ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1050 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 20981 - 21000 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20981 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตนำเข้าอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ พ.ศ. .... | กษ | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตนำเข้าอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตนำเข้าอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับข้อกำหนดในกรณีการระงับหรือห้ามนำเข้าสินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์หรือมนุษย์ผู้บริโภคจะต้องเป็นไปตามหลักข้อยกเว้นทั่วไป (General Exception) ภายใต้องค์การการค้าโลกที่กำหนดว่า ประเทศผู้นำเข้าสามารถปฏิเสธการนำเข้าได้หากจำเป็นเพื่อปกป้องชีวิต หรือสุขภาพมนุษย์ สัตว์ หรือพืช และในการกำหนดมาตรฐานสำหรับสินค้านำเข้าจะต้องอิงกับมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับ หากจะกำหนดมาตรฐานสูงกว่าหรือเข้มงวดกว่ามาตรฐานสากลต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และจะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกับสินค้าภายในประเทศตามหลักการปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||
20982 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... | วธ | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... โดยกระทรวงวัฒนธรรมอยู่ระหว่างยกร่างประกาศคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เรื่อง การกำหนดลักษณะของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เตรียมการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา ระดมความคิด และยกร่างระเบียบที่เกี่ยวข้องเมื่อพระราชบัญญัติมีผลบังคับใช้แล้ว และมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแล้วจะนำเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้ความเห็นชอบและออกระเบียบเกี่ยวข้อง จัดเตรียมรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิด้านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและด้านบริหารจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม รวมทั้งจัดทำคู่มือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... และจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
20983 | ร่างกฎกระทรวงและร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน | ปง | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงและเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี รวม ๙ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงบางฉบับและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) และเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินสดและมูลค่าทรัพย์สินในการทำธุรกรรมที่สถาบันการเงินต้องรายงานต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินในการทำธุรกรรมที่ใช้เงินสดซึ่งผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ ต้องรายงานต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดผู้ประกอบอาชีพที่ดำเนินธุรกิจทางการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินที่มิใช่เป็นสถาบันการเงินที่ต้องรายงานการทำธุรกรรมต่อสำนักงาน พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๔ (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ๑.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกรรมที่สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ ต้องจัดให้ลูกค้าแสดงตน พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าสำหรับผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) และ (๑๐) พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ รายการ หลักเกณฑ์ และวิธีการ บันทึกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับธุรกรรม พ.ศ. .... ๑.๙ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการกับทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้รับข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๗ ควรกำหนดวิธีปฏิบัติในการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าสำหรับผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) และ (๑๐) ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสามารถปฏิบัติได้โดยไม่เป็นภาระจนเกินไป และเห็นควรมีการประชาสัมพันธ์ให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๖ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ทราบถึงผลกระทบจากการประกาศใช้ร่างกฎกระทรวงทั้ง ๘ ฉบับ และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย ส่วนร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๕ เห็นควรให้เวลาเตรียมการแก่สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพในการปรับปรุงระบบงานให้รองรับก่อนกฎกระทรวงจะมีผลบังคับใช้ ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๖ และ ๑.๗ ควรจัดรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบอาชีพอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันมิให้มีลักษณะเป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยเกินสมควร รวมทั้งร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ ๕ (๖) วรรคสาม เกี่ยวกับการดำเนินการกับทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน เห็นควรระบุข้อความเพิ่มเติมว่า “... ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ไม่อนุมัติและให้ขยายระยะเวลาส่งคืนทรัพย์สินได้อีก ๒ ครั้ง ๆ ละไม่เกินสิบห้าวัน กรณีมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจส่งคืนได้ตามกำหนดหรือ ...” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||
20984 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... | มท | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลท่าชัย ตำบลหนองอ้อ ตำบลสารจิตร และตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้วนั้น อย่างไรก็ตามหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ ๔/๒๕๕๙ ยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภทให้สามารถดำเนินการได้ ซึ่งกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์และรายละเอียดของโครงการหรือกิจการที่อยู่ในแผนดังกล่าว เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นชอบ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||
20985 | แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 (ปี 2559 - 2563) | กค | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ ๓ (ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓) ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการวางกรอบพัฒนาระบบสถาบันการเงินภายใต้แนวคิด “แข่งได้ เข้าถึง เชื่อมโยง ยั่งยืน” ประกอบด้วย ๔ นโยบายหลัก ได้แก่ (๑) การส่งเสริมการใช้บริการทางการเงินและการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ (Digitization & Efficiency) (๒) การเชื่อมต่อการค้าการลงทุนในภูมิภาค (Regionalization) (๓) การส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Access) และ (๔) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน (Enablers) ๒. ให้กระทรวงการคลังประสานธนาคารแห่งประเทศไทยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เกี่ยวกับความชัดเจนในประเด็นมาตรการในแต่ละด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์กรการเงินชุมชนโดยเฉพาะสหกรณ์ การพิจารณาถึงความเชื่อมโยงและการกำหนดช่วงเวลาของแผนฯ ให้สอดคล้องกับ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) และ (ร่าง) กรอบยุทธศาสตร์ประเทศ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) การให้ความสำคัญกับการเข้าถึงทางการเงินของวิสาหกิจชุมชน การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของสถาบันการเงิน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถาบันการเงิน การผลักดันให้สถาบันการเงินพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของ SME ในแต่ละช่วงวงจรชีวิตธุรกิจ (Business Life Cycle) รวมทั้งการส่งเสริมให้สถาบันการเงินจัดตั้งหน่วยพัฒนาผู้ประกอบการ SME ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมให้ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดดัชนีตัวชี้วัดผลการดำเนินการ (KPI) ในแต่ละด้านเพื่อใช้เป็นเป้าหมายและประเมินความสำเร็จของมาตรการและติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฯ ๒.๒ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยติดตามและรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฯ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อทราบทุกครึ่งปี |
||||||||||||||||||
20986 | สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2558/59 ครั้งที่ 15 และครั้งที่ 16 | กษ | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ครั้งที่ ๑๕ ๑.๑ สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม ๓๖,๓๔๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๒ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๒,๘๓๘ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๗ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๑.๒ การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘-๒ มีนาคม ๒๕๕๙ แผนการใช้น้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้งประเทศ ใช้น้ำไปแล้ว ๖,๔๓๒ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๖ ของแผนการจัดสรรน้ำ ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และผันน้ำจากแม่กลอง) ใช้น้ำไปแล้ว ๒,๐๒๙ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๖๓ ของแผนการจัดสรรน้ำ คิดเป็นระบายน้ำเฉลี่ยวันละ ๑๖.๕๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ๑.๓ การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ช่วงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์-๒?๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนจำนวน ๔ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เฉลี่ยวันละ ๑๗.๙๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ๑.๔ สถานการณ์การเพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๙ พื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ แผนเพาะปลูก ๗.๔๕ ล้านไร่ ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ ไม่ปลูก ๑.๐๕ ล้านไร่ โดยในพื้นที่ที่ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ แบ่งเป็น เก็บเกี่ยวแล้ว ๖.๓๘ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๒ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว พื้นที่ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว และพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จำนวน ๑.๙๗ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๐.๘๒ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๐๓ ล้านไร่ ๒. สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ครั้งที่ ๑๖ ๒.๑ สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๙ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม ๓๖,๑๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๑ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๒,๕๙๗ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๗ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๒.๒ การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘-๖ มีนาคม ๒๕๕๙ แผนการใช้น้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้งประเทศ ใช้น้ำไปแล้ว ๖,๗๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๙ ของแผนการจัดสรรน้ำ ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และผันน้ำจากแม่กลอง) ใช้น้ำไปแล้ว ๒,๑๐๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๖๖ ของแผนการจัดสรรน้ำ คิดเป็นระบายน้ำเฉลี่ยวันละ ๑๖.๕๔ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓ การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ช่วงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์-๖ มีนาคม ๒๕๕๙ กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนจำนวน ๔ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เฉลี่ยวันละ ๑๗.๘๖ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๔ สถานการณ์การเพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๙ พื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ แผนเพาะปลูก ๗.๔๕ ล้านไร่ ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ ไม่ปลูก ๑.๐๕ ล้านไร่ โดยในพื้นที่ที่ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ แบ่งเป็น เก็บเกี่ยวแล้ว ๖.๓๘ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๒ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว พื้นที่ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว และพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จำนวน ๑.๙๗ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๐.๘๒ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๐๓ ล้านไร่
|
||||||||||||||||||
20987 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักขังหญิงตั้งครรภ์และเด็กติดผู้ต้องกักขัง กรมราชทัณฑ์ได้จัดทำแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้หน่วยงานในสังกัดนำไปปฏิบัติ เช่น การจัดทำทะเบียนประวัติผู้ต้องกักขังหญิงและเด็กติดผู้ต้องกักขัง โครงการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ต้องกักขังหญิงและเด็กติดผู้ต้องกักขัง การอบรมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ต้องกักขังหญิงตั้งครรภ์และเด็กติดผู้ต้องกักขัง ตลอดจนการจัดสวัสดิการด้านต่าง ๆ ให้แก่กลุ่มผู้ต้องกักขังเหล่านั้น เป็นต้น และได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือในการปกป้องคุ้มครองเด็กติดผู้ต้องกักขัง ผู้ถูกควบคุม และเด็กซึ่งคลอดในระหว่างที่มารดาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระหว่างกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้เด็กติดผู้ต้องกักขังเหล่านี้มีพัฒนาการที่ดีทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ยกร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการใช้เครื่องพันธนาการ โดยได้กำหนดหลักการห้ามมิให้ใช้เครื่องพันธนาการกับผู้ต้องกักขังที่พิการ เว้นแต่เป็นคนดุร้ายหรือมีพฤติกรรมหรืออาการส่อว่าเป็นบุคคลวิกลจริต ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
20988 | ผลการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม วิชาการ เกษตรกรรม และวิทยาศาสตร์ (Joint Commission - JC) ไทย - อิหร่าน ครั้งที่ 9 | กต | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม วิชาการ เกษตรกรรม และวิทยาศาสตร์ (Joint Commission : JC) ไทย-อิหร่าน ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๕ มกราคม ๒๕๕๙ และวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ โดยการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านและการเข้าร่วมการประชุม JC ไทย-อิหร่าน ครั้งที่ ๙ นี้เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ในสาขาที่ทั้งสองประเทศมีความสนใจร่วมกันและมีศักยภาพ และเป็นโอกาสในการขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ นอกจากนี้ ระหว่างการเยือนฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีอิหร่าน และพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่และการค้าอิหร่านด้วย ทั้งนี้ มอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องดำเนินการตามผลการประชุมฯ ในประเด็นความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรม ความร่วมมือด้านการเกษตรและประมง ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและสื่อมวลชน ความร่วมมือด้านพลังงานและเหมืองแร่ รวมทั้งความร่วมมือด้านคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
20989 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบริจาคให้แก่งานวัฒนธรรมและพัฒนาการเรียนรู้ | กค | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนสองเท่า สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย กองทุนส่งเสริมงานจดหมายเหตุ และกองทุนโบราณคดี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
20990 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) คดีระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ฟ้องคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ต่อศาลปกครองกลาง เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย | อส | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒) คดีระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ฟ้องคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน ต่อศาลปกครองกลาง เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||
20991 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เกี่ยวกับภาพรวมการจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำแนกตามกระทรวงและหน่วยงาน ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ประกอบด้วยผลการดำเนินงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นเกี่ยวกับภาพรวมการจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำแนกตามกระทรวงและหน่วยงาน ที่สำนักงบประมาณเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
20992 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมกราคม 2559 | นร11 | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. เศรษฐกิจไทยเดือนมกราคม ๒๕๕๙ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ดัชนีปริมาณการส่งออก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงหลังจากการขยายตัวในเกณฑ์สูงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ๒๕๕๘ และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๕๘ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นได้จากการขยายตัวของดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร จำนวนนักท่องเที่ยว รวมทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ๒. สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในเดือนมกราคม ๒๕๕๙ เศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีทิศทางชะลอตัวตามเศรษฐกิจยูโรโซนและเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีสาเหตุจากการชะลอตัวของภาคการผลิตและการบริโภคภายในประเทศ ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานซึ่งส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่องตามการหดตัวในอัตราเร่งขึ้นของการส่งออกและการชะลอตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ชะลอตัวตามการส่งออกและการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||
20993 | สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2558/59 ครั้งที่ 15 และครั้งที่ 16 | กษ | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ครั้งที่ ๑๕ ๑.๑ สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม ๓๖,๓๔๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๒ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๒,๘๓๘ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๗ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๑.๒ การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘-๒ มีนาคม ๒๕๕๙ แผนการใช้น้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้งประเทศ ใช้น้ำไปแล้ว ๖,๔๓๒ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๖ ของแผนการจัดสรรน้ำ ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และผันน้ำจากแม่กลอง) ใช้น้ำไปแล้ว ๒,๐๒๙ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๖๓ ของแผนการจัดสรรน้ำ คิดเป็นระบายน้ำเฉลี่ยวันละ ๑๖.๕๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ๑.๓ การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ช่วงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์-๒?๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนจำนวน ๔ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เฉลี่ยวันละ ๑๗.๙๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ๑.๔ สถานการณ์การเพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๙ พื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ แผนเพาะปลูก ๗.๔๕ ล้านไร่ ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ ไม่ปลูก ๑.๐๕ ล้านไร่ โดยในพื้นที่ที่ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ แบ่งเป็น เก็บเกี่ยวแล้ว ๖.๓๘ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๒ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว พื้นที่ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว และพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จำนวน ๑.๙๗ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๐.๘๒ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๐๓ ล้านไร่ ๒. สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ครั้งที่ ๑๖ ๒.๑ สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๙ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม ๓๖,๑๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๑ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๒,๕๙๗ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๗ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๒.๒ การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘-๖ มีนาคม ๒๕๕๙ แผนการใช้น้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้งประเทศ ใช้น้ำไปแล้ว ๖,๗๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๙ ของแผนการจัดสรรน้ำ ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และผันน้ำจากแม่กลอง) ใช้น้ำไปแล้ว ๒,๑๐๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๖๖ ของแผนการจัดสรรน้ำ คิดเป็นระบายน้ำเฉลี่ยวันละ ๑๖.๕๔ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓ การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ ช่วงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์-๖ มีนาคม ๒๕๕๙ กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนจำนวน ๔ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เฉลี่ยวันละ ๑๗.๘๖ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๔ สถานการณ์การเพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๙ พื้นที่ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ แผนเพาะปลูก ๗.๔๕ ล้านไร่ ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ ไม่ปลูก ๑.๐๕ ล้านไร่ โดยในพื้นที่ที่ปลูก ๖.๔๐ ล้านไร่ แบ่งเป็น เก็บเกี่ยวแล้ว ๖.๓๘ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๒ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว พื้นที่ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๑.๗๖ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว และพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จำนวน ๑.๙๗ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว ๐.๘๒ ล้านไร่ เสียหาย ๐.๐๐๓ ล้านไร่
|
||||||||||||||||||
20994 | โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด | พม | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการให้เงินอุดหนุนตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดโดยให้เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดจนครบอายุ ๓ ปี (๓๖ เดือน) ที่อยู่ในครอบครัวยากจนหรือเสี่ยงต่อความยากจน และดำเนินการโครงการต่อเนื่องสำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่แต่ละปี เป็นเงินรายละ ๖๐๐ บาทต่อเดือน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประเมินผลสำเร็จจากการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ในระยะครึ่งปีและสิ้นปีงบประมาณ และเตรียมความพร้อมข้อมูลพื้นฐานในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรมีการตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิ์ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมทุกปี เพื่อให้การจ่ายเงินอุดหนุนเป็นปัจจุบันและสอดรับกับหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ และจัดทำระบบการติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและกลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงโครงการอย่างทั่วถึง รวมทั้งควรมีการสร้างฐานข้อมูลของเด็กที่เข้าร่วมโครงการในระยะยาวเพื่อใช้ในการติดตามผลลัพธ์ของการได้รับเงินอุดหนุนตามโครงการนี้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประเมินผลในเชิงความคุ้มค่าและผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นรายปี แล้วรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย |
||||||||||||||||||
20995 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - สาธารณรัฐเกาหลี | คค | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-สาธารณรัฐเกาหลี ฉบับลงนาม วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทยและสาธารณรัฐเกาหลี มีสาระสำคัญคือ ทั้งสองฝ่ายเพิ่มข้อบทเรื่อง การแข่งขันที่เป็นธรรม (Fair Competition) ไว้ในความตกลงฯ เพื่อให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายได้รับโอกาสที่เท่าเทียมและเป็นธรรมในการทำการบิน โดยมีถ้อยคำเป็นไปตามร่างความตกลงฯ ฉบับมาตรฐานของไทย และสอดคล้องกับกฎหมายภายในของทั้งสองประเทศ รวมทั้งปรับปรุงข้อบทพิกัดอัตราค่าขนส่ง (Tariff) ให้เสรีมากยิ่งขึ้น โดยให้สายการบินสามารถกำหนดพิกัดอัตราค่าขนส่งของตนเอง และแจ้งพิกัดอัตราค่าขนส่งที่สายการบินกำหนดให้กับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจโดยไม่ต้องขออนุมัติ ๑.๒ มอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร และกรมควบคุมโรค เป็นต้น กำกับการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานไทยให้ได้มาตรฐานตามข้อตกลงระหว่างประเทศ รวมทั้งวางแผนการบริหารจัดการห้วงอากาศเพื่อให้สามารถรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
20996 | โครงการฝึกอบรมหลักสูตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน | มท | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กรมการปกครอง (วิทยาลัยการปกครอง) ดำเนินการโครงการฝึกอบรมหลักสูตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกอบด้วย หมวดวิชาอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน (Law Function) หมวดวิชาการเป็นตัวแทนของรัฐบาลในพื้นที่ (Area Manager) หมวดวิชาการเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่มีคุณธรรม (The good officer) และหมวดกิจกรรมการศึกษาดูงาน (The Best Practice) ระยะเวลาฝึกอบรมไม่น้อยกว่ารุ่นละ ๑๒ วัน โดยให้ปรับเพิ่มเป้าหมายการฝึกอบรมกำนันและผู้ใหญ่บ้าน จากร้อยละ ๕ เป็นร้อยละ ๑๐ ของจำนวนกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั้งหมด เพื่อให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านสามารถเข้ารับการฝึกอบรมครบถ้วนทุกคนได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนการจัดฝึกอบรมโดยกำหนดเนื้อหาหลักสูตรให้ครอบคลุมสาระสำคัญด้านต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เช่น ความรู้ด้านการรักษาความมั่นคง การบริหารราชการแผ่นดิน/การบริหารงบประมาณ และกลไกประชารัฐ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดหลักสูตรให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาและการให้บริการประชาชน เพื่อให้สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปปฏิบัติจริงในพื้นที่ รวมทั้งกำหนดให้มีการติดตามและประเมินผลการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าวเป็นระยะ ๆ เพื่อนำผลการประเมินดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาในการปรับปรุงหลักสูตรการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป ตลอดจนเร่งรัดการฝึกอบรมกลุ่มเป้าหมายให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการ ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ ให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
20997 | แผนบริหารจัดการชายแดนด้านความมั่นคง (พ.ศ. 2558 - 2564) | นร08 | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการมอบหมายผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ที่มีเงื่อนไขของปัญหาความมั่นคงหรือควบคุมการใช้พื้นที่ที่มีปัญหาเส้นเขตแดนทับซ้อนไปพิจารณาดำเนินการปรับแผนบริหารจัดการชายแดนด้านความมั่นคง (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๔) ให้เหมาะสมสอดคล้องกับข้อเท็จจริง รวมทั้งปรับปรุงแผนดังกล่าวให้มีความชัดเจนในการปฏิบัติในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เช่น การดำเนินการด้านกฎหมาย การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การเปิด-ระงับ หรือปิดจุดผ่านแดนต่าง ๆ ๒. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมข้อความ “พัฒนาระบบการป้องกันการระบาดในสัตว์ตามแนวชายแดนร่วมกับการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์อย่างยั่งยืน” ในข้อ ๔.๖ พัฒนาระบบการตรวจโรคระบาดและระบบส่งต่อผู้ป่วยข้ามพรมแดน และเมื่อจัดทำแผนบริหารจัดการชายแดนฯ (แผนหลัก) แล้วเสร็จ ควรให้แต่ละกลุ่มภารกิจย่อยจัดทำแผนปฏิบัติงานของกลุ่มเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง สอดคล้องและชัดเจนในการปฏิบัติงาน ทั้งแผนการดำเนินงานและแผนงบประมาณเพื่อให้สามารถกำหนดขอบเขตภาระงานในปีต่อไปได้ สำหรับกรณีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ควรทำการยกระดับการติดตามคนเข้าเมืองตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัย โดยปรับปรุงพัฒนาระบบฐานข้อมูลและพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลคนเข้าเมืองไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานระดับกระทรวงตั้งแต่ ๒ หน่วยงานขึ้นไปให้เป็นระบบเดียว (National Single Window) และหาแนวทางการบูรณาการจัดตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกัน โดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ รวมทั้งควรสร้างเครือข่ายภาคประชาชนตามแนวพื้นที่ชายแดนเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และรายงานสถานการณ์ภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||
20998 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษแก่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ตั้งแต่ 10,000 ลิตรขึ้นไป กับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอื่น | กค | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ที่กำหนดให้สิทธิพิเศษของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ ลิตรขึ้นไป ให้แก่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอื่นนอกจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประเภทไม่บังคับ เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอื่นนอกจาก กฟผ. มีทางเลือกในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ ลิตรขึ้นไป และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||
20999 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - สเปน | คค | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-สเปน ฉบับลงนาม วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทยและสเปน มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ การกำหนดสายการบิน ใบพิกัดเส้นทางบิน ความจุ ความถี่ และสิทธิรับขนการจราจร และการทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน ๑.๒ มอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบกับสาระสำคัญ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของทั้งสองประเทศกำหนดว่าเจ้าหน้าที่เดินอากาศทั้งสองฝ่ายตกลงจะนำหลักการ (principles) ของความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศฉบับใหม่ไปใช้เป็นการชั่วคราวและภายใต้อำนาจหน้าที่ของตนจนกว่าจะมีการทำความตกลงฉบับใหม่ นั้น โดยที่การจัดทำร่างความตกลงฉบับใหม่ยังไม่แล้วเสร็จและมีประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติหลายประการ จึงควรที่หน่วยงานเกี่ยวกับการเดินอากาศของทั้งสองฝ่ายจะได้หารือกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนตรงกันและสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าว นอกจากนี้ เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร และกรมควบคุมโรค เป็นต้น กำกับการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานไทยให้ได้มาตรฐานตามข้อตกลงระหว่างประเทศ รวมทั้งวางแผนการบริหารจัดการห้วงอากาศเพื่อให้สามารถรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
21000 | ร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 22/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มประเภทของหุ้นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถซื้อหรือมีไว้ได้ และเพิ่มประเภทสินทรัพย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถเข้าลงทุนได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้คณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดสัดส่วนการลงทุน โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินทรัพย์ที่ไปลงทุน จัดให้มีกระบวนการติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการจัดให้มีระบบการบันทึกบัญชีที่สามารถแสดงผลตอบแทนจากการลงทุนตามประเภทของสินทรัพย์อย่างชัดเจน เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....