คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้คนต่างด้าว
ปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมี
สาระสำคัญคือ กำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายที่เกี่ยวด้วยสัญชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ว่าด้วยการทะเบียนราษฎร แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยถอนเรื่อง การแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
(นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย) คืนไปก่อน

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพ
ของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) โดยข้อมูล ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2548 มีจังหวัดรายงานความพร้อมของหมู่บ้าน/
ชุมชน ทั้งสิ้น 21 จังหวัด  3,419 หมู่บ้าน/ชุมชน  4,781  โครงการ  งบประมาณทั้งสิ้น  820,100,000  บาท
สำหรับโครงการที่ประชาคมหมู่บ้าน/ชุมชนคัดเลือกเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ  ได้แก่  โครงการด้าน
สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน 2,112 โครงการ โครงการด้านการเกษตร  1,583  โครงการ  โครงการด้านการส่ง
เสริมรายได้และอาชีพ 127 โครงการ โครงการด้านสวัสดิการชุมชน 473 โครงการ และโครงการประเภทอื่น ๆ
486 โครงการ  ทั้งนี้ หมู่บ้าน/ชุมชนที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรงบประมาณตามโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่
บ้าน/ชุมชน  (SML)  ให้ใช้ข้อมูลจำนวนประชากรตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของสำนักทะเบียนกลาง  กรม
การปกครอง ณ วันที่  15  กรกฎาคม  2548  รวมทั้งหมู่บ้าน/ชุมชนที่จะได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี
พ.ศ. 2548  ต้องเป็นหมู่บ้าน/ชุมชนที่ได้รับการจัดตั้งไว้แล้วก่อนวันที่  15  กรกฎาคม  2548  ตามมติที่ประชุม
คณะกรรมการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2548

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม
จังหวัดราชบุรี  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพล
เมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บางส่วน  เพื่อให้เทศบาลเมืองโพธา
รามใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้แต่งตั้ง นายธวัชชัย ฟักอังกูร เป็น
ประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การตลาด นายชาญชัย ตันติศิรินทร์ เป็นรองประธานกรรม
การ  นายธีรยุทธ กันตรัตนากุล  นายพงศ์เดช เทียนชวลิต  นายกิจจา  เวศย์ไกรศรี  นาวาอากาศโท
ตะวัน นาครทรรพ นายหาญ เชี่ยวชาญ  นายพิสิษฐ์  สิทธิเชาว์พันธ์  นายปรีชา  อู่ทอง นายอภิวัฒน์
บัวพันธ์ และนายสมศักดิ์ อัศวเรขา เป็นกรรมการ  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย
การเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่าย
กฎหมาย  ฯ) ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ
สิ่งเทียมอาวุธปืน  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   โดยให้ชะลอการเสนอร่างพระราช
บัญญัติทั้ง 2 ฉบับไว้ก่อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านปึก ตำบลแสนสุข และตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี 
พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ  เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลบ้านปึก  ตำบลแสนสุข  และตำบล
เสม็ด  อำเภอเมืองชลบุรี  จังหวัดชลบุรี  และให้ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   โดยให้รับข้อ
สังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ ได้เสนอมาภายหลัง
ที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน  ในท้องที่ตำบลบ้านปึก  ตำบลแสนสุข  และ
ตำบลเสม็ด  อำเภอเมืองชลบุรี  จังหวัดชลบุรี  พ.ศ. 2543  ได้หมดอายุการใช้บังคับไปแล้วเมื่อวันที่ 10
เมษายน 2543  และไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2546  ที่กำหนดให้ต้อง
เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ออกพระราชกฤษฎีกา ฯ ประกอบกับ
การเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนเมื่อพระราชกฤษฎีกาหมดอายุดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบต่อการ
กำหนดเงินค่าทดแทน  ซึ่งต้องจ่ายค่าทดแทนตามราคาที่เป็นอยู่ในขณะที่พระราชบัญญัติเวนคืน ฯ  ใช้
บังคับ  และข้อสังเกตของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
คณะที่ 1 บางประการ อาทิ ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนที่เสนอมานี้ อสังหาริมทรัพย์ที่จะถูกเวนคืนบาง
แปลงไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน จึงอาจเกิดปัญหาการอ้างสิทธิในที่ดินในภาย
หลัง   รวมทั้งการพิจารณารายละเอียดของผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย   ควรทำการตรวจสอบ
รายละเอียดของเจ้าของที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดิน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานภาพทางกฎ
หมายของเจ้าของที่ดิน  หรือผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวให้ชัดเจนถูกต้อง   โดยมีหนังสือสอบถามไปยัง
กรมที่ดินเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย  แล้วส่งให้คณะกรรมการ
ประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน  เพื่อขยายทางหลวงเทศบาล  สายถนนบางบอน  5  และสายเชื่อมระหว่างซอย
เพชรเกษม 81 กับสายถนนดังกล่าว บรรจบซอยเอกชัย  131  พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดเขตที่
ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงเทศบาลสายถนนบางบอน 5  และสายเชื่อมระหว่างซอยเพชร
เกษม 81 กับสายถนนดังกล่าว บรรจบซอยเอกชัย 131  ในท้องที่แขวงหนองแขม  เขตหนองแขม  และแขวง
บางบอน เขตบางบอน  กรุงเทพมหานคร  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่
ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงเทศบาล ในท้องที่แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง และแขวง
สามเสนนอก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดเขตที่ดิน
ในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงเทศบาล ในท้องที่แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง และแขวงสาม
เสนนอก  แขวงห้วยขวาง  เขตห้วยขวาง  กรุงเทพมหานคร  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินการอบรมนายอำเภอทั่วประเทศเพื่อเรียนรู้และ
แก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งจัดโดยศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน กระทรวงมหาดไทย (ศตจ.มท.)
และกรมการปกครอง ระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2548 ณ อิมแพค  เมืองทองธานี  โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็น
ประธานเปิดการอบรม สำหรับหัวข้อหลักในการอบรม  ได้แก่  การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความยากจน  การ
บริหารข้อมูลข่าวสารสารสนเทศและเทคโนโลยี (I.T.) รวมทั้งการดำเนินการตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล คือ
การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด  และการแก้ไขปัญหาความยากจนและการปราบปรามการทุจริตและคอรัป
ชั่น

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในทะเล บริเวณเกาะนิโคบาร์
ของกระทรวงมหาดไทย สรุปได้ดังนี้  เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2548  ได้เกิดแผ่นดินไหวในทะเล บริเวณเกาะ
นิโคบาร์ ประเทศอินเดีย มีความลึกใต้ผิวโลก 10 กิโลเมตร มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 8.03 องศาเหนือ ลองติ
จูด  92.25  องศาตะวันออก  วัดแรงสั่นสะเทือนได้  7.3  ริกเตอร์  ซึ่งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประเมิน
สถานการณ์ว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิในบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง  สตูล  และตรัง  ในการนี้กรม
ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมรับสถานการณ์ดังกล่าว   โดยได้แจ้งเตือนไปยังจังหวัดชายฝั่งทะเล
อันดามัน (จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง  สตูล  และตรัง) ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อพยพประชาชน
ในพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยให้สังเกตระดับน้ำทะเล
และดำเนินการตามขั้นตอนของแผนอพยพประชาชนของจังหวัด  นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด
ไทยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช) มาอำนวยการและ
ประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง  6  จังหวัด  ตลอดจนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากมีสถาน
การณ์คลื่นสึนามิขึ้น  และในวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประกาศยกเลิกสถาน
การณ์แผ่นดินไหวในทะเล เนื่องจากไม่พบการเกิดคลื่นสึนามิ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำกำหนดบริเวณ
ห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง  หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท  ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบล
หนองหอย ตำบลป่าแดด  อำเภอเมืองเชียงใหม่  และตำบลท่าวังตาล  ตำบลหนองผึ้ง  อำเภอสารภี  จังหวัด
เชียงใหม่ พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบาง
ชนิดหรือบางประเภท  ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลหนองหอย  ตำบลป่าแดด  อำเภอเมืองเชียงใหม่  และ
ตำบลท่าวังตาล ตำบลหนองผึ้ง  อำเภอสารภี  จังหวัดเชียงใหม่  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้มีการประกาศ
ใช้บังคับร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ต่อเนื่องกับประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับเดิม

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติเกี่ยว
กับผลการปฏิบัติงานตามปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้างยาเสพติด  ครั้งที่ 3  ในห้วงวันที่ 1 เมษายน-30
มิถุนายน 2548  โดยมีผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ ด้านการปราบปรามยาเสพติดสามารถจับกุม
คดียาเสพติดทั่วประเทศ 131 ราย ได้ของกลางยาบ้า 3,643,909 เม็ด  ส่วนการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชาย
แดน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1,369 คน ได้ของกลางเป็นยาบ้า  2,033,523  เม็ด  เฮโรอีน  4,009  กรัม  และ
กัญชา  47,223  กิโลกรัม  ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด  มีผู้เข้ารับบำบัดรักษาโดยระบบสมัครใจ
1,925 ราย ระบบบังคับบำบัด  2,552 ราย และระบบต้องโทษ 665 ราย ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไป
เกี่ยวข้องกับยาเสพติด  ประกอบด้วย  การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ อาทิ การจัด
กิจกรรมเพื่อรักษาสถานภาพความเข้มแข็ง และการเสริมสร้างภูมิต้านทานยาเสพติดในสถานประกอบการ เป็น
ต้น  และการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา  อาทิ  การจัดกิจกรรมเพื่อรักษาสถานภาพความ
เข้มแข็ง (เฉพาะโรงเรียนสังกัดกรุงเทพ ฯ) และกิจกรรมรณรงค์/สร้างสรรค์ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ห่างไกล
ยาเสพติด เป็นต้น และจากการสำรวจความเชื่อมั่นและความพึงพอใจต่อผลการปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาด
ล้างยาเสพติด ครั้งที่ 3 เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนในปัจจุบัน ประชาชนส่วน
ใหญ่เห็นว่าในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนในปัจจุบันไม่ค่อยมีปัญหายาเสพติด ส่วนความพึงพอใจและความเชื่อมั่นต่อ
การแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล  ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการแก้ไขปัญหาในระดับปานกลาง
ถึงมากที่สุดและชื่นชมการทำงานแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและต้องการให้
รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนในหมู่บ้าน/ชุมชน

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลความก้าวหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่น
ดินไหวและคลื่นยักษ์ ครั้งที่ 17 ของกระทรวงมหาดไทย  สรุปได้ดังนี้  การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึง
วันที่ 13 กรกฎาคม 2548) ได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วรวมเป็นเงิน 420,833,301 บาท  การจ่ายเงินช่วยเหลือ
ชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2548) รวมเป็นเงิน  449,079,330  บาท  การ
จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายจ่าย ได้จ่ายเงินให้ผู้ประกอบการรายย่อยถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2548  จาก
ยอด 100 ล้านบาท จ่ายแล้ว 4,237 ราย เป็นเงิน 83,910,000 บาท และในวันที่ 16 มิถุนายน 2548  ได้จ่าย
เงินให้ผู้ประกอบการรายย่อยเพิ่มเติมอีก 2,645 ราย เป็นเงิน 48,730,000 บาท  การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้
ประสบภัย ได้ก่อสร้างบ้านพักถาวร (หลังละ 100,000 บาท) โดย ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2548  ก่อสร้างแล้ว
เสร็จรวม 1,404 หลัง  ส่วนความคืบหน้าการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและบริหารจัดการศพของศูนย์ปฏิบัติ
การ ฯ (TTVI) ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2548 มียอดจำนวนผู้เสียชีวิต 5,395 คน โดยสามารถพิสูจน์ยืนยันบุคคล
และรับศพไปแล้ว 1,928 ศพ คงเหลือศพที่รอการยืนยัน 1,849 ศพ  นอกจากนี้  ยังมีผลดำเนินการช่วยเหลือผู้
ประสบภัยที่เอกสารสิทธิชำรุด สูญหาย และทำการรังวัดปูเขตที่ดินที่หลักเขตสูญหาย ช่วยเหลือการจัดระเบียบ
ที่ดิน  ของกรมที่ดิน   รวมทั้งจัดเก็บและบันทึกข้อมูลการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระบบฐานข้อมูล  (Database)
ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติ
ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522  บังคับในเขตเทศบาลตำบลบางแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดพะเยา
จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว  โดยมีสาระสำคัญคือ  ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบล
แก่งเสี้ยน อำเภอเมืองกาญจนบุรี  จังหวัดกาญจนบุรี  เทศบาลตำบลลาดใหญ่  อำเภอเมืองชัยภูมิ  จังหวัดชัยภูมิ
เทศบาลตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เทศบาลตำบลนาหว้าใหญ่ อำเภอปทุมราชวงศา  จังหวัด
อำนาจเจริญ  เทศบาลตำบลทุ่งฝน  อำเภอทุ่งฝน  จังหวัดอุดรธานี   และเทศบาลตำบลบัวงาม  อำเภอเดชอุดม
จังหวัดอุบลราชธานี และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอัน
เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
พ.ศ. 2548  โดยมีสาระสำคัญคือ   ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วม
กันในท้องที่ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา บางส่วน  และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย  เพื่อประกาศ
ใช้เป็นกฎหมายต่อไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะ
รัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎ
หมาย  ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการปรับปรุงค่าตอบ
แทนและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน  รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงดังกล่าวจำนวนทั้ง
สิ้น 236,773,320 บาท  โดยให้กระทรวงมหาดไทยใช้เงินเหลือจ่ายไปดำเนินการหรือปรับแผนการใช้จ่ายจาก
งบประมาณที่ได้รับไปสนับสนุนดำเนินการเพิ่มเติมก่อนในโอกาสแรก หากยังไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงใน
รายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงภายในวงเงินค่าใช้จ่ายและวิธีการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อแปรญัตติสำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2549 ต่อไป

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินการและความคืบหน้าต่อกรณีการออกเอก
สารสิทธิที่ดินในประเด็นปัญหาการออกโฉนดที่ดินในจังหวัดต่าง ๆ  ของกระทรวงมหาดไทย  ดังนี้  กรณีการ
ออกเอกสารสิทธิที่ดิน  จังหวัดภูเก็ต  กรมที่ดินได้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินกรณีที่มีการนำ  ส.ค.1
ของที่ดินแปลงอื่นมาสวมทับเพื่อออกโฉนดที่ดินในจังหวัดภูเก็ต  และมีคำสั่งเพิกถอนแล้ว จำนวน  2  แปลง ที่
เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ กรณีการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุม
มลพิษ ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ  จังหวัดสมุทรปราการ  จำนวน  5  แปลง  พบว่า  โฉนดที่ดินดังกล่าว
ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 แปลง  ที่เหลือเป็นโฉนดที่ดินที่ออกทับซ้อนคลองสาธารณประโยชน์
เป็นบางส่วน  ซึ่งกรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอน และจังหวัดได้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว  ในส่วน
ของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินการ  กรณีการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนที่ดินของประชาชน
ในพื้นที่ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร  จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการออกหนังสือแสดงสิทธิ
ในที่ดินคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามมาตรา 61 แห่ง
ประมวลกฎหมายที่ดินมีความเห็นแตกต่างกัน    กรมที่ดินจึงให้มีการพิจารณาในส่วนที่การสอบสวนแตกต่าง
กันให้รับฟังเป็นยุติ   กรณีการขอออกโฉนดที่ดินในที่สาธารณประโยชน์ที่ทำเลเลี้ยงสัตว์คลองชายธง  ตำบล
บ่อนอก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นการออกโฉนดที่ดินในที่สาธารณประโยชน์ที่มีหลักฐานหนัง
สือสำคัญสำหรับที่หลวงดังกล่าว เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดได้ยกเลิกเรื่องการออกโฉนดที่ดิน และผู้ว่าราชการ
จังหวัดได้สั่งจำหน่าย  ส.ค.1  ในแปลงดังกล่าวแล้ว   ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการพบว่ามีความบกพร่องในการ
ปฏิบัติหน้าที่แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นความผิดวินัย  กรณีเกาะล้าน ซึ่งมีเอกสารสิทธิจำนวน 123 แปลง เป็น น.ส.3
โฉนดที่ดินซึ่งออกโดยมิได้แจ้งการครอบครอง  และที่ดินที่ได้มีการยื่นขอออกโฉนด   และมีการรังวัดไต่สวนไว้
แล้วแต่ยังไม่ได้ออกโฉนดที่ดินเนื่องจากเมืองพัทยาคัดค้านและอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ  กรณีการ
ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) ทับที่สาธารณประโยชน์และป่าชายเลนให้บริษัทธุรกิจฟาร์ม
กุ้ง จำกัด จังหวัดระยอง กรมที่ดินได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ข้อยุติ  กรณีมี
เอกชนครอบครองที่ดินป่าชายเลน ชายหาด และเชิงเขาบนเกาะช้าง จังหวัดตราด  กรมที่ดินได้ตรวจสอบแล้ว
พบว่ามีการออกโฉนดที่ดินดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  และได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในเรื่องดังกล่าวแล้ว กรณีนางสาวรัตนา สัจจเทพ ได้ร้องเรียนกับสำนักงานเขตบึงกุ่ม และหน่วยงานต่าง ๆ ที่
เกี่ยวข้องว่าถูกหลอกให้ซื้อบ้านที่ก่อสร้างบนที่ดินแปลงช่องว่างระหว่างอาคาร หมู่บ้านชื่นสุขวิลล่า ขณะนี้อยู่
ระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนในประเด็นที่พบข้อเท็จจริงขึ้นใหม่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรม
ที่ดินได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาทิ การป้องกันการนำแบบแจ้งการครอบครองที่
ดิน  (ส.ค. 1)  ของที่ดินแปลงหนึ่งมาเป็นหลักฐานในการขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินของที่ดินอีกแปลง
หนึ่ง (ส.ค.1 บิน) การป้องกันการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทับซ้อนที่ดินของรัฐ เป็นต้น

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) ประธานกรรม
การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติชุดใหม่
จำนวน 4 คน ประกอบด้วย  พลตำรวจตรี หม่อมราชวงศ์เจตจันทร์ ประวิตร  นายเอนก สิทธิประศาสน์  ร้อยโท
สุวิทย์ ยอดมณี และนายวิชิต พันธุ์อำไพ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (30 มิถุนายน 2548) เป็นต้น
ไป ทั้งนี้ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎ
หมาย  ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการปรับปรุงค่าตอบ
แทนและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน  รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงดังกล่าวจำนวนทั้ง
สิ้น 236,773,320 บาท  โดยให้กระทรวงมหาดไทยใช้เงินเหลือจ่ายไปดำเนินการหรือปรับแผนการใช้จ่ายจาก
งบประมาณที่ได้รับไปสนับสนุนดำเนินการเพิ่มเติมก่อนในโอกาสแรก หากยังไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงใน
รายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงภายในวงเงินค่าใช้จ่ายและวิธีการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อแปรญัตติสำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2549 ต่อไป