ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 68 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1341 - 1360 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1341 | การจัดทำความตกลงโครงการ Participation of tree plantation farmers for sustainable forest management | ทส | 27/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการจัดทำความตกลงโครงการ Participation of tree plantation farmers
for sustainable forest management เพื่อขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการระดับหน่วยงานจากองค์การอาหารและ เกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization : FAO) และให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้ลงนามความ ตกลงโครงการดังกล่าว รวมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) เพื่อให้อธิบดี กรมป่าไม้เป็นผู้แทนรัฐบาลลงนามในความตกลงโครงการดังกล่าวต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมเสนอ |
||||||||||||||||||
1342 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 | ทส | 20/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เสนอมติการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552 โดยมีเรื่องสำคัญรวม 12 เรื่อง ดังนี้ 1. แนวทางการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรทราย 2. แนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ 3. โครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ 4. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้ม ครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัด เพชรบุรี อำเภอหัวหินและอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... 5. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้ม ครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... 6. ความเห็นต่อรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ โครงการเหมือง แร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่อทำปูนขาว และหิน อุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ของบริษัท สหศิลาเพิ่มพูล จำกัด ประทานบัตรที่ 24828/ 13873 ที่ตำบลเขาวง (เดิมอยู่ในเขตตำบลขุนโขลน) อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี 7. ความเห็นต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 8. ความเห็นต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบส่งไฟฟ้า 500 เควี จาก โครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ (การปรับปรุงข้อมูลสภาพแวดล้อมปัจจุบันและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม) ของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 9. การปรับปรุงประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดระดับเสียงของ เรือกล 10. การปรับปรุงวิธีตรวจสอบค่ามาตรฐานน้ำทิ้งจากฟาร์มสุกร 11. การกำหนดค่ามาตรฐานก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซไฮโดรคาร์บอน จากไอเสียรถยนต์ ขนาดใหญ่ใช้งานที่ใช้ก๊าซธรรมชาตและก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง 12. แนวทางการจัดการและแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินและกิจกรรมชายฝั่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบ สิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝั่ง
|
||||||||||||||||||
1343 | การจัดประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศเอเชีย ด้านการอนุรักษ์เสือโคร่ง (The 1th Asia Ministerial Conference on Tiger Conservation : The 1th AMC) | ทส | 20/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในการที่ประเทศจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศเอเชียด้าน
การอนุรักษ์เสือโคร่ง ครั้งที่ 1 (The 1th Asia Ministerial Conference on Tiger Conservation : The 1st AMC) ระหว่างวันที่ 27-30 มกราคม 2553 ณ โรงแรม Hyatt Regency Hua Hin อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการจัดประชุมดังกล่าว ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สำหรับของบประมาณในการจัดประชุม ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ไม่เกิน 9,395,745 บาท โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอทำความตกลงในรายละเอียด กับสำนักงบประมาณเพื่อเบิกจ่ายต่อไป เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีผลใช้บังคับแล้ว
|
||||||||||||||||||
1344 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าถึงและการได้รับประโยชน์ตอบแทนจากทรัพยากรชีวภาพ พ.ศ. .... | ทส | 20/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับร่างระเบียบคณะกรรมการอนุรักษ์
และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าถึง และการได้ รับประโยชน์ตอบแทนจากทรัพยากรชีวภาพ พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้รับ ความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นว่า ร่างข้อ 4 ควรเพิ่มพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2525 และฉบับเพิ่มเติม พ.ศ. 2544 ปรากฏอยู่ด้วยก่อนคำว่า หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรชีวภาพ และร่าง ข้อ 10 และ 11 การขอรับใบอนุญาตเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคำขอและแจ้งผลภาย ใน 90 วัน ต่อจากนั้นให้จัดทำข้อตกลงกับผู้ยื่นคำขอใบอนุญาต ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาต และ แจ้งให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตส่งแผนงานโครงการ ฯ ฉบับสมบูรณ์ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเมื่อจัด ทำข้อตกลง ข้อความที่ให้ทำข้อตกลงภายใน 15 วัน ไม่ชัดเจน ควรระบุว่าให้ดำเนินการเตรียมทำข้อตกลง รวมทั้ง ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ตอบแทนกรณีขอเข้าถึงทรัพยากรชีวภาพ (ส่วนที่ 3) ซึ่งกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอใบ อนุญาตที่ได้รับคำสั่งอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐแล้วให้กำหนดสิทธิและประโยชน์ตอบแทนที่จะจ่ายให้กับชุมชน ท้องถิ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพยากรชีวภาพ นั้น ควรมีความหมายรวมถึง การให้การศึกษา และความรู้เกี่ยวกับ ทรัพยากรชีวภาพ และผลกระทบต่าง ๆ อันเกิดจากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพกับประชาชนในชุมชน ท้องถิ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพื่อสร้างความตระหนักถึงคุณค่าและส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์ และใช้ความหลากหลายทางชีวภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป ไปพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา อีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||
1345 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเชียงดาว ป่าแม่งัด และป่าแม่แตง บางส่วน ในท้องที่ตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... | ทส | 13/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเชียงดาว ป่าแม่งัด
และป่าแม่แตง บางส่วน ในท้องที่ตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอน อุทยานแห่งชาติป่าเชียงดาว ป่าแม่งัด และป่าแม่แตง บางส่วน ในท้องที่ตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว จังหวัดเชียง ใหม่ เนื้อที่ 192 ไร่ 0 งาน 38.7 ตารางวา เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่สะลวม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1346 | แต่งตั้งข้าราชการการเมืองสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นางสาวรสพิมล จิรเมธากร และนายอรรถสิทธิ์ กาญจนสินิทธ์) | ทส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนางสาวรสพิมล จิรเมธากร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่า
การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถสิทธิ์ กาญจนสินิทธ์ ดำรงตำแหน่งเลฃานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 ตุลาคม 2552) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||
1347 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการทำการค้าซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. .... | ทส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการทำการ
ค้าซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดซากดึกดำบรรพ์ที่จะทำการค้าได้ต้องมิใช่ซากดึกดำบรรพ์ที่ได้มีการขึ้นทะเบียนหรือซากดึก ดำบรรพ์ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง ฯ 2. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้รับใบอนุญาตทำการค้าซากดึกดำบรรพ์ 3. กำหนดหลักเกณฑ์ การยื่นคำขอรับใบอนุญาต แบบ สถานที่ยื่นคำขอ การขอต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนด |
||||||||||||||||||
1348 | พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับปะการังเทียม | ทส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับปะการังเทียมซึ่งทรงขอให้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประสานงานเพื่อจัดสร้างพื้นที่ปะการังเทียมเพิ่ม 2. รายงานผลการดำเนินการจัดกิจกรรมวางปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา ภายใต้โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลไทย ตามแนวพระราชดำรัสของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2552 บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ตำบลท่า บานา อำเภอเมือง โดยวางในทะเลห่างจากชายฝั่ง 5 กิโลเมตร บริเวณตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัด ปัตตานี จำนวน 175 แท่ง ซึ่งจะวางทั้งหมด จำนวน 2,135 แท่ง
|
||||||||||||||||||
1349 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 8 | ทส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 8 (The 8th Meeting of Sub-Regional Ministerial Steering Committee on Transboundary Haze Pollution : The 8th MSC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหา คม 2552 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยสาระสำคัญของการประชุม MSC ครั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็น ชอบให้มีการห้ามการเผาในที่โล่งทุกประเภทในพื้นที่เสี่ยง (fire-prone area) และการระงับการอนุญาตให้ดำเนิน กิจกรรมการเผา จนกว่าจะพ้นช่วงหน้าแล้งของปี พ.ศ. 2552 กับเห็นชอบการเพิ่มมาตรการบังคับใช้กฎหมายและ มาตรการเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนในการควบคุมการเกิดไฟ และรับทราบมติคณะทำงานด้านไฟป่า และหมอกควันสำหรับอนุภูมิภาคแม่โขง (TWG-Mekong) ที่มีมติเห็นชอบให้มีการกำหนดเป้าหมายการลดจำนวน จุดความร้อนสะสม (Cumulative Hotspot Count) ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดผลสำเร็จ ของการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาไฟและหมอกควันในอนุภูมิภาคแม่โขง นอกจากนี้ ที่ประชุม MSC เห็นชอบ ต่อข้อเสนอของสาธารณรัฐสิงคโปร์ในการเป็นเจ้าภาพจัดเวทีสาธารณะ Ministerial Steering Committee (MSC) Forum on Prevention and Mitigation of Land and Forest Fires ในวันที่ 28 ตุลาคม 2552 ต่อเนื่องกับการ ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และประสาน ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาปัญหาไฟบนดิน/ไฟป่าและมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน รวมทั้งเห็นชอบ กำหนดจัดการประชุม MSC ครั้งที่ 9 ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2553 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ที่ประชุม MSC ขอให้ TWG ติดตามสถานการณ์ไฟและหมอกควันอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัด การประชุม MSC เป็นวาระด่วน ก็สามารถเสนอแนะเพื่อให้ MSC พิจารณากำหนดวันประชุมได้
|
||||||||||||||||||
1350 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม) | ทส | 29/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย
ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบล เกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และ เกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1351 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำโจน ป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติลำคลองงู) | ทส | 29/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำโจน ป่าเขาพระฤาษี และป่า
เขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจน บุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำโจน ป่าเขาพระฤาษี และป่าเขา บ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติลำคลองงู) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตาม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1352 | แผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552 - 2556) | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. เห็นชอบในหลักการของแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552 -2556) เพื่อใช้เป็นกรอบการจัดทำแผนและแผนปฏิบัติการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ อันควรอนุรักษ์ ของประเทศให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ 19 มาตรการ ได้แก่ กลยุทธ์ ที่ 1 สงวนและอนุรักษ์การใช้ประโยชน์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติอันควรอนุรักษ์โดยประชาชนมีส่วนร่วม กลยุทธ์ที่ 2 กำกับ ดูแล ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ และกลยุทธ์ที่ 3 บริหารจัดการแบบบูรณาการเชิงรุก ตาม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนา คม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และ มาตรการในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติตามที่ได้นำเสนอไว้ในแผนแม่บท ฯ และกำหนดเป้าหมายโดยระบุ ผลผลิตหรือผลลัพธ์ที่คาดหวัง และเพิ่มเติมรายละเอียดของมาตรการแต่ละด้าน รวมทั้งกำหนดลำดับความสำคัญ ประเด็นเร่งด่วนที่ควรดำเนินการ เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติให้เกิดความชัดเจนเป็นรูปธรรม และกำหนดตัวชี้วัดเพื่อให้สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานตามกลยุทธ์และมาตรการที่กำหนดไว้ใน แผนแม่บท ฯ ได้ ไปปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บท ฯ แล้วแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||
1353 | แนวทางการบูรณาการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลของประเทศ | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการของแนวทางการบูรณาการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ของประเทศ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ส่วนการจัดตั้งหน่วยงานระดับสำนักในกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อรับผิดชอบในเรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง (Coastal Erosion) และการเปลี่ยนแปลง ระดับของน้ำทะเลชายฝั่ง (Sea Level Rise-SLR) นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมาย ให้หน่วยงานที่มีอยู่ปัจจุบันรับผิดชอบเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่และภารกิจที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในอดีต รวมทั้งการใช้ประสบการณ์ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) รับความเห็น ของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานระดับสำนักในกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ควรมอบหมายให้หน่วยงานที่มีอยู่ ปัจจุบันรับผิดชอบเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่และภารกิจที่ต้องดำเนินการ ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อ การนี้ ซึ่งประมาณการกรอบวงเงินไว้เบื้องต้นจำนวน 10,000 ล้านบาท นั้น ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทำแผน ปฏิบัติการตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้ครบถ้วนโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน โดยผ่านการพิจารณาร่วมกันของทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้องและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ ให้นำข้อเสนอแนวทางการ บูรณาจัดการป้องกัน ฯ ไปพิจารณาเพื่อประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหากัดเซาะ ชายฝั่งทะเลเชิงบูรณาการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556) ที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อใช้แนวทางที่กำหนด ในแผนปฏิบัติการดังกล่าวเป็นพื้นฐานสำคัญในการบูรณาการการดำเนินการในเรื่องนี้ และทบทวนอำนาจหน้า ที่ของคณะกรรมการ ฯ คณะอนุกรรมการ ฯ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องและมีการดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้ง จัดทำข้อเสนอเพื่อให้มีกลไกเชิงนโยบายในการบูรณาการด้านการบริหารจัดการงบประมาณและวิชาการ เพื่อแก้ ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศให้สอดคล้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาเพื่อประสานการ ดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
1354 | การดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบท่าทีและกรอบการเจรจาของประเทศไทยสำหรับการเจรจาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ เพื่อนำไปใช้ในการเจรจาภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และให้ นำเสนอรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ต่อไป 2. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Declaration on Climate Change) เพื่อให้ประเทศไทยในฐานะผู้นำอาเซียนใช้ในการกล่าวเป็นสุนทรพจน์ในเวทีการประชุมผู้นำ ระดับสูง (High Level Segment) ของการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ (Conference of the Parties : COP) สมัยที่ 15 ที่กำหนดจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2552 ณ กรุงโคเปน เฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||
1355 | การลงนามใน Host Country Agreement สำหรับการประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำความตกลงตามรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับ สำนักเลขาธิการ UNFCCC (Host Country Agreement) ในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน-9 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ องค์การสห ประชาชาติ กรุงเทพมหานคร 2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ ดังกล่าว
|
||||||||||||||||||
1356 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าขุนซ่อง และป่าจันตาแป๊ะและป่าเขาวังแจง ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น) | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าขุนซ่อง และป่าจันตาแป๊ะและป่าเขา
วังแจง ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าขุนซ่อง และป่าจันตาแป๊ะและป่าเขาวังแจง ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัด จันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติเขาสิบชั้น) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1357 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสามหมื่น ป่าแม่ระมาด และป่าแม่ละเมา ในท้องที่ตำบลสามหมื่น ตำบลขะเนจื้อ ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ระมาด และตำบลพะวอ ตำบลแม่กาษา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ) | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสามหมื่น ป่าแม่ระมาด และป่า
แม่ละเมา ในท้องที่ตำบลสามหมื่น ตำบลขะเนจื้อ ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ระมาด และตำบลพะวอ ตำบลแม่ กาษา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ ดินป่าสามหมื่น ป่าแม่ระมาด และป่าแม่ละเมา ในท้องที่ตำบลสามหมื่น ตำบลขะเนจื้อ ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ ระมาดและตำบลพะวอ ตำบลแม่กาษา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยาน แห่งชาติขุนพะวอ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1358 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขาไฟไหม้) ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย ตำบลนนทรีย์ และตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว) | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขา
ไฟไหม้) ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย ตำบลนนทรีย์ และตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่า เขาไฟไหม้) ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย ตำบลนนทรีย์ และตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อ ไร่ จังหวัดตราด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1359 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูลังกา ในท้องที่ตำบลดงบัง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย และตำบลไผ่ล้อม ตำบลนางัว ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติภูลังกา) | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูลังกา ในท้องที่ตำบลดงบัง ตำบล
โพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย และตำบลไผ่ล้อม ตำบลนางัว ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้บริเวณ ที่ดินป่าภูลังกา ในท้องที่ตำบลดงบัง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย และตำบลไผ่ล้อม ตำบลนางัว ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติภูลังกา) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1360 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก และป่าห้วยเขยง ในท้องที่ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบลปิล๊อก ตำบลท่าขนุน ตำบลห้วยเขย่ง ตำบลหินดาด ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ) | ทส | 22/09/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก และป่าห้วยเขยง
ในท้องที่ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบลปิล๊อก ตำบลท่าขนุน ตำบลห้วยเขย่ง ตำบลหิน ดาดตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนด บริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก และป่าห้วยเขยง ในท้องที่ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบล ปิล๊อก ตำบลท่าขนุน ตำบลห้วยเขย่ง ตำบลหินดาด ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....