขาธิการอาเซียนและรองเลขาธิการอาเซียนลงนามในเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ตามลำดับ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผู้แทนไทยที่มีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าวควรนำผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้จากโครงการฯ มาประกอบการพิจารณาเพื่อปรับปรุงการดำเนินการภายในของประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
21298 | การแจ้งเปลี่ยนชื่อโครงการหมู่บ้านสหกรณ์อำเภอสันกำแพง ตามพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ | พม | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแจ้งเปลี่ยนชื่อโครงการหมู่บ้านสหกรณ์อำเภอสันกำแพง ตามพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ เป็น โครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง อำเภอแม่ออน ตามพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21299 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 14 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 - 30 พฤศจิกายน 2558) | นร04 | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน และโครงการส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยเพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ๑.๒ การปฏิรูปประเทศ ได้แก่ การดำเนินการเชิงนโยบาย โดยทุกส่วนราชการนำวาระการปฏิรูปและวาระการพัฒนาของสภาปฏิรูปแห่งชาติมาจัดทำแผนปฏิบัติการโดยจัดกลุ่มให้อยู่ภายใต้ประเด็นการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๖ จำนวน ๑๑ ด้าน และแบ่งเป็น ๓ วาระ รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นกลไกการขับเคลื่อนและประสานงาน มีกรอบการขับเคลื่อนการปฏิรูปในการประชุมคณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย ๑.๓ การบริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน การบริหารเศรษฐกิจ การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม สนับสนุนการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศ การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๒. ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลรับไปดำเนินการเร่งรัดส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการในประเด็นสำคัญรัฐบาล ได้แก่ การสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ การจัดทำร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (ปี ๒๕๖๐-๒๕๗๙) การประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒, ๑๓, ๑๔ และ ๑๕ (รวม ๒๐ ปี) รวมทั้งการใช้ระบบงบประมาณแบบใหม่โดยเน้นการบูรณาการในมิติ Function (ภารกิจพื้นฐาน) มิติ Agenda (ภารกิจยุทธศาสตร์ นโยบายเร่งด่วน แนวทางปฏิรูปภาครัฐ งบประมาณบูรณาการ) และมิติ Area (ภารกิจพื้นที่ ท้องถิ่น ภูมิภาค จังหวัด กลุ่มจังหวัด)
|
|||||||||||||||||||||
21300 | ขออนุมัติใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค | 16/02/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากรดำเนินโครงการแผนงานการแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณชายแดนบ้านคลองลึก ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน ๑๑๔,๖๑๑,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ลักษณะงบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ทั้งนี้ ให้กรมศุลกากรเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนวณราคากลางตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามความเป็นจริง ไว้ไม่เกิน ๓๐ วัน และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นต่อไป
|
.....