คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย  วรรณสถิตย์)
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอมาตรการและแผนการดำเนินงานป้องกันและลด
อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2549 ประกอบด้วย  แผนงานที่ 1  การจัดตั้งจุดตรวจ  โดยดำเนินการ
ทั่วประเทศ จำนวน 3,009 จุด  แผนงานที่ 2  จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศ
กาลปีใหม่ 2549  ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่  แผนงานที่ 3 การสนับสนุนการปฏิบัติงานตามมาตรการ
ป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2549  และการจัดหาเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ในลมหายใจแบบ
พกพา (Screening Alcohol Meter) ให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ 1,454 แห่ง  แห่งละ  3  เครื่อง  รวม 4,362
เครื่อง  และให้ดำเนินการต่อไปได้  โดยให้ปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549  ของส่วนราชการ  ซึ่งได้รับไว้แล้วตามแผนงบประมาณการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทาง
ถนนไปดำเนินการในโอกาสแรก   รวมทั้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่ได้เสนอขอตั้งงบประมาณไว้  ไปใช้
จ่ายจากงบประมาณที่จัดสรรให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยขอทำความตกลงกับกระทรวงการ
คลังในการเบิกจ่ายแทนกันต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ  ทั้งนี้  ให้สำนักงบประมาณประสาน
กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งเงิน
ที่จะเบิกจ่าย

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลการดำเนินการตั้งตู้
นายก ฯ ทักษิณ รับเรื่องร้องเรียนของประชาชน  ในรอบ 1 ปี  5 เดือน  ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2547-31 
ตุลาคม  2548  ได้รับเรื่องร้องเรียน  โดยจำแนกเป็นเรื่องร้องเรียนผ่านทางตู้นายก ฯ ทักษิณ ที่ตั้งบริเวณ
บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด 14,794  เรื่อง   ซึ่งจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว  9,651 เรื่อง   
และเรื่องร้องเรียนผ่านทางตู้นายก ฯ  ทักษิณ  หน้าบ้านพิษณุโลก  กรุงเทพ ฯ คณะทำงานติดตามและประ
สานงานตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรี (คตส.นรม.) ได้ส่งให้จังหวัด 5,952 เรื่อง ซึ่งจังหวัดได้ให้ความ
ช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาแล้ว  3,643 เรื่อง  ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนจำแนกตามกลุ่มปัญหาที่ได้รับจากหน้าบ้าน
พักผู้ว่าราชการจังหวัดและจากหน้าบ้านพิษณุโลก  กรุงเทพ ฯ  นับตั้งแต่เริ่มจัดตั้งตู้นายก ฯ ทักษิณ จนถึง
ปัจจุบันกลุ่มปัญหาที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ  เรื่องความเดือดร้อนทั่วไป  รองลงมาคือ กลุ่มเรื่องการ
กล่าวโทษเจ้าหน้าที่/หน่วยงานของรัฐ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงาน
โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML)  ณ  วันที่ 2 ธันวาคม 2548  โดยได้มีการตรวจสอบ
ความพร้อมและจัดทำบัญชีรายละเอียดสำหรับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณจัดส่งให้สำนักงานพัฒนา
ศักยภาพของหมู่บ้าน ฯ เพื่ออนุมัติโอนเงินงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว  จำนวน  71,414  หมู่บ้าน
/ชุมชน แยกเป็น ภาคเหนือ  16,123  หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ  3,746,300,000  บาท  ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือ 31,015 หมู่บ้าน/ชุมชน  งบประมาณ 7,206,000,000 บาท  ภาคกลาง  16,210  หมู่
บ้าน/ชุมชน   งบประมาณ  3,820,300,000  บาท   และภาคใต้  8,066  หมู่บ้าน/ชุมชน   งบประมาณ
1,978,600,000 บาท รวมเป็นเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชน จำนวนทั้งสิ้น
16,751.20  ล้านบาท   และได้โอนเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2548  ให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว  จำนวน
9,000 ล้านบาท และได้โอนเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549  ให้หมู่บ้าน/ชุมชน  จำนวน 1,053.45
ล้านบาท    จะต้องใช้เงินงบประมาณประจำปี  พ.ศ. 2549   ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนอีก  จำนวน
6,697.75  ล้านบาท   จากการตรวจสอบโครงการที่หมู่บ้าน/ชุมชน  ได้ส่งให้สำนักงานพัฒนาศักยภาพ
ของหมู่บ้าน ฯ จำแนกเป็น ประเภทโครงการด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานร้อยละ 32.81  ด้านการเกษตร
ร้อยละ 8.54  ด้านส่งเสริมรายได้และอาชีพร้อยละ 6.04  ด้านสวัสดิการชุมชนร้อยละ  37.85  และด้าน
อื่น ๆ ร้อยละ  14.76

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ
กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่  72  จังหวัด  และให้ส่งสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้าง
ทางหลวงเทศบาล สายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน พ.ศ. 2548 ที่สำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทาง
หลวงเทศบาล สายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน ในท้องที่แขวงสีกัน  เขตดอนเมือง  และ
แขวงอนุสาวรีย์  เขตบางเขน  กรุงเทพมหานคร  และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย  เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎ
หมายต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน
ในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงเทศบาล สายซอยประชาอุทิศ 90 พ.ศ. 2548 ที่สำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว   โดยมีสาระสำคัญคือ   กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อ
ขยายทางหลวงเทศบาล สายซอยประชาอุทิศ 90 ในท้องที่แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร  และให้
นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน  เพื่อขยายทางหลวงเทศบาลสายซอยอ่อนนุช  70  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญ
คือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงเทศบาลสายซอยอ่อนนุช 70 ในท้องที่แขวง
ประเวศ   เขตประเวศ   กรุงเทพมหานคร  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงเทศบาลสายเชื่อมระหว่างซอยรามอินทรา 39 กับถนน
สุขาภิบาล 5 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงเทศ
บาลสายเชื่อมระหว่างซอยรามอินทรา 39 กับถนนสุขาภิบาล 5 ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์  และแขวงท่าแร้ง
เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการ
ต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงเทศบาลสายเชื่อมระหว่างซอยลาดพร้าว 48 กับถนน
สุทธิสารวินิจฉัย พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวง
เทศบาลสายเชื่อมระหว่างซอยลาดพร้าว  48  กับถนนสุทธิสารวินิจฉัย  ในท้องที่แขวงสามเสนนอก  เขต
ห้วยขวาง  กรุงเทพมหานคร  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการ
ต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน  เพื่อสร้างทางหลวงเทศบาลสายเชื่อมระหว่างถนนกรุงเทพกรีฑากับซอย
รามคำแหง 110 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวง
เทศบาลสายเชื่อมระหว่างถนนกรุงเทพกรีฑากับซอยรามคำแหง 110 ในท้องที่แขวงหัวหมาก  เขตบางกะ
ปิ และแขวงสะพานสูง กรุงเทพมหานคร  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่
ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน  ในท้องที่
ตำบลสามเรือน ตำบลพิกุลทอง อำเภอเมืองราชบุรี  และตำบลบ้านไร่  อำเภอดำเนินสะดวก  จังหวัดราชบุรี
พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันใน
ท้องที่ตำบลสามรือน ตำบลพิกุลทอง อำเภอเมืองราชบุรี และตำบลบ้านไร่ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราช
บุรี และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7
แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี  พ.ศ. 2548   และมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ ในท้องที่แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ เวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ในท้องที่แขวงหนองบอน  เขตประเวศ  กรุงเทพมหานคร  เพื่อก่อสร้างระบบป้องกันและแก้ไขปัญหา
น้ำท่วม  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีที่ว่า  ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอมานี้ได้เสนอมาภายหลังที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินใน
บริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงหนองบอน เขตประเวศ  กรุงเทพมหานคร  พ.ศ. 2531  ได้หมดอายุการใช้
บังคับไปแล้วเมื่อวันที่  24  พฤษภาคม  2535  และไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (8 พฤศจิกายน 2526)
ที่กำหนดให้ต้องเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนภายในระยะเวลา  2  ปี  นับแต่วันที่ออกพระราชกฤษฎีกา ฯ
ประกอบกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืน  เมื่อพระราชกฤษฎีกาหมดอายุดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบ
ต่อการกำหนดเงินค่าตอบแทน   ซึ่งต้องจ่ายค่าทดแทนตามราคาที่เป็นอยู่ในขณะที่พระราชบัญญัติเวนคืน  ฯ
ใช้บังคับ   ไปประกอบการพิจารณาด้วย     แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอขอถอนร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงาน
โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน  (SML)  ณ  วันที่ 4 พฤศจิกายน 2548  โดยได้มีการตรวจ
สอบความพร้อมและจัดทำบัญชีรายละเอียดสำหรับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ  จัดส่งให้สำนักงาน
พัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านฯ เพื่ออนุมัติโอนเงินงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว จำนวน 70,737 หมู่
บ้าน/ชุมชน แยกเป็น  ภาคเหนือ 15,954 หมู่บ้าน/ชุมชน  งบประมาณ  3,704,250,000  บาท  ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ 30,660 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 7,122,050,000 บาท  ภาคกลาง 16,144
หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ  3,804,100,000  บาท และภาคใต้  7,979  หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ
1,955,350,000  บาท  รวมเป็นเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชน  จำนวนทั้ง
สิ้น  16,585.75  ล้านบาท     และได้โอนเงินงบประมาณประจำปี  พ.ศ. 2548   ให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว
จำนวน 9,000 ล้านบาท จะต้องใช้เงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชน
อีกจำนวน 7,040.75 ล้านบาท จากการตรวจสอบโครงการที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้ส่งให้สำนักงานพัฒนา
ศักยภาพของหมู่บ้าน ฯ  จำแนกเป็นประเภทโครงการด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ร้อยละ 32.69  ด้าน
การเกษตรร้อยละ 8.55 ด้านส่งเสริมรายได้และอาชีพร้อยละ 6.04 ด้านสวัสดิการชุมชนร้อยละ 37.91
และด้านอื่น ๆ ร้อยละ 14.81

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
เกี่ยวกับความก้าวหน้าโครงการเร่งรัดขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสง
อาทิตย์ (Solar Home System) ข้อมูล  ณ  เดือนสิงหาคม 2548 โดยในส่วนของโครงการฯ ระยะที่ 1 
จำนวน 153,000 ครัวเรือน  ได้ทำสัญญาจ้างก่อสร้างและติดตั้งระบบ Solar Home System  จำนวน 
6  สัญญา   แบ่งตามพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  ปัจจุบันติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน  118,288  ครัว
เรือน  (77.31%)  จะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2548 ส่วนโครงการ ฯ ระยะที่ 2 จำนวน 50,000 ครัว
เรือน    การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ใช้สิทธิตามสัญญาจ้างโดยจ้างเพิ่มเติม  20 %    จากสัญญาจ้างเดิม
จำนวน 21,776  ครัวเรือน  ส่วนที่เหลือจำนวน  28,224 ครัวเรือน ได้ดำเนินการประกวดราคาโดย
วิธี   e-Auction   แบ่งออกเป็น   2   ประกวดราคาจะลงนามในสัญญาจ้างในเดือนกันยายน   2548  
กำหนดแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม  2549  สำหรับสถานะการเบิกจ่าย งบประมาณทั้งสิ้น 5,621.50 
ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 2,216.51 ล้านบาท

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงาน
โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ  วันที่  28  ตุลาคม  2548  โดยได้มีการตรวจสอบ
ความพร้อมและจัดทำบัญชีรายละเอียดสำหรับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ  จัดส่งให้สำนักงานพัฒนา
ศักยภาพของหมู่บ้านฯ เพื่ออนุมัติโอนเงินงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว แยกเป็น  ภาคเหนือ 15,636
หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 3,626,650,000 บาท  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  30,047  หมู่บ้าน/ชุมชน
งบประมาณ 6,977,850,000 บาท ภาคกลาง  15,719  หมู่บ้าน/ชุมชน  งบประมาณ 3,698,650,000
 บาท และภาคใต้ 7,509 หมู่บ้าน/ชุมชน  งบประมาณ 1,833,850,000 บาท  รวมเป็นเงินงบประมาณที่
จะต้องใช้ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 16,137.00 ล้านบาท  และได้โอนเงินงบประมาณ
ประจำปี พ.ศ. 2548 ให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว จำนวน  9,000  ล้านบาท  จะต้องใช้เงินงบประมาณประจำปี
พ.ศ. 2549 ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนอีก จำนวน 7,137.00 ล้านบาท  จากการตรวจสอบโครงการ
ที่หมู่บ้าน/ชุมชน   ได้ส่งให้สำนักงานพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน  ฯ  จำแนกเป็น  ประเภทโครงการด้าน
สาธารณูปโภคพื้นฐานร้อยละ 32.42  ด้านการเกษตรร้อยละ 8.57  ด้านส่งเสริมรายได้และอาชีพร้อยละ
6.05 ด้านสวัสดิการชุมชนร้อยละ 38.03 และด้านอื่น ๆ ร้อยละ 14.93

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวง
มหาดไทย  เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและภาคกลางตอนล่างและการให้ความ
ช่วยเหลือจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและภาคกลางตอนล่างโดย ณ 
วันที่ 31 ตุลาคม 2548  มีพื้นที่ประสบภัยรวม 5 จังหวัด ได้แก่  จังหวัดชุมพร  ประจวบคีรีขันธ์  ราชบุรี  
เพชรบุรี และกาญจนบุรี ใน 27 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 147 ตำบล 729 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือด
ร้อน 79,651 คน  23,952  ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน  บาดเจ็บ 1 คน  ความเสียหายด้านทรัพย์สิน  
ได้แก่  ถนน  531  สาย  สะพาน 38 แห่ง ฝาย 13 แห่ง บ่อน้ำ 65 บ่อ  พื้นที่การเกษตร  50,134  ไร่  
บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน  279  หลัง  บ่อปลา/กุ้ง 134 แห่ง ปศุสัตว์ 100 ตัว ท่อระบายน้ำ 
37 แห่ง  มูลค่าความเสียหาย  200,102,320  บาท  และสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าวได้ยุติแล้วตั้งแต่
วันที่  28  ตุลาคม  2548 ในการนี้ ได้แจ้งให้จังหวัดที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากอิทธิพลของพายุ
ไต้ฝุ่น  "ไคตั้ก"  ในทะเลจีนใต้เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดอุทกภัยแล้ว

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรม
การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ จำนวน 4 คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ  (27 ตุลาคม 2548)
เป็นต้นไป  ประกอบด้วย  นายปกิต  พัฒนกุล  นายสง่า  โภคบุตร   นายศักดิ์  กาญจนาลิขิต   และนางสาว
ณ ฤดี เคียงศิริ  ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน  ในท้องที่ตำบลขามทะเลสอ  อำเภอขาม
ทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่น
ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลขามทะเลสอ  อำเภอขามทะเลสอ  จังหวัดนครราชสีมา  เนื้อที่
ประมาณ 1 ไร่ 3 งาน  88  ตารางวา เพื่อมอบหมายให้เทศบาลตำบลขามทะเลสอใช้เป็นที่ก่อสร้างอาคาร
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สนามเด็กเล่น และโรงอาหาร  และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้   ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม
คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่
ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงเทศบาล สายซอยรามอินทรา 14 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ
กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงเทศบาล  สายซอยรามอินทรา 14  ในท้องที่แขวง
ลาดพร้าว แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว และแขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้