ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 69 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1361 - 1380 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1361 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 8 | ทส | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 8 (The 8th Meeting of Sub-Regional Ministerial Steering Committee on Transboundary Haze Pollution : The 8th MSC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหา คม 2552 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยสาระสำคัญของการประชุม MSC ครั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็น ชอบให้มีการห้ามการเผาในที่โล่งทุกประเภทในพื้นที่เสี่ยง (fire-prone area) และการระงับการอนุญาตให้ดำเนิน กิจกรรมการเผา จนกว่าจะพ้นช่วงหน้าแล้งของปี พ.ศ. 2552 กับเห็นชอบการเพิ่มมาตรการบังคับใช้กฎหมายและ มาตรการเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนในการควบคุมการเกิดไฟ และรับทราบมติคณะทำงานด้านไฟป่า และหมอกควันสำหรับอนุภูมิภาคแม่โขง (TWG-Mekong) ที่มีมติเห็นชอบให้มีการกำหนดเป้าหมายการลดจำนวน จุดความร้อนสะสม (Cumulative Hotspot Count) ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดผลสำเร็จ ของการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาไฟและหมอกควันในอนุภูมิภาคแม่โขง นอกจากนี้ ที่ประชุม MSC เห็นชอบ ต่อข้อเสนอของสาธารณรัฐสิงคโปร์ในการเป็นเจ้าภาพจัดเวทีสาธารณะ Ministerial Steering Committee (MSC) Forum on Prevention and Mitigation of Land and Forest Fires ในวันที่ 28 ตุลาคม 2552 ต่อเนื่องกับการ ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และประสาน ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาปัญหาไฟบนดิน/ไฟป่าและมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน รวมทั้งเห็นชอบ กำหนดจัดการประชุม MSC ครั้งที่ 9 ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2553 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ที่ประชุม MSC ขอให้ TWG ติดตามสถานการณ์ไฟและหมอกควันอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัด การประชุม MSC เป็นวาระด่วน ก็สามารถเสนอแนะเพื่อให้ MSC พิจารณากำหนดวันประชุมได้
|
|||||||||||||||||||||
1362 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม) | ทส | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย
ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบล เกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และ เกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1363 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำโจน ป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติลำคลองงู) | ทส | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำโจน ป่าเขาพระฤาษี และป่า
เขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจน บุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำโจน ป่าเขาพระฤาษี และป่าเขา บ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติลำคลองงู) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตาม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1364 | แผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552 - 2556) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. เห็นชอบในหลักการของแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552 -2556) เพื่อใช้เป็นกรอบการจัดทำแผนและแผนปฏิบัติการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ อันควรอนุรักษ์ ของประเทศให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ 19 มาตรการ ได้แก่ กลยุทธ์ ที่ 1 สงวนและอนุรักษ์การใช้ประโยชน์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติอันควรอนุรักษ์โดยประชาชนมีส่วนร่วม กลยุทธ์ที่ 2 กำกับ ดูแล ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ และกลยุทธ์ที่ 3 บริหารจัดการแบบบูรณาการเชิงรุก ตาม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนา คม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และ มาตรการในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติตามที่ได้นำเสนอไว้ในแผนแม่บท ฯ และกำหนดเป้าหมายโดยระบุ ผลผลิตหรือผลลัพธ์ที่คาดหวัง และเพิ่มเติมรายละเอียดของมาตรการแต่ละด้าน รวมทั้งกำหนดลำดับความสำคัญ ประเด็นเร่งด่วนที่ควรดำเนินการ เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติให้เกิดความชัดเจนเป็นรูปธรรม และกำหนดตัวชี้วัดเพื่อให้สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานตามกลยุทธ์และมาตรการที่กำหนดไว้ใน แผนแม่บท ฯ ได้ ไปปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บท ฯ แล้วแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
1365 | แนวทางการบูรณาการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลของประเทศ | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการของแนวทางการบูรณาการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ของประเทศ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ส่วนการจัดตั้งหน่วยงานระดับสำนักในกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อรับผิดชอบในเรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง (Coastal Erosion) และการเปลี่ยนแปลง ระดับของน้ำทะเลชายฝั่ง (Sea Level Rise-SLR) นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมาย ให้หน่วยงานที่มีอยู่ปัจจุบันรับผิดชอบเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่และภารกิจที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในอดีต รวมทั้งการใช้ประสบการณ์ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) รับความเห็น ของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานระดับสำนักในกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ควรมอบหมายให้หน่วยงานที่มีอยู่ ปัจจุบันรับผิดชอบเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่และภารกิจที่ต้องดำเนินการ ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อ การนี้ ซึ่งประมาณการกรอบวงเงินไว้เบื้องต้นจำนวน 10,000 ล้านบาท นั้น ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทำแผน ปฏิบัติการตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้ครบถ้วนโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน โดยผ่านการพิจารณาร่วมกันของทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้องและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ ให้นำข้อเสนอแนวทางการ บูรณาจัดการป้องกัน ฯ ไปพิจารณาเพื่อประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหากัดเซาะ ชายฝั่งทะเลเชิงบูรณาการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556) ที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อใช้แนวทางที่กำหนด ในแผนปฏิบัติการดังกล่าวเป็นพื้นฐานสำคัญในการบูรณาการการดำเนินการในเรื่องนี้ และทบทวนอำนาจหน้า ที่ของคณะกรรมการ ฯ คณะอนุกรรมการ ฯ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องและมีการดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้ง จัดทำข้อเสนอเพื่อให้มีกลไกเชิงนโยบายในการบูรณาการด้านการบริหารจัดการงบประมาณและวิชาการ เพื่อแก้ ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศให้สอดคล้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาเพื่อประสานการ ดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
1366 | การดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบท่าทีและกรอบการเจรจาของประเทศไทยสำหรับการเจรจาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ เพื่อนำไปใช้ในการเจรจาภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และให้ นำเสนอรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ต่อไป 2. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Declaration on Climate Change) เพื่อให้ประเทศไทยในฐานะผู้นำอาเซียนใช้ในการกล่าวเป็นสุนทรพจน์ในเวทีการประชุมผู้นำ ระดับสูง (High Level Segment) ของการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ (Conference of the Parties : COP) สมัยที่ 15 ที่กำหนดจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2552 ณ กรุงโคเปน เฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1367 | การลงนามใน Host Country Agreement สำหรับการประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำความตกลงตามรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับ สำนักเลขาธิการ UNFCCC (Host Country Agreement) ในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน-9 ตุลาคม 2552 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ องค์การสห ประชาชาติ กรุงเทพมหานคร 2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ ดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
1368 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าขุนซ่อง และป่าจันตาแป๊ะและป่าเขาวังแจง ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าขุนซ่อง และป่าจันตาแป๊ะและป่าเขา
วังแจง ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าขุนซ่อง และป่าจันตาแป๊ะและป่าเขาวังแจง ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัด จันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติเขาสิบชั้น) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1369 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสามหมื่น ป่าแม่ระมาด และป่าแม่ละเมา ในท้องที่ตำบลสามหมื่น ตำบลขะเนจื้อ ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ระมาด และตำบลพะวอ ตำบลแม่กาษา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสามหมื่น ป่าแม่ระมาด และป่า
แม่ละเมา ในท้องที่ตำบลสามหมื่น ตำบลขะเนจื้อ ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ระมาด และตำบลพะวอ ตำบลแม่ กาษา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ ดินป่าสามหมื่น ป่าแม่ระมาด และป่าแม่ละเมา ในท้องที่ตำบลสามหมื่น ตำบลขะเนจื้อ ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ ระมาดและตำบลพะวอ ตำบลแม่กาษา ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยาน แห่งชาติขุนพะวอ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1370 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขาไฟไหม้) ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย ตำบลนนทรีย์ และตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขา
ไฟไหม้) ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย ตำบลนนทรีย์ และตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่า เขาไฟไหม้) ในท้องที่ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย ตำบลนนทรีย์ และตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อ ไร่ จังหวัดตราด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1371 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูลังกา ในท้องที่ตำบลดงบัง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย และตำบลไผ่ล้อม ตำบลนางัว ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติภูลังกา) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูลังกา ในท้องที่ตำบลดงบัง ตำบล
โพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย และตำบลไผ่ล้อม ตำบลนางัว ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้บริเวณ ที่ดินป่าภูลังกา ในท้องที่ตำบลดงบัง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย และตำบลไผ่ล้อม ตำบลนางัว ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติภูลังกา) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1372 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก และป่าห้วยเขยง ในท้องที่ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบลปิล๊อก ตำบลท่าขนุน ตำบลห้วยเขย่ง ตำบลหินดาด ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก และป่าห้วยเขยง
ในท้องที่ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบลปิล๊อก ตำบลท่าขนุน ตำบลห้วยเขย่ง ตำบลหิน ดาดตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนด บริเวณที่ดินป่าเขาช้างเผือก และป่าห้วยเขยง ในท้องที่ตำบลหนองลู ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี และตำบล ปิล๊อก ตำบลท่าขนุน ตำบลห้วยเขย่ง ตำบลหินดาด ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1373 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบลหมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ) | ทส | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนา
ปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบลหมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่อง สอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบลหมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่อง สอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1374 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาโปลกหล่น ป่าเขาปางก่อ และป่าวังชมภู ในท้องที่ตำบลหินฮาว ตำบลวังบาล ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า ตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน ตำบลบุ่งน้ำเต้า ตำบลบุ่งคล้า อำเภอหล่มสัก ตำบลแค้มป์สน ตำบลทุ่งสมอ ตำบลเขาค้อ ตำบลริมสีม่วง ตำบลสะเดาะพง ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ และตำบลท่าพล ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติเขาค้อ) | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาโปลกหล่น ป่าเขาปาง
ก่อ และป่าวังชมภู ในท้องที่ตำบลหินฮาว ตำบลวังบาล ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า ตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน ตำบลบุ่งน้ำเต้า ตำบลบุ่งคล้า อำเภอหล่มสัก ตำบลแค้มป์สน ตำบลทุ่งสมอ ตำบลเขาค้อ ตำบลริมสีม่วง ตำบล สะเดาะพง ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ และตำบลท่าพล ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชร บูรณ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาโปลกหล่น ป่าเขาปางก่อ และ ป่าวังชมภู ในท้องที่ตำบลหินฮาว ตำบลวังบาล ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า ตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน ตำบลบุ่ง น้ำเต้า ตำบลบุ่งคล้า อำเภอหล่มสัก ตำบลแค้มป์สน ตำบลทุ่งสมอ ตำบลเขาค้อ ตำบลริมสีม่วง ตำบลสะเดาะ พง ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ และตำบลท่าพล ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติเขาค้อ) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1375 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสะเมิง ในท้องที่ตำบลแม่สาบ ตำบลบ่อแก้ว ตำบลสะเมิงเหนือ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนขาน) | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าสะเมิง ในท้องที่ตำบลแม่
สาบ ตำบลบ่อแก้ว ตำบลสะเมิงเหนือ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าสะเมิง ในท้องที่ตำบลแม่สาบ ตำบลบ่อแก้ว ตำบลสะเมิงเหนือ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติขุนขาน) ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1376 | ขอปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2552 | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผน
การใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2552 แผนงานสร้างสมดุลของการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการเร่งรัดการจัดทำแนวเขตในพื้นที่อนุรักษ์ กิจกรรมปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ (Reshape) มาดำเนินงานโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ได้แก่ การ จัดหาภาพถ่ายทางอากาศสีเชิงเลข มาตราส่วน 1 : 25,000 จำนวน 60,000 ภาพ จัดหาภาพถ่ายทางอากาศเก่า ระหว่างปี พ.ศ. 2495-พ.ศ. 2540 (5 ช่วงเวลา) ในรูปของแผ่นฟิล์ม Diapositive จำนวน 247,750 ภาพ ประกอบ ด้วย งบรายจ่ายอื่น เป็นเงิน 104,630,800 บาท งบลงทุน เป็นเงิน 6,390,000 บาท และงบดำเนินงาน เป็นเงิน 98,240,800 บาท ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1377 | ขอขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2546 รวม 2 ฉบับ | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม 2
ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและ ร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 1. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณ พื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2546 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป 2. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณ พื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2546 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
1378 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยปุย ป่าห้วยต้นยางและป่าห้วยแม่แก้ว ป่าแม่ปืมและป่าแม่พุงฯ ในท้องที่ตำบลท่าสาย ตำบลห้วยสัก ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงรายฯ จังหวัดเชียงราย และตำบลบ้านเหล่า ตำบลแม่ใจ อำเภอแม่ใจฯ จังหวัดพะเยา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติแม่ปืม) | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยปุย ป่าห้วยต้นยางและป่า
ห้วยแม่แก้ว ป่าแม่ปืมและป่าแม่พุง ป่าน้ำแม่ปืมและป่าดงประดู่ ป่าห้วยบงและป่าห้วยเคียน และป่าแม่ฮ่องป๋อ ป่าห้วยแก้วและป่าแม่อิงฝั่งซ้าย ในท้องที่ตำบลท่าสาย ตำบลห้วยสัก ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย ตำบลธารทอง ตำบลแม่อ้อ ตำบลทรายขาว ตำบลเจริญเมือง ตำบลสันมะเค็ด ตำบลเวียงห้าว ตำบลทานตะวัน อำเภอพาน ตำบลป่าแงะ ตำบลโรงช้าง ตำบลศรีโพธิ์เงิน อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย และตำบลบ้านเหล่า ตำบลแม่ใจ อำเภอแม่ใจ ตำบลดงเจน ตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา จังหวัด พะเยา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยปุย ป่าห้วยต้นยางและป่า ห้วยแม่แก้ว ป่าแม่ปืมและป่าแม่พุง ฯ ในท้องที่ตำบลท่าสาย ตำบลห้วยสัก ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียง ราย ตำบลธารทอง ตำบลแม่อ้อ ตำบลทรายขาว ตำบลเจริญเมือง ตำบลสันมะเค็ด ตำบลเวียงห้าว ตำบลทาน ตะวัน อำเภอพาน ตำบลป่าแงะ ตำบลโรงช้าง ตำบลศรีโพธิ์เงิน อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย และตำบล บ้านเหล่า ตำบลแม่ใจ อำเภอแม่ใจ ตำบลดงเจน ตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะ เยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติแม่ปืม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1379 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนาและป่าดงพระเจ้า ป่าภูวงฯ ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาวฯ จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี และป่าภูพาน และ ป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วงฯ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก) | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนาและป่าดงพระเจ้า ป่า
ภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่าแก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อเขียว ตำบลคำบ่อ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก และตำบลโคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนา คำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี และป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบล แซงบาดาล ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนาและป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ฯ ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวา ปี อำเภอส่องดาว ฯ จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี และป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง ฯ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1380 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่ากรุงชิง ป่าคลองเผียน และป่าเขานัน ในท้องที่ตำบลเขาน้อย ตำบลฉลอง ตำบลเทพราช ตำบลเปลี่ยน อำเภอสิชล ตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ และตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติเขานัน) | ทส | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่ากรุงชิง ป่าคลองเผียน และป่าเขา
นัน ในท้องที่ตำบลเขาน้อย ตำบลฉลอง ตำบลเทพราช ตำบลเปลี่ยน อำเภอสิชล ตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ อำเภอ นบพิตำ และตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ กำหนดบริเวณที่ดินป่ากรุงชิง ป่าคลองเผียน และป่าเขานัน ในท้องที่ตำบลเขาน้อย ตำบลฉลอง ตำบลเทพราช ตำบลเปลี่ยน อำเภอสิชล ตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ และตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนคร ศรีธรรมราช ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติเขานัน) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....